ReadyPlanet.com
dot
dot
นิตยสาร " โหราเวสม์ "
dot
bulletนิตยสาร "โหราเวสม์" ๔๘-๕๗
bullet:: ผูกดวง วางลัคนา หาสัมผุสดาว (ตามหลักคัมภีร์สุริยยาตร์) ::
bullet:: ผูกดวง วางลัคนา หาสัมผุสดาวตามปฏิทินดาราศาสตร์ (ลาหิรี) ::
bulletดูดวง ตามปี นักษัตร โหรหลวง
dot
เวป เพื่อนบ้าน
dot
bullethora-thai.com
bullethorasad.com
bullethorasad7.com
bullettiantek.com
bullettiantekpro.com
bullethenghengheng.com
bullet10luckastro.com
bulletตรวจล็อตเตอรี่
bulletค้นหาเบอร์โทรศัพท์
bulletค้นหาคำศัพท์
bulletค้นหารหัสไปรษณีย์
bulletOnline-Image-Converter
bulletAffiriate Area
bulletนำเข้าสินค้าจากจีน
bulletTaobao
bulletเฟอร์นิเจอร์
bulletกระบอกน้ำ
bulletของพรีเมี่ยม
bulletร่ม
dot
ข่าวสาร
dot
bulletเดลินิวส์
bulletไทยรัฐ
bulletข่าวสด
bulletบ้านเมือง
bulletมติชน
bulletคมชัดลึก
bulletกรุงเทพธุรกิจ
bulletผู้จัดการ
dot
เวปเพื่อนบ้าน แลกลิ้ง โฆษณา
dot
bulletเวปเพื่อนบ้าน
bulletแลกลิ้งที่นี่ LINK EXCHANGE
bulletโฆษณา คลิกที่นี่
dot
อาจารย์ เทียนเต็ก
dot
bulletดูดวงจีนฟรี กับ อ.เทียนเต็ก
bulletspeedtest.adsl
bulletYOUTUBE เวิ้งนครเขษม บ้านเรา


รับตั้งศาลต่าง ๆ

าจารย์โชคชัย เงินดี
รับตั้งศาลพระภูมิ เจ้าที่
พระพรหม และ
ถอนศาลต่างๆ
โทร:081-880-6143

 

พิธีพุทธาภิเษกวัจถุมงคลพระพิฆเณศมหามงคล รุ่น 1 วันที่ 2-3 พฤศจิกายน 2555
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่

โปรแกรมผูกดวงจีน
อาจารย์เทียนเต็ก

โปรแกรม
ตรวจสอบโชคลาภความร่ำรวย
ราคา 300 บาท

โปรแกรมดูดวงจีน 2 ภาษา
windows mobile

โปรแกรมดวงจีน
"รู้หนึ่ง-รู้หมด"
ดูดวง,หาฤกษ์ด้วยตนเอง

โปรแกรม Tian-Tek Pro Version 1
ราคา 1,000 บาท

VCDและDVD เรียนดวงจีน
ชุดที่ 1-2-3

0

Download ฟรี.
ตลับเมตรไฮเทค (ดีที่สุดในโลก)วัดได้ยาวไกลที่สุด

วัตุถุมงคล
เสริมดวง แก้ชง
สะเดาะเคาะห์ ต่อชะตา

ดวงจีนและฮวงจุ้ย
ที่เป็นวิทยาศาสตร์

อาจารย์อ๊อดวัดสายไหม
เจ้าตำรับตระกรุดลูกปืน
(1ส.ค.2550)

หลวงหนุ่ย
ที่สุดแห่งเจ้าพิธีเทวาภิเษก
จตุคามราเทพ 27 มิ.ย.2550

ที่เขาว่ารวยเพราะปี่เซียะหรือเป็นที่ฮวงจุ้ยกันแน่

ประวัติปี่เซียะ 貔貅

ตำแหน่งขุมทรัพย์
มหาเศรษฐี

ฮวงจุ้ย คู่สมพงศ์
ชง - ฮะ

ฮวงจุ้ยคนตาย

การตั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ดวงปี 51ดวงฮวงจุ้ยให้โทษ
นี่เป็นลิขิตฟ้า-ยากจะฝืน

คิดดี พูดดี ทำดี คบคนดี
ไปสู่สถานที่ดี

เปิดกรุจตุคามรามเทพ
รุ่นที่ คุณสนธิไม่มี

เหรียญมงคล แก้ชง เสริมดวง
สะเดาะเคาะห์ต่อชะตา
ที่ร้านเซเว่นทุกสาขา

สถานีโทรทัศน์สีช่อง 7. สี(กระจก 6 ด้าน) มาทำข่าวเกี่ยวกับ ปี่เซียะ"貔貅

svautoshop  xenon

 

