เดือดร้อน เมื่อเช้าต้องถ่อไปร้านหนังสือ หา....ว่าเราดูดวงใครไปหวี่?  พอเจอก็กะว่าจะอ่านฟรีซะหน่อย  อูย..เล่มหนาอ่ะเกรงใจพนักงาน   นั่งอ่านทั้งวันอ่านจบเมื่อกี๊เนี่ย....

เย๊...ดีใจ  ฟลุ๊ค...หน้าไม่แตก....(.....แต่.เล่นพี่แรงเหมือนกันนะน้องบัวลอย)  ไล่อีกาออกจากใบหน้าได้หน่อย .....สดชื่นนนนน..

นพลักษณ์พี่เข้าไปลองทำแบบทดสอบแล้ว  แล้วแบงค์จะบอกว่าพี่เป็นคนยังไงดีหึ๊ ในเมื่อเค้าบอกว่าไทป์ไหนคะแนนมากที่สุดคุณคือคนแบบไทป์นั้น พี่ได้คะแนนสูงสุดเท่ากันเด๊ะๆ4ไทป์(ก็บอกแล้ว ว่าพี่ชอบแบบผสมกลมกล่อม) กะว่าเข้าไปดูอีกที ปรากฏว่า จาว่าเน่า เข้าไม่ได้ สงสัยคนเข้าเยอะ  เพิ่งจะอ่านไปได้ไม่มาก เดี๋ยวว่าคืนนี้จะลองเข้าดูอีกที

ความจริง นพลักษณ์ ก็ใช้ผสมผสานเข้ามาเวลาพยากรณ์ตามโหรราศาสตร์ก็ได้น่ะครับพี่เค  เพราะตามความจริงแล้ว ดาวเนี่ยมันจะแสดงบทได้มากมายใช่มั้ยฮะ ถ้า เปรียบเทียบ ก็เหมือนกับ ปลา คือ ถ้าเราบอกว่า มีปลาตัวนึง มีครีบ มีหาง มี ... ลักษณะหยั่งงี้ๆๆ ก็คงจะต้องเดาๆ คิดตามว่า เอ๊ ปลาลักษณะแบบนี้มันปลาอะไรน้า  แต่พอบอกว่า จับมาจาก มหาสมุทรแถบอัฟริกาใต้น่ะ  คราวนี้ก็จะอ้ออทันที รู้เลยว่ามันเป็นปลาฉลามนี่เอง

ก็คงเหมือนๆกันอ่ะฮะ ถ้า โหราศาสตร์ ไว้ใช้บอก ลักษณะนิสัย ปลีกย่อยๆต่างๆ (ซึ่งถ้าจะมองแบบภาพรวมเราก็ต้องอาศัยความชำนาญสักหน่อย) บอกเหตุการณ์ ที่จะเกิด ฯลฯ  นพลักษณ์ ถ้าเราเข้าใจก็จะใช้ในการจำกัดขอบเขต ให้เจาะจงขึ้นไปอีกอ่ะครับ  พี่เคลองศึกษาดูสิครับ สนุกดีฮะ

คนๆนี้มีนิสัย อารมณ์ร้อนน่ะ  งั้น ทำไมเค้าอารมณ์ร้อนหว่า มีจุดหมายปลายเหตุมาจากอะไร ถ้าเราไม่รู้ เราก็อาจจะทำนายเรื่องอื่นผิดความหมายไปอีก อาจสาเหตุเพราะเรื่อง ต้องการหาความรู้ให้ทันใจ อาจเพราะต้องการหาเงินให้ทันใจ อาจเพราะต้องการแสดงคุณสมบัติให้คนรู้ว่าจะไม่อยู่ใต้อิทธิพลของใคร หรืออาจะฯลฯ ได้หลายแง่หลายมุมอ่ะครับ ใช่มั้ยครับ แฮ่ๆ

ง่ะ เรื่องนพลักษณืมะช่ายแบบนั้นฮะพี่เค เหอๆๆ

พี่เคทายมาผมก็คงว่าน่าจาถูกเลยแลหะครับ เพราะว่าผมเองไม่ทราบเรื่องปลีกย่อยของคนๆนี้มากเท่าไหรเหมือนกันครับ แต่จากการอ่านดวงแล้วซึ่งผมก็มั่นใจว่าพี่เคคงไม่ผิดพลาดแน่นอนฮะ ตอนนี้ผมเริ่มมั่นใจในตัวเองอย่างนึงแล้วครับ ว่า คนเราดวงดีไม่ดีไม่เกี่ยว เกี่ยวอยู่ที่ว่าพลังใจเท่านั้นเองครับ  เพราะจริงๆว่าที่ผมอยากรู้ทางด้านนี้ก็คือ ว่า "ดวง" มันกำหนดให้ชีวิตไปไม่ถึงฝันจริงรึเปล่าครับ ดวงนี้ คิดว่าถ้าเทียบกับ คนที่ดังมากๆคนนึง ที่มีการวิจารณ์ดวงกันมากมาย พี่เคคงรู้น่ะฮะ ว่าเป็นใคร ( ที่ตอนนี้กำลังเดินทางไปแรลลี่ ตามต่างประเทศอยุ่ไงฮะ)

ถ้า เอาดวง ทั้งสองดวงมาให้หมอดูตรวจดวงดู โดยที่หมอดูไม่รู้จักว่าคนๆนั้นเค้าเป็น รู้เป็นแค่ประวัติคร่าวๆ ตัดส่วนที่จะทำให้เกิดอุปาทานออกแล้วมองเทียบทั้งสองดวงอย่างเป็นกลางจริงๆ ผมคิดว่า  ที่"ดวงดี" นั้นคงเป็น คนที่ไปแรลลี่ตอนนี้แน่นอนครับ ส่วนดวงคนนี้ที่ผมเอามา หมอดูก็คงบอกว่า

"โอเคน่ะเฮีย ก็ดีแหละ แต่เทียบกับอีกอันอั๊วะฟันธงเลยคนไหนจะดวงดีกว่ากัน" อะไรประมาณนี้แหละครับ เพราะอีกคนนั้น เป็นทั้งดวงจันทร์ คุรุ สุริยา แล้วก็ ฯลฯ อะไรต่างๆอีกมากมาย ที่โดยภาพรวมแล้วพอแปลความหมายได้ว่าจะไม่ธรรมดาแน่ๆ

ผมคิดแบบนี้น่ะครับ ถ้าจะเปรียบเทียบอย่างนึงก่อนว่าดวงไหน ดี หรือไม่ดี

ดวงดี คือทำอะไรก็ตามอุปสรรคน้อย , ดวงไม่ดี ทำอะไรก้ตามอุปสรรคมากเหลือเกิน

ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ต่างเปรียบเทียบกับต้นทุนที่ทำไปทั้งสองดวงต้นทุนนั้นเท่ากัน อย่างเช่น ถ้าคิดเป็น เรื่องตัวเงินก่อนล่ะ (ด้านผลตอบแทน ) คนดวงดี อาจได้รับ เงิน 10 บาทแค่กระดิกมือ ดวงไม่ดี ก็รับเงิน10 บาทเหมือนกัน แต่ต้องวิ่งไปเอา  ผมคิดว่าคงประมาณนี้อ่ะครับ

