ขอเรียนอาจารย์สิทธาฯ ที่เคารพอย่างสูง  จากที่อาจารย์วิเคราะห์มานั้นใกล้เคียงกับตัวจริงเขามากมากครับ ดวงอดีตผู้นำประเทศคือท่าน บรรหาร ศิลปอาชา ครับ

(ดวงอดีตผู้นำประเทศ เกิดพุธที่ 17 สิงหาคม 2475   เวลา 24:00 น.)   ขอขอบพระคุณอย่างสูงครับ

ตอบ คุณอาทิตย์

ดวงนี้เป็นดวงที่มักจะได้ดีในต่างถิ่นไกลๆ เกิดที่หนึ่งไปได้ดีอีกที่หนึ่ง  เป็นดวงพ่อค้า  หรือมหาเศรษฐีที่สร้างตนจากคนไม่มีอะไรจนตั้งตัวได้  เป็นคนพูดเก่ง  ชีวิตในวัยหนุ่มค่อนข้างลำบาก  สบายตอนแก่  อย่างที่ผมกล่าวไว้ไงล่ะครับว่า  แม้ตนุลัคน์จะเป็นกาลกิณี  (ในความเห็นที่ 15) ถ้าหากว่าดาวเจ้าเรือนภพเกณฑ์ของเขามิได้ตกที่เสียก็มีสิทธิ์ประสบความสำเร็จได้  เพราะผมเห็นมาเยอะแล้ว  ต่างจากพวกที่ตนุลัคน์เป็นกาลกิณีแล้วเจ้าเรือนภพเกณฑ์ตกที่เสียมักระหกระเหินชีวิตเหมือนตุ๊กตาล้มลุกเอาดียาก  แต่ดวงที่คุณยกมาอยู่ในหลักที่ผมว่าไว้คือ เจ้าเรือนภพเกณฑ์ของเขาอยู่ในภพที่ดีจึงทำให้เขาเป็นนักการเมืองที่มีชื่อเสียงและเป็นเศรษฐีระดับพันล้านได้(คิดว่าน่าจะถึง)  เพราะตนุลัคน์เป็นลาภะเกษตรไปกุมกับตนุเศษแล้วมีพระเกตกุมด้วยย่อมทำให้เจ้าชาตาเป็นคนที่มีลักษณะพริ้วไหวมีไหวพริบรอบตัว  เหมาะสำหรับเป็นนักธุรกิจค้าขาย หรือหากเป็นนักการเมืองก็เป็นพวกที่สามารถพลิกพริ้วเข้ากับสถานการณ์ได้เก่งมาก(อยู่เรือน ๔ ย่อมปัญญาดีอยู่แล้ว)  การที่ดาว มฤตยูกุมลัคน์จึงทำให้มักได้ดีต่างถิ่น  เกิดที่หนึ่งไปได้ดีอีกที่หนึ่งและมักจะอยู่ไม่เป็นที่เป็นทางเป็นคนที่รักอิสระขี้หงุดหงิดง่ายซะด้วยสิ  ลูกคนโตของเขาอาจจะหาแฟนยากสักหน่อยเนื่องด้วยเป็นคนที่มีหลักการณ์หรืออุดมการณ์มากไปเลยหาคนถูกใจยากหรืออาจไม่แต่งงานเลยครับ 

ดวงของนักการเมืองท่านนี้ก็คล้ายกับดวงของอดีตนายกฯทักษิณ ตรงที่ตนุลัคน์ไปสัมพันธ์กับกาลกิณีเข้า  และก็ไปอยู่เรือนดาว ๔  จึงทำให้เป็นคนที่มีไหวพริบปฏิภาณเป็นยอด มักจะเอาตัวรอดเก่ง  และดวงนี้ก็มีคุณภาพไม่แพ้ดวงท่านทักษิณเลยทีเดียวมีสิทธิ์เป็นได้ถึงระดับนายกฯรัฐมนตรีด้วยซ้ำ  เพราะดาวเดชเป็นปุตตะในเรือนเกษตรคู่มิตรเช่นนี้   ย่อมแสดงให้เห็นว่าเป็นคนที่มีอำนาจวาสนามาแต่ชาติปางก่อน  เป็นคนที่มีญาติพี่น้องเยอะ   ถ้าคุณสังเกตให้ดีจะเห็นมุมของดวงดาวในดวงชะตาเขาส่งกำลังดีมากถึงลัคนามีทั้งโยคหน้าและโยคหลัง และอาทิตย์+พฤหัสฯก็นตรีโกณไปถึงลัคน์ แล้วจะให้คนที่มีชะตาเช่นนี้เป็นคนระดับกระจอกอย่างงั้นหรือครับ  ผมว่าอย่างน้อยก็ไม่น้อยหน้าญาติพี่น้องเพื่อนฝูง  เป็นดวงของคนที่มีชื่อเสียงดีและกว้างขวางในสังคมทุกรูปแบบ(๘ โยคหลัง , ๓, ๖ โยคหน้า, ๑ และ ๕ ตรีโกณ)   มีลูกน้องบริวารจำนวนมากเป็นดวงผู้นำไม่ใช่เกิดมาเป็นลูกน้องใครหรอกครับ

