รู้ไหมว่าทำไม เพราะเหตุไร ในวิชาทักษานี้ มีภูมิต่างๆ โดยมีดาววันเกิดเป็นตัวกำหนด แต่พอเวลาทำนาย ทายทักกัน เหลือแต่ภูมิ
ดาวหายขึ้นไปบนท้องฟ้าไปกันหมด ความหมายดาวที่ศึกษามาพร้อมๆ กับความหมายภูมิของทักษานั้นขาดหายไป แทบจะไม่มีใครนำมาร่วมอ่านเพื่อขยายความเลย จึงทำให้เกิดจุดตันในตัววิชา แต่บางคนก็ไม่ละความพยายามที่จะหาทางพัฒนาในการพยากรณ์ของตัวเอง โดยการหันไปหาสายวิชาอื่นเข้ามาร่วม โดยคิดว่ามันน่าจะใช้ร่วมกันได้ โดยลืมคิดไปถึงความเหมาะสม เป็นคนไทย นุ่งชุดไทย ใส่เกี๊ยะ แล้วโพกผ้า ก็คงจะน่าดูไม่น้อยเลยทีเดียว
ไม่แปลกเลยใช่ไหม ที่วิชาทักษา จะเป็นวิชายอดนิยมของนักพยากรณ์ทั่วไป เพราะไม่ว่าจะแยกไปทายในสายวิชาไหน สุดท้ายก็ ปิดด้วยไม้ตาย คือ ทักษา เหมือนกับว่าตัววิชาที่ศึกษาในการพยากรณ์กันอยู่นั้น ไม่สมบูรณ์แบบ เลยทำให้ต้องศึกษาหลายๆ วิชา เพื่อนำมาพยากรณ์ แล้วดวงชะตาหนึ่งดวง ต้องจะต้องใช้กี่วิชามาผสม จึงจะได้คำตอบที่ต้องการ หรือเพื่อให้เข้ากับเหตุการณ์
ส่วนวิชาทักษาเองนั้น สามารถใช้ในการพยากรณ์ดวงได้ละเอียดเช่นกัน โดยการนำดวงจักรราศีเข้าประกอบในการอ่านดวงทักษา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่า เจ้าชะตาไม่รู้เวลาเกิดที่แน่นอน เมื่อผูกดวงทางจักรราศีแล้วไม่สามารถหาลัคนาได้ จึงต้องใช้ทักษาเพื่อพยากรณ์ โดยใช้ดวงจักรราศีประกอบ เพื่อให้ได้รายละเอียดของดวงชะตา เมื่อดวงจักรราศีเป็นเพียงแค่ส่วนประกอบ ฉะนั้นจึงใช้ความหมายภูมิเป็นหลักในการอ่าน และใช้การอ่านตัดผลแค่สองจังหวะ เท่านั้น
ส่วนความหมายดาว กับความหมายภูมิ ต่าง ๆ นั้น สำหรับผู้ที่ศึกษาสายการพยากรณ์ ก็คงจะพอรู้มาบ้างแล้ว และสามารถหาได้จากตำราพื้นฐาน ทั่วๆ ไป เพราะมีการนำมาคัดลอกต่อๆ กันมานั้นมีไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ถึงกระนั้น ความหมายต่างๆ ก็มีมากมายจนไม่รู้ว่าจะเอาความหมายไหนมาแปลดี ในที่นี้ ผู้เขียนจึงใช้ความหมายที่ผู้เขียนได้รับการถ่ายทอดมา ในสายวิชาของสำนัก แต่เพียงอย่างเดียว และใช้ความหมายเพียงไม่กี่ความหมายในการตีความของเรื่องราวก่อน
ตัวอย่าง ดวงชาย เกิดวันอังคาร 20/12/2509 เมื่อได้วัน เดือน ปีเกิดมาแล้ว ก็นำมาเข้าภูมิทักษา และผูกดวงจักรราศีเพื่อดูตำแหน่งดาวต่างๆ ดังตัวอย่างนี้