เหอๆ ดวงคนที่ผมเอามาให้พี่เคช่วยวิเคราะห์นี่ จริงๆแล้วถ้าบอกชื่อออกไป พี่เคต้องรู้จักแน่นอนครับ ก่อนหน้านี้เค้าไม่ค่อยดังมากเท่าไหร แต่ตอนนี้หลังจาก ออกหนังสือประวัติย่อๆที่เค้าเขียนเองมาตีพิมพ์ ก็เลยคนรู้จักทั่วเลย ตามร้านหนังสือตอนนี้เดินไปก็เห็นเลยครับหนังสือประวัติของเค้า  พี่เคคงไม่ว่าอะไรน่ะครับที่ผมเอาดวงเค้ามาให้ช่วยวิเคราะห์ เพราะจุดประสงค์หลักผมมีเพียงแค่ อยากรู้ว่า "ดวง" ส่งผลกับชีวิตจริงยังไงบ้างครับ

อันนี้ผมมีเว็บ นพลักษณ์ที่อ่านแล้วเพลินอยุ่น่ะครับ เดี่ยวจะโพสไว้ให้เผื่อพี่เคอาจสนใจครับ

www.dekisugi.net/enneagram  หลักการค้นหาก็ง่ายๆครับ เพราะบุคลิกไหนอย่างไรตัวเราจะเป็นคนเลือกเอง  ลองเข้าไปก็จะรู้ครับ

แฮ่ๆ หน่วยงาบของพี่เค ให้ดี พกยาแก้ท้องเสียมาด้วยน่ะครับ อิอิ 

ขนมของแบงค์ เดี๋ยวพี่จะส่งหน่วยงาบตระเวณ ไปชิม...เห๊อๆๆๆ

มา...ดูหมอดูทำนายดวงกันเยอะแล้ว  มาดู***ที่ไม่ใช่หมอดู ดูดวงกันมั่ง ดูซิพี่จะพาน้องเข้าป่าได้ลึกมะ( อุตส่าห์ไปคุ้ย เอ๊ย! ค้นคว้า เปิดตำรากันยิกๆ)

คนเนี้ยนะ ใจนักเลง ให้ยอมใครง่ายๆเป็นไม่มี   รอบรู้สารพัดหลายเรื่องไหวพริบดี คบคนได้ทุกระดัยไม่ว่าคนรวยหรือคนจน หัวคำนวณ  มีฝีมือเชิงช่าง  มีความเชี่ยวชาญพิเศษในบางเรื่อง เป็นคนที่ระวังตัวตลอดเวลาบางทีดูเป็นคนขี้ระแวง  อยู่เฉยแล้วจะหงุดหงิด มักจะหานู่นหานี่ทำเรื่อยๆ

ไม่ค่อยชอบให้ใครมาล่วงรู้ความในใจ  ตอนเด็กๆจะเป็นหัวหน้าห้อง หรือไม่ก็หัวหน้ากลุ่ม  ถ้าคนนี้ปลูกต้นไม้จะออกดอกออกผลพรึ่บพรั่บ (มือขึ้นว่างั้นเหอะ) แก้ปัญหาตลอดเวลา  ใครมีปัญหาอะไรที่นึกไม่ออก ลองถามคนนี้ดู แกจะรู้เคล็ดลับสารพัด

สถานะทางการเงิน  เป็นคนมีทรัพย์สินนะ แต่หมุนเงินน่าดูเลย เป็นคนขยัน ถามว่ารวยไม๊ ก็ต้องถามความพอใจของเจ้าตัว คนเนี้ยขี้เหนียวสุดๆ.. เขี้ยว ...แต่ไม่ใช่คนใจร้าย ในชะตารวยได้แต่ต้องฝ่าฟันพอสมควรไม่ใช่หามาได้ง่ายๆ แต่ก็มีรายได้อยู่เสมอ แต่ถ้าเป็นหนี้ อันนี้ไม่ค่อยดี จะเป็นหนี้ต่อเนื่องและมีหนี้หลายทาง

หงุดหงิดง่ายขี้โมโห แต่ไม่อาฆาตพยาบาทใคร เห็นบู๊ๆยั่งเงี้ย มีอะไรธรรมะธรรมโมอยู่เหมือนกัน  เป็นคนลึกลับพอๆกับชอบของลึกลับ อะไรที่แตะต้องไม่ได้หายากหรือไม่มีขายทั่วๆไปยิ่งอยากได้แล้วก็จะต้องหาให้ได้ด้วย

 ถ้าเป็นผู้ชาย เจ้าชู้มากชอบแต่งตัวหรือไม่ก็แต่งรถ แต่ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงชีวิตนี้จะเข้าพิธีแต่งงานเพียงครั้งเดียวเท่านั้น   คู่ครองเป็นคนหน้าตาดีแต่จะมีแขนหรือขาผิดรูปทรงเล็กน้อย

ตอนอายุระหว่าง21-23 ปี และช่วงอายุ32-33ปี

มีโชคลาภ ที่ต้องใช้ชั้นเชิงหรือเอาชนะคู่แข่ง  และโชคลาภนั้นก็คุ้มค่าเหนื่อย ได้เป็นชิ้นเป็นอันเป็นกอบเป็นกำ

อาชีพที่ถูกโฉลก คือ รับราชการ  นักบริหาร  เกี่ยวกับไฟฟ้า  เดินป่า  เกษตร  โรงงานอุตสาหกรรม   ก่อสร้าง   วัสดุก่อสร้าง  สินค้าที่ได้จากต้นไม้หรือผลไม้  บริษัทคนงาน 

เวลามีบาดแผล มักเกิดจากตัวเองเป็นคนทำ 

สุขภาพดี แต่จะปวดท้องเรื้อรัง  ให้ระวังแก่ตัวมีโอกาสเป็นเบาหวาน  หรือระบบทางเดินปัสสาวะหรือกระเพาะอาหารและลำไส้(ปัดโธ่...มันก็เป็นกันแทบทุกคนแหนะ)

.....เป็นไง...พี่ทำนายยั่งเงี้ย พาแบงค์เข้าป่าไปลึกรึยัง  พี่ไม่ใช่หมอดู ทายแล้วก็เหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ย  ถูกผิดตรงไหนบอกมาตรงๆได้เลย  ถูกก็ดีใจ  ผิดก็จะได้ไปฆ่าตัวตาย เอ๊ย..ปรับปรุงแก้ไขต่อไป

(ดูดวงนี้ดวงเดียวนะ  เหนื่อย ตีนกาขึ้นเลยเนี่ย)

