โหราศาสตร์ไม่สามารถดูเนื้อคู่แต่ชาติปางก่อนได้หรอกครับ  ดูได้แต่จังหวะเวลาที่จะพบรักกับคนถูกใจเข้ามาในชีวิตเรา  ถ้าจะดูว่าเป็นเนื้อคู่มาแต่ชาติปางก่อนตามที่เข้าใจกันนั้นต้องใช้ญาณที่เกิดจากพลังสมาธิชั้นสูงครับ(จตุตถฌาน) ถึงจะรู้ได้   ในทางโหราศาสตร์มีแต่คำว่า  "สมพงษ์ชะตา" คือ ดวงคนนี้เข้ากับเราได้หรือไม่ เท่านั้น  ส่วนที่บอกว่าสหัชชะเป็นปัตนินั้น  ความจริงต้องต่ออีกจังหวะ  คือ  "สหัชชะ-ปัตนิ-วินาศ"  คือ  การคบค้าสมาคม  หรือเพื่อนฝูงพี่น้องจะเป็นสื่อชักนำให้รู้จักคู่แบบไม่คาดฝัน  เช่นไปงานเลี้ยงแบบเพื่อนฝูงพาไป  แล้วบังเอิญเกิดไปปิ๊งเพื่อนของเพื่อน   หรือน้องของเพื่อนก็ได้  

ส่วนคำว่า  "มนตรี" แปลว่า  ผู้ใหญ่  ผู้ช่วยเหลืออุปถัมภ์  คนรัก  ที่เข้าใจมานั้นก็ถูกต้อง  อาจอายุอ่อนกว่าก็ได้แต่คอยช่วยเหลือให้คำแนะนำต่างๆดีแก่เราจนอาจดูว่าเขาแก่ก็ได้   แต่จากประสบการณ์ที่เห็นมาลักษณะมุมของดาวในดวงหนูมักลงเอยได้คนอายุมากกว่า

ขอบพระคุณอย่างสูงคะ อย่างน้อยก็ทำให้สบายใจเรื่องหนึ่ง(ไม่อยากเป็นเมียน้อยใคร) อาจารย์อธิบายได้อย่างละเอียดมากๆคะ ทำให้เข้าใจเพิ่มขึ้นเยอะเลยคะ

ขอสรุปนะคะ คือคนก่อนไม่ใช่เนื้อคู่เราใช่ไหมคะ แล้วที่อาจารย์บอกว่า "เพื่อนฝูงเป็นสื่อชักนำให้พบคู่(สหัชชะเป็นปัตนิ)" นี่เป็นกะทุกคนที่เราชอบเลยรึคะ หรือเฉพาะแค่คู่แท้เราคะ
แล้วดวงเรายังไม่เคยเจอเนื้อคู่เลยใช่ไหมคะ ที่บอกว่าเป็นมนตรี เนื้อคู่จะแก่กว่า แล้วถ้าเนื้อคู่อ่อนกว่า แต่นิสัยแก่กว่าเราได้ไหมคะ (เพราะปกติไม่เคยมีแฟน/เพื่อนแก่กว่าเลยอะคะ ไม่รู้ทำไม แต่คุยกันไม่รู้เรื่องเลย ตัวเองคงผิดปกติ)

ขอบพระคุณอีกครั้งคะ (สัญญาจะไม่รบกวนถามอีกแล้วคะ)

ดวงคุณอรปรียา  หุ่นศาสตร์  ผู้ประกาศข่าวช่อง 3  ลัคนาเขาก็ราศีตุล  และดาวปัตนิเขาก็อยู่ภพวินาศเหมือนกัน  ปรากฏว่าแฟนเขาทำงานอยู่ต่างจังหวัด   การติดต่อส่วนใหญ่มักติดต่อทางโทรศัพท์  ไม่ค่อยมีเวลามาเจอกันเท่าไร   จึงเป็นไปตามดาวปัตนิไงล่ะครับ ติดต่อกันแบบลับๆ(ทางอากาศ) และเขาก็ใกล้จะเข้าพิธีวิวาห์เร็วๆนี้แล้ว  ดังนั้น  หนู Ej   อย่ากังวลใจไปเลยว่าจะไปเป็นเมียน้อยใครมันอาจไม่ใช่ก็ได้   โหราศาสตร์เพียงแต่บอกแนวโน้มว่าจะเป็นไปทางใดได้บ้างเท่านั้น  อย่าไปยึดมั่นจนเกินไปทำใจให้สบาย  

