ชีวิตความเป็นไปของเด็กคนนี้ ผมรู้-เห็นมาตั้งแต่ก่อนเขาเกิดเสียอีก ตั้งแต่มารดาเขายังไม่แต่งงาน ตอนแต่งงานผมก็ไปร่วมงานด้วย เมื่อเขาเกิดมาก็รู้เห็นอย่างแน่ชัด เพราะอยู่ใกล้กัน ครอบครัวเราสนิทสนมกับครอบครัวเขามาก

            มารดาของเขาจบการศึกษาระดับปริญญาตรี ทำงานในกระทรวงแห่งหนึ่ง (ขอสงวนนาม) บิดาเขาเป็นพ่อม่ายลูกติด มีลูก ๔ คนจากภรรยาเดิมซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว เขาเป็นนักธุรกิจทางภาคใต้ มีกิจการที่ทำเงินหลายอย่าง เช่น ตั้งร้านขายทองคำในจังหวัดแห่งหนึ่ง มีสวนยางพารา,มีบ่อปลา,มีกิจการค้าแร่,มีหุ้นส่วนในรีสอร์ตบนเกาะสมุย มีกิจการน่าจะเป็นบ่อนการพนันในจังหวัดต่าง ๆ ทางใต้อีก ๓ จังหวัด นอกจากนั้น ยังเป็นหัวคะแนนพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่ง,แล้วยังหวังจะเล่นการเมืองระดับท้องถิ่นอีก,นิสัยเขาเป็นคนขี้เหนียวกับญาติและครอบครัว แต่ใจกว้างกับคนอื่นและสังคมภายนอก

            เขาเกิดมาด้วยวิธีที่มารดากินยาเร่งคลอดให้ออกเร็ว ๆ ที่โรงพยาบาลภูมิพลฯ เมื่อ ๑๕ มีนาคม ๒๕๓๒ เวลา ๒๑.๐๕ น. หรือตรงกับ วันพุธ ขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๔ ปีมะโรง ซึ่งถ้าคลอดตามธรรมชาติแล้ว น่าจะคลอดภายหลังจากวันนี้อีกไม่เกิน ๑๐ วัน แต่หมอทำคลอดเขาว่างเฉพาะวันพุธ เขาจึงนัดไปทำคลอดวันนี้

            เนื่องจากมารดาต้องไปทำงานทุกวัน บิดาก็มีธุรกิจทางได้ นาน ๆ จะมากรุงเทพฯ ครั้งหนึ่ง ดังนั้น พอคลอดมาได้ประมาณ ๕ วัน ป้า, หรือพี่สาวมารดาเขาก็มารับตัวเขาไปอยู่ด้วยที่ต่างจังหวัด ซึ่งเขามีครอบครัวอยู่ที่นั่น มารดาเขาจะไปเยี่ยมทุกเดือน ชีวิตในวงญาติอบอุ่น ไม่มีปัญหาอะไร คุณลุง-คุณป้า มีลูก ๓-๔ คน แล้วเลี้ยงเขาเหมือนลูกคนเล็ก ลุง-ป้าเขามีนโยบายเลี้ยงลูกแบบกลาง ๆ ประเภทติดดิน เพราะเขาคิดว่าลูกของเขาไม่รู้ว่าต่อไปภายหน้าจะลำบากหรือรุ่งเรือง ถ้าลำบากก็ไม่เดือดร้อน ถ้าเขารุ่งเรืองก็ทำตัวได้ ทั้ง ๆ ที่ฐานะในสังคมของลุง-ป้าเขานั้นเป็นข้าราชการผู้ใหญ่ระดับสูงมากคนหนึ่งของจังหวัด, เมื่อเขาเรียนจบอนุบาลแล้วมารดาก็รับเขามาอยู่ด้วยกันในกรุงเทพฯ แล้วเรียนต่อโรงเรียนใกล้บ้าน นโยบายการเลี้ยงลูกของมารดาเขาผิดกับลุง-ป้าเขา, มารดาเขาต้องการเลี้ยงเขาให้เป็นคนระดับสูง เป็นคุณหนู ให้รับความสบาย ทำตัวเป็นเจ้านาย ขี้โอ่ อยากได้อะไรทุ่มเทให้ เขาจึงสบายแทบไม่ต้องทำอะไรทั้งๆ ที่หัวสมองของเขาปานกลางการเรียนค่อนข้างอ่อน แต่มารดาเขาและตัวเขาคิดเสมอว่า พ่อเขารวย เขาคงจะไม่ลำบากในชีวิตแน่นอน คงจะมีแต่ความสุขความสบายในปั้นปลายเท่านั้น

            อยากได้อะไร บิดา-มารดา ทุ่มเทปรนเปรอให้ทุกอย่าง

            การดิ้นรนต่อสู้ชีวิต หรือความยากลำบากเป็นอย่างไร ไม่รู้จัก

            -ชีวิตจึงมีแต่ประเภท “ชุบมือเปิบ” หรือ กินแล้วเล่น,นอน,เรียน ฯลฯ

            -การเรียน ก็เรียนไปอย่างงั้นเอง เรียนไปวัน ๆ เรียกว่า “สักแต่ว่าเรียน” ก็ไม่รู้จะเรียนไปทำไม เป็นตารางเวลาของชีวิตส่วนหนึ่งเท่านั้น ก็ในเมื่อโตขึ้นพ่อเขาคงทุ่มเท แบ่งปันทรัพย์สมบัติให้

