ReadyPlanet.com


อุจ และนิจ ของราหูในหนังสือดูดวงเป็น


วันนี้ผมซื้อหนังสือดูดวงเป็น ของ อาจารย์อ้อมมาอ่าน สงสัยว่าในหนังสือบอกว่า อุจของราหู คือพฤษภ และนิจ คือพิจิก ซึ่งตรงข้ามกับที่ผมเคยอ่านในตารางอื่น

เลยสงสัยว่า ตำราโหรภารตะ ต่างกับไทยใช่หรือไม่ และผูกดวงแบบทั่วไปยังใช้กับตำรานี้ได้ไหมครับ

 



ผู้ตั้งกระทู้ วัชระ :: วันที่ลงประกาศ 2005-07-09 21:00:59 IP :


1

ความคิดเห็นที่ 13 (3092862)

ถึง  ผู้ตั้งกระทู้

ที่มาของราหู เป็นความสัมพันธ์ระหว่างโลก ดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ หรือ  Saros cycle ในเวลา 18.03 ปีจะครบรอบหนึ่งครั้ง

แต่ละครั้งจะเกิดในขณะที่โลกในขณะที่โคจรเข้ากลุ่มดาวราศีใดๆ ที่สามารถคำณวนได้แน่นอน

ส่วนความเกี่ยวข้องเกี่ยวกับความเป็นอุจและนิจ ในราศีพิจิกนั้น ให้ผลดีกับคนที่เกิดในราศีพิจิกทั้งสิ้น สำหรับผู้ที่เกิดระหว่างวันที่  ๑๖ พย. ถึง ๑๖ ธค. ไม่ว่าเวลาเกิดจะเป็นลัคนาใดก็ตามครับ, ส่วนจะได้รับผลบุญมากหรือน้อย ก็แล้วแต่ชาติก่อนที่ทำกันมาที่ไม่เหมือนหรือเท่ากัน.....

ผู้แสดงความคิดเห็น Merlin วันที่ตอบ 2020-08-24 18:35:34 IP : 122.155.38.164


ความคิดเห็นที่ 12 (2985987)

ขอรบกวนท่านผู้รู้ ช่วยดูดวงนี้ให้ผมหน่อยครับ ผมมีทั้ง8 9 0 เล็งลัคในภพปัตนิเลย จึงไม่รู้ความหมายแท้จริงสักที ผมเกิด 28สิงหาคม 2519เวลา 22.51น.  ลัคนา(เมษ) ,ดาวพฤหัส(อยู่กดุมพะ)นำหน้าลัค,อาทิตย์เป็นเกษตรราศีสิงห์อยู่ร่วมกับศุกร์(ซึ่งเป็นตนุเศษ)ในราศีสิงห์เช่นกันครับเนป็นภพปุตตะ ,เสาร์เป็นประภพพันธุ ,จันทร์เป็นราชาโชคภพอริ,อังคารเป็นมหาจักร์ภพอระ.พุธเป็นทั้งอุจจ์และเกษตรภพอริ ในราศีกันย์เช่นเดียวกันครับ ,ทีนี้ก็เป็นดาวที่ผมงงสุดๆหาความหมายแท้จริงไม่ได้สักทีคือ ทั้งราหู(ราชาโชค,อุจจาวิลาศ),เกตุ,มฤตยู(บางตำราว่าเป็นราชาโชคในตุลย์)อยู่ร่วมกันในภพปัตนิหมดเลยเห็นเค้าว่าเป็นบาปเคราะห์ทั้งนั้นเลย ว่าดวงแตกบ้าง คู่ไม่ดีบ้างมีคู่เหมือนไม่มีบ้าง อยู่ไกลดวงหย่าร้างบ้าง คู่ต้องคนต่างชาติอยู่ต่างประเทศ100% ที่สังเกตคือเค้าว่าดาวสามดวงนี้เป็นดาวธาตุลมทั้งหมด แล้วอยู่ในราศีตุลย์ธาตุลมเสียอีกมีกำลังแรงมากจะส่งผลเสียหายต่อเจ้าชะตามากมั้ยครับ รบกวนทุกๆท่านช่วยแนะนำหน่อยนะครับ ขอบพระคุณมากครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น กอล์ฟ วันที่ตอบ 2009-04-24 13:40:59 IP : 118.172.109.240