นพลักษณ์ ผมจะเล่าให้ฟังครับ  นพลักษณ์ เป็นวิชาที่เกี่ยวข้องกับบุคลิคภาพของมนุษย์ทุกคนทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นใคร ก็จะมี บุคลิกภาพตาม นพลักษณ์ทั้งหมด ผมไม่ทราบว่า ต้อตอมาจากที่ไหนครับ( เพราะผมก็หาอ่านเอาเหมือนกัล อิอิ เค้าบอกว่าไม่ทราบผมก็เลยไม่ทราบ ) เป็นความรู้ที่ประกอปไปด้วย  แก่นแท้ของทุกๆศาสนา จิตวิทยา แล้วก็ อะไรอีกหลายอย่างครับ  ไม่ได้ใช้สำหรับการพยากรณ์อ่ะครับ แต่ไว้ใช้สำหรับการเข้าถึงตัวตนที่แท้จริงของบุคลิกภาพมนุษย์ทุกๆคน

มีพื้นฐานก็คือ การเจริญเติบโตในวัยเด็กผสมกับการเรียนรู้ของเด็กและสิ่งแวดล้อมจนกลายมาเป็น บุคลิกภาพของเราในที่สุดครับ

นพลักษณ์เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังค้นหาตัวเองน่ะครับ ว่าเราจะผูกมิตรกับอัตตาของเราได้ยังไง เพราะถ้าให้เรา เอามันออก มันก็คงจะเป็นไปไม่ได้ เค้าบอกการแก้ทุกข์ต้องแก้ที่สาเหตุของทุกข์ เพราะฉะนั้นถ้าเราทุกข์เรื่องเงินจะให้เราไปแก้โดยการอยุ่อย่างพระสงฆ์นั่นคงทำให้ยิ่งทุกข์เข้าไปอีก อะไรทำนองนี้อ่ะครับ     

ผมจะถามพี่เคหน่อยน่ะครับ ว่า ถ้ามีบุคคลในดวงใจคนนึง พี่เคจะชอบคนๆไหน 

1. นักปฎิรูป เปลี่ยนแปลงทุกอย่างให้ดีขึ้น

2.นักบุญ

3.ผู้ชนะ

4.ศิลปิน

5.นักปราชญ์

6.เพื่อนยาก

7.เจ้าสำราญ

8.ผู้นำ

9.ผู้สงบ

นี่คือรูปแบบของนพลักษณ์ ทั้ง 9 ครับ ลักษณะทางการเข้าใจก็จะเหมือนกับโหรราศาสตร์นี่แหละครับ เหมือนเป็น แก่นทางเดินของมนุษย์ ที่ถึงแม้จะมี บุคลิกภาพเดียวกันหลายล้านคน แต่บางคนจะแสดงออกไม่เหมือนกัน เพราะสิ่งแวดล้อมที่ๆตรงนั้นของคนไม่เหมือนกันนั่นเอง  แล้วพี่เค จะชอบแบบไหนล่ะครับ คิดว่าอยากเป็นแบบไหนมากที่สุด เด่วผมจะมาเล่าให้ฟังอีกครับ

ไม่ต้องบอกชื่อ  แต่บอกวันเดือนปีเกิด เวลาเกิด จังหวัดที่เกิดมาเหอะ  พี่ผูกแบบลาหิรีเหมือนกันแต่เป็นแบบอัตโนมืออ่ะ ไม่ผูกเองแล้วไม่เคลียร์  จะดูให้ตามตำราที่เล่าเรียนมา ผิดถูกว่ากันได้พี่ไม่โกรธ  ("ผิด"เป็นครู   "ไม่รู้"เป็นอาจารย์) พี่เองก็เรียนแบบดำผุดดำว่ายมาแบบลำบากเหมือนกัน แต่มั่นใจตัวเองว่าเราไม่หลงทาง(เข้าข้างตัวเองไม่มากเท่าไหร่)

***เรื่องใครเป็นหมอดูได้หรือไม่ได้เนี่ยนะ แต่ละคนก็พิจารณากันแต่ละสูตร  บางคนเขาก็ดูมฤตยู บ้างก็ดูเกตุ  แต่พี่ใช้พิจารณาแบบผสมดาว ผสมเรือน  ซึ่งแต่ละคนแต่ละดวงก็วิเคราะห์ไม่เหมือนกันอีก  วิธีของพี่อาจจะแตกต่างจากคนอื่นพี่จะดูที่ดาวแต่ละตัวสัมพันธ์กันแล้วสมดุลย์กันไม๊  มีขัดกันมากรึเปล่า ....

เปรียบเทียบให้ดูง่ายๆคือ  สมมติให้มีผู้หญิงมายืนเรียงกัน10คน  แล้วถามแบงค์ว่า จะเลือกคนไหนไปประกวดนางงาม  แบงค์จะดูจากอะไร?  ทุกคนมี2แขน 2ขา ปริมาณอวัยวะเท่ากันทุกคน แล้วเราจะเลือกจากอะไร  คนนั้น ตาสวยแต่จมูกเสีย  คนนั้นปากสวยแต่แขนค่อก  อีกคนหุ่นดีแต่ต้องทำผมปิดหน้า อีกคนหน้าสวยหุ่นดีแต่โอ๊...แม่เจ้า...ขาม้าลายฯลฯ ...เฮ้อ...

...เราก็ต้องเลือกคนที่อาจจะไม่สวยเริ่ด แต่องค์ประกอบหน้าตาและร่างกายได้สมดุลย์กันมากที่สุด ถึงจะไม่ดีที่สุด แต่ให้มีข้อเสียน้อยที่สุด...ใช่มะ(คล้ายๆแมวมองเหมือนกันนะเนี่ย..หุๆๆ)

พิจารณาดวงก็เหมือนกัน ดูว่าเรียนได้(ที่จริงเรียนได้ทุกคน)แล้ว ก็ต้องดูว่า

1.ความจำได้ไม๊

2.จำแล้ววิเคราะห์ได้ไม๊

3.จำได้ วิเคราะห์ได้  ทายได้ ไม๊

4.จำได้แล้ว วิเคราะห์ได้ ทายได้แล้ว จะมีชื่อเสียงไม๊ 

ครบ4ข้อ เป็นหมอดูได้สบาย  แบงค์มีครบ4ข้อนะ แต่ชื่อเสียงจะไม่เปรี้ยงปร้างพุ่งกระฉูดเหมือนบางคน แต่จะมีชื่อเสียงพอตัวอายุ29ก็จะมีแววแล้ว(เดี๋ยวพี่จะไปแอบใช้บริการนะ)

อืม...ไม่เคยอ่านเรื่องนพลักษณ์เลย น่าสนใจ (หูผึ่ง!)เล่าให้ฟังมั่งดิ เคยอ่านแต่นรลักษณ์ 

โอ้...ทำขนมขายด้วย ดีๆๆ  (พี่ชอบไข่หวานแบบข้างในเป็นยางมะตูมนะ...หึหึหึ)

