ReadyPlanet.com


คู่มีตำหนิแปลว่า หม้าย หรือชาวต่างชาติ??


ทราบมาว่าในการดูบางศาสตร์ 2 ข้อนี้จะแปลเหมือนกัน แล้วอย่างนี้จะทราบได้ยังไงคะ ขอบคุณค่้ะ พฤ16 ก.ค. 2524 (8:26)


ผู้ตั้งกระทู้ arveekorn p. :: วันที่ลงประกาศ 2005-10-12 20:26:42 IP :



ความคิดเห็นที่ 98 (1469938)

เรียนท่านอาจารย์สิทธา ครับ

ผู้เกิดราศีสิงห์ วันเสาร์ ปีขาล ดาว 1 อยู่ภพพันธุราศีพิจิกร่วมกับดาว 6,8 และเนปจูน โดยในเรือนกฎุมพะมีดาว 9 และพลูโตร่วมกัน ส่วนเรือนสหัชชะราศีตุลย์มีดาว 3,4 และ 0 โยคหน้าลัคนา และในเรือน 7 ภพปัตนิมีดาว 2 และ 5 ร่วมเล็งลัคนาครับ สุดท้ายที่เรือน 11 ภพลาภะมีดาว 7 โยคหลังลัคนา ซึ่งมาจากเรือนอริครับ

ลักษณะของผู้ที่เกิดในดวงนี้ควรไปทำธุรกิจอะไรจึงจะเหมาะที่สุดครับ เพราะเหตุใดครับ และคู่รักควรเป็นผู้หญิงที่มีลักษณะแบบใดครับ

ด้วยความเคารพอย่างสูง จักนักศึกษาวิชาโหรหน้าใหม่

ผู้แสดงความคิดเห็น WS วันที่ตอบ 2008-06-04 16:17:31 IP : 58.8.37.179


ความคิดเห็นที่ 97 (1469923)

เน€เธฃเธตเธขเธ™เธ–เธฒเธกเธญเธฒเธˆเธฒเธฃเธขเนŒเธชเธดเธ—เธ˜เธฒ เธ„เธฃเธฑเธš

เธœเธนเน‰เน€เธเธดเธ”เธฅเธฑเธ„เธ™เธฒเธฃเธฒเธจเธตเธชเธดเธ‡เธซเนŒ เธ›เธตเธ‚เธฒเธฅ เธงเธฑเธ™เน€เธชเธฒเธฃเนŒ เธกเธตเธ”เธฒเธง 1 เธญเธขเธนเนˆเน€เธฃเธทเธญเธ™เธžเธฑเธ™เธ˜เธธเธฃเธฒเธจเธตเธžเธดเธˆเธดเธเธฃเนˆเธงเธกเธเธฑเธšเธ”เธฒเธง 6,8 เนเธฅเธฐเน€เธ™เธ›เธˆเธนเธ™  เน‚เธ”เธขเธ—เธตเนˆเน€เธฃเธทเธญเธ™ 2 เธเธŽเธธเธกเธžเธฐเธกเธตเธ”เธฒเธง 9 เนเธฅเธฐเธžเธฅเธนเน‚เธ• เธฃเนˆเธงเธกเธเธฑเธ™  เธชเนˆเธงเธ™เธ”เธฒเธง 3, 4 เนเธฅเธฐ 0 เธญเธขเธนเนˆเน€เธฃเธทเธญเธ™เธชเธซเธฑเธŠเธŠเธฐเน‚เธขเธ„เธซเธ™เน‰เธฒเธฅเธฑเธ„เธ™เธฒ เนเธฅเธฐเนƒเธ™เน€เธฃเธทเธญเธ™ 7เธ เธžเธ›เธฑเธ•เธ™เธดเธกเธตเธ”เธฒเธง 2 เธฃเนˆเธงเธกเธเธฑเธš 5 เน€เธฅเน‡เธ‡เธฅเธฑเธ„ เธชเธธเธ”เธ—เน‰เธฒเธขเธ”เธฒเธง 7 เธ‹เธถเนˆเธ‡เธกเธฒเธˆเธฒเธเน€เธฃเธทเธญเธ™ 6 เธ เธžเธญเธฃเธด เน„เธ›เธ›เธฃเธฒเธเธŽเธญเธขเธนเนˆเธ—เธตเนˆเน€เธฃเธทเธญเธ™ 11 เธฅเธฒเธ เธฐ เน‚เธขเธเธซเธฅเธฑเธ‡เธฅเธฑเธ„เธ™เธฒ

เธญเธขเนˆเธฒเธ‡เธ™เธตเน‰เนเธฅเน‰เธง เธฅเธฑเธเธฉเธ“เธฐเธ‚เธญเธ‡เธ„เธ™เน€เธเธดเธ”เนƒเธ™เธ”เธงเธ‡เธ™เธตเน‰ เธ„เธงเธฃเน„เธ›เธ—เธณเธ˜เธธเธฃเธเธดเธˆเน€เธเธตเนˆเธขเธงเธเธฑเธšเธญเธฐเน„เธฃเธˆเธถเธ‡เธˆเธฐเน€เธซเธกเธฒเธฐเธ—เธตเนˆเธชเธธเธ”เธ„เธฃเธฑเธš เนเธฅเธฐเธˆเธฐเน„เธ”เน‰เธ„เธนเนˆเธฃเธฑเธเน€เธ›เน‡เธ™เธœเธนเน‰เธซเธเธดเธ‡เธฅเธฑเธเธฉเธ“เธฐเธญเธขเนˆเธฒเธ‡เน„เธฃเธ„เธฃเธฑเธš เธเธฃเธธเธ“เธฒเธญเธ˜เธดเธšเธฒเธขเธ–เธถเธ‡เน€เธซเธ•เธธเนเธฅเธฐเธœเธฅเธ‚เธญเธ‡เธเธฒเธฃเธ—เธณเธ™เธฒเธขเธ”เน‰เธงเธขเธ„เธฃเธฑเธš

เธ”เน‰เธงเธขเธ„เธงเธฒเธกเน€เธ„เธฒเธฃเธžเธญเธขเนˆเธฒเธ‡เธชเธนเธ‡ เธˆเธฒเธเธœเธนเน‰เธŠเธญเธšเธจเธถเธเธฉเธฒเธงเธดเธŠเธฒเน‚เธซเธฃเธซเธ™เน‰เธฒเนƒเธซเธกเนˆ

ผู้แสดงความคิดเห็น ws วันที่ตอบ 2008-06-04 16:00:41 IP : 58.8.37.179


ความคิดเห็นที่ 96 (1035552)
ผู้แสดงความคิดเห็น _ ›ำ^๖ฝขถ จ วันที่ตอบ 2007-07-04 19:43:22 IP : 203.146.127.176


