ข้อสังเกตจากดวงฤกษ์ก่อวินาศกรรมที่อำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา  เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2549  เวลา 21.15 น. (ตัดเวลาฤกษ์แล้วเหลือ 20.58 น.)

เมื่อผูกดวงฤกษ์ดังกล่าวแล้วลัคนาฤกษ์สถิตราศีเมษ  เกาะปฐมนวางค์ ๓  เกาะตรียางค์ ๓(พิษนาค)  ประกอบด้วยทลิทโทแห่งฤกษ์    มีพระศุกร์เป็นตนุเศษ    ตนุลัคน์(๓)สถิตภพอริกุมกับดาว ๔ (เจ้าเรือนอริเป็นกาลกิณีของวันในถานะเกษตร) ทำมุมเล็งกับพระราหู(ผู้ก่อการร้ายหรือชาวต่างชาติต่างศาสนา-กาลกิณีจรของดวงเมือง)ในภพวินาศ    ดาวเจ้าการของฤกษ์คือ  พระศุกร์(ตนุเศษ-สถานบันเทิงเริงรมย์)สถิตภพปุตตะถูกบาปเคราะห์ ๗ และ ๓ บีบทั้งสองด้าน   และมีพระเกตุเกาะกุม  มีมฤตยู(ความไม่คาดฝัน)เล็ง   นอกจากนี้ เมื่อตรวจฤกษ์บน(  ฤกษ์ที่กำหนดขึ้นจากตำแหน่งของดาวจันทร์)ปรากฏว่าเป็นเพ็ชฆาฏฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 14.18 น.ไปถึง 24.00 น.   ส่วนฤกษ์ล่าง(ฤกษ์ที่คำนวณจากดิถีเพียญประกอบวาร)เป็นพยายะ(เจ็บป่วยล้มตาย)ฤกษ์  ตั้งแต่เวลา 07.30 น.-24.00 น.

เมื่อวิเคราะห์จากดาวเจ้าการคือตนุเศษ(๖)ที่สถิตภพปุตตะของดวงฤกษ์และดวงเมืองอีกทั้งเป็นวินาศกับตนุลัคน์ก็บ่งชี้ถึงสถานบันเทิงเริงรมย์(พระศุกร์-ปุตตะ)เป็นที่คาดหมายของผู้ก่อการและส่วนราชการ(๑)จะได้รับความเสียหาย(เป็นวินาศกับตนุลัคน์ของฤกษ์)และอยู่ในสภาวะกดดัน ไม่รู้จะตั้งรับอย่างไรดีเพราะศัตรูอยู่ในที่ลับ(๘ เป็นวินาศ)  และมารอบด้านแบบไม่เห็นตัวปะปนไปกับฝูงชน(บาปเคราะห์บีบหน้าหลัง) เมื่อฤกษ์บน-ฤกษ์ล่างมาประจวบเหมาะในทางร้ายเช่นนี้   รวมทั้งดาวกาลกิณีของวัน(๔)ก็มาเกาะกุมตนุลัคน์ของฤกษ์(๓)และเล็งกับคู่ศัตรู(๘ กาลกิณีจรของดวงเมือง) ซึ่งเป็นคู่ธาตุลมกับ ๓(ตนุลัคน์) จึงทำให้เกิดแรงปะทะของธาตุลมในทางเสียหาย(กาลกิณี)ใหญ่โต (เกษตร)  ถ้าสังเกตให้ดีจากวันที่เกิดเหตุการณ์คือวันที่ 16  เมื่อนำตัวเลขมารวมกันแล้วจะได้  7  คือ ตัวแทนของพระเสาร์(๗)ตัวทุกข์โทษเดือดร้อน  รวมทั้งปีนี้ เมื่อตรวจยามอัฏฐกาล จะเห็นว่า  "ยามที่สอง" คือตั้งแต่เวลา 19.31-21.00  เป็นอุบาทว์(ตามหลักกาลโยค) และพระเคราะห์ประจำยามคือ  พุโธ  ซึ่งเป็นกาลกิณีของวันอีกด้วยประการหนึ่ง  และยามดังกล่าวตามคัมภีร์ยามราหูค้นทรัพย์ก็ตกฤกษ์ คหปติ(พ่อค้า หรือเศรษฐี) หมายความว่าพ่อค้าหรือเศรษฐีจะได้รับเคราะห์(เป็นกาลกิณีเล็งกับราหูคู่ศัตรู)

ดังนั้น  เหตุร้ายทั้งปวงดังกล่าวข้างต้นจึงเป็นไปตามกฏเกณฑ์ทางโหราศาสตร์ไทยที่โบราณจารย์ได้สั่งสอนกันมาหากได้นำมาพิสูจน์ต่อสถานการณ์ให้ดีแล้วก็จะเห็นความอัศจรรย์ของวิชาโหราศาตร์ไทยอย่างครบครัน..เอวังฯ

**************************