ReadyPlanet.com


ทดลองทฤษฏีแผ่นดินไหว ปี 49


...เนื่องจากวันที่ 15 มีนาคม 2549 จะเกิดจันทรุปราคาแบบเงามัว และ วันที่ 29 มีนาคม 2549 จะเกิดสุริยุปราคาแบบสรรพคราสมิดดวง

...ซึ่งครั้งหนึ่งข้าพเจ้าเคยเสนอไปครั้งหนึ่งแล้วในกระทู้ของท่านอาจารย์สิทธาฯ ว่าแผ่นดินไหวจะเกิดหลังการเกิดคราสนั้นๆ โดยใช้หลักทฤษฏีการบีบ(กรรตรี) อันเกี่ยวเนื่องกับดาวพฤหัส ดาวอังคาร และ ดาวเสาร์ ซึ่งข้าพเจ้าสืบสาวเคล้าเรื่องมาได้จากบันทึกในมหากาพย์ภารตะ คราวนี้จะมาทดลองทฤษฏีนี้อีกครั้ง เพื่อเป็นการทดสอบ และ เพื่อให้ท่านผู้รู้ผู้มีเงื่อนเคล้าในการศึกษาเกี่ยวกับแผ่นดินไหวในแบบโหราศาสตร์มาลองวิเคราะห์ศึกษากันดู

...ในปี 49 นี้ข้าพเจ้าสังเกตดูว่าดาวพฤหัสยังอยู่ในวงล้อมขนาบของดาวอังคารและเสาร์ ด้วยโยคของดาวสองดวงนี้ จากจุดนี้จึงอยากทดลองทฤษฏีอีกครั้ง โดยหามุมของ ดาวทั้ง 3 ดวงนี้จากโยคพิเศษของทั้ง 3 ดวงนี้อีก

...จุดที่จะทดลองทำนายการเกิดแผ่นดินไหวในครั้งนี้คือ

... ช่วงเส้นแวงที่ 45-60 องศาตะวันออก คือ แถวๆ ประเทศอิหร่าน , ซาอุดิอาระเบีย , อิรัค และ ตุรกี เป็นจุดที่ 1

...ช่วงเส้นแวงที่ 150-180 องศาตะวันออก คือ ฝั่งตะวันออกของประเทศญี่ปุ่น , กลางมหาสมุทรแปซิฟิค และ ค่อนมาถึงฝั่งตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์

...ถ้าทฤษฏีนี้ถูกต้องจะนำมาเสนอรายละเอียดให้ศึกษากันดู ว่าข้าพเจ้าตั้งสมมุติฐานจากอะไร (อย่าไปจริงจังมากนักนะครับ เพราะนี่เป็นเพียงทฤษฏี ลองมาไม่กี่ครั้งเองยังไม่มีบทสรุป แต่อยากให้ลองศึกษากันดูเท่านั้นเองครับ ฉะนั้นยังไม่สามารถใช้อ้างอิงได้ ขอให้ถูก 8 ใน 10 ครั้งถึงจะสรุป)

 



ผู้ตั้งกระทู้ ตาบอดส่องตะเกียง :: วันที่ลงประกาศ 2006-03-07 13:22:13 IP : 58.136.98.204


1

ความคิดเห็นที่ 19 (540869)

สูตรทดลอง เตือนเรื่องแผ่นดินไหวอีกครั้งสำหรับปลายปี 2549

เนื่องจากปลายปีนี้ คือในวันที่ 8 กันยายน 2549 จะเกิดจันทรุปราคา(แบบบางส่วน Partial Lunar Eclipse) และ ในวันที่ 22 กันยายน 2549 จะเกิดสุริยุปราคา (แบบวงแหวน Annular Solar Eclipse) ซึ่งต้องพิจารณาระยะเวลาหน้าและหลังของการเกิดคราส 90 , 60 , 45 , 30 และ 15-1 วันจากคราส

 

ครั้งนี้จุดที่น่าสนใจ 2 จุดคือ จุดตั้งรับที่ราศีกุมภ์ และ ราศีตุลย์ ซึ่งถ้าผมประมาณก็น่าจะเป็นแถวประเทศทางอเมริกาใต้ชั่วเส้นแวงที่ 60-90 องศาตะวันตก ได้แก่ประเทศ เอกวาดอร์ , โคลัมเบีย , เปรู , โบลีเวีย , ชิลี , ปานามา, นิการากัว , ฯลฯ โดยสรุปคือแถบอเมริกาใต้ฝั่งตะวันตกติดมหาสมุทรแปซิฟิก รวมทั้งเม็กซิโก , ฝั่งตะวันตกของสหรัฐในบางส่วน และ ในมหาสมุทรแปซิฟิกด้วย

 

ส่วนอีกจุดก็ให้สังเกตประเศแถวตะวันออกกลาง ระหว่าง 60 – 90 องศาตะวันออก  ได้แก่ประเทศอิหร่าน , ปากีสถาน , อัฟกานิสถาน , อินเดีย และ ในช่วงทะเลอาระเบียนด้วย

 

ครั้งนี้ถ้าผมประมาณการปัดใต้ มันจะลงสู่มหาสมุทรด้วย ฉะนั้นจึงได้เกรงว่าจะเกิดคลื่นซึนามิด้วย แต่เนื่องจากจุดเกิดเหตุใกล้ทะเลทั้งนั้น จึงควรระวังด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาบอดส่องตะเกียง วันที่ตอบ 2006-07-17 09:06:34 IP : 202.183.156.223


ความคิดเห็นที่ 18 (504134)
บึ้มใต้50จุดดับ2เจ็บอื้อ

โพสต์ทูเดย์ — กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบปฏิบัติการเขย่าขวัญรัฐบาล ลอบวางระเบิด 50 จุด ใน 3 จังหวัดภาคใต้ เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บ 23 คน

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้คาดการณ์ไว้แล้วว่าจะเกิดเหตุรุนแรงขึ้นวานนี้ แต่การเตรียมรับมือยังทำได้ไม่ดี จึงเกิดความสูญเสียขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ที่นายกองค์การบริหารส่วนตำบลและเจ้าหน้าที่เสียชีวิต ทั้งนี้ การกลับมาก่อเหตุร้ายอีกครั้งเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รุกหนักมากขึ้น แต่จากที่ได้รับรายงาน พบว่าศักยภาพคนร้ายยังมีไม่มาก เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นการวางระเบิดที่มีแรงดันต่ำ