ความคิดเห็นที่ 95 (1033922)
ผู้แสดงความคิดเห็น _ ›ำ^๖ฝขถ จ วันที่ตอบ 2007-07-04 14:59:09 IP : 203.146.127.178


ความคิดเห็นที่ 94 (1033246)
ผู้แสดงความคิดเห็น _ ›ำ^๖ฝขถ จ วันที่ตอบ 2007-07-04 12:00:38 IP : 203.146.127.178


ความคิดเห็นที่ 93 (531115)
 

yourlife

วิธีใช้Internet 3 ชม.ทำเงิน 500-1,000บาท/วัน

เปลี่ยนอนาคตทางการเงินของคุณ

คุณจำเป็นต้องเริ่มเปลี่ยนแปลงบางอย่าง มิเช่นนั้นคุณก็จะได้รับแต่สิ่งเดิม ๆ ที่คุณเคยได้รับ ซึ่งคุณพอใจหรือยัง!

โอกาสในการทำธุรกิจของคุณ

นี่คือส่วนหนึ่งของธุรกิจอุตสาหกรรมที่มีมูลค่า กว่าสี่แสนล้านเหรียญสหรัฐ เรียนรู้ที่จะทำธุรกิจในวันนี้ ที่เป็นไปได้มากกว่าธุรกิจอื่นจะทำได้ ด้วยระบบการฝึกอบรมและระบบสนับสนุน ที่พร้อมจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายของคุณ
 

" ผลกำไรดีกว่าค่าจ้าง  ค่าจ้าง
ทำให้คุณยังชีพได้ แต่ผลกำไร
ทำให้คุณเป็นเศรษฐีได้
..."

Jim Rohn 
Word Renowned Business Philosopher
 
แผนที่สู่ความสำเร็จ

ถ้าคุณมีเป้าหมายอย่างแท้จริง แผนที่ก็เปรียบได้กับแหล่งข้อมูล ที่มีอยู่แล้วที่คอยชี้นำคุณให้ดำเนิน ไปในทางที่ถูกต้อง
กุญแจดอกสำคัญสู่ "วิธีการ" ที่จะช่วยให้คุณหลุดพ้นจากคำว่า "จน"
อย่างถาวร

“ ถ้าคุณไม่กล้าที่จะฝัน แล้วเมื่อไหร่ล่ะฝันของคุณจะเป็นจริงล่ะ ”

คุณเคยคิดหรือไม่ว่าเวลาที่คุณทำงานอยู่นี่คุณทำให้ใครรวย
รองคิดดู...คนที่รวยและสบายไม่ใช่คุณแน่ๆ
สถานประกอบการของคุณที่รวย เขามีรายได้ที่เพิ่มขึ้นเพราะคุณทำให้กับเขา
แต่คุณก็ยังได้ผลตอบแทนที่เท่าเดิม
จริงหรือไม่...

นี่! อาจเป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่คุณเคยเจอ

http://doiop.com/advice
คุณมีความสุขกับสิ่งนี้หรือไม่

รายได้ของคุณ,อาชีพหรืองานที่คุณทำ รูปแบบชีวิตที่เป็นอยู่ในแต่ละวัน เวลาว่างที่คุณมีให้กับครอบครัวและลูก ๆ  สุขภาพของคุณและครอบครัว
http://doiop.com/advice
 ขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ---->ติดต่อ  rin
( ไม่ใช่งานขายสินค้าตามบ้าน หรือขายประกัน หรือเดินหาลูกค้า )
ทำงานผ่านระบบสนับสนุน เช่น อินเตอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ เอกสาร สื่อโฆษณา ฯลฯ
ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร : ทำงานประจำ ลูกจ้าง นักศึกษา แม่บ้าน ว่างงาน
ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา ไม่จำกัดประสบการณ์ ไม่กระทบงานประจำ และการเรียน เหมาะสำหรับ แม่บ้าน นักศึกษา วิศวกร ข้าราชการ พนักงานประจำ แพทย์ เภสัชกร พยาบาล หรือบุคคลทั่วไป

"ชีวิตเป็นของคุณ
คุณสามารถเลือกมันได้"

 


 

  • เงินเดือนปัจจุบันของคุณเพียงพอหรือเปล่า ขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ---->
  • ติดต่อ  rin   0-6749-0289  http://doiop.com/advice
  • ทำงานผ่านระบบสนับสนุน เช่น อินเตอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ เอกสาร สื่อโฆษณา ฯลฯ


ผู้แสดงความคิดเห็น yourlife วันที่ตอบ 2006-07-06 21:51:37 IP : 202.12.74.5


ความคิดเห็นที่ 92 (441989)
ผู้แสดงความคิดเห็น _ ›ำ^๖ฝขถ จ วันที่ตอบ 2006-04-11 01:31:48 IP : 203.114.97.169


ความคิดเห็นที่ 91 (441669)
ผู้แสดงความคิดเห็น _ ›ำ^๖ฝขถ จ วันที่ตอบ 2006-04-11 01:05:31 IP : 203.114.97.169


ความคิดเห็นที่ 90 (373543)
ไม่ทราบคุณสิทธา รับทำนายดวยชะตารึปล่าวคะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ชอบ วันที่ตอบ 2006-01-29 22:19:42 IP : 203.113.36.10


ความคิดเห็นที่ 89 (277666)

เรียน อาจารย์สิทธาที่เคารพ

ถ้าเจ้าเรือนลาภะ เป็นอุจจ์ในเรือนปัตนิ  และเจ้าเรือนปัตนิ ตกเรือนกัมมะ (เกษตร)

หมายถึงอย่างไรคะ

และเจ้าเรือนลัคน์ เป็นอุจจ์ในเรือนอริ (เกษตร) หมายถึงอย่างไรคะ

กราบขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ

วิลาวัลย์

ผู้แสดงความคิดเห็น วิลาวัลย์ วันที่ตอบ 2005-11-03 00:42:45 IP : 210.86.214.73


ความคิดเห็นที่ 88 (273911)

กราบสวัสดีค่ะ อาจารย์สิทธาฯ ที่นับถือ

ดีใจและยินดีมากค่ะ ที่อาจารย์ให้เกียรตินับเข้าเป็นศิษย์ก้นกุฏิ  อาจจะเป็นศิษย์ที่ไม่ค่อยจะได้ความนะคะ  ขออาจารย์อย่าเพิ่งรำคาญ