เมื่อได้รูปดวงทักษา และดวงจักรราศี โดยไม่มีลัคนา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็มาเริ่มพิจารณากัน จากพื้นดวงชะตา เพื่อดู โครงสร้างหลัก และองค์ประกอบรวมทั้งหมดของเจ้าชะตา ว่ามีดี มีเสียเรื่องใดบ้าง และแนวโน้มวิถีชีวิตเป็นอย่างไร
ดวงนี้ เป็นดวงชาย เป้าหมายหลักส่วนใหญ่ของผู้ชายจะเน้นไปที่เรื่องงานเป็นอันดับแรก มาดูกันที่ภูมิอุตสาหะ ซึ่งหมายถึง การงานและภาระหน้าที่ ที่ต้องรับผิดชอบ ซึ่งมีดาวศุกร์ ๖ ประจำอยู่ภูมินั้น ซึ่งหมายถึง ความสุข ความพึงพอใจ ความสะดวกสบาย ฯลฯ จะตีความอย่างง่ายๆ ในอันดับแรกก็คือ หน้าที่การงานนั้น โดยทั่วไปแล้ว เป็นงานที่ค่อนข้างสบาย เป็นงานที่เจ้าชะตาทำแล้วมีความสุข หรือพอใจที่จะทำ ก็ได้
นี่คือความหมายโดยรวมของภูมิ อุตสาหะ ที่เป็นดาวศุกร์ โดยการอ่านจากความหมายภูมิและดาวดวงเดียว แต่ใช่ว่าอ่านแค่ดาวแค่ดวงเดียวแล้วจะพยากรณ์ดวงชะตาได้ เพราะตรงนี้ เป็นแค่พื้นฐานโดยทั่วๆ ไปของคนเกิดวันอังคารแต่เพียงอย่างเดียว จึงเป็นเพียงวัตถุดิบที่จะต้องหาข้อมูลต่อไปจากดวงจักรราศี
จะเห็นว่า ดาวศุกร์ ๖ ไปลอยอยู่ที่ราศีธนูในดวงจักรราศี เป็นเรือนของดาวพฤหัส ๕ เมื่อมาดูในภูมิทักษาจะเห็นว่าดาวพฤหัสเป็นภูมิศรี เมื่ออ่านความหมายของ อุตสาหะ ๖ ไปแล้ว ก็มาอ่านที่ความหมายของ ศรี ๕ กันต่อ
ศรี คือ ความเป็นมงคล ความดีงาม ความสำเร็จ ผลประโยชน์ต่างๆ
ดาวพฤหัส คือ ความคิด สติปัญญา การศึกษา ความรู้ กฎระเบียบ ฯลฯ
- ในเรื่องผลประโยชน์หรือความสำเร็จนั้น เกิดจากการที่ใช้วิชาความรู้ ความคิด หรือสติปัญญา
เมื่อ อุตสาหะ ๖ ไปอยู่ภูมิศรี ๕ ก็จะหมายถึงว่า การงานของเจ้าชะตานั้น มีโอกาสประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน ตามความหมายภูมิ เมื่อมาดูความหมายของดาวแล้ว จะเห็นว่า ถึงแม้ว่างานที่เจ้าชะตาทำนั้น จะเป็นงานง่ายๆ ที่ไม่ยากลำบากนัก หรือเป็นงานที่เจ้าชะตาพอใจที่จะก็ตาม แต่กว่าจะทำให้ประสบความสำเร็จได้ ก็ต้องรู้จักการระดมความคิดและสติปัญญา โดยการศึกษาหาความรู้ หรือข้อมูลต่างๆ เพื่อให้งานนั้นดำเนินไปตามกรอบ ตามกฎระเบียบต่างๆ ที่วางไว้ โดยไม่ปล่อยปละละเลย และถ้ายิ่งเป็นงานที่เจ้าชะตาชอบมากก็จะยิ่งใส่ใจมากขึ้นเป็นพิเศษอีกด้วย
ถึงแม้ว่า ภูมิจะบอกว่า สำเร็จ แต่ดาวจะเป็นตัวกำหนดการกระทำ ว่าต้องทำแบบไหนจึงจะประสบผลสำเร็จ (ภูมิบอกเรื่องราว ดาวบอกการแสดง)
