เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบ แล้วสอบทานกับเจ้าชะตาแล้ว ผู้เขียนก็ทราบว่า แท้จริงแล้วเจ้าชะตาเกิดวันพุธ ฉะนั้นภูมิศรี ก็จะเป็นดาวราหู ภูมิกาลี ก็จะเป็นดาวอังคาร จึงทำให้ดวงชะตานี้ มีความน่าสนใจเพิ่มขึ้น เหตุเพราะว่า ถ้ามองจากดวงทางจักรราศีแล้ว จะเห็นว่า มีดาวจากภูมิศรี ๘ และภูมิกาลี ๓ มาลอย อยู่ที่ราศีสิงห์ ซึ่งเป็น ภูมิอุตสาหะ๑ ฉะนั้นภูมิอุตสาหะ ๑ จะรับเรื่องราวทั้งดี(ศรี) และ ร้าย(กาลี) จากสองดาวด้วยกัน
ศรี ๘ ดาวธาตุลม อยู่ภูมิอุตสาหะ ๑ ราศีสิงห์ ธาตุไฟกรด(ธาตุราศี) มีตำแหน่งเป็นประ
ราหูเป็นดาวธาตุลม แสดงถึงความผันผวนไม่แน่นอน ความพลิ้วไหวของลม ทำให้ไม่หยุดนิ่ง ปรับเปลี่ยนแปรไป ไปตามสภาพแวดล้อม จนกลายเป็นไหวพริบ เล่ห์เหลี่ยม ชั้นเชิง สามารถพลิกผันได้ตลอดเวลา การกระทำสิ่งใดๆ จึงเป็นไปแบบชั่วครู่ ชั่วยาม เมื่อไม่มีสิ่งใดดูแน่นอน ที่แสดงออกมาเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน จึงทำให้ราหู ดูเหมือนการหลอกลวง การหลงเชื่อในสิ่งต่างๆ อย่างง่ายๆ แต่ก็เพราะความเป็นธาตุลม อีกนั่นแหละ ทำให้ราหู ไม่สามารถอยู่กับสิ่งใด ได้นานๆ ก็เปลี่ยนแปรไปตามสภาพการณ์อีก
ราหูเป็นดาวธาตุลม มาผสมกับธาตุไฟในราศีสิงห์ ทำให้เกิดเป็นลมร้อน ความผ่อนคลายหายไปทำให้เกิดความร้อนรนขึ้นมาแทนไม่สามารถนิ่งนอนใจ ปล่อยไปเรื่อยๆ ได้อีกแล้ว ผลักดันให้ต้องทำ ต้องเร่งตัวเอง
มีตำแหน่งเป็นประ ถ้าประ จะหมายถึง ความไม่คงทน ความไม่ต่อเนื่อง ตรงทำให้ความเป็นดาวราหู บางส่วนหายไป แต่เพิ่มเติมด้วยความหมายของดาวอาทิตย์แทน ถ้าจะเป็นความไม่ยี่หระ ไม่สนใจ ก็จะมีความมุ่งมั่น เพิ่มเติม การฉกฉวยโอกาส หรือโชคลาภที่เคยมาอย่างง่ายๆ ก็ต้องกลายเป็นต้องทำ เพื่อนำเป็นที่หนึ่ง ที่เคยปล่อยสบายๆ อะไรก็ได้ กลายมาเป็นถือตัว ถือทิฐิ
ศรี ๘ มาอยู่ภูมิอุตสาหะ ๑ เป็น ส่งผลให้ในเรื่องหน้าที่การงาน หรือภาระที่ต้องรับผิดชอบ ต้องใช้ทั้งชั้นเชิง ไหวพริบ เล่ห์เหลี่ยมต่างๆ ของราหู มาผสมกับความมุ่งมั่น ทะเยอทะยาน เพื่อสร้างสรรค์ ผลงานหรือเพื่อทำงานให้เสร็จลุล่วงไป โดยเบ็ดเสร็จเด็ดขาดและไม่เหมือนใคร
กาลี ๓ ดาวธาตุลมกรด อยู่ภูมิอุตสาหะ ๑ ราศีสิงห์ ธาตุไฟกรด