พี่เคครับ ช่วยเหลือผมหน่อยได้มั้ยครับ ผมมีดวงชะตา อยากให้ช่วยวิจารย์ให้ดูหน่อยน่ะครับ เพราะถ้าจะเอาแต่ดวงตัวผมเอง คงจะไม่ได้อะไรเท่าไหร ขอไม่บอกชื่อกับ วันเดือนปีเกิดน่ะครับ

ผมใช้โปรแกรมผูกดวงแบบ ลาหิรีอ่ะครับได้ดังนี้

ลัคนา สถิตราศี พิจิก  เกิดวันอังคาร

-ราศีมังกรมีดาว ๘

-ราศีมีน มีดาว ๑ ๔

-ราศีเมษ มีดาว ๒ ๓ ๕ ๖

-ราศี พฤกษ มีดาว ๙

-ราศีเมถุน มีดาว ๐ 

-และราศี ตุลย์มีดาว ๗ ครับ

ที่ผมถามมานี่พี่เคอย่าเข้าใจผิดน่ะครับ ผมไม่ได้ลองภูมิหรืออะไรเด็ดขาด และก็ไม่มีความคิดดังนั้นเลย เพียงแต่ ต้องการทราบจริงๆ ว่าดวงชะตาดวงนี้นั้น สมควรมี ความสำเร็จ หรือ อะไรตามดวงชะตายังไง แล้วจึงค่อยมาดูเปรียบเทียบกับชีวิตจริง  เพราะส่วนตัวผมเองนั้น มีความเชื่ออยู่อย่างนึงว่า ไม่มีอะไรมากำหนดชะตาชีวิตได้นอกจาก ตัวเจ้าชะตาเอง จึงอยากทราบ ดวงชะตาที่ผูกขึ้นมาดวงนี้นั้น มีทางเลือกให้ตัวเค้าได้อย่างไรมั่ง แล้วตัวเค้านั่นเลือกทางไหนเป็นเช่นไร ตรงกับดวงชะตาหรือไม่ , สามารถทราบได้หรือไม่ว่า เจ้าชะตา จะร่ำรวย หรือยากจน ตามหลักเกณท์ ที่ผมได้อ่านมา หรือว่าตามดวงแล้วชีวิตเค้าจะต้องลำบากตลอดไป  เพราะผมได้ทราบมาอย่างนึงว่า  คนเกิดวินาทีเดียวกันนั้น ในโลกนี้ มีถึง 5 คน ที่สามารถผูกดวงชะตาแล้ว เหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน ดังนั้นแล้วกุญแจสำคัญที่จะเป็นตัวกำหนดชีวิตของเจ้าชะตานั้น สมควรขึ้นอยู่ที่ตัวเจ้าชะตาเองตามนั้น 

อย่างเช่น อจ ท่านนึงถามว่า คนสามคน ผูกดวงออกมาแล้วเหมือนกันหมด แต่ คนนึงเป็น พระราชา อีกคนเป็น คหบดี อีกคนเป็น ขอทาน  ตรงนี้เองล่ะครับ ที่ผมติดใจมากครับ  ผมจึงอยากขอคำแนะนำจาก ผู้ที่มีความสามารถทางด้านนี้มากกว่าผมเพื่อที่ผมจะได้ทราบว่า หากดวงเค้าไม่ดีแล้ว ตัวจริงเค้าจะไม่ดีตามนั้นด้วยรึเปล่าครับ เพราะคนที่เกิดวันเดือนปีเวลาเดียวกันกับ นักโทษฆ่าข่มขืนนั้นมีนับร้อยนับพัน แต่ก็ไม่ได้เหมือนกันเลย  ขอพี่เคช่วยเหลือแนะนำผมหน่อยน่ะครับ

- เจ้าชะตาดวงนี้นั้น มีนิสัยคือ แสดงออกอย่างใจร้อน รักเพื่อนรักฝูง หากมี อุปสรรคปัญหาจะต่อสู้ไม่ยอมท้อถอย อีกทั้งยังรักศักดิ์ศรีพอสมควรแต่แสดงออกไปทางละมุนละมัยซะมากกว่า พูดเก่งพูดดี มีไหวพริบทางการพูดครับ  เป็นคนเชื่อถือโชคลางสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ลึกๆน่ะครับ แต่ไม่ได้แสดงออกมา

พี่เคสนใจเรื่อง นพลักษณ์มั้ยครับ ที่เป็น ความรู้การเข้าถึงตัวตน อันนี้ก็สนุกเหมือนกันครับ แต่ใช้พยากรณ์ไม่ได้เพราะเป็นแค่การเรียนรู้ รู้จักตัวเอง ตื่นเต้นดีครับ

เหอๆผมก็ว่าเหมือนกันอ่ะครับยืนอ่านที่แพร่มันเมื่อยพนักงานก็ชอบมาด้อมๆมองๆ ทำให้อ่านได้ไม่เต็มที่ ครั้นจะนั่งยองๆก็เหม็นรองเท้าคนยืนข้างๆ หนังสือเค้าเอามาไว้ขายผมดันไปยืนอ่านฟรีซะอีก คงไมม่ดีเท่าหราย  ขอบคุณพี่เคมากครับที่แนะนำ เคยไปดูดวงกับ หมอดูคนนึงแถวรถไฟฟ้าใต้ดินบางซื่อ อายุเยอะแล้วครับ ท่าทางใจดีด้วย เค้าเคยบอกว่า ดวงผมเป็นหมอดูได้ ให้ผมไปเรียนกับเค้าเค้ายืนดีจะสอนให้ ความจริงผมคิดว่าอยากไปเรียนเหมือนกัน แต่ผมนั้นติดปัญหาคือว่า ผมชอบสงสัยแล้วผมถึงค่อยถาม ถ้าให้ผมเรียนทั้งๆที่ผมไม่สงสัยผมจะเรียนไม่ค่อยได้ คือมันจะขี้เกียจๆ แฮ่ๆ แล้วอีกอย่างช่วงนี้ผมก็มีปัญหาเรื่องเรียนอยู่หน่อยๆ แถมยังต้องเตรียมตัวทำงาน  ขายหนมหวานหน้าตึกด้วย ( บัวลอยไข่หวานผมทำเองกินมั้ยฮะ อร่อยน่ะครับ ) มันก็เลยไม่มีกะใจแวะไปหาอจ.เค้าเท่าไหร เพราะกลัวเด่วเรียนแล้วผมจะติดลม ก็เลยใช้วิธีหาอ่านตามอินเตอร์เน็ต  ดีใจฮะที่พี่เคเข้ามาพูดคุยเป็นเพื่อน ไปโพสถามหลายเว็บก็ได้แต่เรื่องที่สงสัยเล็กๆน้อยๆ แต่ไม่ได้ใจความที่ต้องการจริงๆ เพราะเรื่องบางเรื่องนั้นมันจะคิดสงสัยออกมาแบบปุ้บปั้บ ถ้าไม่ได้ถามตรงนั้นเลยผมก็จะลืมๆหุหุ

