ReadyPlanet.com


เรียนท่านอาจารย์พล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนต์


ตามที่ท่านได้กล่าวเชิงตําหนิผู้ใช้ปฏิทินสุริยยาตร์ในรายการวิทยู97Mhz.ในวันที่8มีนาคน2548เวลา8-9นาฬิกาโดยประมาณในเชิงไม่มีความรู้ขอเรียนว่าคนที่เขาศึกษาจริงๆน้อยคนนักที่จะไม่รู้ว่าปฏิทินที่คํานวนจากคัมภีร์สุริยยาตร์นั้นคาดเคลื่อนจากความเป็นจริง(เรื่องนี้แม้แต่อ.ทองเจือ อ่างแก้วก็ยังยอมรับ)แต่ประเด็นจึงอยู่ที่ว่าจะใช้หรือไม่ใช้อะไรมากกว่าผมเองก็ใช้ปฏิทินที่ท่านจัดทําและใช้มาถึง3ปีแล้วด้วยแต่ผมยังไม่เห็นเหตุที่จะไปกล่าวตําหนิคนที่คิดไม่เหมือนเราต่างคนต่างหนทางก็ต่างคนต่างเดินใยต้องให้ร้ายกันด้วยอนึ่งอดีตบุพพาจารย์ของไทยก็ไม่ได้โง่เง่าถึงได้ไม่รู้ว่าคัมภีร์สุริยยาตร์คาดเคลื่อน,ไม่โง่ขนาดดูดาวไม่เป็น,ไม่โง่ขนาดเรียนวิชาของโหรภารตะไม่รู้เรื่องดังที่ใครบางคนชอบกล่าวหาประการหนึ่งท่านกล่าวว่าหลักกาลโยคไม่มีที่มาที่ไปไม่น่าเชื่อถือกล่าวดังนี้ชื่อว่านิรคุณไม่รู้ซึ่งคุณครูอาจารย์แต่เก่าก่อนถ้าเป็นดังนี้แล้วใยท่านต้องท่านต้องพิมพ์กาลโยคก็ดี,เกตุไทยก็ดีในปฏิทินของท่านให้วุ่นวายจะได้เป็นปฏิทินของท่านN.C.Lahiliเต็มรูปแบบตามที่ท่านภูมิใจการกระทําดังนี้ไม่ใช่การกระทําของบัณฑิตหากเป็นการกระทําของพาลชนท่านเป็นผู้อาวุโสกล่าวให้ผู้อื่นฟังมามากผมหวังว่าท่านจะฟังคําอนุชนเช่นผมบ้างเรื่องใจคอคับแคบให้ท่านนายกเป็นคนเดียวก็พอแล้ว

ด้วยความเคารพอย่างสูง

555



ผู้ตั้งกระทู้ 555 :: วันที่ลงประกาศ 2005-03-26 14:20:12 IP :


1

ความคิดเห็นที่ 14 (3089318)
ตำราของคนที่ตั้งตัวเป็นอาจารย์มีมากมายเป็นพันๆเล่มบางตำราก็แม่นดี บางตำราก็มีแต่น้ำ หาสาระไม่ได้เลย ตำราเก่าใช่ว่าจะดีไปซะหมด อย่าคิดว่าของเก่าจะดีเสมอไป ตัวอย่างพวกตำราเก่าๆส่วนมากมักจะบอกว่าคนมีดาวพฤหัสบดีเป็นนิจ จะบอกว่าเป็นคนเกียจคร้าน ไม่มีปัญญา ขอยกตัวอย่างให้ดูเช่น พตท.ทักษิณ ชินวัตร คุณสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ พล.อ.อัครเดช ศศิประภา คนเหล่านี้มีฐานะร่ำรวยมีเงินมากมาย มียศศักดิ์สูงส่ง พวกตำราเก่าๆใช้ได้เป็นบางเรื่องเท่านั้น แต่พากันยกย่องจนเกินจริง ตัวผมเองเคยโทรศัพย์ไปว่าคนที่เขียนตำรามาแล้วหลายคนเรื่องดาวพฤหัสบดีเป็นนิจแล้วบอกว่าไม่มี คนในโลกนี้มีเกือบ8พันล้านคน แล้วใครจะไปรู้ได้หมดว่าแต่ละคนนั้นเป็นเช่นไร ส่วนมากทายยกเมฆ หรือหายเข้าหาตำราตัวเองเวลาเหตุการณ์เกิดขึ้นไปแล้ว ถ้าแน่จิงต้องทายแบบฟันธงไปเลย อย่าทายแบบกั๊กๆ
ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธาพยากรณ์ วันที่ตอบ 2011-09-09 13:44:31 IP : 27.130.133.144


ความคิดเห็นที่ 13 (2943178)