ความคิดเห็นที่ 11 (1035443)
ผู้แสดงความคิดเห็น _ ›ำ^๖ฝขถ จ วันที่ตอบ 2007-07-04 19:32:51 IP : 203.146.127.176


ความคิดเห็นที่ 10 (1033860)
ผู้แสดงความคิดเห็น _ ›ำ^๖ฝขถ จ วันที่ตอบ 2007-07-04 14:54:03 IP : 203.146.127.178


ความคิดเห็นที่ 9 (1032781)
ผู้แสดงความคิดเห็น _ ›ำ^๖ฝขถ จ วันที่ตอบ 2007-07-04 11:58:33 IP : 203.146.127.178


ความคิดเห็นที่ 8 (442054)
ผู้แสดงความคิดเห็น _ ›ำ^๖ฝขถ จ วันที่ตอบ 2006-04-11 01:34:20 IP : 203.114.97.169


ความคิดเห็นที่ 7 (441733)
ผู้แสดงความคิดเห็น _ ›ำ^๖ฝขถ จ วันที่ตอบ 2006-04-11 01:08:00 IP : 203.114.97.169


ความคิดเห็นที่ 6 (168254)
ดาวอุจที่ทรงคุณ....หรือส่งผลให้เป็นผู้มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นใหญ่เป็นโต นั้น ในตำราบอกว่า ถ้าดาวอังคาร,พุธ,พฤหัสฯ,ศุกร์ และเสาร์ เหล่านี้ ถ้าเป็นอุจ หรือ เกษตร ในดวงชะตาแล้วไปอยู่ในภพเกณฑ์(1,4,7,10)แก่ลัคน์ หรือ จันทร์ในดวงชะตา หรือในดวงนวางค์จักร มักจะส่งผลให้มีชื่อเสียงและประสบความรุ่งโรจน์ในชีวิต ครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธา มหาสิทธิโชค วันที่ตอบ 2005-07-22 13:47:45 IP :


ความคิดเห็นที่ 5 (166721)
ศึกษาดวงอุจจ์แล้วอย่าลืมศึกษาเรื่องภพในดวงชะตานะครับ การที่ดวงชะตาใครมีดาวอุจจ์หลายดวงใช่ว่าจะดีเสมอไป ถ้าดาวอุจจ์นั้นมาจากทุสถานภพ(อริ,มรณะ,วินาศ) หรือไปสถิตในภพที่เสีย อุจจ์นั้นก็ไม่ให้คุณ หรือแม้ให้คุณก็จะต้องเดือดร้อนในบั้นปลาย เช่น อาทิตย์เป็นอุจจ์แล้วมีลัคนาราศีมังกร ดวงแบบนี้ จะได้ดีมีเกียรติ แล้วจะต้องตกจากตำแหน่งภายในไม่ช้า เพราะอาทิตย์มาจากภพมรณะ เมื่อมาสถิตในภพพันธุอันหมายถึงตำแหน่งหน้าที่การงาน ก็ย่อมได้รับเกียรติ ได้ตำแหน่งหน้าที่ดีแต่จะต้องตกจากตำแหน่งในที่สุดครับ หรือบางดวงที่ผมเคยเห็นมามีดาวราชาโชคหลายดวงแต่วิถีชีวิตของเจ้าชะตากลับล้มลุกคลุกคลาน ดวงเขามีลัคนาราศีเมษ อังคารกุมลัคน์ มีศุกร์ราศีกรกฏเป็นราชาโชค, มีอาทิตย์เป็นเกษตรกุมกับพุธราชาโชค, มีจันทร์ราศีกันย์เป็นราชาโชค, มีราหูราศีตุลย์เป็นราชาโชค, มีเสาร์ราศีพิจิกเป็นราชาโชค, มีเกตุและมฤตยูโยคหน้าราศีมิถุน ...ปรากฏว่าชีวิตจริงเจ้าชะตาทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ประสบแต่ปัญหาขาดทุนมีปัญหากับลูกน้องเป็นประจำเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก ทำงานก็มักไปทำในต่างจังหวัดไกลๆ และงานก็เสียหายบ่อยครั้งจนถึงกับทิ้งงาน เนื่องจากเสาร์เจ้าเรือนกัมมะสถิตราศีพิจิกทำให้ตกงานอยู่เรื่อยๆและทำๆไปก็ทิ้งงานเพราะไปอยู่ภพมรณะจึงให้โทษ เจ้าชะตาเกิดวันจันทร์ อาทิตย์จึงเป็นกาลกิณีกำเนิด เมื่ออาทิตย์เป็นเกษตรกุมกับพุธเช่นนี้ วิชาการจึงไม่เด่น ทั้งๆที่ดาวคู่นี้เป็นดาวคู่วิชาการ ซึ่งเจ้าชะตาชอบสะสมหนังสือตำราแต่กลับไม่อ่านซื้อมาเก็บไว้เฉยๆ มีลูกน้องก็เจอประเภทฉลาดน้อย ต้องสั่งแล้วสั่งอีกทำงานเสียหายอยุ่เสมอจนเจ้าชะตากลุ้มใจ มาภายหลังผมได้ตรวจดวงชะตาแล้วจึงเฉลย "รหัสกรรม" ของเขาให้ฟังจึงทำให้เขาเข้าใจในวิถีกฏแห่งกรรมในที่สุด ดังนั้น ถ้าเห็นดวงใครมีดาวมาตรฐานดีๆหลายดวงอย่าเพิ่งใจร้อน ผลีผลามทายออกไปนะครับ ต้องตรวจทางภพในดวงชะตาเสียก่อน ว่าดาวที่ว่าเด่นนั้นอยู่ในภพใดและมาจากภพใด ถ้ามาจากภพดีแล้วไปอยู่ในภพดีด้วยแล้ว และเจ้าเรือนของภพที่ไปอยู่ได้ตำแหน่งที่เข้มแข็งแล้ว อย่างนี้รับรองดีแน่นอนครับ....
ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธา มหาสิทธิโชค วันที่ตอบ 2005-07-20 19:55:02 IP :


