ตามที่ท่าน อ.สิทธา ได้กล่าวไว้นั้นถูกต้องแล้ว

นวางค์จักรนั้น มีหน้าที่อยู่ดังนี้

1. ดูว่าดาวนั้นมีกำลังเข้มแข็งจริงหรือไม่

2. ใช้ทำนายเรื่องคู่เป็นหลัก

จากที่ถามมาว่า ดาวพฤหัสในจักรราศีสถิตอยู่ราศีสิงห์ เมื่อขับดาวเข้านวางค์จักรดาวพฤหัสก็ยังสถิตราศีสิงห์ นั้นแสดงว่า ดาวพฤหัสจะต้องสถิตในองศาที่ 13.20-16.40 ซึ่งจะเป็นวรรคอุดม(วรโคตมนวางค์) ถ้าเป็นเช่นนี้แสดงว่าดาวพฤหัสนั้นมีกำลัง

1. จากการเสวยราศีเดียวกัน 2 วรรค(วรรคนั้นมีมากมาย อาทิ โหรา , นวางค์ , ตรียางค์ , ทวาทศางศ , ตฤมศางศ , ฯลฯ)

2. ดาวพฤหัสสถิตในราศีของมหามิตร คือ ๑ ย่อมให้คุณ โดยเฉพาะเรื่องบุตร ซึ่งในคัมภีร์ปาริชาติชาดกกล่าวไว้ว่า ดาวพฤหัสในราศีสิงห์นั้น ให้คุณพอๆ กับดาวพฤหัสเป็นอุจจ์

ในนวางค์จักรนั้นเขาไม่นิยมเอาเรือนมากล่าว แต่ถ้าจะใช้ลัคน์จากนวางค์จักรก็แบ่งได้ 2 กรณี คือ

1. เมื่อขับดาวเข้านวางค์จักรแล้ว ให้นำราศีลัคน์จากดวงจักรราศีมาวางเป็นตำแหน่งลัคน์

2. เมื่อต้องการดูเรื่องคู่ครอง ก็ให้ใช้ลัคน์จากนวางค์จักร(ที่ขับได้) เป็นจุดตั้ง ภพปัตนิจากนวางค์จักรได้ตำแหน่งอะไร ดาวอะไรเป็นเจ้าราศี มีดาวอะไรสัมพันธ์ดาวเจ้าภพปัตนิ(ในนวางค์จักร) และ สัมพันธ์กับเรือนปัตนิในนวางค์จักร นั่นคือ บุคลิกภาพของคู่ครองเจ้าชะตา ซึ่งในตำราไทยจะกล่าวว่า นวางค์ที่ 55 คือคู่ครองของเจ้าชะตา ถ้าลองนับดูก็จะตกภพปัตนิในนวางค์จักรเช่นกัน

เพิ่มเติม

เจ้าเรือนอริ, มรณะ, วินาศ เมื่อถอดดวงนวางค์จักรแล้วไปอยู่ในภพทุสถานภพของดวงราศีจักรจะมีความหมายที่แตกต่างไปจากการอ่านดวงราศีจักรโดยสิ้นเชิง  คือไม่มีกฏลบเจอลบเป็นบวก  กล่าวคือ  เมื่อถอดดวงนวางค์จักรหากเจ้าเรือนอริ(ตามเรือนชะตาเดิมของดวงราศีจักร)ไปอยู่ภพอริของดวงราศีจักร หมายความว่า การดำเนินชีวิตภพแต่ขวากหนามความยุ่งยาก  มีแต่คนปัดแข้งปัดขาริษยาเสมอ   หรือ เจ้าเรือนอริไปอยู่ภพมรณะของดวงราศีจักร หมายความว่า ผู้นั้นชีวิตอับเฉา มักประสบหายนะต่างๆ  หรือเจ้าเรือนอริไออยู่ภพวินาศ หมายความว่า  ผู้นั้นมักพบแต่เรื่องสูญเสีย  ความทุกข์ระทม วิบัติภัยต่างๆนาๆ  เป็นต้น

