คำถามนี้  มันคงไม่ยากสำหรับผู้อ่านตำรา

คือมีคำตอบอยู่ในหลายตำราหลายเล่มด้วยกัน  ในตำราบอกว่า

ผมขออ้างข้อมูล จาก http://www.payakorn.com/moondate.php

ข้อมูลที่ 1

การโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ ในการกำหนด 1 ปี ใช้เวลาประมาณ 365. 25 วัน จึงแบ่งปีออกเป็น ปี อธิกสุรทินมี 366 วัน และ ปีปกติมี 365 วัน โดยทุก 4 ปีจะมีปีอธิกสุรทิน 1 ครั้งโดยประมาณ

ข้อมูลที่ 2

เวลาเที่ยงจริง ในปฏิทินของอาจารย์ ทองเจือ อ่างแก้ว ใช้คำย่อว่า ทจ.

ซึ่งในปีนี้  2552 เที่ยงจริง ช้าสุด คือเวลา 12.33 น. ตั้งแต่วันที่ 5 -18 กุมภาพันธ์ 2552 , 13 วัน

ส่วนเวลาเที่ยงจริงเร็วสุด คือเวลา 12.02น. ตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม - 12 พฤศจิกายน 2552, 13 วัน

ประเด็นแรกที่ค้างคาเป็นปัญหาสงสัย   ทำไมต้องเพิ่มวันในปีที่สี่เข้ามา

ทั้งที่เวลาก็เดินตามปกติ  ดูข้อมูลปฏิทินของอาจารย์ทองเจือ

จะมีเดินช้าเดินเร็ว เที่ยงช้า เที่ยวเร็ว ในแต่ละวัน 

ประเด็นที่สอง  เมื่อเวลาโลกโคจรรอบพระอาทิตย์ 365. 25 (สุริยคติ)

คือในปีที่ สามหรือปีที่สี่  ตำราท่านว่า เวลาจะขาดไปหนึ่งวัน

จึงเพิ่มในเดือนกุมภาพันธ์ มี 29 วัน  ลองคิดตามความเป็นจริงครับ

มันขาดไปได้อย่างไร   ทั้งที่เวลาก็เดินตามปกติ  ท่านเหลียวดูเข็มนาฬิกา

หน่อยว่า มีใครไปหมุนนาฬิกา ทุกเรือนในประเทศไทย ถอยหลัง หรือ หมุนให้เร็วขึ้นหรือไหม

หกโมงเช้า ก็ยังเช้า ไม่ได้เที่ยง หรือมืดไป กลางคืนก็ยังมืด ไม่ได้สว่าง

ถ้าเป็นอย่างที่ตำราว่าไว้ เวลามันต้องคลาดเคลื่อน  ปีที่หนึ่ง หกโมงเช้า ก็ยังเช้า

ปีที่สอง หกโมงเช้า มันแดด ร้อนขึ้น เหมือนเวลาเที่ยง ปีที่สาม หกโมงเช้า แดดจะเหมือนเวลาบ่าย

และปีที่สี่ หกโมงเช้า จะมืด  อย่างนี้ ถ้าจะเพิ่มหรือลดวัน เพื่อให้ครบรอบของการ

โคจรรอบดวงอาทิตย์ ผมจะไม่สงสัยเลย  แต่นี่เวลาก็เดินปากติ บอกว่าเวลาขาดหายไป

คำถามนี้ ผมได้ถามอาจารย์ที่สอนวิชาโหราศาสตร์หลายท่าน

จะตอบลักษณะว่า ตำราว่ามาอย่างนี้

ถ้าใครพออธิบายให้ผมเข้าใจได้ ช่วยอธิบายให้รับทราบหน่อยครับ