ดาวอังคาร หมายถึง ความกล้า ความขยัน ความเอาจริงเอาจัง แต่ไม่ใช่ว่า ขยันเกินไป จนทำให้เกิดปัญหา แต่เป็นเพราะว่าความกล้าที่จะทำโดยไม่มีการยับยั้งหรือไตร่ตรอง เป็นตัวบั่นทอนที่ทำให้ความเสียหายต่างๆ เกิดขึ้น หรือเป็นความมุทะลุวู่วาม เพียงเพื่อต้องการ ทำงานนั้นให้เสร็จ หรือให้บรรลุเป้าหมายที่ต้องการ
ดาวอังคาร ธาตุลมกรด ผสมธาตุไฟในราศีสิงห์ เกิดเป็นพลังผลักดันให้ ทำอะไรแบบไม่กลัวเกรง กล้าได้ กล้าเสีย กล้าตัดสินใจ รวดเร็วและฉับไว เกิดความโมโห และโทสะได้ง่ายๆ จนกลายเป็นการใช้กำลัง ในการตัดสินปัญหา
ความกล้าของดาวอังคาร บวกกับความทะเยอทะยานของดาวอาทิตย์ ทำให้ไม่ฟังเสียงใคร หักได้เป็นหัก ถ้าเป็นการแข่งขัน แม้ต้องเหนื่อย ต้องลำบาก จะยากเพียงไหน ก็จะไม่ละทิ้งโอกาส ที่จะช่วงชิงสิ่งนั้นมาให้ได้
กาลี ๓ มาอยู่ภูมิ อุตสาหะ ๑ ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรค หรือปัญหาต่างๆ ที่ต้องใช้ การต่อสู้แข่งขันกันอย่างรุนแรง ต้องวิ่งเต้น จนอยู่ไม่เป็นสุข การกระทำแบบเร่งรีบ ไม่เรียบร้อย เป็นตัวบั่นทอนทำให้เกิดความเสียหายในกิจการงาน โดยเฉพาะภาระหน้าที่ ที่เป็นงานหลักสำคัญ
อุตสาหะ ๑ ดาวธาตุไฟกรด อยู่ภูมิบริวาร ๔ ราศีมิถุน ธาตุลมอ่อน มีตำแหน่งเป็นราชาโชค
ดาวอาทิตย์เป็นดาวธาตุไฟ ความร้อนของไฟ ส่งเสริมให้เกิดความกระตือรือร้น ความทะยานอยาก ไม่หยุดนิ่งที่จะเสาะแสวงหางานหรือภาระต่างๆ ทำไมผู้เขียนถึงใช้คำว่า แสวงหา เพราะว่า คนเราจะโดดเด่นไม่ได้ ถ้าไม่มีอะไรทำ ไม่สามารถเป็นผู้นำใครได้ ถ้าไม่มีงาน ส่วนภารกิจหน้าที่ การงาน ของเจ้าชะตานั้น ส่วนใหญ่จะเป็นหัวหน้า เป็นผู้นำกลุ่ม หรือการเริ่มโครงการสร้างสรรค์งานใหม่ๆ เป็นลักษณะการสั่งการ เพื่อสร้างงานให้เด่น เป็นเลิศ
ดาวอาทิตย์ธาตุไฟ มาอยู่ในราศีมิถุน ธาตุลม แต่ธาตุลมของราศีนี้ เป็นธาตุลมปลายธาตุ เป็นลมอ่อน ฉะนั้นลมนี้ไม่ได้ทำลาย แต่กลับเป็นเหมือนการพัดให้ไฟกระพือยิ่งขึ้น ให้โชติช่วง ให้สว่าง กระจ่างอยู่อย่างนั้น
แต่ความเป็นธาตุลม ก็คงส่งผลให้เกิดความผันผวนอยู่ ทำให้สถานภาพหรือตำแหน่งที่มีนั้น ไม่มั่นคง ตรงนี้ เมื่อสถานการณ์รอบด้าน เกิดความผันผวนรวนเร ก็ทำให้ต้องเร่งสร้างสรรค์ผลงาน เป็นโอกาสได้แสดงฝีมือให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ เพื่อให้ได้รับการยอมรับ และการยกย่อง จากผู้แวดล้อมหรือคนรอบข้าง
ดาวอาทิตย์ มีตำแหน่งเป็นราชาโชค แสดงถึงความนิยมชมชอบ ได้รับเกียรติ หรือได้รับการยกย่องจากคนทั่วไป ทำสิ่งใดก็ได้เป็นที่เชิดหน้าชูตา เพราะมีคุณสมบัติโดดเด่นสมเป็นผู้นำ ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งโดยเห็นพ้องต้องกันว่าเหมาะสม ทำอะไรก็เป็นที่น่าสนใจ เรียกได้ว่า เข้าตากรรมการ
อุตสาหะ ๑ มาอยู่ภูมิบริวาร ๔ ดาวพุธ ซึ่งหมายถึงการเจรจา ติดต่อสื่อสาร ในเรื่องภารกิจการงาน ที่เจ้าชะตาได้ทำนั้น จะเป็นที่กล่าวขวัญถึง และได้รับยกย่องจากคนทั่วไป ยิ่งมีการพูดถึงมากเท่าไร ชื่อเสียงก็จะยิ่งขจรไกลเท่านั้น
จากที่อ่านผ่านมาทั้งหมด สรุปได้ว่า ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับภาระหน้าที่ หรือกิจการงานต่างๆ แล้ว เจ้าชะตา ต้องใช้ความสามารถทุกรูปแบบ ไม่ว่า จะเป็นการใช้ไหวพริบ ชั้นเชิง เล่ห์เหลี่ยม หรือการหักโค่น เพื่อให้งานนั้นสำเร็จจนเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไปสามารถขึ้นเป็นใหญ่ จนได้รับการยอมรับนับถือ แต่ก็มักจะมีเรื่องเสียหาย เรื่องวุ่นวายต่างๆ เป็นตัวทำลายไม่ให้สำเร็จไปได้ด้วยดี เช่นกัน
เจ้าชะตาบอกว่า เมื่อก่อนก็ถือว่าใหญ่ในกลุ่มนักเลงพอสมควร เคยเป็นลูกพี่ มีลูกน้องเป็นนักเลงหัวไม้ ไปจนกระทั่งถึงมือปืนรับจ้าง แต่ปัจจุบันแต่งงานแล้ว มีครอบครัวที่สมบูรณ์ ทำธุรกิจส่วนตัวและเป็น สจ. ประจำจังหวัดแห่งหนึ่ง
ถ้าท่านผู้อ่านสงสัย ว่าในการพยากรณ์นั้น ก็สั้นนิดเดียวแล้วทำไมต้องอ่านหรือตีความหมายให้มาก และยืดยาวขนาดนั้น ก็คงเหมือนการปรุงอาหารชั้นดีนั้น ต้องมีกรรมวิธีหลายขั้นตอนกว่าจะได้อาหารชั้นเลิศ เพื่อมารับประทานเพียงไม่กี่นาที ดวงชะตาก็เช่นกัน มีความละเอียดซับซ้อนมากมาย ไม่สามารถมักง่าย ทายแบบ อาหารกึ่งสำเร็จรูปได้ ก็จริงอยู่ที่ว่า บางทีแค่ต้องการคำตอบว่า ดีหรือเสียเท่านั้น แต่ ที่บอกว่าดีนั้น มีคำว่า สมน้ำหน้าต่อท้ายหรือเปล่า และที่บอกว่าเสียนั้น มีต่อท้ายในใจว่า ซะเมื่อไหร่ หรือเปล่า เพราะคำพูดบางคำ ไม่จำเป็นต้องหาคำอธิบาย เช่นลาไปศึกษา หรือว่าลาไปบวช เราก็คงตอบได้ว่าดี ผู้ที่มาลานั้นคงไม่สงสัยแล้วย้อนถามกลับว่า ดีอย่างไร เพราะคำพูดบางอย่างนั้น ไม่ต้องการคำอธิบายต่อ แต่บางอย่างนั้นไม่ใช่