            มารดาของเขาเป็นคนหัวสูง ทะเยอทะยาน อยากได้ดี,อยากรวยทางลัด จึงหาวิธีแต่งงานกับคนรวยแล้ว ทั้ง ๆ ที่ฟื้นฐานครอบครัวเป็นคนปานกลาง เพื่อเป็นการฝึกเขาให้พร้อมจะเป็นลูกของคนรวย จึงฝึกให้เขาสบายและเป็นคุณหนู

            จึงทำให้เขาเกียดคร้าน ขี้โอ่ ใฝ่หาความสบาย ไม่มีกะใจที่จะดิ้นรนต่อสู้ในชีวิต สมองไม่ค่อยดี,ผลการเรียนอ่อน ใกล้ตกแทบทุกชั้น ทุกคนลงความเห็นว่า เขาคงเรียนระดับมหาวิทยาลัยเอาปริญญาไม่ได้ เมื่อเขาเรียนจบม.๓ พ่อเขาจึงให้เขาเรียนทางวิชาชีพ ในโรงเรียนช่างกลเอกชนแห่งหนึ่ง สาขา “ช่างยนต์” เพราะคิดว่าเขาชอบทางเครื่องยนต์กลไก กะว่า เมื่อจบการศึกษาแล้ว จะให้ไปทำงานใน “คาร์แคร์”ของพี่ชายต่างมารดาในภาคใต้

            “ชีวิตนี้ เป็น อนิจจัง” เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าของเรา เป็นสัจธรรมแท้จริง คือไม่มีอะไรเที่ยงท้แน่นอน ชีวิตของเขาก็ไม่พ้นจากสัจธรรมข้อนี้

            ย่างเข้าปลายปี, เจ้าหน้าที่โรงเรียนเชิญมารดาเขาไปพบบอกว่า “เวลาเรียนของเด็กไม่พอ”มารดาก็บอกว่า เขาก็แต่งตัวมาโรงเรียนทุกวัน,ก็เป็นที่เข้าใจกันว่า เด็กมาโรงเรียนแต่ไม่เข้าเรียน ไม่รู้ไปไหน โรงเรียนขอให้ตักเตือนบุตร แต่ความที่เด็กถูกตามใจจนเคยเสียแล้วเตือนเท่าไรเด็กก็ดื้อตาใส โรงเรียนเชิญมารดาเขามาพบหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายโรงเรียนบอกว่าถึงเรียนไปจบครบเทอมถึงปลายปี ก็เข้าสอบไม่ได้นะ เพราะเด็กมีเวลาเรียนไม่พอ

            มารดาเลยตัดสินใจ “ดร็อป”พักการเรียนเขาไว ๑ ปี

            ตอนนี้เป็นที่รู้กันว่า “ไม่อ่อนคัดง่าย ไม่แก่ดัดยาก” อย่างที่โบราณว่านั้นเป็นความจริงแต่ในฐานะที่อยู่ใกล้ชิดคนหนึ่ง ผมทราบดีว่า เด็กคนนี้ไม่ได้เสียเองอย่างเขาคิด มารดาของเขาและการอบรมของมารดาของเขานั่นแหละ,มีส่วนที่ทำให้เด็กคนนี้เสียถึง ๕๐% หรือมากกว่านั้นแต่ผมจะไปบอกไปเตือนเรื่องนี้ได้อย่างไร มารดาเขาเป็นคนชอบพูดอ้อล้อ คือ คนไหนมาใกล้ชิดแล้วพูดจาดี ๆ พูดยกยอปอปั้น (หรือสอพอนั่นแหละ) เสมอ ๆ เธอจะมองเขาว่าเป็นคนดี,ใครพูดจาขัดหูก็ไม่ชอบ ซึ่งถ้าไปพูดกับเธอเรื่องนี้เข้าเธอคงไม่ยอมรับ

            ถึงตอนนี้ ผมสนใจดวงชะตาเด็กคนนี้แล้วมาผูกดวงดู ดูดวงของเขาสิครับ เป็นไปตามความจริงทุกอย่าง แม้ว่าจะเป็นการบังคับคลอดออกมา ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ พิจารณาดวงชะตาเขาแล้ว ผมบอกเธอ-เตือนเธอว่า

            “เด็กคนนี้ เรียนช่างกลไม่ได้นะ หรือเรียนได้ไม่ถูกโฉลกกับดวงชะตาเขา”ดู ๓ การช่าง, เครื่องจักร, เครื่องยนต์, เป็นประในดวงชะตา แล้วยังเป็นพระเคราะห์สถิตเรือนมรณภพอีก แม้ว่า ๕ สหัชชภพ, และอริภพสถิตมรณภพ เป็นจุลจักร กุม ๓ ด้วย ในฐานะคู่สมพล ก็ช่วยอะไรได้ไม่มากนัก,สมมุติว่า เรียนช่างยนต์จบมาก็จะทำงานในที่อับ ๆ ลับ ๆ เหน็ดเหนื่อย ยากลำบาก ได้ไม่คุ้มเสีย ผลที่สุดเงินไม่พอใช้ ก็อาจเปลี่ยนงานอาชีพไปทำอย่างอื่นก็ได้