นายกฯ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะต้องมีการปรับแผนใหม่ โดยการตอบโต้จะต้องดำเนินการคู่ขนานไปกับการทำความเข้าใจกับคนในพื้นที่ เพราะ 2 ปีที่ผ่านมา ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากความไม่เข้าใจของคนบางกลุ่ม ขณะที่กลุ่มก่อการร้ายมีหลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มขบวนการที่ต้องการแบ่งแยกดินแดน กลุ่มผู้เสียประโยชน์ และกลุ่มยาเสพติด ซึ่งต้องทำหลายอย่างควบคู่กันไป โดยส่วนหนึ่งจะนำข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.) มาปรับใช้

พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำเนื่องในวันสถาปนารัฐปัตตานี ซึ่งฝ่ายตรงข้ามต้องการสร้างให้วันดังกล่าวเป็นวันสำคัญเพื่อเชิดชูและแสดงศักยภาพของกลุ่ม

หมายเหตุ..ความวุ่นวายทางภาคใต้ตอนนี้เป็นไปตามอิทธิพลของอังคารที่จรมาร่วมกับพระเสาร์ในภพพันธุ(ความมั่นคงในบ้านเมือง)จึงเป็นจุดที่ทำให้เกิดเหตุต่างๆนาๆและทหารจะเสียเปรียบฝ่ายตรงข้าม(อังคารเป็นนิจ)  เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ในความเห็นที่ 1

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธาฯ วันที่ตอบ 2006-06-16 11:11:02 IP : 203.156.27.190


ความคิดเห็นที่ 17 (478237)

ที่เคยแสดงความเห็นไว้ในคห.ที่ 1  นั้น  ตอนนี้เริ่มเห็นเค้าลางบ้างแล้วเกี่ยวกับภัยธรรมชาติ  กล่าวคือ เกิดอุทกภัยภาคเหนือมีจังหวัดแพร่,น่าน,ลำปาง,อุตรดิตถ์  บ้านเรือนอาคารเสียหายเพราะแผ่นดินทรุดจากน้ำที่พัดพาเอาหน้าดินไปกับสายน้ำ  ส่วนความวุ่นวายด้านการเมืองหลังฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี  กลางเดือนมิ.ย. กลุ่มพันธมิตรแสดงเจตนารมณ์ว่าจะออกมาเคลื่อนไหวเพื่อกดดันรัฐบาลต่ออีก....แต่คิดว่าด้วยพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงช่วยขจัดปัดเป่าเรื่องร้ายๆให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี...เมื่อพฤหัสฯกลับมาเดินปกติอีกนับแต่ 14 ก.ค.เป็นต้นไป

ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธา มหาสิทธิโชค วันที่ตอบ 2006-05-24 10:03:51 IP : 203.150.64.254


ความคิดเห็นที่ 16 (435368)

       ผมได้อ่านรายละเอียดทฤษฎีแผ่นดินไหวในกระทู้ดูดวงโหราสาร ของ อ.ตาบอดส่องตะเกียงทั้งหมดแล้วเห็นว่าเป็นแนวความคิดที่มีประโยชน์และน่ารับฟังเป็นอย่างยิ่งครับ   ถือได้ว่า อ.ตาบอดส่องตะเกียง เป็นผู้ให้แสงสว่างแก่ผู้สนใจโหราศาสตร์ทั้งหลายสมดังนามปากกาที่ตั้งไว้ครับ....

ขอบคุณมากครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธา มหาสิทธิโชค วันที่ตอบ 2006-04-04 09:46:49 IP : 203.150.64.254


ความคิดเห็นที่ 15 (435263)

เรียนท่าน อ.สิทธา และ ท่านที่สนใจทั้งหลาย

...เชิญท่านทั้งหลายไปที่ บอร์ดกระทู้ดูดวงโหราสารดีกว่าครับ เพราะ กระทู้ที่นั่นจะมีการ Update ตลอด กระทู้จะไม่ตกไปถ้ามีคนมา Reply มันจะกลับขึ้นมาตลอด ซึ่งกระทู้นี้ผมอยากให้ท่านอื่นๆ มาเสนอ หรือ เป็นแหล่งเก็บข้อมูล จะเป็นหน้าหนึ่งในบอร์ดโหราเวสม์ที่เหมาะสมกว่า ถ้าเราจะเริ่มเก็บข้อมูลกัน

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาบอดส่องตะเกียง วันที่ตอบ 2006-04-04 04:54:30 IP : 58.136.102.181


ความคิดเห็นที่ 14 (433142)

ทฤษฎีของ อ.ตาบอดส่องตะเกียง แม่นยำดีครับจากที่ทำนายไว้ตอนต้นว่า.จะเกิดแผ่นดินไหว ".. ช่วงเส้นแวงที่ 45-60 องศาตะวันออก คือ แถวๆ ประเทศอิหร่าน , ซาอุดิอาระเบีย , อิรัค และ ตุรกี เป็นจุดที่ 1...."  นั้น  

 ถ้า อ.ตาบอดส่องตะเกียงจะกรุณาขยายความเกี่ยวกับหลักคิดดังกล่าวให้สมาชิกที่เข้ามาอ่านทราบบ้างเป็นวิทยาทานก็จะเป็นกุศลอย่างสูงทีเดียวครับ...

ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธาฯ วันที่ตอบ 2006-04-01 11:16:50 IP : 203.150.64.254


ความคิดเห็นที่ 13 (433036)

              สถานีโทรทัศน์ของทางการอิหร่าน อ้างรายงานจากสถาบันตรวจสอบแผ่นดินไหวแห่งชาติว่า ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6 ริกเตอร์ ที่ จ.โลเรสตาน ทางตะวันตกของอิหร่านในตอนเช้าวันนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 17 ราย และมีผู้ได้รับ บาดเจ็บอีก 300 คน
        รายงานแจ้งว่า หมู่บ้าน 40 แห่งได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างเมืองโดรุด และเมืองโบรูเจิร์ด ทำให้อาคารเก่าแก่ในเมืองโบรูเจิร์ดได้รับความเสียหาย
        แผ่นดินไหวขนาด 6 ริกเตอร์ เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 08.17 น. ตามเวลาในประเทศไทยวันนี้ และตามมาด้วยแผ่นดินไหวอีก 2 ครั้ง ขนาด 4.7 และ 5.1 ริกเตอร์ อิหร่านเป็นบริเวณที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง ครั้งที่รุนแรงที่สุด เกิดขึ้นทางตอนใต้ของประเทศเมื่อเดือนธันวาคมปี 2546 ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 31,000 ราย และแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ที่ผ่านมา มีความรุนแรงขนาด 6 ริกเตอร์ เกิดขึ้นทางตอนใต้ของอิหร่าน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คนจากแผ่นดินถล่ม และบ้านเรือนเสียหายจำนวนหนึ่ง