เจ้าชะตาถามว่า มีโอกาสก้าวหน้าสูงไปกว่านี้ไหม ผู้เขียนก็มองแล้วว่า ถ้าด้วยความสามารถของตัวเองแล้ว เจ้าชะตาน่าจะได้ขึ้นสูงมากกว่านี้ แต่ด้วยความหมายของอุตสาหะที่เป็นดาวอาทิตย์ นั้น เป็นเพียงแค่ภาระหน้าที่ ถึงแม้จะได้รับมอบหมาย ได้ทำงานสำคัญ หรือทำงานเก่งจนเป็นที่ยอมรับ แต่ความเจริญก้าวหน้าในเรื่องตำแหน่งหน้าที่นั้น ต้องดูกันที่ภูมิเดช
เดชเป็นดาวพฤหัส มีตำแหน่งเป็นนิจ อยู่ในภูมิอายุดาวเสาร์ มีตำแหน่งเป็นเกษตร ผู้เขียนจึงตอบไปว่า น่าจะยากแล้ว ที่ว่ายากนั้น ท่านผู้อ่านทราบไหม ว่าเพราะอะไร
ถ้าจะมองแค่ว่า เพราะเดช เป็นดาวพฤหัส ก็ได้ แต่ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่ง ในฐานที่ พฤหัสเป็นดาวธาตุดินแข็งไปอยู่ราศีมังกร ธาตุดินแข็ง ทำให้เกิดความล่าช้า ติดชะงัก ไม่ขยับเขยื้อน ตำแหน่งหน้าที่ ไม่สามารถเดินรุดหน้าได้อย่างรวดเร็ว ตามความสามารถในการทำงานแต่ปัญหาไม่ใช่เพราะว่า ดาวพฤหัสมีตำแหน่งเป็นนิจ แต่ติดตรงที่มีภูมิอายุ เป็นดาวเสาร์ มีตำแหน่งเป็นเกษตรต่างหาก ที่เป็นส่วนสำคัญ
เพราะว่า ดาวเสาร์เป็นภูมิอายุ ถึงแม้ว่าจะเป็นวิถีทางการดำเนินชีวิต รวมถึงความรู้สึกนึกคิด ของเจ้าชะตา แต่ก็ไม่ใช่เป็นสิ่งที่เจ้าชะตาต้องทำ หรืออยากจะทำ เพราะการกระทำต่างๆ จะแยกเป็นไปตามความหมายภูมิ อยู่แล้ว มาดูกันต่อว่า ดาวเสาร์นั้นทำร้ายเจ้าชะตาอย่างไรบ้าง
อายุ ๗ ดาวธาตุไฟสุมขอน อยู่ราศีมังกร ธาตุดินแข็ง มีตำแหน่งเป็นเกษตร
ภูมิอายุ เป็นดาวเสาร์ เป็นดาวธาตุไฟสุมขอน เป็นความร้อนที่ครุกรุ่นอยู่ภายใน ร้อนรนข้างในดั่งไฟสุมทรวง ความร้อนของดาวเสาร์นี้ไม่แรงพอที่จะกระตุ้นให้เกิดความทะเยอทะยาน ได้ดั่งไฟ ของดาวอาทิตย์ แต่เป็นไฟที่กระตุ้นให้เกิดความคิด ความวิตกกังวล ร้อนรน จนไม่สามารถผลักดันให้วิถีชีวิตดำเนินก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว
ดาวเสาร์เป็นเกษตร ความหมายของเกษตร ส่วนใหญ่จะรู้กันดีอยู่แล้วว่า จะหมายถึง ความมั่นคง ความสมบูรณ์ ความคงทน ถาวร ฯลฯ ความเป็นเกษตรนั้น เป็นตัวดาวที่ได้ตำแหน่ง ไม่ใช่เรือน ถึงแม้ว่าจะเป็นเพราะเรือนที่ทำให้ดาวได้ตำแหน่งก็ตาม เหมือนการประกวดต่างๆ แม้จะมีสถานที่ มีคนจัดงานประกวด แต่ก็ต้องมีผู้ที่ได้รับรางวัล หรือได้รับตำแหน่งนั้น เช่นเดียวกับดาวเสาร์ดวงนี้ ได้ตำแหน่งเกษตร ไม่ว่าจะใช้ ความสมบูรณ์ หรือความมั่งคง ก็ตามทีนั้น ก็หมายถึงว่า ไม่ว่าจะเป็นความทุกข์ ความเครียด ความวิตกกังวล ความอดทน และความหมายอื่นๆ ของดาวเสาร์นั้น จะคงสภาพสมบูรณ์อยู่อย่างนั้น ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ถ้าเป็นเรื่องความทุกข์ ก็จะทุกข์ไปตลอด ถ้าเป็นเรื่องความอดทนก็จะมีน้ำอดน้ำทนเป็นเลิศ ถ้าเป็นการฝึกฝน ก็จะหมั่นทบทวนทำต่อสิ่งนั้นจนเกิดความชำนาญ