อาจารย์ รสสุคนธ์
รับสอนโหราศาสตร์ไทย
ตามทฤษฎี นวางศ์จักร
(อ.บุศรินทร์ ปัทมาคม)

หลักสูตร 2 เดือน 40 ชม.
เน้นการพยากรณ์เป็นหลัก
เพื่อดูดวงได้จริง
รับงานพยากรณ์
งานอีเว้นท์ นอกสถานที่
ติดต่อ
086-3582656
ossukon7155@gmail.com
ดูดวงผ่าน
1900 111 080
หรือ App Horaworld
รหัส 153

รับพยากรณ์ดวงจีน

อ.มังกร (แซ่จึง)
มณีเกียรติไพบูลย์
พยากรณ์ดวงชะตาจีน
(ซี้เถียวโป๊ยยี่)
ฤกษ์จีน แต่งงาน
ออกรถ
ขึ้นบ้านใหม่
มือถือ
081-459-9550
บ้าน
02-870-2450



โหราศาสตร์ไทยระบบเรือนชะตาสัมพันธ์ ๓

โหราศาสตร์ไทยระบบเรือนชะตาสัมพันธ์ ๓  อ.เหลือง

 

            สวัสดีครับ มิตรรักนักโหราศาสตร์ทุกท่าน ผ่านไปแล้วสองบทความเกี่ยวกับการอ่านในแบบเรือนชะตา ไม่ทราบว่าเป็นประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านมากน้อยเพียงใด ผมพยายามแจกแจงรายละเอียดขั้นตอนการอ่านไปตามลำดับทีละขั้นเพื่อให้ท่านผู้อ่านได้ติดตามและทำความเข้าใจตามไปด้วย   ผมอยากจะบอกว่าการศึกษาวิชาโหราศาสตร์ไทยนั้นโดยเฉพาะในสายเรือนชะตาจะเน้นไปที่ความเข้าใจมากกว่าจะเน้นที่การท่องจำ   การท่องจำจะไม่ก่อเกิดประโยชน์อันใดให้เลยสักนิด เหตุเพราะว่าดาวที่ไปอยู่ในราศีนั้นต้องมีการผสมผสานระหว่างธาตุดาวกับธาตุราศี   มีการผสมผสานระหว่างดาวที่ไปอาศัยอยู่กับดาวเจ้าเรือน   มีการตามจังหวะอ่านทางเจ้าเรือนอีก   ทั้งสามจุดที่กล่าวมานี้ต้องอาศัยความเข้าใจทั้งสิ้น   หากเราไม่เข้าใจถึงความหมายดาว เราก็จะไม่สามารถดึงเอาความหมายที่ถูกต้องกับเรื่องราวออกมาใช้ได้   หากเราไม่เข้าใจถึงการผสมธาตุ เราก็จะไม่สามารถเห็นถึงค่าความผันแปรที่เกิดขึ้น   หากเราไม่เข้าใจหลักการอ่านเรือนผสมเรือน เราก็จะไม่สามารถอ่านเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้องแม่นยำได้    การอ่านเรื่องราวในทางโหราศาสตร์นั้นจะอย่างไรก็ต้องอิงธรรมชาติของคนเรา จะไปอ่านให้แปลกแหวกแนวเกินวิถีธรรมชาตินั้นไม่ได้ ซึ่งตรงนี้เองที่ทำให้เราต้องเข้าใจในธรรมชาติของดาวให้ดีเสียก่อน อ่านธรรมชาติของดาวให้เหมือนธรรมชาติของคน   การท่องจำว่ามีดาวดวงนี้สถิตราศีนั้น การมีดาวดวงนั้นสถิตราศีนี้ จะดีเลิศพิสดารอย่างนั้นอย่างนี้ เห็นเอาไปทายมีแต่หน้าแตกหมอไม่รับเย็บหลายรายแล้ว   ต่างดวงก็ต่างลีลากัน จะเอามาทายเหมือนกันหมดเป็นแพทเทิร์นเป็นแบบอย่างนั้นไม่สมควรอย่างยิ่ง   ฉะนั้นเอง ผมจึงมักจะเน้นเสมอถึงความเข้าใจในตัววิชา มากกว่าที่จะเน้นในเรื่องของการอ่านการท่องจำหรือการจำแบบอย่างเป็นสัจจสูตร

