ผู้เขียนได้รับคำปรารภจากผู้สนศึกษาวิชาโหราศาสตร์ไทยหลาย ๆ ท่านว่า เมื่อผูกดวงชะตาขึ้นมาแล้ว บางครั้งไม่รู้จะออกคำพยากรณ์อย่างไร บางทีก็ปางสะเปะสะปะออกไปไม่เข้าท่าสรุปรวมว่ายังเป็นหมอที่ดูได้แต่ทายไม่ได้
ความจริงแล้วปัญหาดังกล่าวนั้นยังคงปรากฏอยู่ในวงการของผู้สนใจศึกษาวิชาโหราศาสตร์อยู่ค่อนข้างมาก ยิ่งขาดคำรับตำราและครูผู้นำที่ดีด้วยแล้วก็คงต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น
วิชาโหราศาสตร์ไทยนั้นไม่มีหลักสูตรที่แน่นอนเหมือนวิชาสามัญในโรงเรียนหรือหมาวิทยาลัยทั่ว ๆ ไป ผู้สนใจศึกษามักจะเลือกหาตำรับตำราตามที่ตนศรัทธาว่าดีเอาเอง ยิ่งเป็นตำราของหลาย ๆ อาจารย์มาผสมกันเข้า บางครั้งก็ต้องหลงทางเพราะสับสนไปหมด ความจริงตำรับตำราของท่านอาจารย์ที่ปรากฏในอดีตและปัจจุบันนั้นล้วนเป็นประโยชน์อยู่ทั้งสิ้น แต่การดำเนินเรื่องและหลักเกณฑ์ที่อธิบายไว้ไม่ค่อยจะอยู่ในแนวเดียวกันขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความชำนาญของแต่ละท่าน ทั้ง ๆ ที่หลักเกณฑ์อันแต้จริงของวิชาโหราศาสตร์ไทยนั้นมีปัจจัยสำคัญอยู่ในแนวเดียวกันทั้งสิ้นคือ เรื่องของดาวทั้งสิบดวง ภพสิบสองภพ คู่มิตร คู่ศัตรู คู่ธาตุ อุดมเกณฑ์ พินทุบาทว์ ราศีเกณฑ์ ฯลฯ ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องนำมาใช้ในการออกคำพยากรณ์ทั้งสิ้น ถ้าจดจำสิ่งเหล่านี้ได้แต่ไม่แตกฉานดีพอ ทั้งยังขาดครูผู้นะนำก็เป็นหนทางยากที่จะไปให้ถึงดวงดาว
พอสรุปได้ว่าผู้สนใจศึกษาค่อนข้างใจร้อน เมื่อผูกดวงเป็นก็อยากจะทายให้เปรี้ยงปร้างไปเลย ทั้ง ๆ ที่ยังจดจำปัจจัยสำคัญ ๆ ได้ไม่หมด นอกเหนือจากคุณสมบัติของดาวทั้งสิบดวงและภพทั้งสิบสองภพที่แสดงไว้ในตำรับตำราแล้วก็ยังมีความพิสดารนอกเหนือปัจจัยสำคัญ ๆ อีกมากมายท่านจะต้องศึกษาค้นคว้า พิสูจน์ให้เห็นข้อเท็จจริงจนเกิดประสบการณ์เพื่อจะนำมาใช้ประโยชน์ในการออกคำพยากรณ์ท่านต้องมีครูอาจารย์ช่วยแนะนำสั่งสอนด้วยความตั้งใจและอดทนเป็นอย่างมากที่จะศึกษาค้นคว้าเพราะมันมิได้ใช้เวลาเพียงปีหรือสองปีเท่านั้นนะท่าน ขอเรียนว่าการศึกษาวิชาโหราศาสตร์ไทยนั้นไม่มีจุดจบที่แน่นอน
