สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านโหราเวสม์ทุกท่าน เป็นอย่างไรบ้างครับ กับการอ่านในระบบเรือนชะตาสัมพันธ์ ที่ตีพิมพ์ลงในฉบับเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หวังว่าคงเป็นประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อย มีท่านผู้อ่านส่วนหนึ่งได้โทรเข้าหาผม บอกว่าขอให้มีการอ่านพื้นดวงให้มากกว่านี้อีก รู้สึกสนใจและชอบการอ่านที่ให้รายละเอียดได้ชัดเจนและมากพอที่จะทำให้เข้าใจวิถีชีวิตของดวงชะตานั้นๆ ว่าจะมีแนวทางชีวิตไปในรูปแบบใด ซึ่งผมก็พอเข้าใจพวกท่านเหล่านั้นเพราะในสมัยที่ผมเริ่มศึกษาใหม่ๆ นั้น ผมก็ชอบที่จะคลำหาแนวทางการอ่านจากตำราหรือบทความที่ท่านอาจารย์ทั้งหลายได้เขียนไว้ ยิ่งบทความใดที่มีการนำเสนอหลักวิชาที่แท้จริงใช้ได้จริงและแจกแจงรายละเอียดในตัววิชาหรือวิจารณ์หลักวิชาไว้อย่างลึกซึ้งถึงแก่นด้วยแล้ว ผมก็อยากให้มีหลายหน้ากระดาษหลายตัวอย่างหลายรูปแบบการอ่านจะได้อ่านได้อย่างจุใจ ซึ่งจะทำให้ผมสามารถที่จะทำความเข้าใจในตัววิชาและเก็บเกี่ยวความรู้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ดังนั้น ฉบับนี้ยังคงจะเน้นการอ่านพื้นดวงชะตาเหมือนเดิมตามที่ท่านผู้อ่านขอมา และจะพยายามแจกแจงรายละเอียดให้มากขึ้นกว่าเดิม หวังอย่างยิ่งว่าจะเป็นประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อย
ดวงตัวอย่างเป็นดวงชะตาหญิง เกิดวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๑๙ เวลา ๐๕.๐๕ น.ลัคนาวางไว้ที่ราศีมีน
อย่างที่บอกไว้แล้วว่า ในการอ่านเริ่มแรก ให้เราเริ่มจับที่ตัวตนุก่อน เพื่อดูตัวตนเจ้าชะตา ดูวิถีชีวิตของเจ้าชะตา ก่อนที่จะไปดูรายละเอียดในเรื่องอื่นๆ ซึ่งตำราในระบบเรือนทั้งหลายจะบอกไว้ตรงกันอยู่ข้อหนึ่งที่ว่า ตนุลัคน์คือตัวตนของเจ้าชะตาในอันที่จะไปกระทำเรื่องต่างๆ นั่นเอง
1. ตนุ ๕ ราชาโชค - กดุมภะ ๓ - พันธุ ๔ ประ
ดังที่เคยบอกไว้ในฉบับที่แล้วว่า ภพตนุจะเป็นเรื่องวิถีชีวิตของเจ้าชะตา ตัวตนของเจ้าชะตา เมื่อตนุเป็นดาว ๕ ซึ่งเป็นดาวที่มีความหมายถึง ความรู้ สติปัญญา ก็เท่ากับว่า ตัวเขาเองเป็นคนชอบใช้ความคิด ชอบเรียนรู้ ชอบใคร่ครวญหาเหตุผลในเรื่องต่างๆ ที่สุดแล้วก็มักจะหาทางออกให้กับตัวเองได้ในเรื่องต่างๆ และในส่วนของการดำเนินชีวิตนั้นก็มักจะใช้สติปัญญาให้เป็นประโยชน์ รู้จักนำเอาประสบการณ์ที่ผ่านมามาคิดไตร่ตรองปรับปรุงให้ดีขึ้น ดาว ๕ เป็นดาวธาตุดินแข็งทำให้เจ้าชะตาเป็นคนที่ยึดมั่นในความรู้ความเข้าใจที่ตนมีอยู่ และไม่ค่อยจะยอมรับเหตุผลหรือความคิดเห็นของผู้อื่น เมื่อดาว ๕ ไปอยู่ราศีเมษซึ่งเป็นราศีธาตุไฟ ท่านผู้อ่านลองนึกถึงสภาพดินที่แข็งแล้วไปโดนไฟเผาอีก ยิ่งทำให้ดินนั้นแกร่งยิ่งขึ้น ทำให้สิ่งที่เจ้าชะตาคิดเห็นว่าดีว่าถูกต้องตามความคิดของเขาแล้วนั้น การที่จะไปค้านหรือให้ยอมรับความคิดเห็นของคนอื่นยิ่งเป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น และการที่ไปอยู่ในราศีธาตุไฟนั้นอีกส่วนหนึ่งธาตุไฟของราศีจะแผดเผาให้เจ้าชะตาไม่อยู่นิ่งเฉย เกิดความมุ่งมั่น เกิดสภาวะที่จะผลักดันตัวเองไปตามความคิดที่ตนได้วางเอาไว้ ดาว ๕ ไปอยู่ราศีเมษซึ่งเป็นเรือนเกษตรของดาว ๓ เมื่อคิดแล้วมีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันตนเองแล้ว ก็จะลงมือทำอย่างเอาจริงเอาจัง (ความหมายดาว ๓) ไปตามแนวความคิดที่ตนวางไว้ ดาว ๕ ในราศีเมษมีตำแหน่งราชาโชค ซึ่งความคิดเห็นความรู้ของเจ้าชะตานั้นก็เป็นที่ชื่นชอบชื่นชมเป็นที่ยอมรับอยู่แล้ว ราศีเมษเป็นภพกดุมภะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความคิดในการจัดการในเรื่องเกี่ยวกับเงินทอง เท่ากับว่าเจ้าชะตามักจะแสดงออกซึ่งความรู้และสติปัญญาความสามารถที่ตนมีอยู่ ซึ่งเป็นที่ยอมรับของคนรอบข้างในการจัดแจงจัดการในเรื่องเกี่ยวกับทรัพย์สินการเงิน จะว่าไปแล้วเขาก็จะไม่ชอบอยู่นิ่งเฉยหรือพูดได้ว่าอยู่นิ่งๆ กับใครเขาไม่เป็นอยู่แล้ว ชอบที่จะเข้าไปเจ้ากี้เจ้าการจัดการให้ด้วยความกระตือรือร้น เวลาเข้าไปจัดการก็เต็มไปด้วยพลังแห่งความเอาจริงเอาจังทุ่มเทสุดๆ ด้วยเช่นกัน บอกได้เลยว่าชอบหาเรื่องเหนื่อยให้กับตัวเองแท้ๆ แต่คนรอบข้างจะชอบเพราะเจ้าชะตาจะรับหน้าเสื่อจัดการให้เองทั้งหมด ตามเจ้าเรือนดาว ๓ ไปอยู่ราศีมิถุนธาตุลม เรือนดาว ๔ ที่เป็นภพพันธุ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับบัญชีรายรับรายจ่ายภายในครอบครัว (พันธุที่เป็นดาว ๔) เจ้าชะตายังเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยเลย แถมยังลงมือลงแรงแข็งขันเต็มที่อีกด้วย (ความหมายธาตุลมและความหมายของดาว ๓ และเรือนธาตุลมที่ดาว ๓ ไปอยู่ ทำให้ดาว ๓ แสดงความหมายอย่างเต็มที่) ดาว ๔ พันธุเป็นประ ตรงนี้เป็นเหตุที่ทำให้เจ้าชะตาต้องเข้ามาจัดแจงในส่วนของการเงิน เป็นเพราะว่าคนในบ้านไม่ค่อยสนใจใส่ใจที่จะให้ความสำคัญกับส่วนบัญชีรายรับรายจ่ายตรงนี้มากนักนั่นเอง (ความหมายของดาวพันธุ ๔ ประ) ให้ค่อยๆ แกะความหมายตามไปทีละส่วนก็จะได้คำพยากรณ์ที่มีรายละเอียดในระดับหนึ่งครับ รับรองเป็นที่น่าพอใจพอสมควร แถมให้อีกนิด ให้สังเกตตนุดาว ๕ ที่ไปอยู่ธาตุไฟตรงนี้ด้วย เจ้าตัวจะรั้นในความคิดของตัวเองน่าดูชม ยิ่งถ้าขัดกับความคิดเห็นของตนแล้ว ถึงปากจะคล้อยตาม แต่สีหน้าและท่าทีจะฟ้องว่าไม่เห็นด้วยอย่างเห็นได้ชัดทีเดียว (เหตุจากดาว ๕ ไปอยู่ในเรือนดาว ๓ ซึ่งดาว ๓ เป็นดาวแห่งการแสดงออกด้านการกระทำ)