            ผมคิดว่าท่านผู้อ่านที่ติดตามมาโดยตลอดคงจะจำแบบอย่างการอ่านพอได้บ้างแล้ว การอ่านดวงในฉบับนี้ก็ยังคงเป็นไปในรูปแบบเดิมคือการใช้ความหมายดาว ธาตุดาว ธาตุราศี ความหมายเรือน ผสมผสานเป็นการอ่านเรื่องราวที่เด่นชัดมีรายละเอียดค่อนข้างสมบูรณ์ พอที่จะนำมาประมวลผลและออกคำทำนายได้ ระบบที่ผมนำมาใช้ในการอ่านนี้จะเป็นไปในทำนองเดียวกับการอ่านเรือนที่หลายสำนักใช้กันอยู่ หากแต่ว่ามีความแตกต่างกันตรงที่ทั่วไปนั้นจะเน้นการใช้คู่ดาวในการประสานเรือนสองเรือนเข้าด้วยกัน   ส่วนในระบบที่ผมใช้อยู่นั้นจะเน้นการใช้ความหมายดาวแต่ละดาวเป็นเอกเทศเสียส่วนมาก เรียกได้ว่าแทบจะไม่ใช้คู่ดาวเอาเสียเลย เพราะการใช้คู่ดาวนั้นจะทำให้เราติดอยู่กับกรอบความหมายคู่ดาวมากเกินไป ทำให้เวลาเราอ่านเราจะรู้สึกว่าถูกบีบรัดด้วยกรอบทำให้ขาดความคล่องตัวและพลิ้วไหวในการอ่าน ซึ่งหากเราสามารถเข้าใจดาวอย่างลึกซึ้งแล้วและรู้จักเลือกความหมายดาวมาใช้ในการอ่านในแต่ละคราว ผมมองว่าจะให้ความหมายที่ได้รายละเอียดดีกว่าคู่ดาวที่ใช้กันอยู่ ซึ่งเป็นลักษณะของการท่องจำคู่ดาวและใช้กันจนเป็นรูปแบบจนเป็นแพทเทิร์น เวลาอ่านก็ต้องบีบเรื่องให้ลงกับความหมายคู่ดาวนั้นจนขาดความเป็นธรรมชาติและความเป็นจริงในชีวิตไป    จากนั้นก็มีการใช้ธาตุเข้ามาช่วยในการขยายเรื่องราวให้ได้ความชัดเจนมากยิ่งขึ้น (ระบบการอ่านดวงชะตาในแนวที่ผมใช้นี้ได้ถูกรวบรวมและกลั่นกรองจนมาเป็นระบบการอ่านในแบบ ระบบเรือนชะตาสัมพันธ์ โดย อ.พายัพ วชิโร หรือนายพายัพเพื่อนซี้ปึ๊กของผมนั่นเอง ก็ต้องขอกล่าวถึงและให้เครดิตเขาไว้ ณ ที่นี้ด้วย)

 

            กลับมาที่การอ่านดวงกันต่อดีกว่า ยังคงเป็นการอ่านพื้นดวงเหมือนเดิมนะครับ การที่เราจะเรียนในหลักวิชาที่สูงขึ้นไปของโหราศาสตร์นั้น สิ่งสำคัญที่สุดยังคงเป็นพื้นฐานตรงนี้อยู่ดีนั่นเอง เกือบทุกคนที่ศึกษากันอยู่มักจะละเลยตรงจุดนี้ อยากจะอ่านจรเร็วๆ โดยไม่ได้นึกถึงว่าพื้นดวงยังอ่านไม่ได้ แล้วจะอ่านจรได้อย่างไรกัน จริงไหมครับ   ฉะนั้น เรามาฝึกกันที่จุดนี้เพื่อปรับพื้นฐานให้มั่นคงในอันที่ก้าวขึ้นไปเรียนหรือศึกษาในหลักวิชาที่สูงกว่าต่อไป   ดวงชะตาที่จะนำมาอ่านเป็นดวงตัวอย่างในคราวนี้เป็นดวงหญิง เกิดวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๐๓ เวลา ๑๙.๑๔ น.

 

              

 