31 มี.ค. 49 ที่มา : หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาบอดส่องตะเกียง วันที่ตอบ 2006-04-01 08:14:42 IP : 58.136.98.74


ความคิดเห็นที่ 12 (430852)
แผ่นดินไหว5.2 ริกเตอร์ในจังหวัดอาเจะห์อินโดนีเซีย

สำนักข่าวอันทารารายงานว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 5.2 ริกเตอร์ที่เมืองตาปักตวน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเขตอาเจะห์ใต้ จังหวัดอาเจะห์ ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อกลางดึกวันอังคารที่ผ่านมา ทำให้เกิดความเสียหายเล็กน้อยกับบ้านหลายสิบหลัง

แรงสั่นสะเทือนทำให้ผนังบ้านหลายหลังเสียหาย และทำให้คนในท้องถิ่นที่ยังตื่นกลัวจากเหตุการณ์สึนามิเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 รู้สึกหวาดกลัวแผ่นดินไหวดังกล่าวตรงกับละติจูดเหนือที่ 3.46 องศา และลองติจูดตะวันออกที่ 96.76 องศา และมีความลึกจากพื้นดิน 33 กิโลเมตร โดยที่ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บแต่อย่างใด


29 มีนาคม 2549 เวลา 15:56:20

ที่มา:  จากหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธา มหาสิทธิโชค วันที่ตอบ 2006-03-29 16:44:04 IP : 203.150.64.254


ความคิดเห็นที่ 11 (423765)

ขอขอบคุณ  อ.ตาบอดส่องตะเกียงครับที่กรุณาแนะนำหนังสือที่เกี่ยวกับเกร็ดความรู้ทางอินเดีย(ภารตะ)     ความจริงคุณตาบอดส่องตะเกียงอายุยังไม่มากเท่าไรแต่สนใจวัฒนธรรมอินเดียเป็นพิเศษเช่นนี้หายากจริงๆครับ  

หนังสือของ ท่าน อ.รัตน์และศิระ นามะสนธิ  นั้นเล่มที่ผมชอบมากคือ  "มุหูรตะ"  เป็นหนังสือเกี่ยวกับการให้ฤกษ์ในกิจการต่างๆที่เป็นคัมภีร์ฤกษ์ยามของโหราศาสตร์ภารตะโดยเฉพาะ  ซึ่งเมื่อศึกษาไปแล้วก็มีส่วนทำให้เข้าใจหลักฤกษ์ยามของไทยชัดขึ้นอีกมากครับ

หนังสืออีกเล่มหนึ่งที่แทรกแนวคิดโหราศาสตร์ภารตะไว้ได้ดีมาก คือ "ชุมนุมโหร ทำนาย ชาตาเมือง  ชาตาโลก" เป็นหนังสือที่รวมคำพยากรณ์ของปรมาจารย์โหรในยุคก่อนได้แก่ พ.อ. ประจวบ  วัชรปาน,  อ.เทพย์  สาริกบุตร  ,ร.ต.อ.เปี่ยม  บุณยะโชติ  , น.อ. ศิริ  พงศทัต   เมื่ออ่านแล้วทำให้ทราบที่มาที่ไปเกี่ยวกับเกร็ดความรู้สำคัญๆหลายเรื่องเช่น    คชเกสรีโยคที่นำชื่อของสัตว์สองชนิดมารวมกันคือ  ช้างกับสิงห์โต(คช = ช้าง   เป็นเจ้าแห่งพลัง,   เกสรี = สิงห์โตตัวผู้   เป็นเจ้าแห่งความดุร้ายหรือเจ้าป่า) ซึ่งธรรมชาติของสัตว์สองชนิดนี้จะไม่รุกรานกัน  หรือรุกรานสัตว์อื่นก่อน   จึงทำให้ผู้รู้สมัยก่อนนำมาตั้งเป็นชื่อโยคในทางโหราศาสตร์   ตามลักษณะของสัตว์สองชนิดนี้ คือ จะทำให้เจ้าชะตาไม่ทำอันตรายแก่ผู้ใดก่อน ถึงแม้ตัวเองจะมีอำนาจทำได้ก็ตาม   เว้นแต่ถึงยามคับขันจึงจะเข้าขับเคี่ยวกับศัตรูแบบไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น   ส่งผลให้เป็นผู้องอาจสง่าผ่าเผย  มีทรัพย์  มีความเจริญรุ่งเรือง  ฉลาดหลักแหลม ฯ  โดยดวงชาตาที่ได้คชเกสรีโยค คือ มีพฤหัสฯสถิตในภพเกณฑ์แก่จันทร์  หรือจันทร์ได้รับแสงจาก พุธ, พฤหัสฯ  และศุกร์ ทั้ง 3 ดวง  และดาวทั้ง  3 ดวง ต้องไม่ดับ(อัสตะ)ในดวงชาตา  เป็นต้น    เหล่านี้คือเกร็ดความรู้ทางภารตะที่มีค่ายิ่ง  ควรอย่างยิ่งที่ผู้สนใจโหราศาสตร์ไทยควรหามาศึกษากันเพื่อให้ทราบที่มาที่ไปของต้นตำรับวิชาเขา

ส่วนการจะนำโหราศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณ์บ้านเมืองนั้น ควรศึกษาประวัติศาสตร์+แนวคิดวิเคราะห์ทางรัฐศาสตร์ประกอบด้วยก็จะช่วยให้เห็นมุมมองอะไรที่กว้างขึ้น  หนังสือที่ควรศึกษาคือ  

1. อภินิหารบรรพบุรุษและปฐมวงศ์  โดย บุญเตือน  ศรีวรพจน์  /สุจิตต์  วงษ์เทส  บรรณาธิการ  เป็นพระราชประวัติของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีและพระมหากษัตริย์ในพระบรมราชจักรีวงศ์  ช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์