สำหรับเรื่องธาตุของดวงดาวก็สามารถนำมาอ่านร่วมได้อีก เพื่อให้รู้ถึงสภาวะ หรือสถานการณ์ อย่างตัวอย่างนี้ เมื่อดาวศุกร์ ๖ เป็นดาวธาตุน้ำ ให้ความรู้สึกถึงความชุ่มชื่น เย็นฉ่ำ มาอยู่ในราศีธนู เป็นราศีธาตุไฟ ถึงแม้จะเป็นไฟปลายธาตุ ความร้อนไม่แรงมากนัก แต่ก็สามารถทำให้น้ำ เกิดความระอุ ขึ้นมาได้จนกลายเป็นน้ำร้อน จากน้ำเย็นกลายเป็นน้ำร้อน ความสุข ความสบาย ที่เคยมีจากการทำงาน กลับเกิดความรุ่มร้อน ร้อนรน ต้องเร่ง ต้องรีบ ขึ้นมา ไม่สามารถนิ่งนอนใจ ปล่อยไปเรื่อยๆ ได้อีก เพราะอะไร ก็เพราะว่า...ต้องให้ประสบผลของความสำเร็จ นั่นเอง
นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่เคยผ่านการเรียนดวงจักรราศีมาบ้าง จะรู้ว่า ดาวศุกร์ที่อยู่ราศีธนูนี้ มีตำแหน่งเป็นมหาจักรด้วย โดยทั่วไป ความหมายของคำว่า มหาจักร จะหมายถึง ความโลดโผน ความพลิกแพลง พลิกผัน พิสดาร เรียกได้ว่า ต้องยากลำบาก ต้องต่อสู้กันสุดๆ
แต่ในที่นี้ จะใช้นิสัยดาวเป็นหลัก เพราะว่า การต่อสู้ หรือความยากลำบากของแต่ละดาว ก็ไม่เท่ากัน จากตัวอย่าง เป็นดาวศุกร์๖ ซึ่งเป็นดาวของความสะดวกสบายอยู่แล้ว ต่อให้ลำบากแค่ไหน ก็ยังดูว่าสบายกว่าดาวบางดวงอยู่ดี
ดาวศุกร์ ๖ ตัวนี้ที่ได้ตำแหน่งมหาจักร ก็เพราะว่า จากความเป็นดาวศุกร์ ที่เคยสบายๆ ง่ายๆ เรื่อยๆ เฉื่อยรู้จักการปรับตัว มีการเรียนรู้ ศึกษาเพิ่มเติม หรือจะพลิกแพลง ยังไงก็ได้ ให้เข้ากับกรอบกับกฎระเบียบต่างๆ ของดาวพฤหัส ๕ ฉะนั้น พอเป็นเรื่องงาน ก็สามารถทำให้งานง่ายๆ กลายเป็นดูดี มีคุณภาพ ขึ้นมา
เรื่องธาตุ และตำแหน่งดาวต่างๆ ตามดวงจักรราศี ผู้เขียนจะขอผ่านไปก่อน เพียงแค่ยกตัวอย่างประกอบให้ดูเท่านั้น เพราะตรงนี้เป็นแค่ พื้นฐาน เบื้องต้น เพราะสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกหัดพื้นฐานใหม่ แล้วนำไปใช้พยากรณ์ได้นั้น ควรฝึกผสมความหมายของภูมิกับความหมายดาว ให้เข้ากันได้เป็นเรื่องราวเสียก่อนที่จะนำส่วนอื่นๆ มาประกอบ
ในการพยากรณ์จริงนั้น จะใช้เวลาไม่นานนัก คำพยากรณ์ต้องสั้น กระชับ และได้ใจความ จึงจำเป็นต้องแปลความหมายต่างๆ ของแต่ละเรื่องออกให้ละเอียดเสีย แล้วจึงสรุปเป็นคำพยากรณ์ออกมา ในการพยากรณ์ให้กับผู้มารับคำพยากรณ์นั้น มิควรใช้ภาษาโหร เข้าร่วม เพราะว่า สำหรับผู้ที่ไม่ได้รับการศึกษาแล้ว จะเกิดความไม่เข้าใจ แล้วอาจจะตีความหมายไปในทางที่ผิดก็ได้