1. เริ่มที่ภพที่ผมว่าสำคัญที่สุดก่อนเลย   ตนุ๗ + วินาสน์ ๕ เกษตร

            ภพนี้ผมถือว่าเป็นภพที่สำคัญที่สุด มันไม่ได้เพียงแค่บอกถึงวิถีชีวิตโดยรวมของเจ้าชะตาเท่านั้น แต่เป็นการแสดงออกทั้งหลายทั้งปวงของเจ้าชะตาอีกด้วย โบราณจารย์จึงจารึกบอกต่อกันมาว่าตนุลัคน์เป็นการกระทำของเจ้าชะตา เป็นการดำเนินไปในชีวิตของเจ้าชะตา การแสดงออกทั้งปวงของเจ้าชะตาจึงเป็นไปตามตนุลัคน์แห่งตนนั่นเอง   ชะตานี้เมื่อตนุเป็นดาว ๗ สิ่งแรกที่บ่งบอกความหมายของเสาร์ก็คือ ความเครียด คิดมาก เห็นแก่ตัวเองเป็นที่ตั้ง   ดาว ๗ เป็นดาวธาตุไฟสุมขอน จึงมักเก็บกักความเครียดความวิตกกังวลไว้กับตัวจนกลายเป็นความร้อนรุ่มอัดอกทำให้ขาดซึ่งความสุขในชีวิต   แต่ก็มีดีที่ว่ามีความอดทนสูง รู้จักอดกลั้นรอเวลา แต่ก็นั่นแหละก็ต้องทนทุกข์ทรมานใจไปด้วยกับการรอคอยเช่นกัน   ดาว ๗ ชะตานี้ไปอยู่ราศีธนูเรือนธาตุไฟ ซึ่งเป็นเรือนธาตุที่ก่อให้เกิดการเร่งเร้า ทำให้ดาว ๗ ซึ่งแต่เดิมเก็บความเคร่งเครียดและเป็นทุกข์ไว้อย่างเงียบๆ เกิดการเร่งเร้าเกิดความมุ่งมั่นขึ้นและเกิดความอยากที่จะผลักดันวิถีชีวิตของตนเองขึ้นมา   เมื่อไปอยู่ในเรือนของดาว ๕ ก็ซึมซับเอาอิทธิพลของความหมายดาว ๕ เข้ามาร่วมด้วย โดยการเร่งเร้าตัวเองให้ใช้สติปัญญาความรู้และประสบการณ์ที่ผ่านมาของตนที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์ในการวางแผนการชีวิต เพื่อพัฒนาวิถีชีวิตให้ดีขึ้นไปกว่าที่เป็นอยู่เดิม   ค่าของดาว ๕ เป็นเกษตร ซึ่งตำแหน่งเกษตรเป็นตำแหน่งที่บอกถึงความหมายที่สมบูรณ์ของดาว เท่ากับว่ารู้จักใช้สติปัญญาความรู้อย่างเต็มที่ มีการวางแผนมีการไตร่ตรองอย่างละเอียดรอบคอบ มีความมั่นอกมั่นใจสูง รู้จักใช้สติปัญญาในการแก้ปัญหาและหาทางออกให้แก่ปัญหาที่เกิดขึ้นในวิถีชีวิตของตนเองได้   เรือนดาว ๕ นี้เป็นภพวินาสน์ เป็นเรื่องที่ปิดบังซ่อนเร้น เป็นเรื่องปกปิด เป็นเรื่องที่อัดอั้นตันใจ เป็นเรื่องที่คาใจของชะตานี้   ดังนั้น เมื่อประมวลความหมายทั้งหมดแล้วจะอ่านได้ว่า ชะตานี้เป็นชะตาที่เต็มไปด้วยความทุกข์ความเครียด แต่ก็มีจุดมุ่งหมายสูงในชีวิต ทำให้เจ้าชะตามีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันตัวเองให้มีการพัฒนาวิถีชีวิตให้ไปสู่สิ่งที่ดีกว่า โดยอาศัยสติปัญญาความรู้และประสบการณ์ที่ผ่านมาอย่างเต็มที่ ในการหาทางออกให้กับชีวิตของตัวเอง กับเรื่องที่อัดอั้นตันใจ เรื่องราวที่ผ่านมาแล้ว เรื่องราวที่ปกปิดไว้ในใจ (ความหมายของวินาสน์) ซึ่งเป็นเรื่องเป็นเหตุการณ์ที่วุ่นวายเดือดร้อนที่เคยเกิดขึ้นกับวิถีชีวิตที่ผ่านมาของเจ้าชะตา หรือในบางเรื่องก็เป็นความปรารถนาอย่างเร้นลับของเจ้าชะตาที่ปกปิดไม่บอกใคร   แต่โดยสรุปก็คือต้องการมีวิถีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างที่เจ้าชะตาคิดว่าน่าจะเป็นในความคิดของตนเอง (ก็คงไม่พ้นเรื่องอยากมีเงิน อยากมีชื่อเสียง อยากมีสิ่งที่คนอื่นมี)   มีอย่างหนึ่งที่อยากให้สังเกตก็คือ ตนุชะตานี้ที่เป็นดาว ๗ เรือน ๕ เกษตร ทำให้เจ้าชะตาค่อนข้างที่จะมองโลกในมุมมองของเขาเองสูงมาก เป็นมุมมองในแบบที่เขาต้องการให้เป็นไปตามนั้น ซึ่งเขาจะไม่ต้องการให้ใครมาขัดกับมุมมองความคิดของเขา ทำให้ค่อนข้างยากที่จะเปลี่ยนใจหรือเปลี่ยนความคิดของเขาได้ หากเขาได้ตัดสินใจอะไรไปแล้วจะไปคัดง้างให้เขาเปลี่ยนใจเปลี่ยนความคิดจะเป็นไปได้ยากมากเลยทีเดียว

