ดวงชะตาพรรคไทยรักไทย
พล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์
การที่ตุลาการรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยตัดสินให้ยุบพรรคไทยรักไทยไปเมื่อวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๐ ทำให้เกิดแรงกระตุ้นใจให้ผมใคร่จะนำหลักวิชาการโหราศาสตร์ก้าวหน้าที่ผมได้ใช้ในการพยากรณ์ดวงเมืองอยู่เป็นประจำมาวิเคราะห์เรื่องนี้เป็นกรณีศึกษาเพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจศึกษาวิชาการโหราศาสตร์แขนงนี้ในอนาคต
ตามหลักฐานข้อมูลทางโหราศาสตร์ที่ผมได้รวบรวมไว้ ได้พบว่า วันที่จัดตั้งพรรคไทยรักไทยตรงกับวันอังคารที่ ๑๔ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๔๑ ตรงกับวันแรม ๕ ค่ำ เดือน ๘ ปีขาล เวลา ๑๑ นาฬิกา ๙ นาที ลัคนาสถิตราศีกันย์ ภูมิปาโลฤกษ์ มีดาวพฤหัสบดีซึ่งเป็นดาวศุภเคราะห์สถิตอยู่ในราศีมีน เป็นเรือนที่ ๗ ภพที่เกี่ยวกับสมาชิกของพรรค ดาวเสาร์ซึ่งเป็นดาวบาปพระเคราะห์สถิตในราศีมีน เป็นเรือนที่ ๘ เป็นภพมรณะ ดาวอังคารซึ่งบาปเคราะห์สถิตในราศีมิถุน ดาวศุกร์ซึ่งเป็นดาวศุภเคราะห์สถิตอยู่ในราศีพฤษภ ดาวอังคารและดาวศุกร์เป็นคู่มิตรอยู่ในเรือนที่ ๑๐ ภพที่เกี่ยวกับหน้าที่การงาน การบริหารงานของพรรค นอกจากนี้ยังมีดาวพระเคราะห์อื่นๆ สถิตในราศี เรือนต่างๆ (ดูภาพประกอบที่ ๑)
เมื่อพิจารณาดวงชะตาวันจัดตั้งพรรคไทยรักไทยแล้ว น่าเชื่อว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ข้อมูลที่ผมมีอยู่ถูกต้องด้วยเหตุผลง่ายๆ คือ ดาวพฤหัสบดีซึ่งเป็นดาวศุภเคราะห์สถิตในราศีมีนซึ่งเป็นราศีเกษตรส่งผลให้ดาวพฤหัสบดีมีพลังสูง และเมื่ออยู่ในเรือนที่ ๗ จึงส่งผลให้พรรคนี้เป็นพรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ การที่ดาวศุกร์เป็นดาวศุภเคราะห์สถิตอยู่ในราศีพฤษภซึ่งเป็นราศีเกษตร ดาวศุกร์นี้จึงมีพลังสูง เมื่ออยู่ในเรือนที่ ๑๐ ร่วมกับดาวอังคาร จึงส่งผลให้การบริหารงานของพรรคมีประสิทธิ์ภาพสูง สมบูรณ์ด้วยทรัพย์สินเงินทอง และทรัพยากรบุคคล เป็นพรรคอภิมหาเศรษฐี ดาวอังคารที่อยู่ร่วมกับดาวศุกร์ในเรือนที่ ๑๐ นี้ มีความหมายถึง ความกล้าหาญ แต่เป็นดาวบาปเคราะห์ จึงน่าจะพยากรณ์ว่า พรรคนี้มีขีดความสามารถสูง มีความกล้าหาญในการหาเงินมาสนับสนุนบำรุงพรรคได้ทุกรูปแบบ