ความคิดเห็นที่ 4 (158429)
ขอเพิ่มเติมอีกนิด.....ดังตัวอย่างที่ผมกล่าวว่าลัคนาเขาราศีกรกฏ แล้วมีพฤหัสฯ(อุจ)กุมอยู่นั้น ที่ราศีมีนมีดาวเสาร์สถิตอยู่(เป็นกาลกิณีกำเนิด/เกิดวันพฤหัสฯ) จึงทำให้เขาคนนี้กินเกาเหลากับเจ้านายประจำ(ไม่กินเส้น)มักถูกเจ้านายเพ่งเล็งอยู่เรื่อย ไม่ว่าทำดีให้ตายอย่างไรก็มักมองเขาในแง่ร้าย แต่เจ้าของบริษัทฯ(กก.ผจก.)กลับให้ความเอ็นดูเขามาก เพราะดาวอังคาร(เจ้าเรือนกัมมะ/ปุตตะ)สถิตภพสหัชชะ (มนตรี)จึงทำให้เจ้าของบริษัทฯรักเขามาก คอยให้กำลังใจเสมอ นี่เองผมจึงทราบภายหลังว่า ภพผู้บังคับบัญชาโดยตรงคือ ภพศุภะ และภพเจ้าของบริษัทฯหรือนายใหญ่ คือ ภพกัมมะ พอนำไปทายดวงใครต่อใครมักถูกเสมอครับ.......(ในตำราโหราศาสตร์ทั่วไปไม่มีบอกไว้อย่างนี้นะครับ ส่วนใหญ่จะบอกแค่ภพกัมมะคือผู้บังคับบัญชาเท่านั้น แต่ไม่ได้บอกลึกลงไปว่า ระดับไหน)
ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธา มหาสิทธิโชค วันที่ตอบ 2005-07-13 10:50:04 IP :