เรียนอาจารย์สิทธาฯ ผมมีดวงอคีตผู้นำประเทศคนหนึ่ง เกิดวันพุธ ลักคณาอยู่ราศีเมษ ตนุลัคน์ (๓) เป็นกาลกิณี ทำไมถึงได้เป็นใหญ่เป็นโต และทุกวันนี้ยังยังเล่นการเมืองอยู่ (เกิดพุธที่ 17 สิงหาคม 2475   เวลา 24:00 น.) ขอความกรุณาอาจารย์ช่วยชี้แนะให้ด้วยครับ.

ตอบ คุณอาทิตย์(แก้คำตก)

กรณีดังกล่าวก็ดูดาวเจ้าเรือนในภพเกณฑ์ไงล่ะครับ  คือ ภพที่ ๑, ๔, ๗ และ ๑๐ ถ้าดาวเจ้าเรือนเหล่านี้มีกำลังเข้มแข็งและสถิตในภพที่ดีแล้วก็มักจะทำให้ชะตาชีวิตของคนๆนั้น ไปในทางที่ดีได้  แม้ว่าครรลองแห่งการก้าวไปถึงจุดหมายอันยิ่งใหญ่นั้นจะได้มาด้วยวิธีแยบยลใช้ความพลิกแพลงต่างๆนาๆ ก็ตาม    ดังเช่น  ดวงอดีตนายกฯทักษิณไงล่ะครับ   ดาวตนุลัคน์(๔)ก็สถิตในภพลาภะเรือนกาลกิณี    จึงทำให้ท่านมีความสามารถในการพลิกแพลง(เล็งกับดาว ๕)เพื่อแสวงหาประโยชน์ทางธุรกิจ    เหมาะสำหรับเป็นนักธุรกิจตัวยง   แต่หากดวงชะตาใครก็ตามภพเกณฑ์มีปัญหาแล้ว  เช่น ภพที่สี่(พันธุ)มีดาว ๗ จากภพอริมาสถิต   แล้วตนุลัคน์ไปสถิตที่ใดก็ตามกุมกับเจ้าเรือนวินาศมักจะต้องผ่านคุกตะรางทั้งนั้น  

ตอบ คุณอาทิตย์

กรณีดังกล่าวก็ดูดาวเจ้าเรือนในภพเกณฑ์ไงล่ะครับ  คือ ภพที่ ๑, ๔, ๗ และ ๑๐ ถ้าดาวเจ้าเรือนเหล่านี้มีกำลังเข้มแข็งและสถิตในภพที่ดีแล้วก็มักจะทำให้ชะตาชีวิตของคนๆนั้น ไปในทางที่ดีได้  แม้ว่าครรลองแห่งการก้าวไปถึงจุดหมายอันยิ่งใหญ่นั้นจะได้มาด้วยวิธีแยบยลใช้ความพลิกแพลงต่างๆนาๆ ก็ตาม    ดังเช่น  ดวงอดีตนายกฯทักษิณไงล่ะครับ   ดาวตนุลัคน์(๔)ก็สถิตในภพลาภะเรือนกาลกิณี    จึงทำให้ท่านมีความสามารถในการพลิกแพลง(เล็งกับดาว ๕)เพื่อแสวงหาประโยชน์ทางธุรกิจ    เหมาะสำหรับเป็นนักธุรกิจตัวยง   แต่หากดวงชะตาใครแล้วภพเกณฑ์มีปัญหา  เช่น ภพที่มีดาว ๗ จากภพอริมาสถิต   แล้วตนุลัคน์ไปสถิตที่ใดก็ตามกุมกับเจ้าเรือนวินาศมักจะต้องผ่านคุกตะรางทั้งนั้น  

เรียนอาจารย์สิทธาฯ ผมมีดวงผู้นำประเทศคนหนึ่ง ตนุลัคน์เป็นกาลกิณี และทุกวันนี้ยังเล่นการเมืองอยู่ ผมเลยไม่ทราบว่าถ้าบุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่อริยสงฆ์ จะมีข้อยกเว้นอะไรบ้างครับ?.