ถ้าจะดูเรื่องบริวาร ซึ่งหมายถึง ผู้แวดล้อม ทั้งหมด รวมถึง ภรรยา ของเจ้าชะตาด้วย ดาวอังคารที่ประจำอยู่ภูมินั้น จะหมายถึง ความกล้า ความขยันขันแข็ง เอาจริงเอาจัง ความบุ่มบ่าม หุนหันพลันแล่น โทสะแรง ฯลฯ ก็จะหมายถึงว่า ผู้แวดล้อมของเจ้าชะตานั้น ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นขยันขันแข็ง เอาจริงเอาจัง กล้ากระทำในสิ่งต่าง แต่มักจะค่อนข้างบุ่มบ่าม หุนหันพลันแล่น และมีโทสะแรง
ดาวอังคารไปอยู่ ที่ราศีกันย์ เป็นเรือนดาวพุธ ซึ่งเป็นดาวอายุ ตามภูมิทักษา
อายุ หมายถึง วิถีการดำเนินชีวิต ความรู้สึกนึกคิด
ดาวพุธ หมายถึง การพูด การติดต่อ สื่อสาร ไหวพริบ ปฏิภาณ จะหมายความว่า
- เจ้าชะตาจะเป็นคนมีไหวพริบปฏิภาณดี รู้จักการเจรจาในการติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น
เมื่อ บริวาร ๓ ไปอยู่ภูมิอายุ ๔ หมายถึงว่า ผู้แวดล้อมของเจ้าชะตาทั้งหมด รวมถึงตัวภรรยาเจ้าชะตาด้วย จะเข้ามามีบทบาทหรือความสำคัญอย่างมากในการดำเนินชีวิตของเจ้าชะตา เพราะพวกเขาเหล่านั้น จะเป็นคนขยัน เอาจริงเอาจัง พร้อมที่จะเข้ามาทำสิ่งต่างๆ ให้ ไม่ว่าจะเป็นการพูด การสั่ง คำขอร้องของเจ้าชะตา เหตุเพราะว่า เจ้าชะตานั้น รู้จักการพูดเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์เป็นอย่างดี ถ้าเจ้าชะตาทำงานเป็นหัวหน้า ก็จะมีลูกน้องหรือมีบริวาร เข้ามาเสนอตัวคอยช่วยเหลือเจ้าชะตาตลอด เรียกได้ว่า มีคนไปมาหาสู่ไม่ขาดสาย
แต่เจ้าชะตาก็จะต้องทนกับ การกระทำที่บุ่มบ่าม วู่วาม ขาดความเรียบร้อย ไม่ค่อยรอบคอบ ของบริวารด้วย รวมถึง ความโมโห ฉุนเฉียว หรือการมีโทสะแรง ของบริวารนั้น เป็นสาเหตุทำให้เกิดการกระทบกระทั่ง หรือทะเลาะเบาะแว้งกันอย่างรุนแรงได้
ก่อนที่ท่านผู้อ่านจะเริ่มสมมุติ ว่าถ้าเป็นดาวนั้นดาวนี้ จะอ่านอย่างไรนั้น หรือคิดอะไรไปไกลกว่านี้ ผู้เขียนก็ขอให้ท่านผู้อ่านลองเริ่มต้นแบบเดียวกันกับ ที่กล่าวมาข้างต้น โดยการลองอ่านภูมิอื่น ตามตัวอย่าง เสียก่อน เมื่อนั้น ท่านผู้อ่านก็จะได้รู้ข้อเท็จจริงตามที่สงสัยไว้ด้วยตัวเอง ไม่แน่เหมือนกันว่า สิ่งที่ผู้เขียน ได้กล่าวถึงในปัจจุบัน มันอาจจะกลายเป็นสิ่งที่ล้าหลังในอีก 2-3 ปีข้างหน้าก็เป็นได้ เพราะเมื่อ ภาษาเปลี่ยน วัฒนธรรมเปลี่ยน เทคโนโลยีเปลี่ยน สิ่งต่างๆ ก็จะค่อยๆ เปลี่ยนไป แต่ผู้เขียนเชื่อว่า สำหรับโลกอนาคต สำหรับคนรุ่นใหม่ ที่ทันสมัย คงจะมองวิชานี้ แตกต่างออกไป คงจะมองออกว่า จะพัฒนาวิชานี้ให้ไปอีกไกลได้อย่างไร/. |