ดิฉันมีเรื่องอยากขอคำแนะนำจากท่านอาจารย์ค่ะ   คือเคยเรียนถามอาจารย์เกี่ยวกับเรื่องไปเรียนต่อต่างประเทศแล้วครั้งหนึ่ง  (ไม่ทราบว่าอาจารย์จะจำได้ไหม)  เคยมีซินแสจีนท่านหนึ่งดูดวงให้  ดิฉันก็เลยถามท่านว่าดวงของดิฉันควรจะไปเรียนต่อที่ไหนจึงจะดี  จะไปออสเตรเลียได้ไหม  ท่านบอกว่าไม่ควรไปทางใต้  ออสเตรเลียอยู่ทางใต้ของเมืองไทย  ไม่ถูกกับดวงชะตา หากจะไปควรไปแถบเหนือ เช่น ยุโรป หรืออเมริกา (ซึ่งก็ไปตรงกับที่ผู้หวังดีท่านหนึ่งเคยเข้ามาโพสทิ้งไว้ในกระทู้ที่ดิฉันเรียนถามดวงกับอาจารย์)  ดิฉันสนใจประเทศแคนาดาเพราะค่าเล่าเรียนถูกกว่าแถบอื่น และเป็นประเทศที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง  แต่เมื่ออาทิตย์ก่อนดิฉันคุยกับนายฝรั่งที่มาจากออสเตรเลีย  เขาแนะนำให้ไปเรียนที่เมืองบริสเบน  ออสเตรเลีย  เขากรุณาให้ไปพักที่บ้านของเขาระหว่างที่เรียนอยู่  เพื่อจะได้ช่วยประหยัดค่าที่พัก  แต่ดิฉันยังไม่ได้ตัดสินใจ  อยากจะขอคำแนะนำจากอาจารย์ค่ะว่าพอจะดูได้ไหมว่าควรจะไปเรียนที่ไหนดี  แต่ดิฉันยังไม่ได้เดินทางในระยะอันใกล้นี้นะคะ  เพราะจะต้องเรียนและสอบ TOEFL ให้ได้คะแนนตามที่มหาวิทยาลัยกำหนดก่อน หากไม่มีอุปสรรคอะไร  ก็คงจะประมาณปลายปีหน้า

ผู้แสดงความคิดเห็น เริ่มเรียน วันที่ตอบ 2005-10-31 14:01:54 IP : 58.136.204.203


ความคิดเห็นที่ 87 (272781)

ไม่มีอะไรเล็งลัคค่ะ  ลัคอยู่ธนู  มีอังคารเป็นพินทุบาทว์(แถมกุม1)  1 ด.ทะเลาะไม่ตำกว่า2 ครั้ง  เพราะต้องการแค่จะเอาชนะ  แฟนเขากินเบียร์ทุกวัน  เขาก็ใจดีซึ้อไว้ที่บ้านเลย  แต่ถ้าเกิดออกไปกับเพื่อนเมื่อไหร่  ก็จะกลับสว่าง อีกคนก็จัดกระเป๋าไว้ให้เลย เมื่อกลับมาถึงก็ไล่ทันที   เป็นบ่อยจริงๆ   สงสัยเป็นเรื่องปกติแล้ว  กรรมอย่างนี้  เมื่อก่อนเคยทำกรรมลักษณะไหน  ถึงได้ดูปวดหัวจัง

ผู้แสดงความคิดเห็น ผ่านมาค่ะ วันที่ตอบ 2005-10-30 09:49:30 IP : 203.113.71.70


ความคิดเห็นที่ 86 (272440)

               ที่เคยเห็นดวงผู้หญิงคนหนึ่ง  ๓,๘ เล็งลัคน์   มีปัญหากับแฟน  ทะเลาะกันทุกวันเหมือนกัน   สุดท้ายฝ่ายชาย  ทิ้งให้ฝ่ายหญิงเลี้ยงลูกกันตามลำพัง ...เห็นแล้วก็น่าทึ่งในกฏเกณฑ์โหราศาสตร์ไทยที่สามารถบอกได้ทันทีเลยว่าชีวิตคู่ของสามี-ภรรยาคู่นั้นจะลงเอยอย่างไร

                                                     

ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธา มหาสิทธิโชค วันที่ตอบ 2005-10-29 19:55:24 IP : 203.156.26.218


ความคิดเห็นที่ 85 (272430)

ขึ้นอยู่กับว่าเสาร์/ราหูที่เล็งลัคน์นั้น  เป็นกาลกิณีด้วยหรือเปล่า   ถ้าไม่ใช่ก็ยังพอถูไถ  อยู่กันไปแบบสุกๆดิบๆ   คือ  จะสุขก็ไม่สุขแบบชาวบ้านเขา  มักมีความระทมขมขื่นเจือปน   แต่ต้องฝืนทนอยู่กันไป   แต่ถ้าเป็นดาวกาลกิณีก็ต้องเลิกกัน  ไม่ช้าก็เร็ว   หรือประเภทจันทร์เป็นสิบเอ็ดแก่ราหูนี่ก็เหมือนกัน   จะได้ดีก็ไม่ได้ดีเสียทีติดโน่น  ติดนี่ หาความราบรื่นในชีวิตไม่ได้เลย  เรียกว่า   ดวงมีเคราะห์กรรมมาก  เจ้ากรรมนายเวรเยอะครับ

                                                                         

                                                   

ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธา มหาสิทธิโชค วันที่ตอบ 2005-10-29 19:39:52 IP : 203.156.26.218


ความคิดเห็นที่ 84 (272216)
มีญาติค่ะ  เขาทะเลาะกันกับสามีเป็นประจำ  เมื่อทะเลาะก็จะไล่กันเกิดขึ้นเป็นประจำ    กลัวว่าวันหนึ่งอาจจะไปจริงๆ ดาวเขาเป็นพินทุบาทว์ค่ะ และมีนิสัยรั้นทั้งคู่ ไม่มีใครยอมใคร ในความหมายของพินทุบาทว์  จะเป็นอย่างนี้ตลอดไปหรือค่ะ  หรืออาจจะหย้าร้างหรือเปล่า  หรือแยกทางหรือเปล่าค่ะ  สถิติที่อ.เห็นมา  จะลงเอยอย่างไรค่ะ 
ผู้แสดงความคิดเห็น ผ่านมาค่ะ วันที่ตอบ 2005-10-29 14:23:56 IP : 203.113.71.70


ความคิดเห็นที่ 83 (271598)

ขอบคุณครับคุณเริ่มเรียน(ศิษย์ก้นกุฏิ)  ก็ขอเป็นกำลังใจให้ครับ  พยายามไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็สมหวังเองครับ    หนทางย่อมไม่ไร้สำหรับผู้แสวงหาเสมอ  

ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธา มหาสิทธิโชค วันที่ตอบ 2005-10-28 19:36:22 IP : 203.156.27.23


ความคิดเห็นที่ 82 (271435)

กราบสวัสดีค่ะ  อ. สิทธาฯ

อายมากค่ะ  ที่จะบอกว่ายังเรียนไปไม่ถึงไหนเลย  นี่ถ้ามีสอบคงสอบตกแน่นอน

แล้วจะกลับมาคุยกับอาจารย์อีกนะคะ 

รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

จากศิษย์......เริ่มเรียน

ผู้แสดงความคิดเห็น เริ่มเรียน วันที่ตอบ 2005-10-28 17:23:58 IP : 58.136.204.184


ความคิดเห็นที่ 81 (271296)
ขอบคุณค่ะ
ผู้แสดงความคิดเห็น ผ่านมาค่ะ วันที่ตอบ 2005-10-28 15:26:27 IP : 203.113.71.70


ความคิดเห็นที่ 80 (271293)

                                                             

                           สาธุ....ดีใจครับที่ยังมีคนให้ความสนใจเรื่องพุทธศาสนา  นึกว่ายุคนี้ผู้คนจะหันหลังให้พระและวัดกันหมดแล้ว....

                            

ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธา มหาสิทธิโชค วันที่ตอบ 2005-10-28 15:25:04 IP : 203.156.26.46


ความคิดเห็นที่ 79 (271274)

    ผู้ปฏิบัติก็ฉันนั้น เพราะ ศีล สมาธิ ปัญญา ก็มีอยู่ใน กาย วาจา จิต ของทุกคน ฯ 

ค่ะ    ทุกคนล้วนมี  แต่ รัก โลภ  โกรธ  หลง  ก็มีเยอะในทุกคนด้วยนี้ค่ะ   เรื่องปฎิบัติก็ยังเป็นเรื่องยากอยู่ดี  ซึ่งถ้าจะทำก็ต้องใช้ความพยายามสูง

ผู้แสดงความคิดเห็น ผ่านมาค่ะ วันที่ตอบ 2005-10-28 15:10:38 IP : 203.113.71.70


ความคิดเห็นที่ 78 (271255)
อ่านแล้วรู้สึกดีค่ะ     แต่คงปฎิบัติได้ไม่หมดค่ะ     สัจธรรมทั้ง ๔ คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ยังเป็นกิริยา เพราะแต่ละสัจจะๆ ย่อมมีอาการต้องทำคือ ทุกข์-ต้องกำหนดรู้ สมุทัย-ต้องละ นิโรธ-ต้องทำให้แจ้ง มรรค-ต้องเจริญให้มาก ดังนี้ล้วนเป็นอาการที่จะต้องทำทั้งหมด ถ้าเป็นอาการที่จะต้องทำ ก็ต้องเป็นกิริยาเพราะเหตุนั้นจึงรวมความได้ว่าสัจจะทั้ง ๔ เป็นกิริยา จึงสมกับบาทคาถาข้างต้นนั้น ความว่าสัจจะทั้ง ๔ เป็นเท้าหรือเป็นเครื่องเหยียบก้าวขึ้นไป หรือก้าวขึ้นไป ๔ พักจึงจะเสร็จกิจ ต่อจากนั้นไปจึงเรียกว่า อกิริยา
ผู้แสดงความคิดเห็น ผ่านมาค่ะ วันที่ตอบ 2005-10-28 15:04:06 IP : 203.113.71.70


ความคิดเห็นที่ 77 (271238)

                                       เรื่อง วิธีปฏิบัติของผู้เล่าเรียนมาก 

                                  โดยหลวงปู่มั่น    ภูริทัตโต


           ผู้ที่ได้ศึกษาเล่าเรียนคัมภีร์วินัยมาก มีอุบายมากเป็นปริยายกว้างขวาง ครั้นมาปฏิบัติทางจิต จิตไม่ค่อยจะรวมง่าย ฉะนั้นต้องให้เข้าใจว่าความรู้ที่ได้ศึกษามาแล้วต้องเก็บใส่ตู้ใส่***บไว้เสียก่อน ต้องมาหัดผู้รู้คือจิตนี้ หัดสติให้เป็นมหาสติ หัดปัญญาให้เป็นมหาปัญญา กำหนดรู้เท่ามหาสมมติ-มหานิยม อันเอาออกไปตั้งไว้ว่าอันนั้นเป็นอันนั้น เป็นวันคืนเดือนปี เป็นดินฟ้าอากาศ กลางหาวดาวนักขัตตฤกษ์สารพัดสิ่งทั้งปวง อันเจ้าสังขารคืออาการจิตที่ออกไปตั้งบัญญัติไว้ว่า เขาเป็นนั้นเป็นนี้ จนรู้เท่าแล้ว เรียกว่ากำหนดรู้ทุกข์ สมุทัย เมื่อทำให้มาก-เจริญให้มาก รู้เท่าเอาทันแล้ว จิตก็จะรวมลงได้ เมื่อกำหนดอยู่ก็ชื่อว่าเจริญมรรค หากมรรคพอแล้ว นิโรธก็ไม่ต้องกล่าวถึง หากจะปรากฏชัดแก่ผู้ปฏิบัติเอง เพราะศีลก็มีอยู่ สมาธิก็มีอยู่ ปัญญาก็มีอยู่ในกาย วาจา จิตนี้ ที่เรียกว่า อกาลิโก ของมีอยู่ทุกเมื่อ โอปนยิโก เมื่อผู้ปฏิบัติมาพิจารณาของที่มีอยู่ ปจฺจตฺตํ จึงจะรู้เฉพาะตัว คือมาพิจารณากายอันนี้ให้เป็นของอสุภะ เปื่อยเน่า แตกพังลงไป ตามสภาพความจริงของภูตธาตุ ปุพฺเพสุ ภูเตสุ ธมฺเมสุ ในธรรมอันมีมาแต่เก่าก่อน สวางโร่อยู่ทั้งกลางวันและกลางคืน ผู้มาปฏิบัติพิจารณาพึงรู้อุปมารูปเปรียบดังนี้ อันบุคคลผู้ทำนาก็ต้องทำลงไปในแผ่นดิน ลุยตมลุยโคลนตากแดดกรำฝน จึงจะเห็นข้าวเปลือก ข้าวสาร ข้าวสุกมาได้ และได้บริโภคอิ่มสบาย ก็ล้วนทำมาจากของมีอยู่ทั้งสิ้นฉันใด ผู้ปฏิบัติก็ฉันนั้น เพราะ ศีล สมาธิ ปัญญา ก็มีอยู่ใน กาย วาจา จิต ของทุกคน ฯ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธา มหาสิทธิโชค วันที่ตอบ 2005-10-28 14:57:01 IP : 203.156.26.46