            เธอก็อ้างเหตุผลว่า เด็กถนัดทางนี้, ผมก็ยืนยันตามดวงชะตาว่า “เด็กเรียนไม่ได้”ถึงเรียนได้ – ออกทำงาน ก็ไม่ก้าวหน้า – ไม่รุ่งเรือง ผลที่สุด อาจต้องเปลี่ยนอาชีพก็ได้ เธอว่าอะไรเหมาะกับเด็กคนนี้ ผมบอกว่า ๒ เจ้าเรือนกัมมะ,สติทวิสภาวะราศีในเมถุน เป็นอุจจาภิมุข ดังนั้น เด็กคนนี้จะทำงานด้านบริการ,ถูกดวงชะตา, งานทำหลาย ๆ อย่างได้ เช่น เป็นผู้แทน หรือทำเกี่ยวกับร้านค้าชายหาด,การพักแรมค้างคืนทุกชนิด, การทำโรงแรม , รีสอร์ต,ร้านอาหารกิจการคาราโอเกะ,ไนท์คลับ,ขายอาหาร-ขายเครื่องดื่ม ขายน้ำ ทั้งน้ำกิน – น้ำใช้ น้ำมันเติมรถยนต์ เรือยนต์ และน้ำมันพืชปรุงอาหาร,คือเรียนด้านพานิชยการ,หรือการจัดการหรือสถานบันเทิง,ดู ๔,๖,๘ ในปุตตะภพ, ๔ เป็นจุลจักร, เทวีโชค, ๖ เป็นอุจจาวิลาส ๘ เป็นเกษตร เป็นผู้แทนขายงานด้านศิลปะ รูปภาพ,ปั้น,แกะสลัก, งาน VDO, ภาพยนต์,การแสดง,นักแสดงประเภทต่าง ๆ ขายผลิตภัณฑ์ยางและสิ่งประดิษฐ์ เช่น รองเท้ายาง,แผ่นยางสังเคราะห์,รองเท้ากีฬา,ยางรถยนต์-จักรยานยนต์,ช่างเสริมสวย ช่างตัดผม,ดัดผม,ตัดเสื้อผ้า,หุ่นกระบอก, หนังตะลุง ฯลฯ เรียนไปทางที่บอกมาจึงจะสำเร็จได้ งานที่บอกจะ MAKE MONEY ให้

            ๕ อยู่มรณภพ บอกว่า จะกำพร้าหรือไม่ได้อยู่กับพ่อ-แม่ก็จริงตามดวงชะตา,โกหกเก่งกะล่อน,แล้วตามตำรา พ.อ.(พ) เอื้อน มณเฑียรทอง,เขาจะมีโอกาสไปศึกษา ณ ต่างประเทศได้ ถ้าต้องการ (๕= การศึกษา,มรณภพ = ต่างประเทศ,ถิ่นแดนไกล)

            ไปดูดวงชะตาของเด็กคนนี้

            พยากรณ์/วิเคราะห์ ดวงชะตาของ นายหลายชื่อ

            -กำเนิด ณ โรงพยาบาลภูมิพลฯ, มารดากินยาขับเร่งออก

            กำหนด ณ วัน ๔๔ ค่ำ ปีมะโรง จ.ศ.๑๓๕๐ ตรงกับ ๑๕ มีนาคม ๒๕๓๒ เวลา ๒๑.๐๕ น.(กทม.)ลัคนา สถิต ราศีตุลย์ ทุติยะนวางศ์ ๕ ปฐม ตรียางศ์ ๖ ฤกษ์ที่ ๑๕, ประกอบด้วย เทวีแห่งฤกษ์

            ดวงชะตานี้ จัดเข้าเกณฑ์ ดวงตรีโกณ ธาตุลม ๒-ล-๔๖๘ เป็น ๕ แก่กัน ธาตุลม เป็น ราศีฝ่ายลบ เป็นราศีที่ชอบใช้สอย ไม่ชอบเก็บงำ ชอบเดินทาง เคลื่อนย้าย ไม่ชอบอยู่กับที่ ดวงตรีโกณ ธาตุลม อาจนำเจ้าชะตาให้ลอยละลิ่ว พุ่งขึ้น อย่างรวดเร็ว อย่างไม่คาดหมาย เก่งในการชักจูงคนอื่น เหมาะแก่การเป็นนักเขียน, หรือนักโฆษณา การค้าต่างประเทศ เดินตลาด นักบิน, พนักงานการบิน อารมณ์เย็น กว่าธาตุไฟ, การพุ่งสูงขึ้นของดวงชะตา บางอย่างก็ไม่ยั่งยืน อาจตกลงมาได้

            -การเป็นดวงธนโยค (๓ ใน ๖ ดวง) ที่ไม่สมบูรณ์ส่งผลให้กิจการเงิน ไม่สมบูรณ์ ซ้ำมีพินธุบาท ถึง ๒ จุด ดังนั้น อาจส่งผลธนโยคก็ได้ หรือ ไม่มีผลธนโยคก็ได้แต่ก็ทำให้ ชีวิต, ความเป็นอยู่ของเจ้าชะตา สุขสบาย และดีเด่นยิ่งกว่าผู้อื่นอีกหลายแสนคน