2.การเมือง"นอกพงศาวดาร"  รัชกาลที่ ๔  พระจอมเกล้ารู้เท่าทันตะวันตก  "มิตรภาพอาบยาพิษ"  โดย ไกรฤกษ์ นานา

3.จดหมายเหตุรัชกาลที่ ๔ สวรรคต  วันสุดท้ายของกษัตริย์นักปราชญ์

4. The Prince  เขียนโดย  Niccolo Machiavelli  เล่มนี้มีประโยชน์มากทำให้เข้าใจธรรมชาติของนักการเมืองหรือผู้ปกครองได้ชัดเจน   เป็นต้น

ศึกษาประวัติศาสตร์เพื่อจะได้เข้าใจเหตุการณ์ปัจจุบัน   โดยนำหลักโหราศาสตร์มาอธิบายประกอบ  บางกรณีดวงดาวบอกว่าจะเกิดเหตุการณ์นั้นๆแต่ก็ไม่เข้าใจว่ามันจะเกิดได้อย่างไรและทำไม   แต่เมื่อย้อนดูประวัติศาสตร์ก็จะช่วยให้ตีความออกมาได้ชัดเจนขึ้นเพราะเรื่องทำนองนี้เคยปรากฏมาแล้วนั่นเอง

ท้ายนี้   ขอขอบคุณ  อ.ตาบอดส่องตะเกียงอีกครั้งครับที่กรุณาแนะนำหนังสือที่มีค่า(ตอนแรกผมนึกว่าจะมีคนทำเวปไซต์ไว้เฉพาะเสียอีก)และพยายามสอดแทรกความรู้ทางภารตะไว้หลายที่ในบางเวปไซต์    แม้บางแห่งเขาจะยังไม่เห็นคุณค่าหรือเข้าใจในสิ่งที่คุณตาบอดส่องตะเกียงทำไปก็ตาม  แต่คนที่เขาต้องการเนื้อหาสาระย่อมเข้าใจและมองเห็นคุณค่าที่คุณตาบอดส่องตะเกียงทำไปทุกประการ   จะมีก็แต่พวกอันธพาลเท่านั้นแหละครับที่แกล้งไม่เข้าใจ  ก็อย่าได้ไปถือสาเขาเลยครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธา มหาสิทธิโชค วันที่ตอบ 2006-03-22 11:03:46 IP : 203.150.64.254


ความคิดเห็นที่ 10 (423166)

ผมศึกษาจากหนังสือของท่าน

1. อ.รัตน์และศิวะ นามะสนธิ

2. เอ.ซี.บัคธิเวดันธะ สวะมิ พระบุพาดะ (มีแปลเป็นภาษาไทย แต่จะอ่านยากสักหน่อย เนื่องจากหนังสือท่านให้การออกเสียง ออกชื่อ สำเนียงสันสกฤตโดยตรง)

3. B.V. Raman

4. หลวงพ่อมหาบรรเทา

5. ตำนานเทพเจ้าและสิ่งน่ารู้

7. ภารตะนิยาย ของ อ.ศักดิ์ศรี แย้มนัดดา (อันนี้มีเกร็ดแปลกๆ เยอะ แต่ต้องตีความตามโหรสักหน่อย)

8. หนังสือพบถิ่นอินเดีย ของท่านเนย์รู และ หนังสือของท่านอ. กรุณา กุศลาสัย (จะได้เข้าใจในวัฒนธรรมอินเดียมากขึ้น จะได้ทราบพื้นฐานของตำราโหรศาสตร์กับความเชื่อของชาวฮินดู ซึ่งบางเรื่องก็คล้ายไทย บางเรื่องทัศนะเขาก็แตกต่างกับเราโดยสิ้นเชิง)

9. มหาภารตยุทธ์ , ศรีมัทภควคีตา และ รามายณะ อันนี้เป็นหัวใจในแนวความคิดและวัฒนธรรมของชาวอินเดียที่ยึดถือปฏิบัติมาจนถึงปัจจุบัน แถมมีเกร็ดซ้อนไว้มากมาย โดยเฉพาะที่เขียนโดยชาวฮินดู เนื่องจากของไทยจะตัดบางตอนออกไปเยอะมาก อาทิ การวางฤกษ์การครองเมืองของพระราม และ การสถาปนากรุงทวารกาของพระกฤษณะ

10. หนังสือต่างๆ ที่เป็นวัฒนธรรมของเอเซียตะวันออก ไม่ว่าจะเป็น อินเดีย , จีน , ไทย , พม่า , ฯลฯ เพราะทั้งหมดนี้จะมีวัฒนธรรมที่เกี่ยวเนื่องซึ่งกันและกันอยู่มาก อย่างไทยจะรับวัฒนธรรม 2 กระแสใหญ่มารวมเป็นวัฒนธรรมของเรา คือ จากอินเดียกับจีน เป็นต้น

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาบอดส่องตะเกียง วันที่ตอบ 2006-03-21 19:38:17 IP : 58.136.102.251


ความคิดเห็นที่ 9 (420648)

เรียน  อ.ตาบอดส่องตะเกียง

ไม่ทราบว่าถ้าจะศึกษาเกร็ดความรู้ดีๆเกี่ยวกับโหราศาสตร์ภารตะตามแนวทางที่อ.ตาบอดส่องตะเกียงนำมาเผยแพร่นี้เพิ่มเติม  ...จะศึกษาได้จากเวปไซต์ใดได้บ้างครับ   มีเวปไซต์เกี่ยวกับโหราศาสตร์ภารตะโดยเฉพาะบ้างหรือเปล่าครับ   (ดูลึกลับและลึกซึ้งดีครับ)

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธา มหาสิทธิโชค วันที่ตอบ 2006-03-19 09:52:28 IP : 203.150.64.254


ความคิดเห็นที่ 8 (416889)