ความคิดเห็นที่ 76 (271222)

 

                    โดยหลวงปู่มั่น  ภูริทัตโต

 อุบายแห่งวิปัสสนา อันเป็นเครื่องถ่ายถอนกิเลส 
             ธรรมชาติของดีทั้งหลาย ย่อมเกิดมาแต่ของไม่ดี อุปมาดั่งดอกปทุมชาติอันสวยๆ งามๆ ก็เกิดขึ้นมาจากโคลนตมอันเป็นของสกปรก ปฏิ***ลน่าเกลียด แต่ว่าดอกบัวนั้น เมื่อขึ้นพ้นโคลนตมแล้วย่อมเป็นสิ่งที่สะอาด เป็นที่ทัดทรงของพระราชา อุปราช อำมาตย์ และเสนาบดี เป็นต้น และดอกบัวนั้นก็มิได้กลับคืนไปยังโคลนตมนั้นอีกเลย ข้อนี้เปรียบเหมือนพระโยคาวจรเจ้า ผู้ประพฤติพากเพียรประโยคพยายาม ย่อมพิจารณาซึ่ง สิ่งสกปรกน่าเกลียดนั้นก็คือตัวเรานี้เอง ร่างกายนี้เป็นที่ประชุมแห่งของโสโครกคือ อุจจาระ ปัสสาวะ (มูตรคูถ) ทั้งปวง สิ่งที่ออกจากผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เป็นต้น ก็เรียกว่า ขี้ ทั้งหมด เช่น ขี้หัว ขี้เล็บ ขี้ฟัน ขี้ไคล เป็นต้น เมื่อสิ่งเหล่านี้ร่วงหล่นลงสู่อาหาร มีแกงกับ เป็นต้น ก็รังเกียจ ต้องเททิ้ง กินไม่ได้ และร่างกายนี้ต้องชำระอยู่เสมอจึงพอเป็นของดูได้ ถ้าหาไม่ก็จะมีกลิ่นเหม็นสาป เข้าใกล้ใครก็ไม่ได้ ของทั้งปวงมีผ้าแพรเครื่องใช้ต่างๆ เมื่ออยู่นอกกายของเราก็เป็นของสะอาดน่าดู แต่เมื่อมาถึงกายนี้แล้วก็กลายเป็นของสกปรกไป เมื่อปล่อยไว้นานๆ เข้าไม่ซักฟอกก็จะเข้าใกล้ใครไม่ได้เลย เพราะเหม็นสาบ ดั่งนี้จึงได้ความว่าร่างกายของเรานี้เป็นเรือนมูตร เรือนคูถ เป็นอสุภะ ของไม่งาม ปฏิ***ลน่าเกลียด เมื่อยังมีชีวิตอยู่ก็เป็นถึงปานนี้ เมื่อชีวิตหาไม่แล้ว ยิ่งจะสกปรกหาอะไรเปรียบเทียบมิได้เลย เพราะฉะนั้นพระโยคาวจรเจ้าทั้งหลายจึงพิจารณาร่างกายอันนี้ให้ชำนิชำนาญด้วย โยนิโสมนสิการ ตั้งแต่ต้นมาทีเดียว คือขณะเมื่อยังเห็นไม่ทันชัดเจนก็พิจารณาส่วนใดส่วนหนึ่งแห่งกายอันเป็นที่สบายแก่จริตจนกระทั่งปรากฏเป็นอุคคหนิมิต คือ ปรากฏส่วนแห่งร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่งแล้วก็กำหนดส่วนนั้นให้มาก เจริญให้มาก ทำให้มาก การเจริญทำให้มากนั้นพึงทราบอย่างนี้ อันชาวนาเขาทำนาเขาก็ทำที่แผ่นดิน ไถที่แผ่นดินดำลงไปในดิน ปีต่อไปเขาก็ทำที่ดินอีกเช่นเคย เข้าไม่ได้ทำในอากาศกลางหาว คงทำแต่ที่ดินอย่างเดียว ข้าวเขาก็ได้เต็มยุ้งเต็มฉางเอง เมื่อทำให้มากในที่ดินนั้นแล้ว ไม่ต้องร้องเรียกว่า ข้าวเอ๋ยข้าว จงมาเต็มยุ้งเน้อ ข้าวก็จะหลั่งไหลมาเอง และจะห้ามว่า เข้าเอ๋ยข้าว จงอย่ามาเต็มยุ้งเต็มฉางเราเน้อ ถ้าทำนาในที่ดินนั้นเองจนสำเร็จแล้ว ข้าวก็มาเต็มยุ้งเต็มฉางเอง ฉันใดก็ดีพระโยคาวจรเจ้าก็ฉันนั้น จงพิจารณากายในที่เคยพิจารณาอันถูกนิสัยหรือที่ปรากฏมาให้เห็นครั้งแรก อย่าละทิ้งเลยเป็นอันขาด การทำให้มากนั้นมิใช่หมายแต่การเดินจงกรมเท่านั้น ให้มีสติหรือพิจารณาในที่ทุกสถานในกาลทุกเมื่อ ยืน เดิน นั่ง นอน กิน ดื่ม ทำ คิด พูด ก็ให้มีสติรอบคอบในกายอยู่เสมอจึงจะชื่อว่า ทำให้มาก เมื่อพิจารณาในร่างกายนั้นจนชัดเจนแล้ว ให้พิจารณาแบ่งส่วนแยกส่วนออกเป็นส่วนๆ ตามโยนิโสมนสิการตลอดจนกระจายออกเป็นธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม และพิจารณาให้เห็นไปตามนั้นจริงๆ อุบายตอนนี้ตามแต่ตนจะใคร่ครวญออกอุบายตามที่ถูกจริตนิสัยของตน แต่อย่าละทิ้งหลักเดิมที่ตนได้รู้ครั้งแรกนั่นเทียว    พระโยคาวจรเจ้าเมื่อพิจารณาในที่นี้ พึงเจริญให้มาก ทำให้มาก อย่าพิจารณาครั้งเดียวแล้วปล่อยทิ้งตั้งครึ่งเดือน ตั้งเดือน ให้พิจารณาก้าวเข้าไป ถอยออกมาเป็น อนุโลม ปฏิโลม คือเข้าไปสงบในจิต แล้วถอยออกมาพิจารณากาย อย่างพิจารณากายอย่างเดียว หรือสงบที่จิตแต่อย่างเดียว พระโยคาวจรเจ้าพิจารณาอย่างนี้ชำนาญแล้ว หรือชำนาญอย่างยิ่งแล้ว คราวนี้แลเป็นส่วนที่จะเป็นเอง คือ จิต ย่อมจะรวมใหญ่ เมื่อรวมพึ่บลง ย่อมปรากฏว่าทุกสิ่งรวมลงเป็นอันเดียวกันคือหมดทั้งโลกย่อมเป็นธาตุทั้งสิ้น นิมิตจะปรากฏขึ้นพร้อมกันว่าโลกนี้ราบเหมือนหน้ากลอง เพราะมีสภาพเป็นอันเดียวกัน ไม่ว่า ป่าไม้ ภูเขา มนุษย์ สัตว์ แม้ที่สุดตัวของเราก็ต้องลบราบเป็นที่สุดอย่างเดียวกันพร้อมกับ ญาณสัมปยุตต์ คือรู้ขึ้นมาพร้อมกัน ในที่นี้ตัดความสนเท่ห์ในใจได้เลย จึงชื่อว่า ยถาภูตญาณทัสสนวิปัสสนา คือทั้งเห็นทั้งรู้ตามความเป็นจริง  ขั้นนี้เป็นเบื้องต้นในอันที่จะดำเนินต่อไป ไม่ใช่ที่สุดอันพระโยคาวจรเจ้าจะพึงเจริญให้มาก ทำให้มาก จึงจะเป็นเพื่อความรู้ยิ่งอีกจนรอบ จนชำนาญเห็นแจ้งชัดว่า สังขารความปรุงแต่งอันเป็นความสมมติว่าโน่นเป็นของของเรา โน่นเป็นเรา เป็นความไม่เที่ยงอาศัยอุปาทานความยึดถือจึงเป็นทุกข์ ก็แลธาตุทั้งหลาย เขาหากมีหากเป็นอยู่อย่างนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา เกิด แก่ เจ็บ ตาย เกิดขึ้นเสื่อมไปอยู่อย่างนี้มาก่อน เราเกิดตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ก็เป็นอยู่อย่างนี้ อาศัยอาการของจิต ของขันธ์ ๕ ได้แก่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณไปปรุงแต่งสำคัญมั่นหมายทุกภพทุกชาติ นับเป็นอเนกชาติเหลือประมาณมาจนถึงปัจจุบันชาติ จึงทำให้จิตหลงอยู่ตามสมมติ ไม่ใช่สมมติมาติดเอาเรา เพราะธรรมชาติทั้งหลายทั้งหมดในโลกนี้ จะเป็นของมีวิญญาณหรือไม่ก็ตาม เมื่อว่าตามความจริงแล้ว เขาหากมีหากเป็น เกิดขึ้นเสื่อมไป มีอยู่อย่างนั้นทีเดียว โดยไม่ต้องสงสัยเลยจึงรู้ขึ้นว่า ปุพฺเพสุ อนนุสฺสุเตสุ ธมฺเมสุ ธรรมดาเหล่านี้ หากมีมาแต่ก่อน ถึงว่าจะไม่ได้ยินได้ฟังมาจากใครก็มีอยู่อย่างนั้นทีเดียว ฉะนั้นในความข้อนี้ พระพุทธเจ้าจึงทรงปฏิญาณพระองค์ว่า เราไม่ได้ฟังมาแต่ใคร มิได้เรียนมาแต่ใครเพราะของเหล่านี้มีอยู่ มีมาแต่ก่อนพระองค์ดังนี้ ได้ความว่าธรรมดาธาตุทั้งหลายย่อมเป็นย่อมมีอยู่อย่างนั้น อาศัยอาการของจิตเข้าไปยึดถือเอาสิ่งทั้งปวงเหล่านั้นมาหลายภพหลายชาติ จึงเป็นเหตุให้อนุสัยครอบงำจิตจนหลงเชื่อไปตาม จึงเป็นเหตุให้ก่อภพก่อชาติด้วยอาการของจิตเข้าไปยึด ฉะนั้นพระโยคาวจรเจ้ามาพิจารณา โดยแยบคายลงไปตามสภาพว่า สพฺเพ สฺงขารา อนิจฺจา สพฺเพ สงฺขารา ทุกฺขา สังขารความเข้าไปปรุงแต่ง คือ อาการของจิตนั่นแลไม่เที่ยง สัตว์โลกเขาเที่ยง คือมีอยู่เป็นอยู่อย่างนั้น ให้พิจารณาโดย อริยสัจจธรรมทั้ง ๔ เป็นเครื่องแก้อาการของจิตให้เห็นแน่แท้โดย ปัจจักขสิทธิ ว่า ตัวอาการของจิตนี้เองมันไม่เที่ยง เป็นทุกข์ จึงหลงตามสังขาร เมื่อเห็นจริงลงไปแล้วก็เป็นเครื่องแก้อาการของจิต จึงปรากฏขึ้นว่า สงฺขารา สสฺสตา นตฺถิ สังขารทั้งหลายที่เที่ยงแท้ไม่มี สังขารเป็นอาการของจิตต่างหาก เปรียบเหมือนพยับแดด ส่วนสัตว์เขาก็อยู่ประจำโลกแต่ไหนแต่ไรมา เมื่อรู้โดยเงื่อน ๒ ประการ คือรู้ว่า สัตว์ก็มีอยู่อย่างนั้น สังขารก็เป็นอาการของจิต เข้าไปสมมติเขาเท่านั้น ฐีติภูตํ จิตตั้งอยู่เดิมไม่มีอาการเป็นผู้หลุดพ้น ได้ความว่า ธรรมดาหรือธรรมทั้งหลายไม่ใช่ตน จะใช่ตนอย่างไร ของเขาหากเกิดมีอย่างนั้น ท่านจึงว่า สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา ธรรมทั้งหลายไม่ใช่ตน ให้พระโยคาวจรเจ้าพึงพิจารณาให้เห็นแจ้งประจักษ์ตามนี้จนทำให้จิตรวมพึ่บลงไป ให้เห็นจริงแจ้งชัดตามนั้น โดย ปัจจักขสิทธิ พร้อมกับ ญาณสัมปยุตต์ รวมทวนกระแสแก้อนุสัยสมมติเป็นวิมุตติ หรือรวมลงฐีติจิต อันเป็นอยู่มีอยู่อย่างนั้นจนแจ้งประจักษ์ในที่นั้นด้วยญาณสัมปยุตต์ว่า ขีณา ชาติ ญาณํ โหติ ดังนี้ ในที่นี้ไม่ใช่สมมติไม่ใช่ของแต่งเอาเดาเอา ไม่ใช่ของอันบุคคลพึงปรารถนาเอาได้ เป็นของที่เกิดเอง เป็นเอง รู้เอง โดยส่วนเดียวเท่านั้น เพราะด้วยการปฏิบัติอันเข้มแข็งไม่ท้อถอย พิจารณาโดยแยบคายด้วยตนเอง จึงจะเป็นขึ้นมาเอง ท่านเปรียบเหมือนต้นไม้ต่างๆ มีต้นข้าวเป็นต้น เมื่อบำรุงรักษาต้นมันให้ดีแล้ว ผลคือรวงข้าวไม่ใช่สิ่งอันบุคคลพึงปรารถนาเอาเลย เป็นขึ้นมาเอง ถ้าแลบุคคลมาปรารถนาเอาแต่รวงข้าว แต่หาได้รักษาต้นข้าวไม่ เป็นผู้เกียจคร้าน จะปรารถนาจนวันตาย รวงข้าวก็จะไม่มีขึ้นมาให้ฉันใด วิมฺตติธรรม ก็ฉันนั้นนั่นแล มิใช่สิ่งอันบุคคลจะพึงปรารถนาเอาได้ คนผู้ปรารถนาวิมุตติธรรมแต่ปฏิบัติไม่ถูกต้องหรือไม่ปฏิบัติมัวเกียจคร้านจนวันตายจะประสบวิมุตติธรรมไม่ได้เลย ด้วยประการฉะนี้