            -๓ เป็นเจ้าเรือนปัตนิ และกดุมภะ ของดวงชะตา สถิตมรณะภพ เป็น ประ กุม ๕ จาก อริและสหัชชะ บอกว่าการเงินของเจ้าชะตา มักจะมีหนี้สินอยู่เสมอ

            -เพื่อนฝูง ย่อมชักจูงเจ้าชะตาสู่ทางเสื่อมเสีย

            -คู่ครองของเจ้าชะตา จะเป็นคนในถิ่นไกล แดนไกล,ผิวคล้ำ ผอม เกร็ง ต่อไปจะอ้วน,ท้วมเล็กน้อย มักจะไม่ลงรอยกับเจ้าชะตา มักจะทะเลาะกันเสมอ มิฉะนั้น จะมีโรคภัยไข้เจ็บประจำตัว คู่ครองของเจ้าชะตา จะมีหลักฐานดี

            เจ้าชะตา จะไปพบเขาที่บ้าน ก่อนจะหมั้น หรือแต่งงาน โอกาสที่จะหย่าร้างกับคู่ครอง มี % สูงมิฉะนั้น อาจจากกันด้วยการเสียชีวิต คู่ครองของเจ้าชะตา มีหลายคน ๓ คน,มิฉะนั้น ก็ ๕ คน

            - ๓ หมายถึง การช่าง,เครื่องจักร,เครื่องยนต์ หรือ บุคคลที่ทำงานในเครื่องแบบ เช่น ทหาร,ตำรวจ,บุรุษไปรษณีย์,เจ้าหน้าที่ธนาคาร ฯลฯ เมื่อ ๓ สถิต มรณะภพของดวงชะตา บ่งบอกว่า กิจการที่กล่าวข้างต้น ไม่ถูกต้องกับดวงชะตา,ถ้าเจ้าชะตา ทำ-จะอยู่ไปที่ลับๆอับๆ  เหน็ดเหนื่อย,ยากลำบาก และไม่ก้าวหน้า

            -๑ หมายถึง ไฟฟ้า,ราชการ,อิเล็กโทรนิกส์,ทองคำ,เครื่องประดับ,หลอดไฟ วัสดุที่ให้แสงสว่าง ทุกประเภท,ตะเกียง,เทียนไข,ฯลฯ กิจการเหล่านี้เมื่อ ๑ สถิต อริภพ กิจการเหล่านี้ ถ้าเจ้าชะตาทำ /หรือ ประกอบอาชีพ จะเหน็ดเหนื่อย จะมีหนี้สิน และทำความเดือนร้อนให้

            -เกิด นวางศ์ ๕ ตำราว่า จะเป็นครู เป็นข้าราชการ หรือ ทหาร ฉลาดในการสงคราม

            -เกิด ตรียางศ์ ๖ ตำราว่า จะมีความสุข ตั้งแต่เริ่มต้นแห่งชีวิต บิดา-มารดารัก กิริยามารยาทและรูปร่างงดงาม,ชอบใจคน,มีสิตปัญญาดี เป็นที่ยำเกรงของปวงชนและสมณะ เป็นที่พึ่งของคนอื่น ปราศจากศัตรู เป็นผู้มีศรัทธาในศาสนา ชอบทำบุญ-สร้างกุศล และบูชาพระผู้เป็นเจ้า มักมีลาภของแดง มักทาของหอม ชอบกินของหวาน ชอบดนตรี

            พยากรณ์ฟื้นดวงชะตา

            ๑. รูปร่างและนิสัยใจคอ,บุคคลิกลักษณะ

            เมื่อเล็กมาผอม ต่อไปจะอ้วน (ตำราว่าไว้อย่างนี้ ไม่ได้ดูจากของจริง) ชอบอิสระ เสรีชอบความยุติธรรม จิตใจมั่นคง,ไม่เปลี่ยนใจง่าย ตั้งมั่นในเหตุผล ไม่ตามใครง่าย ๆ นิสัยชอบสงสารคน ชอบช่วยเหลือผู้อื่น จะกำพร้าบิดา หรือมารดา หรือทั้ง ๒ อย่าง (เมื่อเด็กเล็กมาพลัดพรากจากมารดามาอยู่กับป้า จึงถูกต้องตามดวงชะตา) ดูจากดวงชะตา อายุไม่ถึง ๒๐ ปี,น่าจะมีบิดาหรือมารดา เสียชีวิต (ดูอายุ ๑๖ ปี และ ๒๐ ปี)

            พฤหัสบดี อยู่มรณะภพ บ่งบอกความกำพร้า แล้วยังมีสติปัญญาออกไปทางฉลาดกว่าผู้อื่น (โกง) ศิลธรรม ต่ำ,มักพูดโกหก,ไม่จริงจัง ถ้าสนใจจะไปเรียนต่างประเทศ จะสำเร็จ,จะมีวาสนาสูงกว่าบิดาเล็กน้อย,สูงกว่ามารดา