ช่วยเสริม...

รายละเอียดที่คุณอาทิตย์นำมากล่าวนี้  เป็น   "ข้อสังเกตในวิชาโหราศาสตร์"  ของอายัณโฆษ

ข้อสังเกตบางข้อถ้าไม่พิสูจน์ตรวจสอบจากดวงชะตาจริงก็อาจทำให้เห็นผิดไปหน้าเดียวได้  เช่น  ตนุลัคน์ เป็นกาลกิณี  เมื่อก่อนผมก็เคยคิดว่าจะต้องเป็นคนไม่ดี แต่พอได้พบเจอดวงพระอริยบุคคลหลายดวง  ที่ตนุลัคน์เป็นกาลกิณี   ถึงเข้าใจว่าดาวกาลกิณีให้โทษจริงแก่ปุถุชน  แต่ไม่สามารถทำอะไรได้กับคนเหนือดวง  หรือคนพ้นโลกไปแล้ว  ตามประวัติพระอริยบุคคลตอนที่ท่านยังมีภูมิจิตภูมิธรรมระดับปุถุชน  ยังเป็นพระเสขบุคคลอยู่นั้น   ชีวิตช่วงนั้นของท่านลำบากจริงๆ ตามหลักตนุลัคน์เป็นกาลี  แต่พอท่านบรรลุธรรมแล้ว   ดาวกาลกิณีกลับกลายมีค่าดังดาวอุจทำให้ท่านเป็นผู้งดงามในทางธรรม  คือ มักน้อย สันโดษ ใช้ผ้าสามผืน  ซึ่งมองแบบทางโลกก็เหมือนคนอาภัพอับเฉาที่ไร้สมบัติพัสถาน  แต่หากมองในทางธรรมกลับเป็นความงดงาม  ดังอาภรณ์ประดับใจของผู้สิ้นกิเลสแล้ว!!!

เพิ่มเติม 3
ผู้มีพระเคราะห์มูลละเป็นแปด หรือสิบสอง
และมีพระอาทิตย์ (๑)และพระราหู (๘) อยู่ในราศีธาตุไฟ และเจ้าชะตาจะเป็นผู้ได้รับมรดกตามพินัยกรรมแล้ว
ชะตาเช่นนี้จะไม่มีหวังได้รับมรดกเลย เพราะทรัพย์สินตามพินัยกรรมนั้น จะต้องสูญสิ้นไปในการถูกพระเพลิงเผาผลาญเสียก่อน

ขอเพิ่มเติม กาลกิณีกุมศรีจะอยู่ในที่ใด ๆ ก็ตามโดยมีการ กุมกันในราศีธาตุน้ำ บ้านเรือนจะประลัยด้วยน้ำอย่างไม่ผิดเพี้ยนเลย หากมีดาวมูลละกุมอยู่ด้วยอีกละก็มรดกหรือทรัพย์สมบัติ ก็จะไม่มีเหลือเลย

แล้วถ้า การกีณี เป็นประอยู่วินาศน์ ร่วมกับ ดาวศรีในภพวินาศน์ล่ะครับ เป็นยังไงมั่งเหรอครับ

เรียนอาจารย์สิทธาฯ ที่เคารพ ผมจะเข้าใจถูกไหมครับ คือ 1.)ถ้าตนุลัคณ์สถิตเรือนกาลกิณี แต่ถ้าดาวศรีสัมพันธ์ถึงก็ไม่ทำให้เลวร้าย 2.) ลัคนาสถิตเรือนกาลกิณี หรือตนุเศษเป็นกาลกิณีก็ดี
แม้พระเคราะห์ตัวอื่นจะส่งให้สูงสักเพียงไรก็ตาม แต่ในที่สุดแห่งบั้นปลายของชีวิต ก็คือพินาศมลาย  ไม่ทราบผมเข้าใจถูกไม่ครับ. ขอขอบคุณมากครับ

ต้องดูทั้งดวงครับ   ถึงจะเห็นชัด  การที่ศรีเป็นวินาศมักมีเรื่องเสื่อมเสียเกี่ยวกับเรื่องทรัพย์สินเงินทองแต่มักจะคุ้มภัยอันตรายได้   ดูอย่างดวงเมืองสิครับ  ดาวศรี(๔)เป็นวินาศกับดวงเมือง  ประเทศเราจึงแคล้วคลาดมาหลายครั้งแล้ว  และก็เกิดเรื่องเสื่อมเสียเกี่ยวกับการเงิน-การคลังหลายครั้งหลายยุคเช่นกัน   ดังปรากฏในคัมภีร์ทักษาว่า  "สิรีริ  มหามิตฺตา  มรณํ  ทีฆายุสุมา  วินาโส  สิริสมฺปตฺติ"  ซึ่งสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษมนตรี  ทรงนิพนธ์ไว้ดังนี้