ผมเคยลองถาม อจ.หมอดูคนนั้นว่า ทำไมถึงบอกว่าผมเป็นหมอดูได้ ทั้งๆที่ผมเพิ่งมาสนใจทางนี้ แค่ไม่กี่เดือนเอง ก่อนหน้านี้ผมชอบไปอ่านเรื่อง นพลักษณ์( enneagram ) อยู่ เค้าก็บอกว่า " นี่ตรงน้เป็น อุตสาหะ นี่อายุ มนตรี นี่ ร่วมกัน ฯลฯ"

ผมก็เลย" อ๋อออ "ตามประสา แต่จริงๆแล้ว งง ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นเป็นหมอดูได้ พี่เคช่วยชี้ให้ดูหน่อยได้มั้ยครับว่า ตรงไหน ในดวงชาตา ที่บอกได้ว่า เหมาะกับการเป็นหมอดู หรือสำคัญตรงที่นิสัย ใจคอ และการรักชอบมากกว่า

ปกติแล้ว คนที่เรียนโหราศาสตร์ส่วนใหญ่เวลาทำนายจะใช้ดาวจร มาทับดาวเดิมในดวงชะตา 

ตนุลัคน์ ตนุเศษ มักจะใช้ดูพื้นดวงชะตา ดูนิสัยใจคอ ของคนๆนั้นว่าเป็นอย่างไร

การที่เจ้าเรือนลัคน์ไปอยู่กดุมพะ อย่าเพิ่งทายว่า"ขยัน" หาเงิน  ดาวที่เป็นนิจจ์จะแปลว่าขยันไม่ได้ ความหมายของดาวพฤหัส มีมากมาย  ความหมายของกดุมพะก็มีมากมาย ไม่ได้หมายถึงเงินเพียงอย่างเดียว 

ดวงของแบงค์ ๆเรียนโหราศาสตร์ได้ แล้วจะทำนายได้ด้วย แต่ไม่ใช่ตอนนี้  แบงค์จะทำนายได้เมื่อมีอายุ37 ขึ้นไป ทายแม่นด้วย  เริ่มเรียนให้จริงจังได้แล้วตั้งแต่วันนี้

จะบอกให้ว่า ๕เป็นนิจจ์แต่เป็นอุจจ์ในนวางค์อยู่ภพกดุมพะของแบงค์ส่งผลดีในด้านใด  คือ แบงค์ต้องพูดหรือคุยกับคนที่ดูแล้วเป็นคนไม่ค่อยน่านับถือ  แบงค์จะได้ความรู้มากกว่าถามคนที่เขาเป็นครูบาอาจารย์   เจ้าเรือนลัคน์เป็นพฤหัส เราต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง  พี่ขอแนะนำ เลิกไปยืนอ่านที่แพร่ฯได้แล้ว ไปนั่งอ่านที่หอสมุดแห่งชาติแทน(ไม่เมื่อยด้วยดิ) ที่นั่น ถึงจะมีตำราหายไปมากมาย แต่ก็มีตำราดีๆมากมายอยู่ตามซอกตามหลืบ ของแบบนี้มันอยู่ที่วาสนาด้วย ดวงของแบงค์เป็นดวงหมอดู พี่เชื่อว่าแบงค์ต้องไปเจอตำราที่อ่านแล้วเข้าใจ  อย่าเพิ่งรีบทำนายเดี๋ยวจะเป๋ซะก่อน 

เริ่มเรียนเป็นขั้นตอนดังนี้

1.เรียนผูกดวง ถ้าใช้โปรแกรมผูกก็อนุโลม แต่พูดตามตรงถ้าผูกดวงด้วยตัวเองไม่ได้  จะเรียนได้ช้ากว่าคนที่ผูกเป็น

2.จำว่าดาวเกษตร อุจจ์ นิจจ์  เป็นหลักใหญ่ก่อน แล้วค่อยทะยอยจำอันอื่นๆ

3.จำความหมายของดาวตั้งแต่อาทิตย์ ถึงเกตุ ให้มากที่สุดเท่าที่เราจะจำได้

4.จำความหมายของเรือนแต่ละเรือนว่ามีอะไรบ้างให้มากที่สุดเท่าที่เราจะจำได้

5.จำความหมายของราศี ว่าแต่ละช่องมีอะไรบ้าง

นี่เป็นพื้นฐานที่"ต้อง"รู้ นอกจากนี้ก็ค่อยๆศึกษาไป

เรื่องการคำนวณ หาเวลาที่เหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งว่าจะเกิดเมื่อไร "คำนวณ"ได้  ต้องเรียนเรื่องทักษา-ตรีวัย(ไทย)หรือ ทศาเสวยแทรก(ภารตะ) นำมาประกอบการพิจารณาร่วมกับดาวจร

แต่ก็อ่ะนะ วิชามีมากมายหลายแขนง แต่ละศาสตร์ก็มีเสน่ห์เฉพาะตัว  แม่นทุกวิชาแหละ  ที่บอกไม่แม่นน่ะ ผิดที่คนทาย ไม่ใช่ผิดที่ตำรา  ตัวพี่เองก็เหอะ อาจทายผิดก็ได้นะ อิๆ

ตอนนี้พี่เคหลงเข้ามาคุยกะผมแล้วน่ะฮะ งั้นผมขอถามหน่อยล่ะกันครับ

ปกติพี่เค ทำนายแล้วใช้ตนุลัคน์มาตั้งเรือนอีกครั้งด้วยใช่มั้ยฮะแล้วก็ดูเปรียบเทียบกะลัคนา

ซึ่งตรงนี้ผมก็มีความสงสัยอยู่ว่า สมมตุน่ะฮะ เด็กคนนึง เกิดมา อายุ10 ขวบ ปุ้บ....คราวนี้ ตามดวง( ยกตัวอย่างของผมแล้วกันครับเพราะคนอื่นผมนึกไม่ออก ) ผูกดวงขึ้นมาแล้ว จะเห็นว่า ตนุลัคน์ ดาว ๕ นั่นสถิตเรือนกดุมพะ  สามารถอ่านได้อยากสั้นๆก่อนว่า เจ้าชะตา ชอบหาเงิน สมบัติ ชอบหาความรู้

แต่พอเอาเข้าจริงๆ สมัยวัยเด็ก ผมไม่เคยสนใจหาเงิน ไม่เคยลองหาเงินเอง ไม่ชอบหาความรู้ด้วยอ่ะครับ เพราะตอนเด็กจะเล่นอย่างเดว หรือ มาถึงตอนนี้ก็ได้ครับ ความคิดหาเงินนั้นก็ยังไม่เป็นรูปธรรมอยู่ดี ส่วนใหญ่จะนั่งคิดมากกว่า ลงมือหา  เพราะตามความจริง ผมเห็น ดาว ๓ นั้นอยู่เรือน 11 โยคหลังกับลัคนา ตรงนี้ก็เหมือนลำโพงขยายเสียงให้ ลัคนาแสดงออกมาแบบดาว ๓ อยู่แล้วใช่มั้ยฮะ สมควรที่จะแสดงออกมาแบบ ดาว ๓ด้วย คือ ขยันขันแข็งแต่เอาเข้าจริงก็ยังไม่เกิดขึ้น เกิดขึ้นเพียงแค่บางครั้ง เมือ่เวลาผมชอบหรือตั้งใจจะทำอะไร