 

2. มาดูเรื่องการเงิน   กดุมภะ๘ ประ + มรณะ ๑ เกษตร

            กดุมภะเมื่อเป็นดาว ๘   ซึ่งเป็นดาวไม่รอบคอบ ไม่คิดหน้าคิดหลัง ทำให้การใช้จ่ายจะใช้ไปตามความพอใจแห่งตน ออกในแนวสุรุ่ยสุร่าย หมดไปกับสิ่งที่ตัวเองพอใจ ชอบ หลงใหล ตามความหมายมัวเมาของราหู   หากแต่ชะตานี้ดาว ๘ เป็นประ ทำให้ความหมายสมบูรณ์ของดาวนั้นลดน้อยถอยตัวไปเป็นอันมาก ความหมายของดาว ๘ ประ ทำให้เรื่องความไม่รอบคอบ ไม่คิดหน้าคิดหลัง นั้นเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น  ลดความฟุ่มเฟือยสุรุ่ยสุร่ายลง   จะเห็นได้ว่าความหมายกดุมภะ ๘ ประกลับส่งผลในด้านดีมากกว่าเสีย (ไม่ใช่ว่าพอดาวได้ประได้นิจก็ต้องเสียเพียงอย่างเดียว ในขณะที่ดาวได้เกษตรได้อุจดีเลิศลอย อย่ามองเพียงแค่นั้น เราต้องเอาความหมายดาวอ่านร่วมความหมายภพและค่าแห่งดาวมาตรฐานมาอ่านร่วมรวมกันทั้งหมดเสียก่อน จึงจะตีความได้ว่าดีหรือเสีย)   มาตามดาวไปจังหวะสองต่อ ดาว ๘ ไปอยู่ราศีสิงห์ เป็นดาวธาตุลมไปอยู่ในราศีธาตุไฟ ทำให้บางทีบางครั้งในเรื่องของการจับจ่ายเงินทองของเจ้าชะตานั้นจะมีการใช้จ่ายอย่างเร่งรีบเร่งร้อนแบบอดใจไว้ไม่อยู่ประมาณว่าตัดสินใจอย่างฉับพลันทันด่วน เห็นแล้วอดใจไว้ไม่อยู่ต้องซื้อต้องหาเอามาเป็นของตัวให้ได้   ไปอยู่ในเรือนดาว ๑ ซึ่งเป็นความหมายของชื่อเสียง โดดเด่นเป็นเอก ของมีค่าราคาแพง ก็ตีได้ว่า ถึงแม้ว่าในเรื่องการเงินของเจ้าชะตานั้นโดยปกติจะไม่ค่อยใช้จ่ายฟุ่มเฟือยมากนัก (ตามความหมายแห่งกดุมภะ ๘ ประ) แต่ถ้าหากว่าเป็นของที่เมื่อตัวเองใช้แล้วสามารถทำให้ดูโดดเด่น ดูมีหน้ามีตา ทำให้ผู้คนหันมาจับจ้องมองเป็นตาเดียวได้หรือเป็นจุดเด่นจุดดึงดูดความสนใจที่สุด (ความหมายดาว ๑ และดาว ๑ ได้ตำแหน่งเกษตร) ซึ่งแน่นอนต้องเป็นของมียี่ห้อ เป็นของมีค่า และมีราคาแพงด้วย (ตามความหมายดาว ๑ เกษตรอีกนั่นแหละ) เจ้าชะตาจะยอมเสียเงินเสียทองไปกับเรื่องที่ว่ามานี้ไม่ว่าจะมีค่ามีราคาแค่ไหน แพงแสนแพงเท่าไหร่ ก็ยอมที่จะเสียได้ (เรือนดาว ๑ เป็นภพมรณะ)   จะเห็นว่าในจุดของดาวจังหวะแรกนั้น ความหมายประของราหูส่งผลในด้านไม่ฟุ่มเฟือยมาก แต่ในจุดของจังหวะที่สองที่เป็นภพมรณะเรือนอาทิตย์และดาวอาทิตย์ได้ตำแหน่งเกษตร บอกไว้ว่าแต่เจ้าชะตาจะยอมจ่ายหากว่าของที่ใช้เงินทองจับจ่ายใช้สอยไปนั้น มันทำให้เจ้าชะตาเชิดหน้าชูตาเป็นจุดเด่นเป็นที่สนใจมากกว่าใคร ถึงแม้จะราคาแพงแสนแพงแค่ไหน เจ้าชะตาก็จะยอมเสียเงินไปเพื่อการนี้ได้อย่างหน้าชื่นตาบานเลยทีเดียว

 