                 กว่าจะเป็นพระอริยบุคคลขึ้นมาได้ต้องเดินตามแนวมหาสติปัฏฐานสี่   มาจนชำนาญ    ซึ่งในคัมภีร์ไม่มีคำอธิบายในทางปฏิบัติไว้อย่างละเอียด   บอกแต่หัวข้อปฏิบัติ    แต่ไม่บอกว่าทำไปแล้วจะไปเจออะไรอย่างไร  ต่อเมือมาอ่านคำอธิบายของหลวงปู่มั่น  ภูริทัตโต   จึงทำให้เข้าใจดียิ่งขึ้นครับ   และอานิสงส์ของการเจริญสติปัฏฐานสี่  โดยเฉพาะการพิจารณากาย(ทางสมาธิภายใน) จนปล่อยวางรูปทั้งปวงไม่ว่าจะภายในและภายนอกเมื่อกำหนดจิตครั้งใดก็ไม่มีนิมิตมาปรากฏเพื่อหลอกลวงจิตอีก  แล้วนั้น  จะเป็นเครื่องบอกมรรคผลของผู้ปฏิบัติท่านนั้นว่าได้บรรลุธรรมขั้นอนาคามีผล  สามารถหยั่งรู้ความรู้สึกนึกคิดของผู้คนได้   คิดอะไรอยู่ในใจก็รู้เหมือนได้ยินเขาพูดออกมาทางปาก   เพราะจิตของท่านละเอียดเข้าสู่ขั้นนามธรรมแล้ว(จิตปุถุชนยึดรูปขันธ์และนามขันธ์จึงรับรู้ได้แต่เรื่องหยาบๆ)  อะไรที่เป็นนามเมื่อมาสัมผัสสัมพันธ์กับจิต   ท่านจึงรู้ได้โดยง่าย    แต่การจะบรรลุขั้นอรหัตผลต้องมาพิจารณานามขันธ์ ๔ ต่ออีกคือ  พิจารณาเวทนา,  สัญญา,  สังขาร, และวิญญาณ  ด้วยบทพระไตรลักษณ์ตามเป็นจริงจนปล่อยวางอาการของจิต(เวทนา,สัญญา,สังขาร,วิญญาณ)ได้ไม่ปรุงแต่งอะไรต่ออีก   เมื่อกระทบอารมณ์ทั้งปวง   นั่นแหละครับจึงถือได้ว่า   "บรรลุอรหัตผล"  ไม่ยิดติดในรูปและนามอีกต่อไป   แต่ถ้าปล่อยวางรูปขันธ์ได้อย่างเดียว   ก็เป็นเพียงแค่อนาคามีผลเท่านั้น  คือ ไม่มีกามราคะและความถือตนแล้ว  แต่ปฏิคะภายในยังมีอยู่   เพราะยังปล่อยวางนามขันธ์ ๔  ไม่ได้   เรื่องเหล่านี้สามารถหาศึกษาได้จาก  http://www.luangpumun.org/muttothai_3.html


 

ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธา มหาสิทธิโชค วันที่ตอบ 2005-10-28 14:44:18 IP : 203.156.26.46


ความคิดเห็นที่ 75 (271181)

เห็นด้วยค่ะ  แต่.....ทำยาก  เพราะปกติ โดยทั่วๆไป หรือคนทั่วๆไป ก็จะคิตถึงความรู้สึกเป็นหลัก เมือคิดหรือต้องการ  อะไร  รางกายจะเป็นตัวสนองตาม ซึ่งหลายครั้งตัวเองก็จะเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน  จะตามใจตัวเอง  และบางทีก็ไม่คำนึงถึงว่าผิดหรือถูก(ตัวเองยังเป็นเลย)  รู้ว่าผิดแต่บางที่ยังทำเพราะตามใจ ความรู้สึก(นานๆครั้งถึงจะเป็น)

หรือ  ถึงจะรู้เยอะ  อ่านเยอะ  เข้าใจเยอะ  แต่ ก็ยังรู้สึก เศร้า  ต้องการได้  ต้องการมี  ดีใจเมื่อสมหวังและ   ทุกข์     เมื่อถึงเวลาความรู้สึกต่างๆก็มีขึ้นอัตโนมัติเลยค่ะ

เรื่องจริงที่ต้องประสบเพราะยังปลงไม่ได้  ถึงจะพยายามแล้ว

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ผ่านมาค่ะ วันที่ตอบ 2005-10-28 13:45:56 IP : 203.113.71.70


ความคิดเห็นที่ 74 (271122)

ดีครับมีธรรมะไว้ประจำใจจะได้ไม่ทุกข์มากเมื่อความทุกข์มาเยือน   คนที่ทุกข์มากเพราะเกิดที่ความคิดตนเองก่อนเป็นหลัก    ถ้าคิดไปทางอกุศลก่อทุกข์เผาไหม้ตนเอง  ถ้าคิดไปทางกุศลก็ชักพาตนเองให้เกิดสัมมาปฏิบัติได้    ดังคำหลวงปู่ดูลย์ที่ว่า  "คิดเท่าไรก็ไม่รู้  ต้องหยุดคิดถึงจะรู้    แต่ก็ต้องอาศัยคิด"     และข้อความหนึ่งที่ชอบมากคือ

จิตที่ส่งออกภายนอกเพื่อรับสนองอารมณ์ทั้งปวง         เป็นสมุทัย(เหตุแห่งทุกข์)