2. กดุมภะ ๓ + พันธุ ๔ ประ + ตนุ ๕ (ราชาโชค)
มาดูการเงินกันบ้าง การเงินเมื่อเป็นดาว ๓ เราก็เอาความหมายดาว ๓ มาอ่านร่วมกับเรื่องการเงินก็จะได้ว่า ถ้าพูดถึงเรื่องเงินๆทองๆแล้ว เจ้าชะตาจะเต็มไปด้วยการเอาจริงเอาจังเป็นอย่างมาก หากเป็นการทุ่มเทก็จะทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจอย่างจริงจังไม่เห็นแก่เหน็ดแก่เหนื่อย จนบางทีบางครั้งเวลาจะหยุดพักยังแทบจะไม่มีเอาเสียเลย ความหมายของดาว ๓ นั้นยังมีความหมายของความไม่รอบคอบ ดาว ๓ มักมีการกระทำแบบที่รวดเร็วฉับไว จนบางทีบางครั้งขาดความรอบคอบ แต่ในชะตานี้จะบอกว่าเรื่องการเงินเขาไม่รอบคอบไม่ได้ สาเหตุเนื่องมาจากตัวตนของเจ้าชะตาเองเป็นดาว ๕ ซึ่งเป็นดาวแห่งความคิด ดาวแห่งปัญญา ทุกอย่างของเขาจะผ่านการคิดการไตร่ตรองมาแล้วทั้งสิ้นจึงจะมีการกระทำออกมาให้เป็นเรื่องเป็นราว ดังนั้น การเงินที่เป็นดาว ๓ แห่งชะตานี้จึงเป็นเรื่องของการเอาจริงเอาจังมุมานะในการสร้างฐานะการเงินให้กับตัวเอง สภาวะธาตุของดาว ๓ เป็นธาตุลมเมื่อเป็นการเงินทำให้สภาวะเรื่องการเงินมีความคล่องตัวสูง มีการหมุนเวียนอยู่เสมอ ตามดาวไปจังหวะที่สอง ดาว ๓ ไปอยู่ราศีมิถุน ธาตุลม เรือนดาว ๔ ที่เป็นภพพันธุ สภาวะธาตุลมของดาว ๓ ไปอยู่ในราศีมิถุนเรือนธาตุลม ส่งผลให้ธาตุลมแห่งดาว ๓ ได้รับการหนุนเสริม ยิ่งทำให้การเงินของเจ้าชะตายิ่งมีการเคลื่อนไหวมากยิ่งขึ้นมีการหมุนเวียนสูงขึ้น เป็นเรือนของดาว ๔ ที่ทำหน้าที่เป็นภพพันธุ ก็เท่ากับว่าในเรื่องการเงินของเจ้าชะตาที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นเอาจริงเอาจังนั้น ยิ่งถ้าหากเป็นเรื่องที่ต้องเกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันกับคนในครอบครัวหรือต้องไปทำร่วมกับคนในครอบครัวด้วยแล้ว เจ้าชะตาเองจะยิ่งเพิ่มความเอาจริงเอาจัง และจะเข้าไปกะเกณฑ์วางแผนการหรือคิดแทนให้ (ความหมายดาว ๔) ให้กับคนในครอบครัว (พันธุ) อีกด้วย ตามดาว ๔ ไปจังหวะสาม ไปอยู่ราศีมีนธาตุน้ำ เรือนดาว ๕ ที่เป็นภพตนุ ดาว ๔ ได้ตำแหน่งประในราศีนี้ อ่านได้ว่า ทำให้คนในครอบครัวแทบจะไม่ต้องใช้ความคิดอะไรเลย (ดาว ๔ พันธุเป็นประ) ดาว ๔ เป็นดาวธาตุน้ำไปอยู่ในราศีธาตุน้ำ เป็นสภาวะของความเย็นสบาย ไม่ทุกข์ไม่ร้อน แต่ดาว ๔ เป็นดาวพันธุ ไม่ใช่ดาวตนุลัคน์ของเจ้าชะตา ดังนั้น ที่สบายคือใคร ก็คือคนสนิทคนในครอบครัวของเจ้าชะตาเอง ที่สบายๆ ไม่ต้องคิดมาก เพราะมีเจ้าชะตาคิดระบบโครงสร้างต่างๆ ให้หมดแล้ว (ดาว ๔ ไปอยู่ภพตนุ ๕) นั่นเอง