3. ดูภพปัตนิกันบ้าง   ปัตนิ ๒ + อริ ๔ + ปัตนิ๒

            เมื่อปัตนิเป็นดาว ๒ ซึ่งเป็นความหมายแห่งการเอาอกเอาใจ การตามใจ เป็นดาวที่ไม่ค่อยจะขัดใจขัดความประสงค์ของใครเขาจนแทบจะไม่มีความคิดเห็นเป็นตัวของตัวเองมากนัก   เมื่อเรานำเอาดาว ๒ มาอ่านในความหมายแห่งปัตนิ ซึ่งสามารถอ่านได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสภาวะความรักของเจ้าชะตา อ่านตัวคู่ หรืออ่านชีวิตในการครองเรือน   เรามามองกันทีละเรื่อง   หากมองในแง่ความรักของเจ้าชะตา   ดาว ๒ ซึ่งเป็นดาวธาตุดินประเภทดินเลน อันเป็นสภาวะของความหวั่นไหวและอ่อนไหวง่าย ต้องการการเอาอกเอาใจ ต้องการได้รับความรักความอบอุ่น   เมื่อดาว ๒ ไปอยู่ราศีมิถุนอันเป็นราศีธาตุลม ธาตุดินเลนของดาว ๒ เมื่อไปอยู่ธาตุลมทำให้จริตของดาว ๒ อ่อนไหวมากขึ้น ต้องการความรักความอบอุ่น การเอาอกเอาใจมากขึ้น บอกได้เลยว่าจุกจิกเรื่องมากสำหรับดาวจันทร์ ดีไม่ดีพาลน้อยใจเอาง่ายๆ  ราศีมิถุนเป็นเรือนดาว ๔ ก็จะอ่านต่อไปได้ว่า โดยเฉพาะทางด้านคำพูดคำจา ต้องการการพูดจาที่อ่อนหวานเอาใจ ซึ่งถ้าหากพูดจาขัดอกขัดใจขึ้นมาก็จะมีปัญหาเกิดขึ้น (เรือนดาว ๔ นี้เป็นภพอริ) และจะเกิดขึ้นในทันทีที่พุดขัดใจอีกด้วย (ราศีธาตุลม เท่ากับ เวลาเกิดก็เกิดอย่างรวดเร็ว) ตามภพต่ออริ๔ ย้อนกลับไปปัตนิ ๒ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นจะไปกระทบอารมณ์ความรู้สึกด้านความรักของเจ้าชะตาและจะมีการแสดงออกให้เห็นในรูปของการงอนหรืองอแง (ความหมายของดาว ๒) และด้วยตนุของชะตานี้เป็นดาว ๗ ที่ไปอยู่เรือนดาว ๕ งอนแต่ละทีหายยากเสียด้วย   ส่วนการสลับเรือนนั้นทำให้อ่านได้ว่าในส่วนที่ว่าทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นวนเวียนไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า น่าปวดหัวนะครับ อารมณ์ความรู้สึกแบบนี้   ทีนี้มามามองดาวปัตนิ ๒ ในฐานเป็นตัวคู่ครองตามชะตากันบ้าง เมื่อคู่เป็นดาว ๒ ก็จะบอกได้ว่า คู่ของเจ้าชะตาเป็นคนที่เข้ากับคนง่าย ชอบที่จะเอาอกเอาใจคนรอบข้าง มักจะเป็นที่รักที่ชอบพอของคนรอบข้างเพราะความเป็นคนใจดีและช่างเอาใจของเขา จนบอกได้ว่าตนุที่เป็นดาว ๗ ที่มักจะคิดมาก ในบางทีบางครั้งถึงกับระแวงสงสัยว่าเขาไปเอาใจเพราะชอบคนๆ นั้นหรือเปล่า หรือทำไมเอาใจคนอื่นมากกว่าตัวเอง (นิสัยเสาร์ขี้ระแวง) กลับมาที่ชะตานี้ สืบเนื่องจากความที่เจ้าชะตาเป็นคนที่ค่อนข้างจะมองอะไรในมุมมองความคิดเห็นของตัวเองเสียเป็นส่วนมาก เรียกได้ว่าเอาแต่ใจตัวเองสูง   ดังนั้นในมุมของปัตนิตรงนี้จะอ่านได้ว่า คู่ของเจ้าชะตาจะรู้จักที่จะเอาอกเอาใจเจ้าชะตาเป็นอย่างดี (ปัตนิเป็นจันทร์) รู้จักปรับเปลี่ยนทิศทางหรือรู้ทางลมเป็นอย่างดีในอันจะคิดหรือพูด เพื่อที่จะไม่ให้เป็นที่ขัดอกขัดใจเจ้าชะตาจนเกิดปัญหาขึ้นได้ (ดาว ๒ ไปอยู่ราศีธาตุลมเรือนดาว ๔ ภพอริ) ในบางทีบางครั้งหากถึงคราวจำเป็น เพื่อไม่อยากให้มีปัญหาเกิดขึ้นก็อาจจะพูดจาหลบเลี่ยงหรือจะเรียกว่าโกหกเพื่อเอาตัวรอดก็ว่าได้ (คู่ดาว ๒ – ๔ นี้หากเสียก็จะเป็นการโกหกหรือพูดจาหลบเลี่ยงแบบนิ่มๆ แทบจะจับไม่ได้เลยทีเดียว ลองสังเกตดูนะครับ)   ทีนี้มาลองอ่านปัตนิในฐานแห่งชีวิตการครองเรือน จะอ่านได้ว่า สภาวะชีวิตการครองเรือนนั้นค่อนข้างจะผันผวนอยู่ตลอดเวลาโดยเฉพาะในด้านอารมณ์ความรู้สึกของแต่ละคนซึ่งต่างก็อ่อนไหวหวั่นไหวง่าย (ความหมายดาว ๒ และดาว ๒ ธาตุดินเลนไปอยู่ราศีมิถุนธาตุลม) ทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกันในด้านคำพูดคำจา หรือไม่ก็ต่างไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน พูดกันไม่ค่อยรู้เรื่อง พูดกันคนละเรื่องคนละภาษา จนเป็นปัญหาเกิดขึ้นในชีวิตการครองเรือน (เรือนดาว ๔ ที่เป็นภพอริ) เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นกันรุนแรงโดยเฉพาะอย่างยิ่งการไม่ลดราวาศอกด้านคำพูด มีการตอกย้ำด้วยคำพูด ก็ยิ่งทำให้เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ (อริ๔ ย้อนกลับไปที่ปัตนิ๒ และดาว ๒ มีความหมายถึง น้อยอกน้อยใจ) ทำให้ชีวิตการครองเรือนไม่มีความสุข ขาดความรักความอบอุ่น และการเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน   ครบแล้วครับ การอ่านปัตนิแยกออกเป็นประเภทต่างๆ ก็ลองนำไปใช้อ่านดูกับดวงอื่นๆ บ้าง คิดว่าจะเป็นประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อย