ความคิดเห็นที่ 3 (158411)
ความเห็นของอาจารย์ตาบอดส่องตะเกียงมีประโยชน์มากสำหรับผู้สนใจโหราศาสตร์ทั้งหลาย สำหรับผมนั้นตำราต่างๆผมถือเป็นแนวทาง แต่จะเชื่อหรือไม่ต้องพิสูจน์ก่อนครับ ซึ ่งที่ผ่านมา(ความเห็นส่วนตัวครับ)ผมสังเกตเห็นมาส่วนมากแล้วดวงชะตาใครถ้าตนุลัคน์ไปเป็นอุจ หรือมีดาวอุจกุมลัคน์ คนนั้นมักจะทำงานมีเกียรติเป็นที่นิยมในสังคม มีหน้ามีตา ต่างจากเกษตรอันหมายถึงความมั่นคง ความแน่นอน(ทั้งดีและเลว) เช่น ลัคนาราศีสิงห์(ญาติผมเอง) ตนุลัคน์คืออาทิตย์อยู่ราศีเมษ เป็นอุจ เจ้าชะตาเป็นข้าราชการระดับอธิบดี(เกิดวันพฤหัสฯ) ,อีกรายเกิดวันอังคารลัคนาราศีพิจิก มีราหูกุมลัคน์ เป็นผู้อำนวนการฝ่ายการตลาดบริษัทฯเอกชนแห่งหนึ่ง มีเงินเดือนเกือบ 3 แสนบาท แต่ ตัวละคร 9ตัว มีดีร้ายปะปนกันไป ก็ทำให้เดือดร้อนต่างๆนาๆเกี่ยวกับลูกน้อง....แต่คนๆนี้ย้ายตำแหน่งย้ายงานทีไร มักจะไปเป็นใหญ่ในหน่วยงานนั้นๆเสมอ และมีโรคประจำตัวมาก (ตามอิทธิพลของราหูที่กุมลัคน์ผู้ใดมักขี้โรค/ราหู เปรียบเหมือน ด้วงหรือแมง) ,อีกชะตาหนึ่ง ลัคน์ราศีกรกฎ มีพฤหัสฯกุม คนนี้ทำงานโรงแรม เป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคล แต่มักมีปัญหากับผู้ใหญ่ในวงงาน ที่เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง แต่กับเจ้าของบริษัทฯไม่มีปัญหา ...ดวงนี้เป็นดวงที่ทำให้ผมพบเคล็ดลับทาย หัวหน้า และเจ้าของบริษัท กล่าวคือ ถ้าเป็นหัวหน้าโดยตรงใช้ภพศุภะ ถ้าเป็นเจ้าของบริษัทใช้ภพกัมมะ เพราะดวงนี้เจ้าของบริษัทรักเขามาก (อังคารเป็นสหัชชะสถิตราศีกันย์) แต่หัวหน้าชอบเพ่งเล็งจับผิดอยู่เรื่อย(พฤหัสฯมาจากภพอริ และศุภะ นั่นเอง)....ดังนั้น การเรียนโหราศาสตร์ผมค่อนข้างจะเห็นด้วยกับ ท่าน อ.จำรัส ศิริ ที่ว่า อย่าเอาวิทยาศาสตร์มาปนกับโหราศาสตร์ แต่ก็ต้องอาศัยวิทยาศาสตร์ เพราะโหราศาสตร์โดยรากเง่าเกิดจากการสังเกตและจดบันทึกเป็นสถิติ ถ้ามีความน่าจะเป็นในทางใดมาก ก็ยึดเป็นหลักวิชาพยากรณ์ได้ต่อไป....ส่วนการอาจารย์ตาบอดส่องตะเกียง ได้เข้ามาส่องทางโหราศาสตร์ให้แก่ผู้สนใจทั้งหลาย อันนี้ผมขอชมเชยและสนับสนุนอย่างยิ่งครับ ถือเป็นวิทยาทานอย่างหนึ่ง ส่วนผมนั้นความรู้ พออ่านออกเขียนได้ ที่แสดงความเห็นมาก็อาศัยประสบการณ์และการสังเกตเทียบกับตำราครับ....ไม่ได้คิดจะมาตั้งเป็นทฤษฏีใหม่อะไรนะครับ
ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธา มหาสิทธิโชค วันที่ตอบ 2005-07-13 10:38:01 IP :


ความคิดเห็นที่ 2 (158209)

ดาวทุกดวงหรือสรรพสิ่งนั้นมี ด้านสว่างและด้านมืดของมันเองทั้งนั้น ความหมายของราหู & เกตุ ก็เป็นเฉกเช่นนั้นด้วยเช่นกัน