(คือผมเข้าใจว่า ดาว ที่เป็นโยค ตรีโกณ จะเหมือนลำโพงขยายเสียงสู่ สิ่งแวดล้อม ดาวที่กุม จตุโกณ เล็ง มั่กจะเข้ามาร่วมกับดาวประธานที่เราสนใจ อย่างเช่น ๑กุมลัคนา ดาว ๕ ร่วม ทำให้เจ้าชะตา อารมณ์ร้อนและเป็นนักคิด แต่ลัคนานั้นตรีโกณและโยคกับดาว ๒ ๓ ๔  ผมเข้าใจว่า เจ้าชะตาอารมณ์ร้อนเป็นนักคิดแต่จะแสดงนิสัยออกทางเบื้องนอกเป็นตาม ลักษณะ ดาว ๒ ๓ ๔ ...อันนี่ที่ผมเข้าใจน่ะฮะ)

ซึ่งตรงนี้ค่อนข้างจะขัดแย้งหากเราทำนายในเวลานั้นว่า "เจ้าชะตาขยันหาเงิน" เพราะในช่วงเวลานั้นๆนี่เอง ดาว ๕ ในเรือนกดุมพะ ยังไม่แสดงผลตามดาวตามตนุลัคน์  ดาวที่เหลือที่เป็นผลพวงทั้งหลายจึงยังไม่แสดงผลแบบเต็มที่ เมื่อ เหตุยังไม่เกิด ผลก็ยังไม่ตามมา เรือนทั้ง 12 ของตนุลัคน์ที่ตั้งเรือนใหม่โดยเอาดาว ๕ เป็นเจ้าเรือนก็จึงยังไม่ปรากฎผลออกมาด้วย ตรงนี่เองที่ผมอยากทราบว่า เราจะเอาอะไรเป็นเกณครับ ว่า เรือน ที่ตั้งโดยใช้ ตนุลัคน์นั้นจะแสดงผลออกมาในเวลาไหน

หมอเถาวัลย์บอกไว้ว่า  หากจะดูลัคนา ต้องดู 3 ลัคนา ลัคนา ตนุลัคน์ ตนุเศษ  หมอเค้าบอกไว้ว่า

-ลัคนานั้นคือ ที่รวมกระแสธาตุของดาวแต่ล่ะดวง ในช่วงเวลาที่เราเกิดขึ้นมา ธาตุทั้งหลายที่ถูกรวมไว้ที่จุดลัคนา จะถูกแปลเข้ามาเป็นรหัสชีวิตของเจ้าชะตาโดยอาศัย ธาตุเป็นสื่อกลาง

-ตนุลัคน์ คือเหตุการณ์ในอนาคตที่จะเกิดกับเจ้าชะตา เพราะดาวแต่ล่ะดวงนั้น ต่างมีชีวิตจิตใจของตัวมันเอง ไม่ได้อยู่ภายใต้ลัคนาแรกเพียงเท่านั้น มันเพียงแค่ส่งกระแสธาตุมาถึงลัคนาแรกเกิดเท่านั้นเอง ดังนั้นเมื่อตั้งเรือนตามลัคนาอันแรกแล้ว ทราบว่า เจ้าเรือนราศีนั้นไปอยุ่อีกที่นึง  ก็หมายความว่า กระแสธาตุทั้งหลายที่ถูกส่งเข้ามาที่ลัคนาเดิมนั้นจะถูกส่งต่อไปที่ ดาวตนุลัคน์ด้วย เปรียบเสมือนเป็นอีกลัคนาอีกตัว จึงสมควรจะต้องตั้งเรือนขึ้นมาใหม่ หมอเถาวัลย์เค้าบอกมาปรมาณนี้อ่ะครับ

รบกวนพี่เค ช่วย แนะนำน่อยได้มั้ยครับ ว่าเราสามารถคำนวนหาได้รึเปล่า เมื่อไหรที่ สมควรใช้เรือนตามตนุลัคน์ร่วมอ่านกับเจ้าชะตา คือเป็นเวลาที่ตนุลัคน์กับเรือนของตนุลัคน์จะแสดงผลออกมาแล้ว เราสามารถคำนวนหาระยะเวลาอายุได้มั้ยครับ มีหลักเกณท์อะไรยังไง

อ่า...... ผมม่ายมีอาจารย์อ่าคับ ปกติหาอ่านเอาเอง ชอบแอบไปยืนอ่านฟรีที่ ร้านแพร่เซ็นทรัลลาดพร้าวด้วยคับ อิอิ 

ปกติผมพอจะเข้าใจเรื่องนี้หลายเรื่องเหมือนกันอ่ะครับ แต่ไม่ค่อยมีประสบการณ์จริงๆเท่าไหรฮะ เลยไม่ค่อยมั่นใจเวลาอ่านดวง  ยิ่งเป็นดวงผมเองผมยิ่งไม่มั่นใจเข้าไปใหญ่เลยครับว่าตัวผมนั้นอ่านถูกมั้ย อะไรทำนองเนี่ยอะฮะ  แต่เรื่องที่พี่เค แนะนำมา ผมงงมั่กเรยฮะ  ไม่ทราบจริงๆว่าผมเรียนมาแบบไหน ส่วนใหญ่ผมจะตามอ่านที่เว็บ horathai ก็เข้าไปถามที่นั่นด้วย แล้วผมก็มาเจอเว็บนี้ ผมก็เข้ามาถามอีก จริงๆแล้วดูไม่ค่อยเป็นหรอกครับ แต่ว่าบังเอิญมั่กที่ผมไปอ่านนิยายของหมอเถา ก็เลยพอเข้าใจขึ้นมามากกว่าเดิมหน่อยครับ แต่ผูกดวงอะไรนี่ ผมใช้โปรแกรมที่ payakorn อ่ะครับ แบบลาหิรี  ผมผูกเองไม่เป็นครับ เหอๆ

เล่นMพี่ไม่รังเกียจหรอก แต่พี่ขี้เกียจ 

อาจารย์พี่ก็อยู่ที่เวปนี้แหละ แต่ช่วงนี้ไม่ว่างกันหลายคนเนื่องจากบางท่านมีธุรกิจส่วนตัว บางท่านก็กำลังมีโปรเจคเริ่มธุรกิจใหม่กัน ไม่ว่างเข้าเวปก็หลายท่าน พักนี้เลยไม่ค่อยมาตอบ เดี๋ยวว่างเมื่อไหร่ก็คงมารวมตัวกันอีก  มีอะไรก็คุยกันที่นี่  จะได้แลกเปลี่ยนความรู้กันหลายๆคน  ความรู้ของพี่อาจไปขัดกับตำราของบางคน ซึ่งถ้าเขาอ่านแล้ว อาจจะมาออกความเห็นเพิ่มเติมในอีกแง่มุมนึง แบงค์ก็จะได้ความรู้เพิ่มขึ้นไง 