 

4. ภพกัมมะ   กัมมะ๖ + มรณะ๑ เกษตร

            ภพกัมมะตรงนี้ผมว่าน่าสนใจมากทีเดียว การอ่านภพกัมมะชะตานี้อาจจะดูผิดคาดสำหรับหลายๆ คนที่ตามอ่านอยู่นะครับ   ก่อนอื่นขอทำความเข้าใจกับตัวเจ้าชะตาก่อน เนื่องจากตัวเจ้าชะตาเป็นตนุ ๗ เรือนพฤหัสธาตุไฟ ดังที่บอกไปข้างต้นว่าเป็นคนมีความคิดความอ่านสุขุมรอบคอบ มั่นอกมั่นใจในความคิดของตัวเองสูง มีความมุ่งมั่นในการที่จะดิ้นรนไปสู่สิ่งที่ดีกว่า   ดังนั้น ในภพกัมมะของชะตานี้ เมื่อเจ้าเรือนกัมมะเป็นดาว ๖ ซึ่งเป็นดาวธาตุน้ำ ถ้าเราอ่านแค่ตรงนี้ จะอ่านได้ว่า ในสภาวะเรื่องงานของเจ้าชะตานั้นหากเป็นภาวะปกติก็จะทำงานตามหน้าที่ความรับผิดชอบของตนเองอย่างสบายๆ ดูจะพอใจในงานที่ตนเองทำอยู่ มองราวกับว่าอยู่แค่ไหนแค่นั้นไม่ได้กระเสือกกระสนอะไรมากมายนัก   แต่ทว่ายังก่อน มาตามดูกันต่อไป ดาว ๖ กัมมะตัวนี้ไปอยู่ราศีสิงห์ธาตุไฟ ตรงนี้เกิดความร้อนรุ่มขึ้นมาแล้ว ธาตุน้ำของดาว ๖ ไปโดนธาตุไฟแห่งราศีสิงห์เผาผลาญจนเดือดพล่าน ความสุขความสบายใจตามความหมายแห่งดาว ๖ เริ่มหมดไปกลายเป็นความร้อนรุ่มร้อนใจมาแทนที่   ไปอยู่ในเรือนดาว ๑ และดาว ๑ เป็นเกษตรด้วย ดาว ๑ มีความหมายของชื่อเสียงเกียรติยศความก้าวหน้า เมื่อมองเห็นทางแห่งความก้าวหน้าที่รุ่งโรจน์กว่า หรือเรียกได้ว่ามีตำแหน่งหน้าที่ที่สูงกว่ารออยู่ข้างหน้า (ดาว ๑ เป็นเกษตร เท่ากับ เกียรติยศชื่อเสียงตำแหน่งที่สูงขึ้นไป)   ตรงราศีสิงห์นี้เป็นภพมรณะ เจ้าชะตาก็จะมีการเปลี่ยนแปลงมีการจากไปในเรื่องงาน พูดง่ายๆ ก็คือ ออกจากที่เก่าไปทำที่ใหม่ที่ตำแหน่งสูงกว่า เงินเดือนมากกว่า นั่นเอง   จากตรงนี้เองสรุปได้ว่า กัมมะมรณะที่เห็นอยู่ในชะตานี้ไม่ใช่การเปลี่ยนงานโดยพร่ำเพรื่อ ไม่ใช่การเปลี่ยนงานบ่อยๆ หรืองานที่ต้องมีการเดินทางบ่อย หรืองานที่ต้องไปแสดงความสามารถและประสบความสำเร็จในต่างถิ่นต่างแดน อย่างที่จะเห็นการรวบรัดตัดความแปลกันแล้วหาบทสรุปไม่ได้ว่าเมื่อใดจะใช้ความหมายเปลี่ยนงานบ่อย เมื่อใดจะใช้ความหมายไปได้ดีในต่างแดน เมื่อใดจะใช้ความหมายเดินทางบ่อย ดังที่จะเห็นได้จากแหล่งความรู้ทั่วๆ ไป   ดังนั้น เราจะต้องหาจุดแห่งเงื่อนไขให้เจอแล้วท่านผู้อ่านจะพบว่า โหราศาสตร์ไทยในแนวเรือนชะตา แค่ดวงอีแปะธรรมดาๆ ก็สามารถอ่านเรื่องราวได้อย่างวิจิตรพิสดาร และตัดเรื่องได้เด็ดขาด โดยไม่ต้องพึ่งดวงนวางค์ดวงตรียางค์แต่อย่างใดให้ยุ่งยากขึ้นไปอีก