ตอบ คุณสว่าง

ดาว ๕  อยู่ในราศีสิงห์ภพพันธุตามดวงราศีจักรและอยู่ราศีสิงห์ในดวงนวางค์จักร(ดวงนวางค์จักรไม่มีภพหรือเรือนชะตา)  หมายความว่าเป็นคนมีหลักฐานบ้านช่อง ที่ดิน อาคารที่ใหญ่โต แต่มักจะชำรุดทรุดโทรมง่ายหรือเสียหาย หรือเก็บเอาไว้ไม่ได้ ต้องขายเอาไปจำนำจำนอง หรือ มีมรดกเป็นอสังหาริมทรัพย์

การอ่านดวงนวางค์จักร(ไส้ชะตา)ท่านให้เอาลัคนากำเนิดจากดวงราศีจักรเป็นที่ตั้งเรือน  ห้ามเอาลัคนาจากดวงนวางค์จักรเป็นที่ตั้งเรือน   เพราะลัคนาในดวงนวางค์จักรไม่มีความหมายในการตั้งเรือน   เช่น ลัคนาในดวงนวางค์จักรอยู่ในราศีเดียวกับลัคนากำเนิดหมายความว่าผู้นั้นเป็นคนเชื่อมั่นในตัวเองสูง  หรือไปอยู่เรือนกดุมพะของดวงราศีจักรหมายความว่าผู้นั้นคิดแต่เรื่องหาทรัพย์เพื่อก่อร่างสร้างตัว  หรือไปอยู่ภพมรณะของดวงราศีจักรแปลว่า เป็นคนชอบทำลายตัวเองให้ตกต่ำลง  ไม่สนใจต่อการดำเนินชีวิต เป็นต้น  อย่างกรณีที่ยกมาดาว ๕ เจ้าเรือนมรณะ-ลาภะของดวงราศีจักรมาอยู่ในราศีสิงห์ภพพันธุตามดวงราศีจักรและในดวงนวางค์จักรก็ยังคงอยู่ราศีสิงห์ก็หมายความว่ามีญาติพี่น้องก็เหมือนไม่มี  ได้รับความเดือดร้อนเพราะญาติ  ได้ลาภหรือมรดกที่ดิน,อสังหาริมทรัพย์เป็นต้น

ขอถามต่อว่าถ้าราศีจักร ดาวพฤหัส อยู่ราศีสิงห์ ภพพันธุ ส่วนในนวางศ์จักร ดาวพฤหัส อยู่ราศีสิงห์ ภพสหัชชะ จะมีความหมายอย่างไรครับ?.

ดาวพฤหัสจะเป็นปรมอุจจ์ ตรงที่บริเวณ 05.00 องศา ในราศีกรกฎ ซึ่งถ้าดาวอยู่ในองศานี้ จะได้พละ 60 ส่วน ถ้าเคลื่อนออกไป กำลังก็จะลดตามอัตราส่วนลงไป จนพละเหลือ 0 เมื่อไปเป็นนิจที่ 05.00 องศา ในราศีมกร

ฉะนั้น ทางโหราศาสตร์ฮินดู ซึ่งเป็นแม่บทของโหราศาสตร์ไทยจึงไม่มี อุจจาภิมุข หรือ อุจจาวิลาส เพราะเขาทราบกำลังของดาวเมื่อก่อนเข้าอุจ และ หลังจากออกจากตำแหน่งอุจแล้วว่ามีกำลังเท่าใด

ส่วนที่ถามว่า ดาวพฤหัสในราศีสิงห์ ที่ 4 องศา จะได้ตำแหน่งใด ถ้าตอบตามโหราศาสตร์ไทยก็ต้องตอบว่า "ดาวพฤหัสในราศีสิงห์ ไม่ว่าจะอยู่องศาที่เท่าใด ย่อมเป็นอุจจาภิมุข"

เนื่องเพราะโหราศาสตร์ไทยไม่มีการกำกับองศา มีแต่การกำกับเรื่องเรือน(ราศี) เท่านั้น

แต่ถ้าเป็นโหราศาสตร์ฮินดู ดาวพฤหัสไม่ว่าจะสถิตที่ 5 องศาของราศีสิงห์ หรือ เมถุน ก็จะมีกำลังอยู่ที่ 50 หน่วย