เนื่องด้วยราหูเกตุนั้น มิใช่ดวงดาวคำนวณหาจุดอุจ หรือ นิจ ที่แน่นอนนั้นเป็นเรื่องยากสักหน่อย จึงไม่มีตำราไหนยืนยันในจุดที่แน่นอนของมันได้ หนังสือดูดวงเป็นของอ้อมก็เช่นกันครับ เธอเขียนจุดนี้ให้เนื่องจากมันถูกเขียนในตำราโหราศาสตร์ภารตะของคนไทย และ จากตำราโหราศาสตร์ของต่างประเทศ เธอจึงนำมาแสดงให้ดู แต่ตำแหน่งทั้ง 2 ประการนี้ ก็ยังไม่มีมติที่เป็นเอกฉันท์ว่าจะให้เป็นอุจ หรือ นิจ ในราศีใดแน่ครับ

โหราศาสตร์ไทยก็เช่นเดียวกัน ที่บอกว่าราหูเป็นอุจตรงนั้น ตรงนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่แสดงเหตุผลอย่างตรรกะได้เช่นกัน เพราะ อุจ นั้นแปลว่าเด่นตามภาษาสันสกฤต ฉะนั้นดวงดาวจะเด่นได้เช่นไร

1. ภาวะเด่นนั้นแสดงว่าช่วงนั้นดาวดวงนั้นต้องมีลำแสงสดใสมากเมื่ออยู่ในราศีนั้นๆ

2. มันเป็นระยะเพ็ญของดาวดวงนั้นๆ คือถูกพระอาทิตย์เล็ง

3. เวลามันพักร์ เพราะ ขณะมันกำลังพักร์มันจะดูสดใสมาก

ฉะนั้น คำว่าอุจที่จะให้ข้าพเจ้าแปล ข้าพเจ้าเองคงแปลว่ามันเด่น อาทิ ตัวอย่างที่ข้าพเจ้าเจอบ่อยๆ ขอยกตัวอย่างสักให้ฟังนะครับ ท่านใดไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไร เพราะนี้เป็นทัศนะขอข้าพเจ้าเพียงแต่ผู้เดียวที่ได้พบมา และ พยายามวิเคราะห์ดูโดยหลักตรรกะมา จะเป็นดังนี้

...ภาวะที่ดาวนั้นเด่น ที่ท่านมักกล่าวกันว่าดาวใดอยู่ในราศีอุจของมันดาวดวงนั้นจะให้ความเด่นและให้คุณมาก แต่จากที่ข้าพเจ้าพบเจอมาหลายๆ ท่านที่พระจันทร์ได้ตำแหน่งอุจ ณ จุดบรมอุจ (03 องศา ราศีพฤษภ) ข้าพเจ้าไม่เห็นเขาจะดีเด่นสักเท่าใดเลย ส่วนมากเป็นคนที่มักชอบพึ่งพาคนอื่น ทำอะไรเองไม่ค่อยเป็นสักเท่าใด มากแต่ทฤษฏี ชีวิตเอาแน่เอานอนไม่ได้

แต่ก็มีบางท่านที่พระจันทร์อยู่ในจุดบรมอุจ แล้วถูกพระอาทิตย์เล็ง จนเรียกว่าเพ็ญ คนพวกนี้จะแตกต่างจากที่กล่าวไว้ในเบื้องต้นโดยทันที คนพวกนี้จะค่อนข้างเก่ง เป็นที่นับถือของคนทั่วไป เขาจะมีเสน่ห์ในมิตรสัมพันธ์สูง มีหลายท่านเป็นนักการเมืองที่กล่าวอะไรไปชาวบ้านก็เชื่อ อันนี้เคยพบมาแล้วเช่นกัน เพราะ ถ้าจะพูดถึงพระจันทร์ตามหลักโหรศาสตร์มหาภาคแล้ว พระจันทร์นั้น แปลว่า "พลังมลชน"

การที่จะกล่าวว่า ราหูอยู่จุดใด หรือ เป็นอุจ เป็นนิจ แต่อย่างเดียวแล้วจะกล่าวฟันธงไปเช่นนั้นเลยคงเป็นไปไม่ได้ อย่าลืมยังมีเพื่อนๆ มันอีกอย่างน้อยก็อีก 7 ดวง ร่วมเล่นละครฉากนี้กับมันด้วย ***เพื่อนๆ นักแสดงทั้ง 7 นี้แหละมีบทบาทกับมันมาก จะทำให้มันเป็นRobinhood หรือ เป็นมหาโจรห้าร้อย ก็ได้เช่นกัน ต้องมองตัวละครทั้งหมดด้วยจึงจะควรกว่า