 

            เป็นอย่างไรบ้างครับ หวังว่างานเขียนชิ้นนี้คงจะเป็นที่พออกพอใจท่านผู้อ่านพอสมควร รายละเอียดที่แจกแจงออกไปคงเป็นประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อย เป็นการอ่านที่ลงลึกกว่าสองบทความแรกที่ผ่านตาท่านผู้อ่านไปแล้ว มีท่านผู้อ่านหลายท่านโทรมาสอบถามเพิ่มเติม ซึ่งผมก็ได้อธิบายไปพอสมควรตามแต่เวลาที่มี ซึ่งหากไม่ติดธุระก็คุยได้ยาว หากติดธุระอยู่ก็อธิบายได้น้อย ก็แล้วแต่จังหวะนะครับ   หลังจากนี้ไปอาจจะเขียนเรื่องสั้นๆ มาให้อ่านเล่นกัน อาจจะไม่ยาวนัก แต่ก็มีสาระความรู้ในหลายแง่หลายมุมในหลากหลายวิชาให้ท่านผู้อ่านได้อ่านแบบผ่อนคลายพร้อมให้ความรู้เล็กๆ น้อยๆ แล้วค่อยเริ่มเขียนการอ่านจรในแบบโหราศาสตร์ไทยระบบเรือนชะตาสัมพันธ์ให้ท่านผู้อ่านที่ติดตามทุกท่าน โดยเฉพาะท่านที่ได้สอบถามกันมาว่าอยากรู้ว่าจะอ่านดวงจรด้วยวิธีใด คงต้องรออีกสักพักนะครับ สำหรับคราวนี้ก็เห็นจะต้องอำลาแต่เพียงเท่านี้ ... สวัสดีครับ




บทความ อาจารย์ เหลือง

โหราศาสตร์ไทยระบบเรือนชะตาสัมพันธ์ อาจารย์เหลือง โทร. 089-8922300 article
โหราศาสตร์ไทยระบบเรือนชะตาสัมพันธ์ ๒



Copyright © 2010 All Rights Reserved.


-

-


Since 2003 - 7 - 11 Best View 1024 x 768 pixels...... www.horawej.com Email address: horawej@horawej.com
เว็บไซด์โหราเวสม์ (จำหน่ายโปรแกรมโหราศาสตร์ต่าง ๆ เว็บเพื่อการศึกษาทางวิชาโหราศาสตร์) โดย นายวิชิต เตชะเกษม โทร. 08-1844-3372
พร้อมหนังสือ เกี่ยวกับวิชาโหราศาสตร์จาก เขษมบรรณกิจ 25 ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กทม 10600
โทร. 02-439-2339, 02-439-7388-9, Fax. 02-439-7387 (หยุดวันอาทิตย์)
www.scb.co.th/