ขอขอบคุณ อ.ตาบอดส่องตะเกียง ที่กรุณานำเกร็ดความรู้เกี่ยวกับโหราศาสตร์ภารตะมาเผยแพร่  ทำให้ได้รับความรู้ที่น่าสนใจเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยครับ      การที่เรามีมุมมองอะไรหลายๆด้านย่อมช่วยให้กระบวนการวิเคราะห์แหลมคมยิ่งขึ้นกว่าการมองอะไรเพียงด้านเดียว  หรือด้านใดด้านหนึ่งแบบยึดติด   โดยไม่เผื่อใจเปิดกว้างกับทฤษฎีอื่นบ้างเลย.....ถ้ามีโอกาส  อ.ตาบอดส่องตะเกียงช่วยนำเกร็ดความรู้เกี่ยวกับโหราศาสตร์ภารตะมาเผยแพร่อีกนะครับ....จะได้ช่วยกันวิเคราะห์เปรียบเทียบกับหลักโหราศาสตร์ไทยในปัจจุบัน   เพื่อให้เกิดองค์ความรู้ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นต่อไป    เคยได้ยินมาว่าพวกที่ศึกษาทางโหราศาสตร์ยูเรเนียนเขาก็สามารถคำนวณหาตำแหน่งของพื้นที่ที่จะเกิดเหตุการณ์ได้ด้วยเช่นกัน   และเท่าที่เห็นเขาวิเคราะห์กันในเวปไซต์ก็มักจะแม่นยำพอสมควรทีเดียว   ซึ่งถ้ามีการแลกเปลี่ยนความรู้กันอย่างใกล้ชิดโดยไม่แบ่งว่ายูเรเนียน ,ภารตะ, โหราศาสตร์ไทย  แต่เอาจุดเด่นของแต่ละศาสตร์มาผสมผสานกันอย่างกลมกลืนก็น่าจะทำให้วงการโหราศาสตร์ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ   เฉกเช่นเดียวกับที่คนญี่ปุ่นนำเทคโนยีของฝรั่งมาศึกษาแล้วก็พัฒนาให้ดีกว่าของเดิม    จนทุกวันนี้ญี่ปุ่นกลายเป็นเจ้าพ่อเทคโนยีแห่งเอเซียไปแล้ว

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธาฯ วันที่ตอบ 2006-03-14 23:14:03 IP : 203.150.64.254


ความคิดเห็นที่ 7 (415421)

หลักการสังเกตุง่ายๆ เกี่ยวกับแผ่นดินไหว ซึ่งจะแสดงให้เรารับทราบได้ก่อนล่วงหน้า เกือบเดือนที่มีกล่าวไว้ในมหากาพย์ภารตะ และ ปัจจุบันนักธรณีวิทยาเกี่ยวกับแผ่นดินไหว ก็เพิ่งจะค้นพบปฏิกิริยานี้ คือ

มหากาพย์ ได้กล่าวไว้ก่อน นครทวารกา จะล่มสลายหายไปในทะเล หลังพระกฤษณะทรงสละร่ายกายหยาบกลับสู่ไว***ณฑ์ คือ กล่าวว่าก่อนหน้านั้นได้เกิดสุริยคราสขึ้น แล้วไม่นานนักสัตว์ต่างๆ ในเมืองก็แสดงพฤติกรรมประหลาดๆ ดูกระวนกระวาย ทั้งสุนัข , แมว วิ่งเข้าวิ่งออกเมืองเป็นว่าเล่น แม่วัวร้องเสียงแบบลา สุนัขป่าเห่าหอน สัตว์ป่าต่างเดินหนีอย่างไม่มีทิศทาง อากาศแปรปรวนอบอ้าว เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวเดี๋ยวมีฝน อรชุนได้เดินทางมารับพระชายาของพระกฤษณะเพื่อไปอยู่อินทรปัสถ์ ตามที่พระกฤษณะสั่งไว้ก่อนสละร่าง เมื่อพระชายาต่างๆ กำลังเดินทางออกจากเกาะทวารกา ขึ้นสู่แผ่นดินใหญ่ ก็เกิดแผ่นดินสั่นสะเทือนอรชุนรีบขับเคลื่อนขบวนราชรถหนีภัยพิบัตินี้ทันที ฝ่ายมเหสีของพระกฤษณะทรงเหลียวพระพักตร์กลับไปดูยังเมือง ก็เห็นนครทวารกากำลังสั่นไหว เศษหินเศษก่อสร้างกำลังพังทลาย และ นครทวารกากำลังค่อยจมลงสู่ก้นมหาสมุทร

จากจุดนี้เองที่ผมนำเรื่องคราสเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วยในการคำนวณ ส่วนเรื่องบาปกรรตีก็มีแทรกไว้ ว่าบาปเคราะห์ใหญ่มีกำลังเข้าโอบล้อมล้อมสรวงสวรรค์ทวารกา ซึ่ง บาปเคราะห์ใหญ่จะมีอะไรนอกเสียจากเสาร์กับอังคาร ส่วนสวรรค์ถ้าตามหลักโหรก็น่าจะเป็นดาวพฤหัสเพราะดาวพฤหัสเป็นคุรุแห่งเทพ เป็นตัวแทนแห่งสวรรค์ คำว่าโอบล้อมทางโหราศาสตร์น่าจะหมายถึงการบีบเรือน หรือ ที่ทางโหราศาสตร์พระเวทเรียกว่า "กรรตรี" คราวนี้มาศึกษาจากจุดกรรตรีซึ่งดาวบาปเคราะห์ทั้ง 2 สถิตอยู่ก็หาจุดไม่ได้ เลยลองรากเส้นแรงเอื้อมของดาวอังคาร คือมีโยคพิเศษ ไปยังเรือนที่ 4 , 7 และ 8 จากที่มันอยู่ ส่วนเสาร์ก็ 3 , 7 และ 10 ดาวพฤหัสก็ 5 , 7 , 9 เอามาทำจุดไว้ จึงทำให้พอเห็นจุดที่หายไปว่าตรงนั้นมันก็มีอำนาจเช่นกัน

อีกอย่างที่มีกล่าวไว้เกี่ยวกับการกรรตรีคือ แม้มันจะกรรตรีตรงจุดนี้ กระแสอาจยิงกลับไปยังด้านตรงข้ามได้ เปรียบดั่งจุดกรรตรีเป็นผู้ถือปืน จุดตรงข้ามเป็นผู้ถูกยิง (อันนี้ยังไม่รับรองผล เป็นเพียงทฤษฏี) ก็มีบางครั้งที่เกิดแผ่นดินไหวก็เกิดในจุดที่ตรงข้ามเช่นกัน