เรื่องการทำนายแบงค์ต้องดูว่าแบงค์เรียนแบบไหนมา

ถ้าเรียนแบบไทยก็ต้องนับทักษาหรือตรีวัยแล้วแต่เราจะถนัดแบบไหน 

ทักษามีหลายแบบ  นับเข้าตากลาง บางคนไม่เข้าตากลาง 

บางคนเข้าตากลางเมื่อเข้าภูมิเกตุแล้วใช้๕เป็นบริวาร บางคนใช้ดาววันเกิด พี่ว่าแบงค์ลองยึดอันใดอันหนึ่งก่อนแล้วค่อยๆเก็บสถิติ ถ้าตรงก็ยึดหลักนั้นเป็นพื้นฐานไปเรื่อยๆ ถ้าไม่ตรงก็ลองอีกแบบนึงดู 

ถ้าเรียนแบบภารตะมาก็ดูดาวเสวยแทรก เป็นหลัก เหตุการณ์จะเริ่มเกิดจากดาววิทศา มาอนุทศา แล้วสรุปผลของเหตุการณ์ที่มหาทศา 

ทศาภารตะที่ใช้ๆกันอยู่จะเป็นแบบวิมโษตตรีทศา 120ปีและแบบอัษโตตรีทศา108ปี แล้วแต่จะเลือกใช้กันตามแต่ละคนถนัด

ในดวงของแบงค์ ๆมีโอกาสรวยได้แต่ต้องทะยอยใช้หนี้ เพราะคำว่าหนี้คืออริ คืออุปสรรค  ค่อยๆปลดหนี้ไป มีมากก็คืนเขามาก มีน้อยก็คืนเขาน้อย ใครให้เรายืมเรายิ่งต้องนึกถึงพระคุณเขาให้มากๆ  ต่อรองเจ้าหนี้ขอคืนเป็นของบ้างคืนเป็นเงินบ้าง ดวงของแบงค์ โชคลาภจะเพิ่มขึ้นตาม***ส่วนหนี้ที่ลดลง ในดวงเป็นคนที่จะปลดหนี้สินได้  แก่ตัวจะมีทรัพย์สินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์เป็นมรดกให้ลูกหลานด้วยนะ

ขอบคุณพี่เคมากฮะ เด่วว่างๆผมนึกเรื่องที่สงสัยออกต่อแระจามาถามใหม่คับ หุหุ

อีกนิดได้บ่ครับ ถ้าไม่รังเกียจ พี่เค เล่นmsn มั้ยอ่ะฮะผมอยากหาเพื่อนคุยเรื่องนี้มากเรยฮะ แต่ในรอบตัวผมไม่มีใครสนใจเรื่องนี้เดหมือนผมเรยฮะ พี่เคถ้าไม่รังเกียจ แอด เมล์คุยกันได้มั้ยฮะ เมล์ผม lovewonmak@hotmail.com ฮะ คุยหนุกๆอ่ะคับ ผมไม่รบกวนเวลาทำงานแน่ฮะสัญญาๆ หุหุ

ก็ชอบเรื่องนี้อยู่(ไม่งั้นจะมาเปิดเวปนี้ทำไมอ่ะเนอะ)

บางเรื่องที่เขาพูดไม่เหมือนกันก็เพราะมีหลายตำราศึกษามาอาจมีต่างๆกันไป เราก็ฟังๆไว้อันไหนเข้าใจหรือตรงกับดวงของเราเราก็จำเอาไว้ แต่อันไหนไม่ใช่ ก็อย่าเพิ่งไปปิดกั้นซะหมดเพราะบางอย่างอาจเป็นกฏที่เขายกเว้นมา หรือมีดาวอื่นมาหักล้างก็ได้

เรื่องดวงนวางค์ นั้นตามความเห็นของพี่ พี่ว่าสำคัญเพราะไว้ใช้พิจารณาคุณภาพหรือกำลังของดาวนั้นๆ

ดาวในราศีก็สำคัญมาก ใช้พิจารณาในการทำนายเป็นหลัก

ลองนึกถึงเค้กซักก้อนนึงนะ หน้าตาแต่งมาสวยน่ากิน ก็เปรียบเสมือนดาวในราศี เป็นอุจจ์เป็นเกษตร  แต่ถ้าเราอยากจะรู้ว่าข้างในเค้กมันอร่อยไม๊ ขนมมันดีเหมือนหน้าตาหรือไม่ ก็คือดูวันหมดอายุ  นั่นก็คือดูนวางค์ ของดาวนั้นๆ ซึ่งก็คือ ถ้านวางค์มันดี ก็แสดงว่าของนั้นดีจริงกินอร่อย

 ถ้านวางค์เป็นนิจจ์หรือดาวนั้นดับก็แสดงว่าของข้างใน มันไม่แจ๋วเหมือนหน้าตา ขึ้นราแล้วน้องเอ๊ย

ดาวที่เป็นอุจจ์ในนวางค์ ถ้าเป็นเจ้าเรือนอริ มรณะ วินาศน์ ค่อนข้างจะให้โทษ  แต่ถ้าดาวนั้นเป็นเจ้าของสองเรือน  ก็จะให้โทษก่อนแล้วให้คุณที่หลัง  แต่อย่าเพิ่งฟันธงต้องดูด้วยว่าไปอยู่ภพอะไร จะให้โทษใคร ให้โทษเรา หรือให้โทษผู้อื่น (ว่ากันอีกยาวววววววว)

ยกตัวอย่างเช่น ในดวงของแบงค์

๕เป็นนิจจ์ แต่ในนวางค์เป็นอุจจ์ เจ้าเรือนพันธุเป็นนิจจ์ในเรือนกดุมพะ  ครอบครัวมีสถานะการเงินไม่ดี แต่เป็นอุจจ์ในนวางค์ก็คือถึงจะเป็นหนี้ แต่ทำให้แบงค์มีกิน มีเรียนหนังสือ มีความรู้ พันธุคือพ่อแม่ยอมลำบาก(๕ยอมเป็นนิจจ์)เพื่อมาอุปถัมภ์ให้แบงค์มีกินมีใช้ในครอบครัว(๕เป็นอุจจ์ในนวางค์)

แต่อย่าดูแค่ชั้นเดียวเจ้าเรือนกดุมพะไปอยู่ภพวินาศน์เงินที่ได้มาถูกใช้จ่ายหมดไป  เจ้าเรือนวินาสน์ไปอยู่ลาภะ คือเงินที่หมดไปทำให้รายได้  รายได้มันทำไม เจ้าเรือนลาภะตกวินาสน์อีกก็คือรายได้ก็หมดไปอีก  แต่แบงค์มีเสาร์เจ้าเรือนกดุมพะ เป็นอุจจ์ในนวางค์  ให้ผลดีถ้าเก็บเป็นของหรือซ่อนเงินให้มิดชิดก็จะพอเก็บอยู่น่ะ