ตอบ  หนู Ej

              ดวงหนูไม่อาภัพคู่หรอก  เพียงแต่ได้ผู้ชายที่ผ่านมือผู้หญิงมาแล้วเท่านั้น    อาจได้พ่อหม้าย  หรือคนที่ยังไม่แต่งงานแต่เคยมีสวาทสัมพันธ์กับหญิงสาวมาแล้วเช่นพวกที่เที่ยวสถานบริการต่างๆเพราะยังไม่พร้อมแต่งงาน    จึงทำให้หนูได้คนมีตำหนิ      การที่ดาวศุกร์เป็นนิจหมายความว่าตัวหนูรักใครจะรักจนหลงแล้วยอมทำทุกอย่างเพื่อคนรักแม้จะทำให้ตัวเองเสียเกียรติก็ตาม   ดังนั้นการที่ดาวปัตนิเป็นวินาศน์    มิได้มีความหมายตายตัวว่า เป็นเมียน้อยหรอกนะ  เพียงแต่อาจจะมีอะไรกับแฟนก่อนแต่งงานแบบลับ  หรือคบหาติดต่อกันลับๆทางโทรศัพท์เพราะอยู่ไกลกัน      อย่าเพิ่งตกใจว่าจะเป็นเมียน้อยเลยมันอาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ได้   เพียงแต่ดวงชะตาบอกว่าได้คนมีตำหนิ(ดาวปัตนิถูกกาลกิณีเล็ง   =     เขาอาจผิดหวังในรักมาแล้ว,  หย่าร้าง,  โสดแต่เคยเที่ยวผู้หญิง  ก็ได้ทั้งนั้น)   อย่ากังวลไปเลยครับ  ดวงไม่ไร้คู่หรอกเพียงแต่การจะตกร่องปล่องชิ้นมันอาจจะขลุกขลักบ้าง  แต่คนที่ได้จะอายุมากกวว่านะ(มนตรี)   จากข้อมูลที่หนูอ้างตอนท้ายก็ยืนยันดวงชะตาอย่างชัดเจนที่ว่า  เพื่อนฝูงเป็นสื่อชักนำให้พบคู่(สหัชชะเป็นปัตนิ)และการที่หนูเปิดฉากคุยกับเขาก่อนก็ตรงตามดาวตนุลัคน์ที่เป็นนิจ  คือ ถ้าถูกใจใครแล้วหนูจะเป็นฝ่ายรุกเพื่อจะได้รู้จักใกล้ชิดกับเขาทันทีไม่รักษาฟอร์มตามลักษณะหญิงไทยทั่วไปที่มักจะสงวนท่าทีไม่เป็นฝ่ายพูดกับผู้ชายก่อน ฯ

ตอนที่เค้าเจอเรา เค้าก็จะอายๆตอนแรกไม่กล้ามาจีบเราอ่ะคะ กล้าคุยกะเพื่อนเราแต่ เราแค่มองตรงๆยังไม่กล้า ได้แต่เห็นแอบมองไกลๆอ่ะคะ เราก็เลยไปคุยกะเค้าก่อน แต่พอคบแล้วเค้าก็พูดเก่งคะ  แค่นี้คงพอแหละคะ

ลองเล่าประวัติย่อตอนที่เจอคนรักคนก่อนนี้ด้วยสิครับว่าเจอช่วงใดและเลิกกันช่วงใด  และตัวเขามีลักษณะนิสัยใจคอเป็นอย่างไร   สุดท้ายที่เลิกกันเพราะเหตุใด   ขอสอบชะตาก่อน

1. ตอนปี 46-47 ก็มีเกณฑ์พบคนถูกใจเข้ามาจีบลักษณะท้วมตาโต  ต่างชาติ  ต่างภาษา  เช่น คนจีน

2.อายุมากกว่ามีครอบครัวแล้ว

3.คู่เป็นคนคุยเก่งเจ้าอารมณ์  ทิฐิสูง  เจ้าชู้  ใช้เงินเก่ง รักสันโดษเหมือนหนู

4.หนูไม่เพียงแต่ชอบเขาแต่หนูหลงเขามาก  หนูเป็นคนรักใครรักจนหลง  มักจะคบกันลับๆ  มีสัมพันธ์ลึกซึ้ง ไม่อาจคบกันแบบเปิดเผย ต้องไปๆมาๆหาหนูเสมอ

5.ได้คู่มีตำหนิหรือคนที่เขามีครอบครัวแล้วแต่แอบมากิ๊กกับหนูดวงได้คู่ที่ทำงานต่างถิ่นไกลๆ  หรือต่างประเทศ  แต่เขาจะไปๆมาๆหาหนูเสมอ