ที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือ ดาวเสาร์ซึ่งเป็นดาวบาปพระเคราะห์ใหญ่ซึ่งอยู่ในเรือนที่ ๘ เป็นภพมรณะมีความหมายเกี่ยวกับ อายุของเจ้าชะตา การล้มละลาย การสูญเสียทรัพยากรบุคคล ความสัมพันธ์ในด้านการเงินกับต่างประเทศ หนี้สาธารณะ การล่มสลายของพรรคการเมือง (ดาวเสาร์ มีความหมายเกี่ยวกับนักการเมือง และพรรคการเมือง) จึงน่าจะพยากรณ์ว่า พรรคไทยรักไทยจะไม่ยั่งยืน เนื่องจากดาวเสาร์เป็นเจ้าการมีบทบาทนำความวิบัติมาให้
เพื่อเป็นการยืนยัน ผมจึงได้ผูกดวงของพรรคไทยรักไทยประจำปี พ.ศ.๒๕๔๙ ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๔๙ ถึงวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๐ ตามหลักวิชาโหราศาสตร์ก้าวหน้าแล้ว พบว่า มีลัคนาสถิตในราศีกันย์ ดาวพฤหัสบดีสถิตในราศีตุลย์ เรือนที่ ๒ เป็นภพที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินเงินทอง ทรัพยากรของพรรค ดาวเสาร์สถิตอยู่ในราศีกรกฎ ดาวอังคารสถิตอยู่ในราศีสิงห์ ดาวทั้งสองนี้อยู่ร่วมกันในเรือนที่ ๑๑ เป็นภพที่เกี่ยวตัวบุคคลที่ทำหน้าที่บริหารพรรค ดาวพุธสถิตอยู่ในราศีกรกฎ ดวงอาทิตย์สถิตอยู่ในราศีมิถุน ทั้งสองอยู่ร่วมกันในเรือนที่ ๑๐ เป็นภพที่เกี่ยวกับการบริหารงานพรรค ตามพื้นดวงประจำปีนี้ ตามหลักวิชาโหราศาสตร์ฮินดูถือว่า ดวงอาทิตย์และดาวอังคารเป็นดาวที่เบียนเป็นทุกข์โทษแก่เจ้าชะตา นอกจากนี้ยังมีดาวพระเคราะห์อื่นๆ สถิตอยู่ในราศีต่างๆ (ดูภาพประกอบที่ ๒)
ตามหลักวิชาโหราศาสตร์ทั่วไป ถือว่า เมื่อดาวเสาร์เป็นสามของเรือนใด ภพใด ย่อมจะส่งผลเป็นทุกข์โทษให้แก่เรือนนั้นอย่างเต็มที่ และเมื่อดาวอังคารเป็นแปดของเรือนใด ภพใด ย่อมส่งผลเป็นโทษแก่เรือนนั้นอย่างเต็มที่เช่นกัน สำหรับดาวเสาร์จึงสามารถส่งผลเป็นทุกข์โทษแก่เรือนที่ ๘ ภพมรณะของเจ้าชะตา ส่วนดาวอังคารนั้นก็สามารถส่งผลเป็นทุกข์โทษแก่เรือนที่ ๔ ภพที่เกี่ยวข้องกับกิจการภายในพรรค
สำหรับกรณีนี้ ดาวเสาร์ยังเป็นเจ้าการมีบทบาทเหมือนเดิม ทั้งยังมีดาวอังคารเข้ามาเกี่ยวข้องเพิ่มพลังทุกข์โทษให้แก่เจ้าชะตาอีกส่วนหนึ่ง
จากผลของการคำนวณปรากฏว่า ดวงของพรรคไทยรักไทยประจำปี พ.ศ.๒๕๕๐ นี้ ได้ดาวพุธเป็นดาวประจำพรรค ดาวพุธนี้สถิตอยู่ในเรือนที่ ๑๐ ซึ่งเป็นภพที่เกี่ยวกับการบริหารงานพรรค โดยหัวหน้าพรรคมาจากพลเรือน (ดาวพุธหมายถึงพลเรือน) และเมื่อคำนวณกำลังของดาวพระเคราะห์ต่างๆ แล้ว ดาวพุธนี้มีกำลังน้อยมาก B.V.Raman โหราจารย์สำคัญคนหนึ่งของอินเดียได้กล่าวไว้ในหนังสือ VASHAPHAL OR THE HINDU PROGRESSED HOROSCOPE ไว้มีสาระสำคัญว่า เมื่อใดที่ดาวพุธเป็นดาวประจำตัวมีกำลังอ่อนแอจะส่งผลให้เจ้าชะตาเกิดการสูญเสียต่างๆ เกิดการล้มละลาย ค้าขายขาดทุน ประสบกับสารพันปัญหา ถูกบุคคลอื่นเยาะเย้ยเหยียดหยามซ้ำเติม คำพยากรณ์ของ B.V Raman ดังกล่าว จึงทำให้เห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้นว่า มิใช่เฉพาะดาวเสาร์ และดาวอังคารเท่านั้น ดาวพุธยังมีส่วนร่วมเป็นอีกกลไกหนึ่งที่ชักจูงให้พรรคไทยรักไทยได้พบกับจุดจบในที่สุด