อ้อ อีกอย่างน่ะครับ ครือ อยากทราบมากเรื่อง ระหว่าง ลัคนา กับตนุลัคน์  เรือนที่ตั้งจากทั้งสองตัวนี้ ผมอยากรู้ว่า เราสามารถคำนวนหาได้รึเปล่า ว่า เมื่อไหร เหตุการณ์ทางตนุลัคน์ถึงจะเกิดเรื่องราวขึ้นมา

อย่างเช่นดวงผมก็ได้              

-ราศีธนู ดาว ๑ กุมลัคน์

-ตนุลัคน์ ๕ สถิต เรือน กดุมพะ (เรือน ๗ )

-ดาว ๗ สถิต วินาศน์ลัคนา  เป็น ลาภะ กับ ตนุลัคน์

จากที่เห็น คือ ลัคนาก็คือ เหตุการ์ตั้งแต่แรกเกิด ส่วนตนุลัคน์คือ เรื่องราวภายหลัง หลังจากที่ เกิดเหตุการณ์ตามดาว ๕ ที่สถิต กดุมพะ

ซึ่งตรงนี้นี่เองที่ผมอยากทราบว่า หากต้องทำนาย จะทำนายได้อย่างไร ว่า เมื่อไรที่ ภพเรือนของตนุลัคน์จะแสดงผลออกมา

รบกวนผู้รู้ใครก็ได้ คุณเคก้ได้ ถ้าทราบช่วยแนะนำผมหน่อยครับ ผมนอนคิดมาตั้งแต่เมื่อคืนแระ เข้าใจว่า อาจจะต้องเป็นทั้งทางทักษาจร และ ดาวตนุลัคน์จร กลับมาอยู่ที่เดิมคือทับดาวเดิม เรื่องราวจึงจะเกิดขึ้นมา ไม่ทราบผมเข้าใจถูกรึเปล่า รบกวนแนะนำหน่อยครับ

คุณ เค ชอบเรื่องดวงเหมือนกันใช่มั้ยฮะ  ผมก็ชอบ เพิ่งมาศึกษาได้ไม่นาน หาอ่านเอาตามเว็บ เจอหลายแห่ง บางเรื่องพูดไม่เหมือนกันเลย

อย่างเรื่องที่ผมถามเนี่ย เรื่อง ดวงนวางค์ บางแห่งก็บอกว่า ดูแค่ดวงราศีจักรอย่างเดียวไม่ละเอียด ต้องดูดวงนวางค์ด้วย แต่พอผมเข้าไปดูบางเว็บ บางอจ. เค้าไม่เห็นใช้เลย หรือว่าเค้าใช้ผมก็ไม่รู้อ่ะ ส่วนใหญ่ใช้แค่ราศีจักรอย่างเดียว ทำนายก็แม่นด้วย  ผมก็เลยสงสัยว่า ดวงนวางค์จริงๆแล้วมันใช้ยังไงกันแน่ จะเอามาดูคุณภาพดาวจริงๆก็ไม่รู้ว่ามันดูได้ยังไง  คุณเค เคยเข้าไปอ่าน เกร็ดความรู้ในเว็บนี้แล้วใช่มั้ยครับ ผมอ่านเจอ ที่บอกเรื่องดวง อุจน์ในดวงนวางค์ ทำให้ผมสงสัย เพราะเค้าบอกว่า ดวงอุจน์ ( 3 ดวงขึ้นไปในนวางค์) จะทำให้เจ้าชะตา มีแต่ดีขึ้นๆ  ผมก็เลยสงสัยว่า ถ้าสมมตุ มันอุจน์ในดวงนวางค์ 3 ดวงจริงน่ะแหละ แต่ถ้าเป็นเจ้าเรือนอริ มรณะ วินาศน์ ทั้งหมด (นี่ ผมสมมุติฮะ แต่ของจริงผมว่ามันคงมีแหละ) อย่างเช่น ในดวงราศี เจ้าเรือน อริ มรณะ วินาศน์มันเป็น ประ เป็นนิจ ไม่ค่อยเท่าไหร แต่พอเข้านวางค์ปุ้บ ทั้งสามตัว เป็นอุจน์หมดเลย แล้วแบบนี้มันจะเป็นไปตามที่บอกหรือป่าวผมสงสัย  ใครรู้ช่วยอธิบายหน่อยได้มั้ยครับ

ง่ะ คุยหน่อยก็ได้คับ ผมเข้ามาเปิดอ่านเผื่อมีคนมาตอบทุกวันเรยง่ะ

พอดีเป็นคนชอบอ่านแต่คุยไม่เก่งอ่ะ

ไปตามอานข้อความจากกระทู้เก่าๆ ก็พอได้ใจความขึ้นมามั่งครับ อย่างเช่น ตนุลัคน์ผมคือดาว ๕ ราศีจักรเป็นนิจ ที่หมายถึงต่ำต้อนไร้วาสนาอะไรทำนองนั้นใช่มั้ยครับ เป็นเจ้าเรือน สองราศี คือเรือนพันธุด้วย ก็หมายความว่า (พันธุแปลว่า แม่ หรือครอบครัวได้ใช่มั้ยครับ) ทั้งผมและก็แม่นั้น ยากจนเหลือหลายกัดก้อนเหลือกิน แต่พอมาดูดวงนวางค์ มันกลับไปเป็นอุจน์อยู่ในราศี กรกฎ หยั่งงี้ผม งง มากครับ แปลไม่ออกเลยครับ เพราะว่า ทางด้านผมนั้นไม่ทราบครับแต่ทางด้านแม่นั้นค่อนข้างมั่นใจว่า ไม่ได้ต่างกันสักเท่าไหร คือ จน วันยังค่ำเหลือแต่ผมที่ยังไม่รู้อนาคต แต่ผมว่าผมต้องรวยแน่ครับ -_- 

อีกหน่อยครับ อ่านบทความในเว็บแล้ว อยากรู้ครับ ผมลองขับดาวเข้านวางค์ดู ประกอปกับเห็น เกร็ดความรู้ในเว็บนี้ที่บอกว่า ดาวอุจน์ในราศีไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร แต่ถ้าขับเข้านวางแล้วได้อุจน์ย่อมให้คุณเต็มที่ (ซึ่งตรงนี้ผมก็สงสัยแล้วครับ) ยิ่งถ้าดวงนวางค์ได้ตำแหน่งอุจน์ถึงสามดวงแล้ว ดวงชะตานั้นจะไม่มีวันตกต่ำมีแต่จะดีขึ้นๆ (ตรงนี้ผมตาลุกวาวเลยครับ เพราะของผมมันมีตั้ง สี่ดวง ถ้ารวม ดาวเกตุ ด้วยน่ะครับ ) สงสัยเรื่งอตรงนี้มานานแล้วครับ  รบกวนช่วยชี้แนะให้หน่อยได้มั้ยครับ