ผู้เขียนเริ่มศึกษาเมื่อปี ๒๕๒๓ ซึ่งขณะนั้นมีอายุ ๕๘ ปีเข้าไปแล้ว เพราะสงสัยว่าทำไมชีวิตของเราจึงสับสนสิ้นดี เข้าหุ้นทำธุรกิจกับใครก็เจ๊งไม่เป็นท่าสองครั้งสามครั้งจบเกือบไม่มีข้าวสารจะกรอกหม้อ เปลี่ยนงานเป็นว่าเล่นไม่น้อยกว่าสิบครั้ง ดาวมฤตยูลอยอยู่ในภพกัมมะร่วมดาวอาทิตย์และดาวพุธในเรือนราหู ดาวราหูเป็นประในราศีสิงห์ ดาวอาทิตย์ก็เป็นประในราศีกุมภ์สลับเรือนกันอยู่ อาจารย์ท่านสอนว่าดาวมฤตยูอยู่ในภพไหนทำลายภพนั้น มฤตยูอยู่ในภพกัมมะห้ามเข้าหุ้นจะเจ๊ง ให้ใช้วิธีจับเสือมือเปล่าจึงจะดีแล ถึงไม้ว่าดาวที่ลอยอยู่ในภพสิบของราศีปัสสวะจะให้คุณก็ตามแต่ก็คางเหลืองจะแทบจะไม่เป็นผู้เป็นคน ดาวเสาร์ลอยอยู่ในภพที่ห้า ดาวราหูก็ลอยอยู่ในภพที่สี่ของลัคน์ ดาวอังคารก็เป็นกาลีลอยอยู่ในราศีเมษภพวินาศน์ ชีวิตในวัยเด็กช่างมืดมนสิ้นดีดาวเสาร์ในภพที่ห้า (ปุตะ) เป็นพินทุบาทว์ ดาวราหูในภพที่สี่ก็เป็นพินทุบาทว์เช่นกัน มีพ่อ-แม่-บ้านช่องก็เหมือนไม่มี เฉพาะดาวเสาร์ในภพที่ห้านั้นมักจะบันดาลให้เจ้าชตาดำเนินชีวิตที่แตกต่างกัน หมายความว่าถ้าดีในวัยเด็กก็จะต้องตกอับในภายหลัง แต่ถ้าลำบากยากแค้นในวัยเด็กก็จะพื้นดีขึ้นในภายหน้า ดาวจันทร์ร่วมดาวพฤหัสลอยอยู่ในราศีตุลย์ ราศีตุลย์ภพอริเป็นอุดมเกณฑ์ของราศีปัสสวะ ดาวสองดวงนี้ช่วยให้เจ้าชะตาศึกษา ค้นคว้า ริเริ่มสร้างสรรค์ร่วมกับดาวอังคารซึงเป็นเกษตรในราศีเมษส่งกำลังมาร่วมด้วย ช่วยให้เอาตัวรอดมาได้จะถึงปัจจุบันนี้ซึ่งจะมีอายุครบรอบที่เจ็ดในเดือนมีนาคม ๒๕๕๐ นี้แล้ว ที่เขียนมานี้แม้จะเป็นเรื่องชีวิตส่วนตัวแต่ก็คงเป็นประโยชน์อยู่บ้างกับผู้ที่กำลังศึกษาวิชาโหราศาสตร์ไทย เพราะเป็นสัจจสูตรที่นำไปใช้ในการพยากรณ์ได้ถูกต้องแน่นอน ลองพิสูจน์ดูนะครับ
จะว่ายากก็ยากจะว่าง่ายก็ง่าย คนไม่เป็นการเหนือบ่ากว่าแรงจนเกินไปเพราะปัจจัยสำคัญอันเป็นหัวใจของวิชาโหราศาสตร์ไทยนั้นถึงจะมีอยู่มากมาย ก็ไม่จำเป็นต้องนำมาใช้ทั้งหมด ขอให้เลือกนำมาใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้นก็จะทายกันได้เช่น
- คุณสมบัติและตำแหน่นของดาวทั้งสิบดวง
- คุณสมบัติขอภพทั้งสิบสองภพ
- ดาวที่เป็นคู่มิตร คู่ศัตรู คู่ธาตุ คู่สมพล
- ราศีเกณฑ์ ที่มีอยู่เพียง ๔ ราศี คือ ปัสสวะ นระ อำภุ และกีตะ มีดาวอะไรเป็นอุดมเกณฑ์ในราศีนั้น ๆ และมีดาวอะไรเป็นดาวฆาต? ข้อนี้สำคัญอยู่มาก เท่าที่สังเกตมักไม่ค่อยจะนำมาใช้ในการพยากรณ์กันให้ถูกต้อง
