ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์อันเศร้าสลดที่นำความสูญเสียอันใหญ่หลวงมาสู่คนไทยทั้งชาติ ไม่ว่าจะเป็นทั้งชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมากที่ต้องมลายสูญสิ้นไปกับคลื่นยักษ์สึนามิที่ถล่ม 6 จังหวัดทางภาคใต้นั้น ถ้าพิจารณาให้ดีแล้วจะเห็นว่าเมื่อตอนต้นปีที่ผ่านมานั้น มีลางร้ายบอกเหตุเพทภัยที่จะเกิดขึ้นแก่บ้านเมืองของเรามาก่อนหน้านี้แล้ว แต่พวกเรากลับตีปริศนากันไม่แตกเอง ซึ่งเรื่องนี้ข้าพเจ้าเองก็เพิ่งมาฉุกคิดได้เมื่อไม่นานมานี้ อาศัยเป็นคนชอบสังเกตและชอบนึกย้อนทบทวนเหตุการณ์ไปมา(และเคารพภูมิปัญญาของคนโบราณ) จึงทำให้คิดถึงเหตุการณ์เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2547 ที่พรรคประชาธิปัตย์ทำพิธีอัญเชิญพระแม่ธรณีบีบมวยผมขึ้นประดิษฐานบนแท่น แต่เกิดเหตอันไม่คาดฝันขึ้นทำให้รูปปั้นพระแม่ธรณีบีบมวยผมต้องตกกระแทกพื้นแตกออกเป็นสี่ยงๆ จำนวน 6 ท่อน ซึ่งถือว่าเป็นลางร้ายบอกเหตุที่จะเกิดขึ้นแก่บ้านเมืองของเราในกาลต่อมาด้วย และเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิถล่มที่ภาคใต้สาเหตุก็เนื่องมาจากแผ่นดินไหวใต้น้ำ จนทำให้เกิดคลื่นยักษ์มหาศาลถาโถมเข้าซัดกระหน่ำ 6 จังหวัดทางภาคใต้อย่างหน้าเศร้าสลดอย่างยิ่ง โศกนาฏกรรมครั้งนี้จะเห็นว่ามีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันอย่างน่าพิศวง กล่าวคือจังหวัดที่ได้รับความเสียหายจากคลื่นยักษ์ถล่มมีจำนวนเท่ากับชิ้นส่วนของรูปปั้นพระแม่ธรณีที่แตกออกเป็น 6 ท่อน และพระแม่ธรณีก็เป็นเทพประจำพื้นแผ่นดิน เมื่อเกิดตกแตกออกเป็นเสี่ยงๆเช่นนี้ก็น่าจะหมายถึงแผ่นดินไหวหรืออาจเกิดกลียุคต่อไปก็เป็นได้ ซึ่งไม่ควรประมาทอย่างยิ่ง และที่สำคัญองค์รูปปั้นพระแม่ธรณีก็เป็นสัญลักษณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นพรรคที่มีสส.ภาคใต้มากที่สุด ดังนั้น เหตุทั้งหลายทั้งปวงจึงไปเกิดที่ภาคใต้ไม่ว่าจะเป็นโจรก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดน หรือภัยพิบัติจากธรรมชาติคลื่นยักษ์สึนามิ ถล่ม อันเป็นปัญหาหนักอกที่รัฐบาลจะต้องเพียรพยายามแก้ไขต่อไปด้วยความไม่ประมาท ข้าพเจ้าขอเป็นกำลังใจให้กับรัฐบาลจงเข้มแข็งอย่าได้ย่อท้อต่ออุปสรรคและคนชั่วช้าที่เนรคุณต่อผืนแผ่นดินไทย