เมื่อดาวเสาร์เป็นเกษตร จะดำเนินชีวิตแบบย้ำคิดย้ำทำ ไม่ว่าจะเป็นการทำเพื่อให้เกิดความชำนาญ หรือ ทำเพราะยึดติดอยู่กับสิ่งเหล่านั้นก็ตาม จนก่อให้เกิดความเครียด สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้น แม้ว่าวันเวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน ก็ยังไม่ลืมเลือน โดยเฉพาะสิ่งที่เป็นความเศร้า ความทุกข์ โดยไม่สามารถตัดให้หลุดพ้นไปจากจิตใจได้
ถึงแม้ว่าไฟของเสาร์ จะไม่สามารถเผาผลาญจนมอดไหม้ หรือทำลายให้พินาศไปในพริบตา แต่จะเป็นเป็นสิ่งที่คอยกัดกร่อนชีวิตของเจ้าชะตาแบบยืดเยื้อและเรื้อรัง
ดาวเสาร์อยู่ในราศีธาตุดินมังกร เป็นดินแข็ง ถ้าเป็นการดำเนินชีวิต ก็จะเป็นการกระทำแบบซ้ำๆ ซากๆ ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง มีโลกส่วนตัวสูง หวงแหนสิ่งที่เก็บสะสมและรักษาไว้ มีความจำดี แม้จะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นผ่านวันเวลามานานแล้ว ถ้าเป็นความทุกข์ ก็จะสะสมความทุกข์เหล่านั้นไว้ จนมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นการฝังรากลึก ไม่สามารถลืมเลือนได้ แต่สิ่งต่างๆเหล่านั้น ก็เหมือนเป็นสิ่งที่เสริมสร้างให้เกิดความเข้มแข็ง ทำให้อดทน เพื่อฝึกฝนตัวเอง ทำให้สามารถรอคอยโอกาส รอเวลา รอสิ่งที่จะได้มา ได้อย่างไม่มีกำหนด
ดาวเสาร์ตัวนี้ ทำให้เจ้าชะตารู้สึกเป็นทุกข์และวิตกกังวลตลอด ไม่ว่าสิ่งใดที่ได้มา ไม่ได้สร้างความสุขให้กับตัวเองเลย กลับจะเหมือนยิ่งสร้างภาระหนักให้กับการดำเนินชีวิตมากกว่า
ผู้เขียนได้บอกกับเจ้าชะตาไปว่า โอกาสมี ทางมีให้อยู่เสมอ เพียงแต่ว่า ภายในใจไม่อยากได้ ไม่มีความสุข ในการที่ต้องฝ่าฟัน เพื่อแลกกับสิ่งนั้นมาอีกแล้วต่างหาก เจ้าชะตายอมรับโดยดุษฎีว่า ตัวเขาเองนั้น ไม่อยากต้องต่อสู้ฝ่าฟัน และทำร้ายใครอีก ตอนนี้เพียงแต่ทำหน้าที่ ที่มีอยู่ให้ดีที่สุดแค่นั้นเอง