- ดาวที่มีตำแหน่งเป็นพินทุบาทว์ ที่ให้โทษทั้งลัคน์เดิมและลัคน์จร
- เรื่องของดาวส่งกำลัง ซึ่งให้คุณและโทษแตกต่างกัน
- เรื่องของทักษา ซึ่งจะต้องนำเอาศรี-กาลี มาเป็นตัวชี้ขาด
- เรื่องธาตุทั้งสี่ คือ ไฟ ดิน ลม น้ำ
- เรื่องของดาวที่มีตำแหน่งปทุมเกณฑ์ เช่น จันทร์สิบเอ็ด พฤหัสสี่ ศุกร์สาม แก่ลัคน์ให้คุณชัดเจนแน่นอน
- เรื่องของดาวที่เดินวิปริต พัก มณท์เสริดก
ปัจจัยสำคัญดังกล่าวข้างต้นนี้ ท่านจะต้องศึกษาให้เข้าใจและจดจำไว้ให้ได้เพื่อนำไปใช้ในการพยากรณ์ซึงจะขาดส่วนหนึ่งส่วนใดมิได้เลย นอกเหนือจากนี้ท่านยังจะต้องเสาะหาเก็ดและเคล็ดลับต่าง ๆ เช่น ดาวผสมดาว ดาวกระทบดาว และบทกลอนต่าง ๆ ที่ท่านอาจารย์ได้แต่งไว้ในอดีต เช่น บทพระเคราะห์คู่ของท่านอาจารย์หลวงปู่นอมฯ เป็นต้น หนังสือหรือตำราโหราศาสตร์ไทยนั้นถ้าเก่าเกินไปก็ใช้ประโยชน์ได้น้อยเพราะกาลเวลาและวัฒนธรรมได้เปลี่ยนไปแล้ว ซึ่งผู้เขียนได้เคยแนะนำไว้ในนิตยสารโหราเวสม์ฉบับที่ ๐๗๗ เดือน พ.ค. ๒๕๔๙ เรื่อง หนทางไปสู่ดวงดาว ซึ่งท่านที่สนใจยังเสาะหาอยู่ได้นะครับ หรือจะให้ผู้เขียนถ่ายเอกสารส่งมาให้ก็ยินดีครับจ่าหน้าซองชื่อที่อยู่ของตัวท่านพร้อมสอดแสตมป์ ๕ บาท ไปด้วยก็จะได้รับแน่นอน
ผู้ที่ต้องพึ่งพาหมดดูนั้นส่วนมากมักจะมีปัญหาในทางลบเกือบทั้งสิ้น ต้องพิจารณาในจุดเสียของเจ้าชะตาก่อน วางดาวใหญ่จรในขณะนั้น เช่น เสาร์ ราหู พฤหัส ลงในดวง ท่านต้องพบปัญหาของเจ้าชะตาแน่นอน เสาร์ ราหูเล็งลัคน์ พฤหัส จันทร์เป็นแปด อังคาร อาทิตย์เป็นห้า ศุกร์เล็ง ทั้งลัคน์เดิมและลัคน์จรมีปัญหาแน่นอนเพราะตำแหน่งของดาวเหล่านี้ล้วนเป็นพิทุบาทว์ให้โทษทั้งสิ้น บางครั้งเป็นปัญหาข้ามปีมาก็ได้เพราะดาวเสาร์จรครองเรือนอยู่สองปีครึ่ง ดาวราหูอยู่ปีครึ่ง ดาวพฤหัสครองอยู่หนึ่งปี ก็ต้องดูย้อนหลังไปถึงปีที่ผ่านมา