พวกมันไม่มีทางแบ่งแยกดินแดนนี้ไปได้แน่นอนและพวกมันจะต้องประสบความวิบัติ เป็นไปตามอิทธิพลของดวงชะตาเมืองที่ล้นเกล้าฯรัชกาลที่ 1 ได้ทรงผูกดวงเมืองของไทยเราให้เข้มแข็งยิ่งนัก ดาวอริสถิตภพวินาศ เช่นเดียวกับดวงฯพณฯนายกฯทักษิณ ซึ่งหมายความว่าใครที่เป็นศัตรูจะต้องมีอันเป็นไปประสบความพินาศย่อยยับ ในอดีตที่ผ่านมาก็เป็นที่ประจักษ์แล้วมิใช่หรือไม่ว่าจะเป็นลัทธิคอมมิวนิสต์, กบฏต่างๆ หรือคณะผู้เปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 มีจุดจบอย่างไรในบั้นปลายคงไม่ต้องบอกก็น่าจะรู้กันทั่วไปแล้ว ฝากเรียนท่านนายกฯกรณีเช่นนี้ถ้าได้หมั่นศึกษาภูมิปัญญาของโบราณจารย์จากคนเฒ่าคนแก่บ้างก็น่าจะดี เพราะเหตุอาเพทเช่นนี้ถ้าเป็นสมัยโบราณก็คงประกอบพิธีทำบุญเสดาะห์เสาหลักเมืองอุทิศส่วนกุศลให้แก่ดวงพระวิญาณบูรพกษัตริย์ในอดีตและเหล่าดวงวิญาณอริราชศัตรู(เจ้ากรรมนายเวร)ของชาติเราเป็นการใหญ่ ไปนานแล้ว ท้ายนี้ขอบอกเป็นเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆทางโหราศาสตร์ไว้สักนิดแก่คนทั่วไปว่าทุกครั้งที่ ราหู เข้ามาทับหรือเล็งลัคนาของดวงเมืองย่อมมีเหตุให้เกิดโทษใหญ่เสมอ ดังที่โหรทั่วไปทำนายเหตุร้ายวุ่นวายของบ้านเมืองปี 2547 ก็เพราะราหูนั้นจรมาทับลัคนาของดวงเมืองนั่นเอง แม้แต่องค์พระปฐมบรมราชวงศ์จักรี พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ซึ่งทรงเป็นเอตะทัคคะทางด้านโหราศาสตร์พระองค์ยังทรงแทรกเคล็ดวิชาโหรไว้ในบทพระราชนิพนธ์เรื่องรามเกียรติไว้ให้พวกเราได้ศึกษา เช่น “ บัดนั้น พญาพิเภกยักษา ได้ฟังพระราชบัญชา กราบกับบาทาแล้วทูลไป ว่าเคราะห์วันชันษาร้ายนัก ราหูทับลัคน์เป็นโทษใหญ่ เสาร์เสริดถึงจันทร์จะมีภัย ในเวลามัชฌิมราตรี แม้นล่วงไปเจ็ดทุ่มเศษ เทวาประเวศจากราศี จึงจะพ้นโทษรายราคี มีแต่สิ่งสุขสถาวรฯ หรืออีกบทหนึ่งเช่น บัดนั้น พิเภกผู้ปรีชาหาญ รับสั่งสมเด็จพระอวตาร แล้วจับกระดานมาทันใด ตั้งซึ่งพระชันษาพระหริวงศ์ ควณเคราะห์จรลงสอบใส่ เอาเก้าหารชนมานแล้วนับไป เศษตกในภูมิพยากรณ์ เห็นแจ้งแล้วกราบบังคมทูล นเรนทรสูรสุริวงศ์ทรงศร ตั้งพระชันษาภูธร ราหูนั้นจรมาทับลัคน์ ต้องฆาฏอินทรภาสบาทจันทร์ ทั้งอัฏฐเคราะห์นั้นก็ฆาฏหนัก แม้นอยู่ในเมืองจะร้ายนัก เพียงจักปลงชีพชีวา ถึงเกณฑ์จำเป็นจะพลัดพราก จากพระนครไปนอนป่าฯ “ *****************************