3. ปัตนิ ๔ ประ + ตนุ ๕ ราชาโชค + กดุมภะ ๓
มาดูเรื่องคู่ครองหรือเรื่องความรักของเจ้าชะตากันบ้าง การอ่านภพปัตนิอ่านได้หลายรูปแบบ หากอ่านเกี่ยวเนื่องกับความรักของเจ้าชะตาจะอ่านได้ว่า ในเรื่องของความรักของเจ้าชะตานั้นจะว่าไปแล้วเขาไม่ค่อยให้ความสำคัญหรือจะกล่าวได้ว่ามีความคิดในเรื่องของความรักน้อยมาก (ปัตนิ ๔ ประ และดาว ๔ เป็นดาวแห่งความคิด มโนภาพ) ดาว ๔ ธาตุน้ำไปอยู่ราศีมีนธาตุน้ำ ไม่ได้ร้อนรนไม่ได้ทุรนทุรายไปกับเรื่องนี้มาก ปล่อยความคิดสบายๆ ไปกับเรื่องความรัก ไม่ได้ซีเรียสอะไรมาก ตามความหมายธาตุน้ำ ดาว ๔ ไปอยู่เรือนดาว ๕ ตนุ แล้วดาว ๕ ไปอยู่เรือนดาว ๓ กดุมภะ เรือนธาตุไฟ ตัวเจ้าชะตาเองใส่ใจและให้ความสำคัญในเรื่องของการทำมาหาเงินมากกว่าเรื่องของความรักเสียอีก หากจะอ่านปัตนิเป็นตัวคู่ของเจ้าชะตา คู่ตามเกณฑ์ชะตาของเขาที่เข้ามานั้น จะเป็นคนที่ค่อนข้างจะหัวอ่อนและคล้อยตามความคิดเห็นของเจ้าชะตา (ปัตนิ ๔ ประ มาอยู่เรือนดาว ๕ ตนุ และเป็นดาวธาตุน้ำมาอยู่ในราศีธาตุน้ำ) ทั้งยังต้องพึ่งพาอาศัยเจ้าชะตาอีกด้วย (ปัตนิเป็นประ มาอยู่ภพตนุ ที่เป็นดาว ๕ ที่มีความหมายของการพึ่งพาอาศัยให้ความช่วยเหลือ) ทั้งนี้สืบเนื่องจากสติปัญญาและความสามารถของเจ้าชะตาโดยเฉพาะในเรื่องเกี่ยวกับการเงิน (ตนุ ๕ ไปกดุมภะ ๓) ตรงนี้ยังอ่านได้อีกว่า คู่แทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย ทุกอย่างเจ้าชะตาจะเป็นผู้จัดการให้แทนทั้งหมดรวมทั้งเรื่องการหาเงินสำหรับใช้จ่ายในครอบครัวด้วย ซึ่งตัวคู่ไม่ต้องรับภาระรับผิดชอบทิ้งสิ้น ทุกอย่างอยู่ในความรับผิดชอบของเจ้าชะตาทั้งหมด ชะตานี้ ใครเป็นคู่ บอกได้คำเดียว สบาย ครับ แต่ต้องหมั่นแคะหูหน่อยเดียว เพราะพวกดาว ๕ ชอบบ่น ชอบสอน ชอบติ เป็นนิจสิน หาสำลีอุดหูได้รับรองสบายตัวขึ้นขนเลยครับ หากอ่านปัตนิเป็นสภาวะหลังการครองเรือน แทบจะเรียกได้ว่าจะมีปากเสียงกันน้อยมาก (ปัตนิ ๔ ประ) ส่วนมากตัวคู่มักจะคล้อยตามเจ้าชะตาเป็นส่วนใหญ่ เพราะยอมรับในความคิดเห็นของเจ้าชะตา (ปัตนิ ๔ ประ มา ตนุ ๕ ราชาโชค) ถึงเจ้าชะตาจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการสร้างฐานะหรือทำมาหาเงิน