".....ผิว  ศรีตัวศรี  อยู่ยังที่อริเรือนเข็ญ  พีพวกเพ็ญสหายมาก  ไปคราดครากศัตรู  ตัวศรีอยู่มรณ  ให้อายุสมมั่น  วินาสนั้นเล่าก็ดี  เจริญศรีศฤงคาร  ครันแล  สามสถานอันอยู่  สู่อริมรณ  วินาสราศี  ให้เป็นดีเล่าซินะ......" 

หมายความว่า  ศริในเรือนอริทำให้มีพวกพ้องมากและป้องกันภัยจากศัตรู   ,  ศรีในเรือนมรณะทำให้อายุยืน  และศรีในเรือนวินาศทำให้มีทรัพย์ศฤคารดี(แต่ที่เคยเห็นแม้มีทรัพย์แต่ก็มักจะใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย  หรือมีเรื่องเสียทรัพย์อยู่เรื่อยๆ)

เพิ่มเติม

อีกดวงชะตาหนึ่งซึ่งก็เป็นดวงชะตาพระอริยสงฆ์เช่นกัน  คือ  หลวงปู่เทสก์  เทสรังสี  วัดหินหมากเป้ง  จ.หนองคาย  ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๒๖ เม.ย. ๒๔๔๕  เวลา ๐๙.๐๐ น.(ตามข้อมูลในหนังสืออัตโนประวัติที่หลวงปู่เป็นคนบันทึกด้วยตนเอง)  ลัคนาราศีเมถุน  ท่านเกิดวันเสาร์  จะเห็นว่าตนุลัคน์เป็นกาลกิณี  ดังนั้น จึงทำให้ชีวิตของท่านดำเนินมาด้วยความยากลำบากกลางป่ากลางเขา  เที่ยวธุดงค์ไปแทบทุกจังหวัด   มีครรลองชีวิตคล้ายกับดวงชะตาของหลวงปู่สมชาย  คือ ดาวกาลกิณีส่งผลให้ได้รับความเหน็ดเหนื่อยยากลำบากที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนกลางป่ากลางเขาเพื่อเอาชนะกิเลสภายในใจตน   และดาวศรี(๖)ก็สถิตในภพศุภะ  เป็นโยคหลังกับตนุลัคน์   จึงส่งผลคุณให้ชีวิตก้าวพ้นโลกไปได้(อัฐิธาตุของท่านแปรสภาพกลายเป็นพระธาตุขาวใส)

ถ้าดาวศรีสัมพันธ์ถึงก็ไม่ทำให้เลวร้ายดังที่คิดหรอกครับ  ดังเช่น  ดวงชะตาพระสุปฏิปัณโณรูปหนึ่ง  เกิดเมื่อวันที่  ๗ เม.ย. ๒๔๖๘  เวลา ๑๒.๐๐ น.(ตามรายละเอียดในหนังสืออัตโนประวัติของท่าน)  ตนุลัคน์เป็นกาลกิณีด้วยซ้ำ     แต่ดาวศรีเล็งลัคน์และร่วมธาตุกับตนุลัคน์จึงส่งผลคุณให้ดวงชะตาพลิกจากหน้ามือไปสู่จุดสูงสุด(โลกุตรภูมิ)  พระสงฆ์รูปนี้คือ   "ท่านพระอาจารย์สมชาย  ฐิตวิริโย"   แห่งวัดป่าเขาสุกิม  เป็นลูกศิษย์ท่านพระอาจารย์มั่น  ภูริทัตโต   ซึ่งชีวิตในวัยเยาว์ของหลวงปู่นั้นกำพร้าและลำบากมากต้องมาอยู่กับคุณตาและชีวิตผกผันระเหเร่ร่อนมาตลอด    และสุดท้ายชีวิตหักเหจากทางโลกเข้าสู่ภายใต้ร่มกาสาวพัสต์บวชเป็นพระภิกษุและบรรลุธรรมในที่สุด  ท่านเป็นพระที่มีคุณธรรมสูงและมีอภิญญาเพียบพร้อมบริบูรณ์ ฯลฯ