วกกลับเข้ามาถึงที่บอกว่าวิธีสังเกตง่ายๆ ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวไหม ดูจากอะไรเมื่อมหากาพย์ได้ซ้อนเงื่อนงำภูมิปัญญาไว้ให้ลูกหลานได้รับรู้ ตรงคำว่า สัตว์ในเมืองต่างแสดงอาการประหลาด พร้อมสัตว์ป่าก็แสดงเช่นกัน นี่ไงครับ แม้แต่คนยังเกิดคุ้มคลั่งเลย ดูจากการสังหารกันเองของลูกหลานพระกฤษณะก็ได้ครับ คนก็จะเกิดอาการหงุดหงิดง่าย เพียงแต่เราไม่สนใจพฤติกรรมนั้นของเรา หรือ ไม่รู้ว่ามันเกิดจากอะไรเท่านั้นเอง

มาดูข้อมูลการศึกษาทางธรณีของสหรัฐกันว่า เขาก็พบว่าข้อความนี้เป็นความจริงเมื่อไม่กี่ปีมานี่เอง เพราะครั้งหนึ่งหลังเกิดแผ่นดินไหวอันรุนแรง ชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสัตว์เลี้ยงต่างๆ นั้นแสดงพฤติกรรมประหลาดๆ อาทิ สุนัขวิ่งเข้าวิ่งออกจากบ้านเป็นประจำเป็นเดือนก่อนแผ่นดินจะไหว เหมือนพยายามจะบอกเจ้าของ ของมันว่าออกไปอยู่ข้างนอกเถอะอย่าอยู่ในบ้าน

แมวก็แสดงอาการหงุดหงิด เดินไปเดินมาไม่หยุดเป็นประจำ จนเจ้าของรับทราบได้ , งูที่เลี้ยงก็แสดงพฤติกรรมหาที่หลบซ้อนเป็นประจำไม่เหมือนปกติ , นกในกรงก็แสดงอาการตื่นกลัวอะไรบางอย่าง

นักธรณีวิทยาแผ่นดินไหว จึงนำมาตั้งเป็นทฤษฏีถึงพฤติกรรมนั้นๆ ดู เพราะสัตว์ต่างๆ ก็เคยได้รับการยืนยันแล้วเช่นกันว่าสามารถรับรู้ ทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ดี ไม่ว่าเรื่องฝนจะตก อากาศจะแล้ง ภัยธรรมชาติต่างๆ จนมาครั้งหนึ่งสัตว์ก็แสดงพฤติกรรมเช่นนี้อีก ครั้งนี้เขาประกาศเตือนให้ระวัง จึงช่วยคนเอาไว้ไม่ให้ได้รับอันตรายได้เยอะมาก

เราที่วันนี้อวดอ้างตัวเองว่าศิวิไลต์กว่าคนโบราณ ก็เพิ่งมาเห็นภูมิปัญญาที่บรรพชนซ้อนไว้ให้เราศึกษากันว่า เขาสามารถรู้ล่วงหน้ามาก่อนแล้ว ผมจึงกล่าวเสมอๆ ว่า นิทานบางเล่มท่านอ่านให้เป็นนิทานมันก็เป็นนิทาน บางเล่มนั้นต้องดูว่าผู้เขียนเป็นใครถ้าเป็นคนมีปัญญาเขามักซ่อนอะไรเด็ดๆ เอาไว้ให้ตีความ อย่างมหากาพย์ภารตะ ผู้รจนาก็เป็นหนึ่งในมหาฤษีผู้มีความรู้ทางโหราศาสตร์จนเป็นที่ยอมรับกันในสมัยนั้นว่าท่านเป็นโหราจารย์ระดับหัวกะทิ แล้วทำไมเวลาเขียนมหากาพย์ท่านจะไม่สอดแทรกความรู้ทางโหราศาสตร์เข้าไปด้วย

เดิมทีผมอ่านฉบับไทย ซึ่งถูกแปลมา ก็ว่าผู้แปลไม่ได้เพราะผู้แปลบางท่านก็ไม่มีความรู้ทางโหราศาสตร์เลย เพราะผู้แปลส่วนใหญ่จะมีความรู้ทางภาษาศาสตร์ป็นหลัก ไปอ่านในมหาภารตะฉบับบเดิม และ ลีลาของพระกฤษณะของอินเดียเลยไปเจอข้อมูลนี้เลยเอามาศึกษา เมื่อทราบเงื่อนงำก็จึงมาเสนอให้ท่านทั้งหลายลองศึกษากัน เราต้องช่วยกันเนื่องจากภูมิปัญญาของบรรพชนสั่งสมมานานหลายร้อยปี จะให้คนๆ เดียวศึกษาหมด หรือ จำได้หมดคงเป็นไปไม่ได้ ฉะนั้นเราต้องร่วมกันใครถนัดด้านไหน ก็มุ่งด้านนั้นเจออะไรดีๆ เอามาฝากกันจะทำให้เราเจอคำตอบกันได้เร็วกว่าที่จะเป็น ผิดถูกช่างมัน เดี๋ยวผู้ศึกษานำไปพิจารณากันเองได้ ผิดก็แย้งกัน ผู้เสนอก็ไปหามาแก้ข้อแย้งกันใหม่ ซึ่งถ้าทำได้โดยไม่มีอคติกัน ผมว่าจะสนุกมาก คุณแย้งมาผมต้องยิ่งไปหาข้อมูลมาแย้งกลับ สุดท้ายเราก็จะถึงซึ่งสัจจะนั้นๆ

ดั่งคำคมที่ว่า "สัจจะมีหนึ่งเดียว แต่หนทางเข้าสู่มีหลากหลาย"

ลองเอาไปสังเกตดูครับเรื่องพฤติกรรมของสัตว์ต่อปรากฎการณ์แผ่นดินไหว โดยมหากาพย์ภารตะ(เดิมชาวฮินดูเรียกมหากาพย์นี้ว่า ชัยยะ)

ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ (UBC ก็เคยนำเสนอเรื่องนี้มาครั้งหนึ่งแล้วเช่นกัน อยากทราบข้อมูลใครเป็นสมาชิกของ UBC ก็สอบถามเข้าไปได้ครับ) หรือ ลองค้นหาจะข้อมูลทางอินเตอร์เน็ทก็ได้ครับ

ขอบคุณ

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาบอดส่องตะเกียง วันที่ตอบ 2006-03-13 17:04:09 IP : 58.136.98.7


ความคิดเห็นที่ 6 (415341)