ไม่ค่อยมีเวลาให้กับครอบครัวมากนักก็ตาม ก็แทบจะไม่มีเสียงปริปากแสดงความไม่พอใจจากตัวคู่มาได้ให้ได้ยินเลยแหละ อ้อ ขอเสริมต่ออีกนิด สภาวะของดาวคู่ที่มาสัมผัสกับดาว ๕ ที่มีความหมายของพิธีการ ความถูกต้องตามประเพณี ตรงนี้บ่งบอกไว้ว่า ชะตานี้ต้องมีการแต่งงานแต่งการที่ถูกต้องตามระเบียบประเพณีแน่นอน และดาว ๕ ตัวนี้เป็นตัวตนุเอง เป็นความคิดความต้องการโดยตรงของเจ้าชะตาเองอีกด้วย ไอ้ที่จะรักกันหนาพากันหนี เจ้าชะตาเป็นไม่ยอมเด็ดขาดเป็นแน่แท้ นอกเสียจากจะทำให้ถูกต้องตามระเบียบแบบแผนประเพณีเท่านั้น เจ้าชะตาถึงจะเห็นชอบตกลงโอเคด้วย เห็นไหมครับ การอ่านปัตนิ เราสามารถอ่านได้หลายรูปแบบหลายอย่าง ถ้าเรารู้จักการแยกใช้ความหมายดาว เราก็จะได้รายละเอียดที่เพิ่มมากขึ้นจนเป็นที่น่าพอใจเลยทีเดียว ไม่ต้องขับเข้านวางค์ให้เหนื่อยให้เปลืองสมอง ไม่ต้องหามุมอื่นมาช่วยหรือหาจุดที่จะมาอ่านเสริม ซึ่งบางทีบางครั้งแทนที่จะช่วยเสริมรายละเอียด กลับทำให้งงมากขึ้นไปอีก เพราะอ่านสามจังหวะก็มึนพออยู่แล้ว ยังต้องไปอ่านมุมอื่นซ้อนเข้าไปอีก ทำให้การอ่านค่าความหมายต้องซับซ้อนมากขึ้นโดยใช่เหตุ ค่อยๆ อ่านสามจังหวะโดยให้ความหมายดาวที่ละเอียดและเหมาะสมกับรูปการสอดคล้องกับความหมายภพ และเสริมเติมปรุงแต่งด้วยธาตุให้ถูกต้อง ก็จะได้คำพยากรณ์ที่สอดคล้องและมีความละเอียดเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่งที่ท่านผู้อ่านต้องทึ่งในตัวเองแล้ว ลองอ่านและทำตามที่ผมบอกดูก็แล้วกันครับ รับรองไม่ผิดหวังเป็นอันขาด
4. กัมมะ ๕ ราชาโชค + กดุมภะ ๓ + พันธุ ๔ ประ
ทีนี้มาดูเรื่องงานเป็นอันดับสุดท้าย กัมมะเมื่อเป็นดาว ๕ เท่ากับว่า หากเป็นเรื่องงานแล้วเจ้าชะตาจะมีการใคร่ครวญไตร่ตรองอย่างรอบคอบทุกครั้ง มีการใส่ใจในทุกรายละเอียด มีการเก็บรวบรวมข้อมูลจำนวนมากที่พร้อมที่จะนำมาใช้ประกอบการพิจารณาได้ ก่อนที่จะตัดสินใจในขั้นสุดท้าย เนื่องจากเป็นดาวธาตุดิน การไตร่ตรองพิจารณาจึงมักต้องใช้เวลานาน ดาว ๕ ไปอยู่ราศีเมษ ธาตุไฟ เมื่อเตรียมความพร้อมเรียบร้อยแล้ว หากถึงคราวนำมาใช้ บางทีบางคงรั้งก็จะเป็นการผลักดันให้มีการนำเอาแผนความคิดนั้นมาใช้อย่างรวดเร็วฉับพลัน (ธาตุไฟ) หรือเพื่อที่จะให้ทันท่วงทีหรือทันต่อเหตุการณ์ เมื่ออยู่ในเรือนของดาว ๓ ก็มีการกระทำออกมาตามแผนความคิดนั้นเพื่อให้เกิดผลตามที่ต้องการขึ้นมา ซึ่งผลที่เกิดขึ้นนั้นก็คือเรื่องการเงินนั่นเอง (ราศีเมษเป็นภพกดุมภะ) ซึ่งการกระทำให้เกิดผลแห่งการเงินตรงนี้ระบุเงื่อนไขไว้ด้วยว่า ต้องเอาจริงเอาจังน่ะ ต้องใส่ใจต้องขยันต้องติดตาม ห้ามทอดธุระอย่างเด็ดขาด (ดาว ๓ เป็นเจ้าเรือนภพกดุมภะ) ตามดาว ๓ ไปอยู่ราศีมิถุน ธาตุลม เรือนดาว ๔ ตรงนี้อ่านต่อจากเมื่อครู่ที่ว่าต้องเอาจริงเอาจัง ห้ามทอดธุระนั้น ก็จะได้ว่า ต้องมีการติดตาม มีการเคลื่อนไหว (ดาว ๓ ธาตุลมไปอยู่ราศีธาตุลม) มีการตามติดอย่างไม่ชักช้า ในส่วนของสัญญาหรือข้อรับปากต่างๆ (ดาว ๔) ที่มีผลผูกพันกับเรื่องงาน (พันธุ = ผูกพัน ใกล้ชิด ในที่นี้อ่านดาว ๔ เป็นข้อสัญญาจึงเป็นเรื่องข้อสัญญาที่มีผลผูกพันต่อกัน) ดาว ๔ เป็นประ ก็จะอ่านได้ว่า ซึ่งข้อสัญญาเหล่านั้นมักจะมีปัญหาไม่เป็นไปตามข้อตกลงหรือไม่เป็นตามที่รับปากอยู่เสมอๆ นั่นเอง หรือเราจะอ่านดาว ๓ ที่ไปเรือนดาว ๔ พันธุ ที่เป็นประได้อีกทางหนึ่งว่า งานที่สามารถสร้างฐานการเงินให้กับเจ้าชะตาได้นั้นควรจะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการทำสัญญาเกี่ยวกับอาคารสถานที่ (ความหมายดาว ๔ และภพพันธุ) ซึ่งมักจะต้องทำสัญญาแบ่งจ่ายเป็นส่วนๆ (ดาว ๔ เป็นประ) ซึ่งเจ้าชะตาจะเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบตรวจสอบอย่างใกล้ชิดเองทั้งหมด
ดวงนี้เป็นดวงชะตาของผู้หญิงในแบบฉบับของผู้หญิงทำงาน ทุ่มเทชีวิตจิตใจทั้งหมดในเรื่องทำงานและการหาเงินหารายได้ ปัจจุบันคิดจะออกจากงานเพื่อไปทำงานร่วมกับพี่ๆ น้องๆ ในครอบครัว ในหน้าที่วางแผนการตลาดและดูแลในเรื่องบัญชีรายรับรายจ่าย หากถามว่าดวงนี้มีโอกาสรวยไหม ตนุดาว ๕ ของเขาไปอยู่ราศีธาตุไฟ เรือนดาว ๓ คนที่รู้จักวางแผนการรอบคอบรัดกุมและลงลุยเองตามแผนการที่ตัวเองวางไว้เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ในการหาเงินเป็นหลัก แบบนี้จะไม่รวยได้อย่างไร เพียงแต่ว่าต้องเหนื่อยยากลำบากตรากตรำต้องต่อสู้ต้องแข่งขัน ไม่ได้มาอย่างสบายๆ เท่านั้นเอง
เป็นอย่างไรบ้างครับ ฉบับนี้ผมเริ่มลงลึกในรายละเอียดมากกว่าบทความอันแรก ยากหน่อย แต่ถ้าท่านผู้อ่านพยายามฝึกฝนให้บ่อยครั้ง คงไม่เกินความพยายามไปได้หรอกครับ ผมคิดว่าจะเขียนการอ่านพื้นดวงเดิมทำนองนี้ไปอีกสัก 2 3 ครั้ง แล้วค่อยหาเรื่องอื่นมาเขียนบ้าง ส่วนเรื่องการพยากรณ์จรคงต้องอีกพักใหญ่ๆ เพราะผมอยากให้ทุกท่านอ่านพื้นดวงให้แตกเสียก่อน หากท่านไม่รู้ความเป็นไปในชีวิตของเขา การที่จะไปทายอนาคตของเขานั้น ผมคิดว่าจะเป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่าอีก เห็นจะจบเพียงเท่านี้ก่อนครับสำหรับฉบับนี้ ขอให้ท่านผู้อ่านทุกท่านประสบความสำเร็จในถนนสายโหราศาสตร์ครับ สวัสดี |