การออกคำพยากรณ์ที่ยากที่สุดก็คือ เรื่องของสามีไปปันใจให้กับหญิงอื่น ผู้เป็นภรรยาหลวงมักจะไม่ค่อยยอมลดราวาศอก เสียทองเท่าหัว ไม่ยอมเสียผัวให้ใคร ถึงไหนถึงกัน ซักไซ้ไล่เลียงเซ้าซี้ไม่รู้จบ บางรายออกรังควาญหญิงคนนั้นจนทำให้สามีเกิดความรำคาญเป็นอย่างมาก ภรรยาหลวงบางท่านทุกข์โศกปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้ทรุดโทรมทั้งร่างกาย๐และจิตใจ ละทิ้งหน้าที่ของแม่บ้านที่ดีไปเกือบหมดโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือเรื่องบนเตียงซึ่งไม่ยอมรับอารมณ์ร่วมของสามีจนพระเอกต้องหนีเข้าป่าไปอยู่กับอีหนูคนนั้นก็มีให้เห็นกันอยู่มากมาย เรื่องเช่นนี้นับเป็นปัญหาที่ค่อนข้ายากในการออกคำพยากรณ์ บางครั้งก็ต้องโกหกพกลมต้องใช้จิตวิทยาค่อนข้างสูงเพื่อให้เจ้าชะตาลดความเครียดลงให้มากที่สุด ขอร้องให้อดทนอดกลั้นรำลึกถึงความดีของกันและกันในอดีตก่อนที่จะตัดสินใจมาใช้ชีวิต่อมกัน พยายามประพฤติปฏิบัติหน้าที่แม่บ้านที่ดีด้วยความอดทนไม่ช้าพระเอกก็จะเกิดความสำนึกถึงความดีขอภรรยาหวนกับคืนมาหาน้ำพริกถ้วยเก่าแน่นอน ดวงชะตาของสามีและภรรยานั้นถ้าไม่มีดาวเสาร์หรือราหูเล็งลัคน์ในดวงเดิมแล้ว การหย่าร้างก็ไม่ค่อยจะมี นอกเหนือจากกรรมคือการกระทำของจ้าชะตาซึ่งประกอบด้วยศักดิ์ศรีและทิฐิอย่างสูงซึงกันและกันโดยไร้เหตุผลก็แยกทางกันได้
ที่เขียนมามืดยาวครั้งนี้ก็ด้วยเจตนาที่จะแนะแนวให้ผู้ศึกษาโหราศาสตร์ไทย (ดวงอีแปะ) ที่ ดูได้แต่ทายไม่ได้ ปรับแนวการศึกษาให้อยู่ในแนวทางที่ถูกที่ควรเพื่อเป็นนักพยากรณ์ที่ดีให้จงได้เกร็ดและเคล็ดลับต่าง ๆ ต้องเสาะหาค้นคว้าเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
นอกเหนือจากบัญญัติทั้งสิบประการที่ได้กล่าวไว้แต่ต้นนั้น ยังมีองค์ประกอบที่สำคัญที่ผู้เขียนมิได้นำมาใช้อีกมาก ก็ขอให้อยู่ในวิจารณญาณของท่านผู้ศึกษาว่าควรจะนำมาใช้ร่วมด้วยหรือไม่ เพราะหนังสือที่ผู้เขียนได้จัดทำขึ้นไว้คือ โหราศาสตร์ไทยกับปัจจัยสำคัญในการพยากรณ์ นั้นยังขาดหลักเกณฑ์สำคัญอยู่อีกมาก ก็ต้องกราบขออภัยไว้ด้วยความเคารพถ้าจะเป็นปัญหาของท่านผู้รู้อื่น ๆ ที่ใช้กันอยู่ สุดท้ายนี้ขออวยพรให้ทุกท่านพบกับความสำเร็จในการที่จะเป็นหมดที่ดูได้และทายได้ถูกต้องแม่นยำตามประสงค์ตลอดไป สวัสดี
โหราศาสตร์ไทยกับปัจจัยสำคัญในการพยากรณ์
โดย ศิษย์อาจารย์สมัย วงศาโรจน์
เหมาะสำหรับผู้มีพื้นความรู้เรื่องดวงไทยแต่ยังออกคำพยากรณ์ได้ไม่ดีเท่าที่ควร
โปรดติต่อที่ คุณอำนวย ศาสตระรุจิ โทร ๐-๒๕๑๔-๐๘๑๓