            ๒.การเงิน/หลักฐาน

            -ใช้จ่ายมาก,หลักฐานการเงินมั่นคง แต่อาจไม่มาก,จะเป็นหนี้สินมาก มิฉะนั้น จะใช้จ่ายไปในทางรักษาโรคภัยไข้เจ็บ,ทรัพย์ได้มา จะตกเป็นของคนอื่น,หรือเพื่อคนอื่น,เพื่อนฝูงก็คอยชักจูงให้เสียทรัพย์,ตัวเพื่อนฝูง มีฐานะดี,ต้องแก้ไขและปรับปรุงการใช้จ่ายให้สมดุลย์รายได้ มิฉะนั้น การเงินจะแย่ จะยังไม่มั่นคง ตอนกลางอายุ แม้ยามแก่ก็ยังตั้งหลักไม่ได้ ยามชราตอนปลายอายุแล้ว จึงจะร่ำรวย(จะบอกวิธีแก้ไขเรื่องเงินตอนท้าย)

            ดวงชะตานี้ จะมีบ้าน ๒ แห่ง,หรือที่ดิน ๒ แห่ง หรือมากกว่า ๒ แห่งขึ้นไป จะมีรถยนต์มากกว่า ๑ คัน,จะมีแม่มากกว่า ๑ คน (กดุมภะอยู่มรณภพ = จะได้มรดก)

            ๓.เพื่อน ฝูง สังคม (เว้น)

            ๔.ตำแหน่งการงาน,มารดา

            มารดา มานะอดทน,โกรธยาก,หายยาก อาฆาตคน เก็บความรู้สึกเก่ง (ดูจาก ๗ ไม่ใช่เดาเอานะ) เป็นคนไตรีตรองมาก,คิดมาก,ขี้ระแวง มารดาจะทำตัวเป็นเพื่อนกับเจ้าชะตา(ดูจาก ๗ เจ้าเรือนพันธุ สถิต สหัชชะภพ) ในภพพันธุ มี ๙ สถิตอยู่ เจ้าชะตามีบ้านเรือนอยู่ที่ใดมักจะอยู่ใกล้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือไม่ก็เจ้าที่ของบ้าน / ที่ดิน แรง (เจ้าที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า)(บ้านที่ TOWN HOUSE ก็ใกล้วัดพระศรีฯ ซึ่งมีเจดีย์ของพระบรมสารีริกธาตุ) แม้จะไปอยู่ที่ใดหรือที่ทำงานก็ตามจะมีเจ้าที่ เจ้าทาง แรงด้วย)

            การงาน ถ้าทำงานช่าง,(ด้านใดก็ตาม) มักไม่ใคร่ก้าวหน้า มักทรงตัวเฉยๆ (ดูจาก ๗ เจ้าเรือนพันธุ สถิต สหัชชะภพ ไม่ได้มาตรฐานดีอะไร แถมยังกุมดาวมฤตยูอีก บ่งบอกว่า มารดาอาจประสบเหตุปัจจุบันทันด่วน หรือมีเรื่องฉับพลันคาดไม่ถึง,มีรถยนต์เจ้าชะตา = ระวังอุบัติเหตุ

            ๕.บุตร-บริวาร

            บุตรเจ้าชะตา จะมีฐานะดี,คนรักเจ้าชะตา มีหลักฐานดี, คนรักเจ้าชะตาอาจจะมเชื้อสายต่างชาติ มิฉะนั้น รูปร่างใหญ่ ผิวขาว-สวย-พูดเก่ง ถ้าไม่ทำหมัน เจ้าชะตา จะมีบุตร ๘ คน คนรักเจ้าชะตา จะเป็นคนในถิ่นไกล แดนไกล หรือ บุตรบริวารเจ้าชะตา ชอบเดินทางท่องเที่ยว เจ้าชะตาเอาใจใส่ หรือรักลูกน้อง รักบุตร บริวาร

            ๖.อริ-อุปสรรค

            อาจมีโรคประจำตัว โรคที่รักษาหายยาก จะมีศัตรู หรือคู่แข่งขันที่แข็งแกร่งเอาชนะได้ยาก ในดวงชะตานี้ ผู้บังคับัญชา หรือเจ้านายจะเป็นศัตรู

            อย่างไรก็ตาม ดวงชะตานี้(อาจทำบุญ แล้วอธิษฐานไว้ในชาติปางก่อน) ใครเป็นศัตรูจะวิบัติฉิบหายไป (ในภายหลัง) (อริ ไปสถิต มรณะภพ)

            ๗.คู่ครอง-หุ้นส่วน

            คู่ครองของเจ้าชะตา รูปร่าง เพรียว ผอม ใบหน้ารูปไข่ สวย (ค่อนข้างสวย) มีศิลธรรมดี  มีหลักฐานฐานะดี (พอสมควร) ผิวเนื้อ คล้ำเล็กน้อย ต่อไป จะท้วม หรือ ค่อนข้างอ้วน นิสัยแข็งกร้าว กระด้าง พูดตรงไปตรงมา ไม่ค่อยอ่อนหวาน นอกจากบางครั้งก็ทำตัวราบเรียบและสุภาพได้บ้าง เจ้าชะตาจะไปพบเขาที่บ้าน ก่อนหมั้น หรือแต่งงาน,เจ้าชะตาอาจได้เสียกับเขาก่อนแต่ง,มิฉะนั้น คู่ครองจะเป็นคู่ของคนอื่นมาก่อน หรือไม่ก็เป็นหม้าย(ม่าย) คู่ครองมีโอกาสจะหย่าร้างกับเจ้าชะตาได้ง่าย ทางแก้ไขที่ดี คือ แยกกันอยู่ นานๆ พบกับ อย่างนี้จึงจะอยู่กันยืด