ดาวทั้งเจ็ดดวงนั้นข้าพเจ้าเชื่อว่า เป็นอุจเป็นนิจได้จริงตามตำรา เนื่องด้วยมันเป็นเทหะวัตถุจริง จึงเกิดการเพ็ญ จึงเกิดการมีแสงสดใสหรือแสงที่เข้มข้นได้

แต่ถ้าจะถามว่าแล้วพระอาทิตย์ละ มันจะเพ็ญได้อย่างไร ก็ต้องตอบว่ามันต่างจากดาวดวงอื่น เพราะมันเป็นดาวฤกษ์มีแสงในตัวเองอยู่แล้วมันจึงเพ็ญตัวเองตลอดเวลา

และถ้าถามว่าทำไมมันได้อุจที่ราศีเมษ ก็ดูสิครับว่าพระอาทิตย์จะใกล้โลกเราที่สุดเดือนอะไร ก็ช่วงมันอยู่ราศีเมษซึ่งเป็นหน้าร้อนนั่นแหละ พอมันอยู่ไกลจากโลกที่สุด มันก็จะเป็นนิจในราศีตุล ซึ่งก็เป็นหน้าหนาวไงครับ

ส่วนราหูเกตุนั้น จะกล่าวมันมีแสงสุกใส หรือ เพ็ญ ได้เช่นไร เพราะมันไม่ใช่ดาวแต่เป็นภาวะคราส หรือ จุดทับแสงเท่านั้น แต่ที่โบราณท่านให้ตำแหน่งอุจนิจ กับมันนั้นท่านก็ต่างเฝ้าสังเกตกัน ซึ่งผลของตำแหน่งนั้นก็แตกต่างกันด้วยเช่นกัน และ เคยถูกนำมาถกเถียงกันในภารตประเทศแล้วด้วย ซึ่งต่างก็มีทัศนะที่แตกต่างกันเกี่ยวกับตำแหน่งนี้ จนหาข้อยุติไม่ได้เลยต้องปล่อยให้เป็นไปตามสูตรใครสูตรมันครับ เพราะมันไม่ใช่ดาว แถมพักร์ไปพักร์มาส่ายอยู่เป็นประจำ

ผู้แสดงความคิดเห็น ตาบอดส่องตะเกียง วันที่ตอบ 2005-07-13 07:52:19 IP :


ความคิดเห็นที่ 1 (154786)
ผมว่าคนเขียนเขาคงจะเขียนผิดหรือไม่ก็สับสนอะไรหรือเปล่าครับ...ถ้าไม่ใช่ก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ... เพราะที่ผ่านมา...ผมยังไม่เคยเห็นใครที่มีลัคนาราศีพิจิกแล้วมีราหูกุมอยู่ด้วยจะมีฐานะกระจอกสักราย มีแต่ฐานะดีๆเป็นผู้บังคับบัญชาคนทั้งนั้น...ราหูที่ราศีพฤษภจะได้ตำแหน่งดีเด่นกรณีเดียวคือ..เป็นองค์เกณฑ์กับลัคนาราศีพิจิกครับ(กีฏะเกณฑ์) เพราะกระแสของราหูถูกทำให้เสื่อมจากสภาพนิจ จึงทำให้ราหูคลายความมัวเมาลงไป...ขณะเดียวกันก็ส่งกระแสมายังเรือนอุจของตน..คือ..ราศีพิจิกทำให้ลัคนาราศีพิจิกได้รับความดีเด่นตามอิทธิพลของราหูนั่นล่ะครับ...รายละเอียดลองอ่านดูในหนังสือ...โหราศาสตร์ปริทัศน์ของท่านอาจารย์เทพย์ สาริกบุตรนะครับ....สำหรับผู้เขียนหนังสือเล่มดังกล่าว..ถ้าผมเข้าใจผิดก็ต้องขออภัยด้วยครับ...เพราะที่แสดงความเห็นมาก็สังเกตมาจากประสบการณ์และได้เคยอ่านผ่านตาจากตำราของครูบาอาจารย์ครับ..
ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธา มหาสิทธิโชค วันที่ตอบ 2005-07-09 22:55:27 IP :



1


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.