อนึ่งในวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๐ ซึ่งเป็นวันที่คณะตุลาการรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้ยุบพรรคไทยรักไทยนั้น ดาวเสาร์จรได้เข้าไปสถิตอยู่ในเรือนที่ ๑๑ เป็นสามกับเรือนที่ ๘ ภพมรณะของดวงเดิมของพรรคไทยรักไทย (ไม่ใช่ดวงประจำปี) ซึ่งมีดาวเสาร์เดิมสถิตอยู่แล้ว จึงส่งผลเพิ่มพลังทุกข์โทษแก่เรือนที่ ๘ ภพมรณะอย่างเต็มที่ และในวันเดียวกันนี้ ดาวพุธซึ่งเป็นดาวประจำพรรคปี พ.ศ.๒๕๕๐ ทำมุมเล็ง ๑๘๐ องศากับดาวพลูโตซึ่งเป็นดาวที่มีความหมายเกี่ยวกับความตาย ทั้งดาวจันทร์ยังโคจรทำมุมเป็นทุกข์โทษ ๙๐ องศากับดาวเสาร์จร ดาวจันทร์จึงเป็นตัวจุดระเบิดให้เหตุการณ์ต่างๆ ที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของดาวพระเคราะห์เหล่านี้เกิดขึ้น (ดูภาพประกอบที่ ๓)
กล่าวโดยสรุปได้ว่า ดาวพระเคราะห์ที่มีส่วนได้เข้ามาร่วมในโศกนาฏกรรมของพรรคไทยรักไทยคราวนี้ ก็คือ ดาวเสาร์ ดาวอังคาร ดาวพุธ ดาวจันทร์ และดาวพลูโต และผลพยากรณ์ที่กล่าวมาแล้วนั้นอยู่บนฐานการคำนวณโดยใช้วันที่ ๑๘ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๔๑ เวลา ๑๑.๐๙ น.เป็นวันจัดตั้งพรรคไทยรักไทยซึ่งผมได้มาอย่างไรจากที่ใดนั้น ผมจำไม่ได้จริงๆ ดังนั้น หากผิดพลาดคลาดเคลื่อนไป ผมขออภัยต่อท่านสมาชิกพรรคไทยรักไทยทุกท่านด้วย
สุดท้ายนี้ ผมใคร่ขอทำความเข้าใจกับท่านสมาชิกพรรคไทยรักไทยทุกท่านว่า เจตนารมณ์ของผมในการเขียนบทความนี้มิใช่เพื่อเป็นการเหยียบย่ำซ้ำเติมพรรคไทยรักไทย แต่ได้กระทำขึ้นเป็นกรณีศึกษาในวิชาการโหราศาสตร์ดวงดาวเพื่อประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจในวิชาการแขนงนี้ในปัจจุบันและอนาคต หากการกระทำของผมเป็นกุศลกรรมบังเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมด้งจิตปรารถนาแล้ว ขอให้บังเกิดอานิสงส์ส่งผลช่วยปัดเป่าให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับพรรคไทยรักไทยทุกท่านให้ผ่อนทุเลาทุกข์โทษโดยทั่วถ้วนกัน
สัพเพสัตตา อเวรา โหนตุ สัพเพสัตตา อัพยา ปัชฌา โหนตุ
สัพเพสัตตา อนีฆา โหนตุ สัพเพสัตตา สุขีอัตตานัง ปริหรันตุ
ภาพประกอบที่ ๑
ภาพประกอบที่ ๒
ภาพประกอบที่ ๓
หมายเหตุ
บทความนี้ได้เขียนขึ้นเพื่อเป็นกรณีศึกษาตามหลักวิชาการโหราศาสตร์ดวงดาว จึงมิได้นำออกเผยแพร่ทั่วไป