            ตามดวงชะตา เจ้าชะตา จะมีคู่ครอง ๒ คน มิฉะนั้น จะมี ๕ คน

            ๘.การพลัดพราก และ ความตาย

            เจ้าชะตา จะมีอายุยืนยาว ถึงปลายชีวิตมีความสุขกับบุตรหลาน เวลาเสียชีวิต จะเสียชีวิตในเคหะสถาน บ้านเรือน,ไม่ตายตามถนน

            ๙.ความสุข-ความเจริญ

            เจ้าชะตา จะประสบความสุขความเจริญซ้อน ๆ กัน เช่น ได้ลาภสิ่งของแล้ว ยังได้เงินทองอีก หรือได้เลื่อนยศแล้ว ยังได้ ๒ ขั้นด้วย เป็นต้น

บิดาเจ้าชะตา(ตามดวงชะตา) ห่วงใยเจ้าชะตามาก และจะไห้ลาภผลแก่เจ้าชะตา ผลสุดท้ายจะให้มรดกแก่เจ้าชะตาด้วย

            ๑๐.กิจการงาน (กรรมะ หรือ กัมมะ)

            ๒เจ้าเรือน กัมมะ สถิต ศุภะภพ เรือนของ ๔ ได้มาตรฐาน อุจจาภิมุข แล้วในเรือนกัม มะ มี แบคดัส สถิตอยู่ ๒+๔ เป็นคู่มิตร (จันทร์โฉมตรุ กับ พุธนงเยาว์) ส่งผลให้อ่อนหวาน พูดเพราะ มีเสน่ห์, เพศตรงข้ามชอบ,แต่ในดวงผู้ชายจะอ่อนไป หมายถึง การเป็นตัวแทนของ ญ การเป็นตัวแทนของอาหาร,เครืองดื่ม การทำกิจการร้านอาหาร (ทำกิจการล้วน ๆ  หรือ ร่วมหุ้นส่วน,หรือ ทำกิจการอยู่บ้างอย่างใดอย่างหนึ่ง ในกิจกรรมเหล่านี้ ก็ MAKE MONEY ได้ทั้งนั้น) รวมถึงภัตตาคาร ทั้งน้ำ-เบียร์-เหล้า และขายยา หรือ ขายประกัน,ขายประกันรถยนต์,ประกันชีวิต,ทำหนังสือพิมพ์ นสพ,เขียนนวนิยาย,เขียนบทความ,เขียนสารคดี,(เรียนทางนิเทศศาสตร์จะถูกชะตา) ประชาสัมพันธ์,ทำ-ร่วมหุ้นส่วน-ร่วมในบางส่วนของกิจกรรมเหล่านี้ คือ โรงแรมที่พักค้างคืนทุกประเภท,(รีสอร์ท,บังกาโลว์ ฯลฯ)ซ่องโสเภณี,ร้านคาราโอเกะ,ทั้งเพลง-อาหาร+เครื่องดื่ม,ร้านขายอาหาร ก๋วยเตี๋ยว,เกี๊ยวบะหมี่,ร้านทำ CAKE ทำปาท่องโก๋ ปั้มน้ำมัน กิจการชายหาด เช่น ให้เช่าที่นั่ง ขายปลาหมึกย่าง ขายเครื่องประดับ เสื้อผ้าเด็กและสตรี กิจการเกี่ยวกับเรือเร็ว ท่าเรือ ขายอาหารชายหาด JET SKY โรงเรียนอนุบาล โรงเรียนประถมศึกษา เลี้ยงเด็กอ่อน อนุบาล กิจการซักเสื้อผ้า อาบน้ำ

            (อาชีพของคนเรา บางคนดูเรือนกัมมะอย่างเดียว บางคนเพิ่มดู กดุมกะ = การเงิน ว่ามาจากทางใด และดูเรือนลาภะ-มีลาภผลจากทางใด ดูเรือนปุตตะด้วย ได้เงินทองทางใด ต้องดูทั้ง ๓-๔ วิธี)

            ดูหมอดูก็ได้ ถ้าเรียกจริงจัง จะเป็นหมอดูที่แม่นยำ

            ทำกิจการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ยางและสิ่งประดิษฐ์ เช่น รองเท้ายาง แผ่นยางสังเคราะห์สีต่างๆ รองเท้าผ้าใบ รองเท้ากีฬา ยางรถยนต์ ยางรถจักรยานยนต์ ช่างเสริมสวย-ช่างดัดผม ตัดผม ก็ถูกชะตา

            ทำราชการก็ได้ (๑ ลาภ สถิต อริภพ) แต่ผลที่สุด เขาจะทนไม่ได้ เขาจะลาออก

            เป็นช่างก็ได้ ช่างเครื่องจักร-เครื่องยนต์ ทำจะเหนื่อย ทำงานหนัก ในที่สุดเงินไม่พอใช้จะต้องเปลี่ยนอาชีพ (๓ กดุมภะ สถิต มรณะภพ)

            ทำช่างแอร์ ทำกิจการคอมพิวเตอร์ ขายเครื่องไฟฟ้า ตู้เย็น ตะเกียง หลอดไฟ สายไฟ ทำเครื่องประดับทองคำ ช่างทอง กิจการทองคำ ฯลฯ ก็จะเหมือน ข้าราชการ