จากทั้งหมดที่ผ่านมา ถือว่าเป็นการพยากรณ์ที่ค่อนข้างสมบูรณ์ ในการที่จะพยากรณ์ดวงชะตา แต่ก็ยังมีภูมิอื่น ที่มีความสำคัญ ที่ต้องนำมาร่วมประกอบในการพิจารณาอีก ตรงนี้ ผู้เขียนจะยังคงใช้ความหมายง่ายๆของดาว ที่นิยมใช้กันทั่วไปไปก่อน แต่จะเน้นถึงความเข้าใจในการใช้ความหมายของธาตุ และตำแหน่งดาว ว่าส่งผลอย่างไร ในดวงชะตา เป็นการพิจารณาโดยละเอียด โดยใช้วิชาทักษาเป็นหลัก และใช้ดวงจักรราศี ประกอบ เพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาต่อว่า การใช้วิชาให้ครบนั้นเป็นอย่างไร
วิชาดี วิชาที่มีคุณค่า นั้นยากเกินกว่า ระดับสติปัญญาธรรมดาสามัญจะรู้และเข้าใจได้ แต่ก็ใช่ว่าจะเรียนรู้ไม่ได้ เพียงแต่ต้องอาศัยความเพียรพยายามในการเข้าให้ถึงตัววิชา ไม่ใช่มองว่า มีแค่เปลือก โดยไม่เลือกมองที่ลึกลงไปกว่านี้
บางท่านที่รู้ว่า วิชาดีนั้นมีจริง แต่แต่สู้นิ่งเฉยไว้จะดีกว่า เพราะไม่รู้ว่าจะพูดไปทำไม พูดไปให้ใครๆ เขาเกลียดปาก ก็ลำบากกับตัวเองอีก เพราะการที่จะเอาน้ำสะอาด ไปสาดกับน้ำโคลนนั้น รังแต่จะทำให้สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ อาจจะเป็นเพราะว่าเบื่อ กับคนที่มักง่าย เที่ยวเก็บเปลือกวิชาของใครต่อใครไปทั่ว แล้วก็มามั่วเป็นวิชาของตัวเอง
ครั้นจะให้ เพราะเห็นว่า ได้เผยแพร่ แต่ผู้ที่นำไปจะมีสติปัญญาเรียนรู้ได้ โดยไม่ถามไถ่ นั้นมันก็ยากเต็ม ดีไม่ดี อ่านเพียงไม่กี่หน้า ก็ล้าแล้ว ครั้นจะไม่ให้ ก็จะมีคำพูดที่ดูดีมากมาย มาว่าให้ เหมือนคล้ายๆ ไม่มีเมตตา ใจแคบ ไม่ยอมแจกจ่ายให้กับคนที่สนใจ แล้วแบบนี้วิชาจะพัฒนาไปได้อย่างไร ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นสิ่งใด ถ้าผู้มอบ มอบให้ด้วยใจ และมอบให้กับบุคคลที่รักในสิ่งนั้น เขาก็จะเห็นคุณค่าและความสำคัญของสิ่งนั้นเอง
ถ้าคำพูดของผู้เขียนคำใดอ่านแล้วดูไม่เหมาะสม ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า ผู้เขียนไม่ใช่นักภาษา หรือนักอักษร ไม่สามารถหาคำที่สวยหรูหรือดูดี ได้มาก เพียงแต่ต้องการสื่อความหมายเพื่อให้ท่านผู้อ่านเข้าใจได้ จากคำพูดที่ง่ายและสั้นที่สุด ถ้าท่านผู้อ่านเข้าใจถึงเจตนา ที่ผู้เขียนอยากสื่อสาร ถึงความต้องการให้เข้าใจ ในตัววิชา เพราะผู้เขียนมีหน้าเพียงเพื่อรักษา ให้ตัววิชาคงอยู่ และให้ท่านผู้อ่านได้ศึกษาได้เรียนรู้ดวงชะตา เพื่อนำไปใช้กับแผนที่ชีวิตเพื่อบอกทาง โดยที่ไม่ต้องไปจ้างวานผู้อื่นบอก หรือหลอกให้/.