มันเป็นความเห็นส่วนบุคคล

ทุกคนมีสิทธิที่จะวิพากวิจารย์นะ

ตัวผมเองก้อเห็นด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น พล.ต.ต.สุชาติ พรสันเทียะ วันที่ตอบ 2009-02-08 22:41:47 IP : 117.47.97.77


ความคิดเห็นที่ 12 (1035384)
ผู้แสดงความคิดเห็น _ ›ำ^๖ฝขถ จ วันที่ตอบ 2007-07-04 19:28:38 IP : 203.146.127.176


ความคิดเห็นที่ 11 (1033883)
ผู้แสดงความคิดเห็น _ ›ำ^๖ฝขถ จ วันที่ตอบ 2007-07-04 14:54:40 IP : 203.146.127.178


ความคิดเห็นที่ 10 (1032804)
ผู้แสดงความคิดเห็น _ ›ำ^๖ฝขถ จ วันที่ตอบ 2007-07-04 11:58:37 IP : 203.146.127.178


ความคิดเห็นที่ 9 (442097)
ผู้แสดงความคิดเห็น _ ›ำ^๖ฝขถ จ วันที่ตอบ 2006-04-11 01:36:07 IP : 203.114.97.169


ความคิดเห็นที่ 8 (441776)
ผู้แสดงความคิดเห็น _ ›ำ^๖ฝขถ จ วันที่ตอบ 2006-04-11 01:09:37 IP : 203.114.97.169


ความคิดเห็นที่ 7 (168243)
ขอแนะเคล็ดเกี่ยวกับกาลโยคไว้นิดหนึ่ง.....เผื่อ อ.สชาติจะแลเห็นความดีของกาลโยคบ้าง เวลาคนป่วยหนักแล้วเราอยากทราบว่าปีนั้นจะตายหรือไม่(ถึงฆาต) ก็มีวิธีดูแบบฉับไว....โดยการนับอายุจากดาววันเกิดในดวงชะตาไปจนครบอายุปัจจุบัน แล้วดูว่าตกที่ราศีใด ให้สังเกตดาวพระเคราะห์เจ้าเรือนเกษตรราศีนั้นว่า เป็นดาวอุบาทว์ หรือ โลกาวินาศ ของปีที่เจ้าชะตาเกิดหรือไม่ ถ้าใช่ก็ค่อนข้างแน่นอน(ถ้าเจ้าชะตาป่วยหนักอยู่)ว่าถึงที่ตายอย่างแน่นอนครับ.....นี่คือเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆในการนำกาลโยคมาใช้ทาย "ฆาตเคราะห์" ครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธา มหาสิทธิโชค วันที่ตอบ 2005-07-22 13:36:16 IP :


ความคิดเห็นที่ 6 (167711)
อย่างดวงคณอภิรักษ์ ที่ได้เป็นผู้ว่าฯกทม. ก็เพราะปี 47 ทักษาจรตกภูมิพุธ ลัคนาเขาอยู่ราศีกันย์ ตอนที่ประกาศผล......เป็นช่วงที่ ดาวพฤหัสฯซึ่งเป็นเดชจรตามดวงชะตาของคุณอภิรักษ์ย้ายมาราศีกันย์ได้ไม่นาน(24 ส.ค.47) และดาวพฤหัสฯมาจากภพพันธุ จึงแปลว่าได้ยศได้ตำแหน่งหน้าที่ใหญ่โต(พฤหัสฯเป็นดาวใหญ่)ไงล่ะครับ เห็นหรือยังครับ ถ้านำทักษามาใช้มันจะทำให้เราเหมือนมีกล้องจุลทัศน์ส่องดวงชะตาใครต่อใครได้ชัดเจนขึ้นอีกเป็นกองครับ...
ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธา มหาสิทธิโชค วันที่ตอบ 2005-07-21 21:38:25 IP :


ความคิดเห็นที่ 5 (133461)
ตำราทำนายกาลโยคกำเนิดผสมกับทักษากำเนิดนั้นมีอยู่บอกรายละเอียดไว้ชัด ว่าแต่ว่าอยากทราบกันหรือเปล่า ถ้าเห็นว่า "หลักกาลโยค" ของบูรพาจารย์ยังมีคุณค่า วันหลังจะเข้ามาเผยแพร่สู่สาธารณะครับ การที่ตนเองเรียนแล้วไม่เป็นดังตำราว่า ก็อย่าเพิ่งไปติของเก่า รำไม่ดีแล้วไปโทษปี่โทษกลองจะถูกหรือครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธา มหาสิทธิโชค วันที่ตอบ 2005-06-19 10:59:39 IP :


ความคิดเห็นที่ 4 (132547)
ขออภัยวันอาทิตย์ที่ 5 มิ.ย. 48 ไม่ใช่วันโลกาวินาศ เพราะขึ้นเถลิงศกใหม่แล้ว วันโลกาวินาศของปีนี้คือวันจันทร์ครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธาฯ วันที่ตอบ 2005-06-17 21:21:31 IP :