            ทั้งหมดที่เขียนมา รับรองว่า เจ้าชะตาทำจะ MAKE MONEY ได้ทั้งนั้น แต่ตลอดทั้งชีวิต เจ้าชะตาคงจะทำได้แค่ ๒-๓ อย่างเท่านั้น

            ๑๑.ลาภผล

            ลาภผลที่ได้มา จะได้มาจากความเหน็ดเหนื่อย ยากลำบาก ต้องผจญกับอุปสรรคสิ่งของที่ได้มามักจะมีตำหนิ เขาจะได้ลาภผลหลาย ๆ อย่างในเวลาเดียวกัน กิจการที่ทำก็ทำได้หลาย ๆ อย่างในเวลาเดียวกัน

            ๑๒.การพลัดพราก-การเกินทางไกล(๔ เจ้าเรือนวินาศน์ ไปสถิต ปุตตะภพ กุม ๖ จากตนุลัคน์ และมรณะภพ กุม ๘ ปุตตะ เกษตร) บุตรบริวารจะมียาก ถ้ามีจะรักบุตร-บริวารมากต่อไปเขาจะอยู่ห่างไกลเจ้าชะตา ทำนองไปทำมาหากินอยู่ที่อื่น ไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับเจ้าชะตาบุตรเจ้าชะตาจะมีหลักฐานมั่นคง ฐานะดี

            สรุป เจ้าชะตาดวงดี มีวาสนาดีกว่าพ่อ+แม่ (หมายถึง อาชีพการงาน ตำแหน่งงาน) แต่ว่าเสียเรื่องเงิน การเงินไม่ดี จนถึงปลายชีวิต จึงจะรวย (ขับดวงชะตาดู เขาจะรวยเมื่อชรา) อาจจะต้อง ศึกษาชีวิตไปจนอายุมากกว่า ๗๐ จึงจะรู้วิธีทำไงให้รายรับมากกว่ารายจ่าย แล้วเหลือกินเหลือใช้

            (พระพยอม เคยเทศน์บอกว่า รายรับไม่สำคัญ รายเหลือสำคัญกว่า เช่น ตนเงินเดือน ๖๐,๐๐๐บาท / เดือน แต่ใช้แล้วเหลือ ๑,๐๐๐ บาทต่อเดือน สู้คนเงินเดือน ๘,๐๐๐บาท/เดือน แล้วเขาเหลือ ๒,๐๐๐ บาท ไม่ได้ เพราะต่อไปคนเงินเดือน ๘,๐๐๐ บาท เขาจะมีเงินมากกว่า เช่น ๕ ปี เช่น ๑๐ ปี ยิ่งเห็นชัด)

            เพื่อนไม่ดี ภรรยาไม่ดี การเงินไม่ดี สำหรับดวงชะตานี้ ต้องแก้ไข เรื่องหนี้สินตลอดจนปลายอายุถึงได้รู้วิธีแก้ไข

            วิธีแก้ไขการเงินของดวงชะตานี้

            ๑.ถือศิล ๕ เคร่งครัด

            ๒.ทำบุญ-ทำทานบ่อยๆ ปล่อยสัตว์มีชีวิตบ่อย ๆ  แล้วอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรไป (ยกตัวอย่าง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์และเทวดาอารักษ์ทั้งหลาย จงเป็นทิพย์พยานให้ข้าพเจ้า ๆ ทำ... (บุญ) ไปในครั้งนี้ มีบุญไหม ถ้ามีบุญ ขอให้ ๑) ข้าพเจ้าได้ถึงพระนิพพานในอนาคตกาลนั้นด้วย ๒)ขอให้ข้าพเจ้าได้ชดใช้กรรมเวรที่ได้เคยกระทำกับเจ้ากรรมนายเวรไว้ ไม่ว่า มนุษย์ก็ตาม สัตว์ก็ตาม ชาตินี้ หรือ อดีตชาติก็ตาม ตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจก็ตาม ขอให้หมดเวรหมดกรรม เป็นอโหสิกรรม ด้วยเถิด)

            ๓.ก่อนนอน กราบพระไหว้พระ หรือกราบหมอน ถ้าไม่มีเวลาพอ ให้กราบแล้วท่อนคาถา ๑-๒ บท (หรือมากกว่า) แล้วอธิษฐานตามชอบ ถ้ามีเวลาก็ทำสติ (คือ ท่องพุทโธ ๆกำหนดลมหายใจเข้า – ออก) ให้จิตเป็นสมาธิสักระยะหนึ่ง ถ้าตรวจน้ำหรือ นั่งวิปัสสนาได้ยิ่งดี

            ๔.เมื่อได้ลาภผลสิ่งใดมา แม้กระทั่งเงินเดือน ก่อนใช้จ่ายให้ขยักเงินไว้สัก ๑๐ บาท ๒๐ บาท หรือ ๑๐๐ บาท ตามแต่ศรัทธา กะเอาไว้ทำบุญก่อน ยังทำไม่ได้ก็เก็บไว้ก่อน (ไม่ใช้)เงินที่เหลือจึงจะใช้จ่ายส่วนตัวต่อไป

            ๕.หาคาถาเรียกลาภมาท่อง

            ทำทั้ง ๔ ข้อเรื่อย ๆ นาย ๆ ไป ๕-๑๐ ปี การเงินจะดีขึ้น จนมั่นคงในที่สุด มีคนทำได้ผลหลายรายแล้ว

            ดวงชะตามิใช่ประกาศิต

            เป็นแนวทางบอกชีวิตบอกที่หมาย

            รู้ว่าเคราะห์ไม่ประมาทเคราะห์อาจคลาย

            รู้ว่าโชคถ้าขวนขวายจะได้เอย.