เรียนท่าน อ.สิทธา

ถ้าอาจารย์ต้องการ ทฤษฏีบาปกรรตรีในแบบที่ผมคำนวณ และ ตำนานที่มีกล่าวไว้ในมหาภารตะ เดี๋ยวผมจะพิมพ์วิธีขั้นตอนให้นะครับ ผมจะใช้โยคพิเศษของดาว อังคาร พฤหัส และ เสาร์ มาเล่น แล้วมาพิจารณาพลังงานแฝงของดาวทั้ง 3 นี้เพื่อพิจารณาจุดต่างๆ แล้วนำมาประกอบหลักการเกิดคราส (ซึ่งคราสนั้นในไทยหาข้อมูลศึกษายาก เพราะคนไทยไม่นิยมสักเท่าไร ถึงอำนาจผลของมันว่าส่งกระแสได้นานเท่าไร)

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาบอดส่องตะเกียง วันที่ตอบ 2006-03-13 16:05:45 IP : 58.136.98.7


ความคิดเห็นที่ 5 (415338)

เกิดขึ้นแล้วอีก 1 จุด จากรายงานดังนี้

ศูนย์สำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหววัดระดับความรุนแรงได้ 5.9 ริกเตอร์ ในพื้นที่บริเวณตะวันออกเฉียงเหนือของปาปัวนิวกินี โดยมีจุดศูนย์กลางลึกลงไปใต้ผิวดินกว่า 35 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นไม่มีรายงานความเสียหายและผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ซึ่งตรงกับตำแหน่งเส้นแวงที่คำนวณไว้ คือ 150 องศาตะวันออก ซึ่งประเทศไทยก็เป็นประเทศหนึ่งที่ต้องพึงระวังด้วย จากการจะเกิดคราสในราศีกันย์ เพราะถ้าเกิดแผ่นดินไหวในช่วงอำนาจของเกิดคราสนั้นไม่สามารถประมาณความรุนแรงได้ ถึงแม้อังคารจะมีฤทธิ์กำลังไม่มากนักในราศีพฤษภก็ตาม

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาบอดส่องตะเกียง วันที่ตอบ 2006-03-13 16:01:35 IP : 58.136.98.7


ความคิดเห็นที่ 4 (414195)

สูตรในการวิเคราะห์ของ อ.ตาบอดส่องตะเกียงน่าสนใจดีครับ..ซึ่งผมก็เชื่อว่าปีนี้คงจะมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับภัยธรรมชาติให้ได้เห็นกันอย่างแน่นอน   ถ้าให้คาดเดาก็อาจเป็นภัยจากไฟไหม้(อังคารธาตุลมไปทับเสาร์ธาตุไฟที่ราศีกรกฏ)  และรวมไปถึงภัยจากแผ่นดินไหว, แผ่นดินทรุดตัวตามมา  ถ้าไม่เกิดกลางปี   ก็อาจเป็นปลายปีหลังจากพฤหัสฯยกเข้าราศีพิจิก(ภพมรณะ)ไปแล้ว...

ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธาฯ วันที่ตอบ 2006-03-12 11:05:08 IP : 203.150.64.254


ความคิดเห็นที่ 3 (414040)

เรียน อ.สิทธา

...ถ้าตามสูตรทดลองที่ผมลองคำนวณ โดยจับจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในหลายๆ ครั้ง ผมมีความเห็นว่าครั้งนี้จะไม่รุนแรง หรือ ถ้าจะรุนแรงก็จะมีการบาดเจ็บล้มตายน้อย เนื่องจากดาวแห่งโลหิตและความตาย(ดาวอังคาร) ยังไม่มีตำแหน่งที่แรงพอเหมือนครั้งก่อนๆ คือ ไม่เป็นอุจจ์ , ไม่เป็นเกษตร , ไม่เป็นมูลตรีโกณ , ไม่พักร์ ซึ่งไม่น่าจะรุนแรงอะไรนัก ฉะนั้นไม่ต้องกังวลนัก

...และ ถ้าใช้สูตรทดลองที่ผมตั้งข้อสังเกตและให้ทฤษฏีว่า ให้องศาของประเทศไทย ตามจักรราศีอยู่ที่ปลายราศีกันย์ ก็ไม่น่าจะโดนประเทศไทย จุดที่ผมประมาณไว้น่าจะค่อนไปทางตะวันตกของประเทศอินเดียไปมากกว่า จุดนี้ผมตั้งทฤษฏีจากตำแหน่งองศาของดาวพฤหัส ที่ถูกโยคของดาวเสาร์+อังคารบีบ และ นับจากคราส

...แต่ก็ไม่นอนใจเนื่องจากคราสในปีนี้ จะเกิดคราสในราศีกันย์และมีน ซึ่งมีผลทั้งไปทั้งกลับจากราศีทั้ง 2 ด้วย ถ้าคราวนี้เกิดกับประเทศไทย ผมก็จะกลับไปให้คะแนนองศาของการเกิดคราส แทนองศาของดาวพฤหัส ในครั้งต่อๆ ไปดู ที่วันนี้ผมใช้องศาของดาวพฤหัสก็เนื่องจากครั้งที่แล้วที่อินเดีย ผมลองเล่นองศาพฤหัสดูโดยซื้อแผ่นที่โลกมากกะวัดเอาค่อนข้างใช้ได้ เพราะลองกำหนดจุดไว้ก่อนเกิดเหตุการณ์ก็ค่อนข้างใกล้เคียงมาก แต่เส้นแวงนั้นมันกินระยะหลายประเทศมาก และผมยังคำนวณตำแหน่งเส้นรุ้งไม่ได้ ว่าจะใช้การโคจรปัดเหนือปัดใต้ดีหรือไม่ ครั้งที่แล้วก็ถือว่าทฤษฏีพอใช้ได้โดยยึดที่ 24 องศาราศีกันเป็นประเทศไทย แล้วลากนับระยะจากจักรราศีกับเส้นแวงก็ค่อนข้างใช้ได้ครับ แต่วันที่แน่นอนนั้นกำหนดยากสุดๆ

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาบอดส่องตะเกียง วันที่ตอบ 2006-03-12 02:11:13 IP : 58.136.98.156


ความคิดเห็นที่ 2 (413587)

บันทึก(เพื่อเป็นข้อสังเกตต่อไป)