ความคิดเห็นที่ 3 (132280)
หมายเหตุ -ข้อความที่เป็นคำเตือนของพันตรีหลวงวุฒิรณพัสดุ์ ข้างต้นอยู่ในหนังสือ หน้า 329 ครับ ลองไปหาอ่านดูบ้างนะครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธา มหาสิทธิโชค วันที่ตอบ 2005-06-17 15:39:47 IP :


ความคิดเห็นที่ 2 (132277)
ถ้าสังเกตให้ดีเหตุการณ์ร้ายๆมักจะเกิดในวันอุบาทว์ และโลกาวินาศของปีเสมอ จะขอยกตัวอย่างวันโลกาวินาศประจำปี พ.ศ.2547(15 เมษายน 2547 -15 เมษายน 2548) คือวันอาทิตย์ วันอุบาทว์คือวันพฤหัสฯ จะเห็นว่าวันอาทิตย์ที่ 26 ธ.ค. 2547 เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ ใช่หรือไม่ หรือวันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม 2548 เกิดเหตุตึกถล่มหลังเกิดไฟไหม้อาคาร บริษัท ยูไเต็ด ยูเนี่ยนพาร์ท จำกัด ใช่หรือไม หรือวันอาทิตย์ที่ 5 มิถนายน 2548 สูญเสียพระเกจิอาจารย์ คือ หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ กับหลวงปู่คง ฐิติปัญโญ ถ้าลองสังเกตอยู่เสมอในวันที่เสียตามหลักกาลโยคประจำปีนั้น มักจะมีเรื่องร้ายๆหรือการดำเนินงานมักมีอุปสรรคเสมอ .........หลักนี้แม้แต่ปรมาจารย์โหรพันตรีหลวงวุฒิรณพัศดุ์ก็เคยเตือนท่าน พ.อ.อ.บุญช่วย ชุ่มเชิงรักษ์อยู่เสมอว่าเป็นของเก่าของโบราณนั้นดีมาก ควรพยายามสังเกตไว้บ้าง(จากหนังสือประมวลโหราทรรศนะ ของพ.อ.อ.บุญช่วย ชุ่มเชิงรักษ์)
ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธา มหาสิทธิโชค วันที่ตอบ 2005-06-17 15:36:32 IP :


ความคิดเห็นที่ 1 (130378)
หลักกาลโยค,นั้น ใครที่ยังไม่รู้จริงก็อย่าเพิ่งไปติของเก่าว่าเสียหาย ตัวเองเข้าไม่ถึงแก่นวิชาของครูบาอาจารย์แต่เก่าก่อน แล้วมาด่วนตำหนิวิชาของบุพพาจารย์ย่อมไม่ใช่วิสัยของปราชญ์ เปรียบเสมือนเครื่องมือช่างต่างๆ เขาก็มีวิธีใช้แตกต่างกันไปตามลักษณะของงาน เช่น ฆ้อนเอาไว้ตอกตะปู จะเอาไปขุดดินก็ใช่ที่ ที่อาจารย์สุชาติดูถูกหลักกาลโยค นั้น เพราะท่านยังไม่ได้พิสูจน์ให้ถ่องแท้เสียก่อนว่า เขาใช้กันอย่างไร....กาลโยคนั้น นอกจากจะใช้ในเรื่องเกี่ยวกับฤกษ์ยามแล้ว ยังนำมาใช้ประกอบการทำนายพื้นชะตากำเนิดร่วมกับตรีวัยครับ โดยหลักแล้วจะใช้กาลโยคร่วมกับทักษา เช่น ถ้ามนตรีเป็นโลกาวินาศ ก็ทำให้คนๆนั้นมีวิถีชีวิตที่อาภัพอับเฉา หาที่พึ่งยาก เป็นที่เกลียดชังของคนทั้งหลาย ท่านลองนำดวงชะตามาตรวจกับกาลโยคและทักษาสิครับ ก็จะพบความจริง หรือของดีของบูรพาจารย์เองครับ อย่าเพิ่งติของโบราณเลย โบราณจารย์พยากรณ์โดยใช้ดาวแค่ 8 ดวง เท่านั้น แต่กลับพยากรณ์ได้ละเอียดละออแม่นยำกว่าโหรยุคปัจจุบันเสียอีก มีเกตุ กับ มฤตยู ที่เพิ่งมาเริ่มใช้กันในตอนต้นรัตนโกสินทร์ และตามมาด้วย เนปจูน พลูโต แบคคัส ซึ่งเยอะแยะตาแป๊ะไปหมด แต่ก็ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าจะเฉียบคมกว่าโหรโบราณที่ท่านใช้ดาวน้อยดวง แต่แม่นยิ่งกว่าตาเห็นเสียอีกครับ......
ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธา มหาสิทธิโชค วันที่ตอบ 2005-06-15 14:45:45 IP :



1


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.