ผลอันเกิดจากจิตที่ส่งออกไปภายนอกแล้วหวั่นไหว       เป็นทุกข์(ทนอยู่ในสภาพไม่ได้)

จิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้งอยู่ภายใน                                เป็นมรรค(วิธีดับทุกข์)

ผลอันเกิดจากจิตเห็นจิตอย่างแจ่มแจ้งแล้ว-

ปล่อยวางอารมณ์ทั้งปวงลงได้                                       เป็นนิโรธ(ความดับทุกข์)

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธา มหาสิทธิโชค วันที่ตอบ 2005-10-28 12:56:43 IP : 203.156.26.46


ความคิดเห็นที่ 73 (271079)
คำสอน......หลวงพ่อดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก ตำบลธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา






พอตื่นเช้ามาขณะล้างหน้า หรือดื่มน้ำให้ว่า "พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมังสรณัง คัจฉามิ สังฆังสรณัง คัจฉามิ" ก่อนจะกินข้าว ก็ให้นึกถวายข้าวพระพุทธ ออกจากบ้านเห็นคนอื่นเขากระทำความดี เป็นต้นว่า ใส่บาตรพระ จูงคนแก่ข้ามถนน ฯลฯ ก็ให้นึก อนุโมทนา กับเขา ผ่านไปเห็นดอกไม้ที่ใส่กระจาดวางขายอยู่ หรือดอกบัวในสระข้างทาง ก็ให้นึกอธิฐานถวายเป็นเครื่องบูชาพระรัตนตรัย โดยว่า " พุทธัสสะ ธัมมัสสะ สังฆัสสะ ปูเชมิ " แล้วต้องไม่ลืมอุทิศบุญให้แม่ค้าขายดอกไม้ หรือรุกขเทวดาที่ดูแลสระบัวนั้นด้วย ตอนเย็นนั่งรถกลับบ้าน เห็นไฟข้างทางก็ให้นึกน้อมบูชาพระรัตนตรัยโดยว่า "โอม อัคคีไฟฟ้า พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา " ก่อนนอนก็นั่งสมาธิ เอนตัวนอนลง ก็ให้นึกคำบริกรรมภาวนาไตรสรณะคมนี้จนหลับ ตื่นขึ้นมาก็บริกรรมภาวนาต่ออีกตลอดวัน นี่คือการตะล่อมจิตให้อยู่แต่ในบุญกุศลตลอดวัน และได้บุญมากกว่าการทำทาน โดยไม่เสียเงินแม้แต่บาทเดียว
ทำบุญไม่เสียเงิน โดย หลวงพ่อดู่ พรหมปัญโญ
 
อ่านแล้วดีขึ้นจึงคัดลอกมาค่ะ
 
ผู้แสดงความคิดเห็น ผ่านมาค่ะ วันที่ตอบ 2005-10-28 12:10:11 IP : 203.113.71.71


ความคิดเห็นที่ 72 (271059)

เมื่อคืนฝันแปลกมากค่ะ  ในฝันมีเขียดกระโดดเกาะหัว  ตกใจมาก สะดุ้งตื่นเลย(ยังงงว่าตื่นจริงหรือฝันว่าตื่น) และฝันต่อว่า พระจีน(ม้าสรงที่มีพระเข้าทรงอยู่) มาจับศีรษะ   ปกติจะกลัวตัวเขียดมากอยู่แล้ว   (สงสัยว่าฝันบอกเลขค่ะ)    อย่างนี้ถือว่าฝันดีใช่ไหมค่ะ

อย่างการดูเลขที่บ้าน  ถ้ามีทั้งดาวดีและไม่ดี  แสดงว่าบ้านนั้นดีครึ่งไม่ดีครึ่งหรือค่ะ  หรือดูว่าดาวนั้นๆเป็นมิตรหรือศัตรูกัน

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ผ่านมาค่ะ วันที่ตอบ 2005-10-28 12:04:02 IP : 203.113.71.71


ความคิดเห็นที่ 71 (270814)
  ยินดีรับใช้ค่ะ(ด้วยความเต็มใจ)   ในเน็ตไม่มีรูปเหมือน ในหนังสือพิมพ์ค่ะ  และสามารถอ่านย้อนหลังได้ค่ะ   และหน.มติชนสุดสัปดาห์ เล่มละ 40 บาทอีกค่ะ  โบค่ะ สายตาสั้นนิดหน่อยค่ะ  ถ้าอ่านในหน. มติชนสุดสัปดาห์เมื่อไหร่ก็ต้องเอามาใกล้ๆตา  และช่วง ปี2544 เพื่อนได้ถ่ายเอกสารไว้ บางฉบับก็ไม่มี   ในเน็ตบางฉบับก็ไม่มีข้อมูลค่ะ   เพราะเข้าไป copy ไว้ทุกฉบับค่ะ(ไม่เปลืองด้วย) เปลืองแต่ค่ะหมึกพรินซ์
ผู้แสดงความคิดเห็น ผ่านมาค่ะ วันที่ตอบ 2005-10-28 10:32:47 IP : 203.113.71.71


ความคิดเห็นที่ 70 (270373)

           ขอบคุณสำหรับ  "คุณผ่านมา"(มีชื่อเล่นมั้ยครับเรียกชื่อนี้ไม่ค่อยเท่เลย)  ที่ได้แนะนำเวปไซท์มติชนสุดสัปดาห์ให้   ปกติผมก็ซื้อทุกอาทิตย์เหมือนกันครับ  ยังตัดบทความของ อาจารย์ ศ.  ดุสิต  เก็บไว้ศึกษาตลอดครับ   พอคุณแนะให้เช่นนี้ยิ่งดีใหญ่จะได้ ขยายตัวอักษรให้ใหญ่ได้ (ตัวหนังสือที่ลงพิมพ์เล็กมาก)  แล้วเก็บไว้อ่านชัดๆภายหลัง

ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธา มหาสิทธิโชค วันที่ตอบ 2005-10-27 21:01:26 IP : 203.156.28.189


ความคิดเห็นที่ 69 (270361)
สวัสดีครับ   คุณเริ่มเรียน  
       
             ที่ผมหายไปหลายวันเพราะเครื่องคอมฯป่วยตอนนี้  ใช้เครื่องใหม่แล้ว   เลยได้มีโอกาสเข้ามาอีกครั้ง  เป็นอย่างไรบ้างครับเรียนไปถึงไหนแล้ว  สงสัยคงจะเก่งขึ้นเยอะแล้วนะครับ   
 
 
ผู้แสดงความคิดเห็น สิทธา มหาสิทธิโชค วันที่ตอบ 2005-10-27 20:55:15 IP : 203.156.28.189





แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.