รายงานจากศูนย์เตือนภัยแจ้งประชาชนระวังแผ่นดินไหว

เมื่อเวลาประมาณ 10.04 น. ของวันที่ 11 มีนาคม 2549 (ตามเวลาในประเทศไทย) ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.8 ริคเตอร์ มีศูนย์กลางอยู่บริเวณเตอนใต้ของเกาะฟิจิ หรือที่ละติจูด 22.41 องศาเหนือ ลองจิจูด 178.43 องศาตะวันออก เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย

โดยศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ แจ้งว่า ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว ระหว่างวันที่ 9-11 มีนาคม ในทะเลอันดามัน ห่างจากชายฝั่ง จังหวัดระนอง ไปทางตะวันตก 400-600 กิโลเมตร โดยมีขนาดตั้งแต่ 4.0-5.3 ริกเตอร์ จำนวนถึง 31 ครั้ง ถือว่าแผ่นดินไหวมีจำนวนมากค่อนข้างผิดปกติ และจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวเกิดบริเวณรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกที่มีลักษณะเป็นเทือกเขาก้นสมุทร มีการแยกตัวจากกันของแผ่นเปลือกโลก ซึ่งบางครั้งอาจมีหินหลอมเหลวแทรกตัวดันขึ้นมาตามรอยต่อดังกล่าว และเหตุของแผ่นดินไหวอาจเกิดจากการที่มีหินหลอมเหลวแทรกดันขึ้นมา หรือเกิดจากการเคลื่อนตัวกระทบกันของแผ่นเปลือกโลก

ทั้งนี้ อาจเป็นสาเหตุของการเกิดภูเขาไฟใต้น้ำแห่งใหม่ หากมีการระเบิดขนาดใหญ่และรุนแรงอาจเป็นสาเหตุให้เกิดคลื่นสึนามิ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อประเทศไทยเป็นอย่างมาก แผ่นดินไหวดังกล่าวอาจเป็นตัวชี้ให้เห็นว่า ภูเขาไฟบาห์เรน ซึ่งอยู่ห่างจากแนวรอยเลื่อน 110 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากประเทศไทย 670 กิโลเมตร จะเกิดการระเบิดขึ้นได้ในอนาคต ในกรณีนี้อาจกระทบถึงประเทศไทยได้ จึงขอให้ประชาชนติดตามแผ่นดินไหวในทะเลอันดามันจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติอย่างใกล้ชิด และขอให้เรือประมง หรือเรือพาณิชย์ไทย ที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวสังเกตความผิดปกติในทะเล เช่น มีฟองน้ำพุ่งขึ้นจากท้องทะเล สีน้ำทะเลเปลี่ยนไป มีกลิ่นฟอสฟอรัส หรือมีพฤติกรรมที่ผิดปกติของสัตว์น้ำในทะเล หากพบเห็นเหตุดังกล่าวขอให้แจ้งศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ 1860 หรือหน่วยราชการที่สามารถติดต่อได้โดยเร็วที่สุด

ด้าน นายอุดมศักดิ์ อัศวราง***ร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับแจ้งจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติแล้ว ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ขณะนี้ยังไม่ได้มีการประกาศเตือนให้ประชาชนอพยพ หรือเปิดสัญญาณเตือนภัยแต่อย่างใด เพราะความแรงแผ่นดินไหวยังอยู่ในระดับ 5 ริกเตอร์กว่าๆ เท่านั้น ซึ่งทางจังหวัดได้เฝ้าติดตามข่าวการเกิดแผ่นดินไหวจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติอย่างใกล้ชิด โดยจะมีการเตรียมความพร้อมตลอดเวลา พร้อมกับสั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประกาศให้ประชาชนเฝ้าระวัง และคอยติดตามสถานการณ์เรื่องของแผ่นดินไหวอย่างใกล้ชิด

ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธา มหาสิทธิโชค วันที่ตอบ 2006-03-11 14:20:34 IP : 203.150.64.254


ความคิดเห็นที่ 1 (409138)

ขอร่วมแสดงความคิดเห็นด้วยคนนะครับ....ดีครับช่วยกันคิดช่วยกันสังเกต...ถ้าไม่มีการสังเกตหรือแนวคิดใดๆเลยก็ยากที่จะเกิดหลักวิชาขึ้นมาได้....ความจริงในปีนี้ผมก็เห็นด้วยกับคุณตาบอดส่องตะเกียงเช่นกันครับว่ามีแนวโน้มจะเกิดแผ่นดินไหว......แต่จังหวะเวลาที่น่าจะเกิดผมว่าน่าจะแบ่งได้เป็น  2  ช่วงคือ 

ช่วงที่ 1  ราวกลางปีนี้  คือ  วันที่ 11  มิ.ย. 49   เมื่ออังคาร(เจ้าเรือนมรณะ)ร่วมกับพระเสาร์จรที่ภพพันธุ(แผ่นดิน,บ้านเมือง,ยานพาหนะ)  และมีอาทิตย์กับจันทร์ทำมุมเล็งกันและส่งกระแสถึงภพพันธุก็เป็นจุดที่น่ากังวลเกี่ยวกับภัยธรรมชาติและความวุ่นวายในบ้านเมืองของเราครับ...

ช่วงที่ 2  ราวปลายปี คือ วันที่ 26 พ.ย. เป็นต้นไป  เมื่อ พระเกตุและพระเสาร์จรร่วมกันในภพพันธุและเล็งกับจันทร์จร  อีกทั้ง ดาวตนุลัคน์ของดวงเมืองร่วมกับอาทิตย์ ,พฤหัสฯ และพระศุกร์ ในภพมรณะของดวงเมือง  ทำมุมจตุโกณกับ ราหู(กาลกิณีจร) 

เกรงว่าในทางการเมืองไม่ว่าใครจะเป็นนายกฯก็อ่วมอรทัยเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจครับ...ส่วนภัยธรรมชาติก็ต้องระมัดระวังเกี่ยวกับแผ่นดินไหว   , แผ่นดินทรุดตัวจนอาจทำให้ตึกถล่มได้.รวมไปถึงภัยทางอากาศที่ทำให้เครื่องบินตก...ในชั้นต้นนี้ก็ขอตั้งไว้เป็นข้อสังเกตเพียงแค่นี้ก่อน....แล้วค่อยๆติดตามปรากฏการณ์ไปครับ.....

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธาฯ วันที่ตอบ 2006-03-07 17:03:13 IP : 203.150.64.254



1


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.