            พยากรณ์จร ทายเหตุการณ์ในอนาคต

            ในรอบปี ๒๕๔๘ นี้ (นับตั้งแต่ วันขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๕ ปี ๔๘ ไปจนถึงวันแรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ ปี ๔๙ รวม ๓๖๕ วัน ) ถือเป็นรอบปี ๔๘(ไม่ใช่ ม.ค.-ธ.ค.๔๘)

            -ดาววันเกิด (๔) จร ตก ศุภภพ กระทบ ๒ อุจจาภิมุข จากเรือน กัมมะ

            -ทักษาจร ตก ภูมิ ๗,๗ มาจากพันธุ สถิต สหัชชะ

            -อายุจร ๑๗ ปี

            ในรอบปีนี้ จะได้ที่ทำงานหรือตำแหน่งงานใหม่ (ตำแหน่งของนักเรียน คือ ชั้นเรียน หรือ โรงเรียนใหม่) เพื่อนจะมีอิทธิพลมากต่อเจ้าชะตาในรอบปีนี้ และให้ระวัง ๑)มารดา อาจเจ็บป่วย หรืออุบัติเหตุกระทันหัน หรือ ๒)เจ้าชะตา อาจประสบเรื่องที่คาดไม่ถึง(เรื่องฉับพลัน) หรือ เลือดตกยางออก จากยานพาหนะ

            เดือนที่ดี เดือน ๕,๗,๑๐,๑๒ และเดือนอ้าย

            เดือนไม่ดี เดือน ๘,๑๑,๒ และเดือน ๔ เดือนไม่ดี คือ เดือนที่ส่งผลทางร้าย

            เดือนที่เหลือ ปานกลาง

            ในเดือน ๘ ระวังวันไม่ดีต่อไปนี้ วันขึ้น ๑ ค่ำ ๔ ค่ำ ๗,๙ ค่ำ ๑๓ ค่ำ วันเรม ๑ ค่ำ ๔,๖ค่ำ ๑๐,๑๓,๑๔ ค่ำ

            ในเดือน ๑๑ ระวังวันไม่ดีต่อไปนี้ วันขึ้น ๑,๒ ค่ำ ๔ และ ๖ ค่ำ ๑๐ ค่ำ ๑๓,๑๔ค่ำ วันแรม ๑ ค่ำ ๓ค่ำ ๗ ค่ำ ๑๐,๑๑ ค่ำ ๑๓ ค่ำ

            ในเดือน ๒ ระวังวันไม่ดีต่อไปนี้ วันขึ้น ๑ ค่ำ ๓ ค่ำ ๗ ค่ำ ๑๐,๑๑ ค่ำ ๑๓ และ ๑๕ค่ำ วันแรม ๔ ค่ำ ๗,๘ ค่ำ ๑๐ และ ๑๒ ค่ำ

            ในเดือน ๔ ระวันวันไม่ดีต่อไปนี้ วันขึ้น ๑ ค่ำ ๕ ค่ำ ๘,๙ ค่ำ ๑๑ และ ๑๓ ค่ำ วันแรม ๒ ค่ำ ๕,๖ ค่ำ ๘ และ ๑๐ ค่ำ ๑๔ ค่ำ

            # ให้ดูปฏิทินที่มีค่ำ-แรม แล้ว MARKไว้ ตามวันดังกล่าว (ปฏิทินแผ่นละเดือน)#

            ในรอบปี ๒๕๔๙ (นับตั้งแต่วันขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๕ ปี ๔๙ ไปจนถึง วันแรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ ปี ๕๐

            เป็นเวลา ๓๖๕ วัน = ๑ รอบปี ๔๙) ตามแบบโหราศาสตร์ ระบบจันทรคติ

ข้อมูล –ดาววันเกิดจร (๔) ตก กัมมะภพ

            -ทักษาจร ตก ภูมิ ๕ กาลกิณี (๕ จาก อริภพ สถิต มรณะภพ)

            -อายุจร  ๑๘ ปี (คนเกิดพุธกลางวันและพุธกลางคืน ดาววันเกิดจรนับที่ ๔ ส่วนทักษาจรนับที่ ๘)

            ในรอบปีนี้ เจ้าชะตาจะทำงานหนัก (การงานของนักศึกษา คือ การเรียน จะเรียนหนัก และมาก) จะเหนื่อยมาก แต่ก็ด้วยความมานะพยายามก็แก้ปัญหาไปได้ ปีนี้ จะพบทั้ง อริ และเพื่อน และพบเพื่อนต่างเพศ ทั้งอริ และเพื่อน รูปร่างคล้ายกัน คือ ผิวขาว ท้วมหน้าแป้น พฤติกรรมเท่านั้น จึงจะรู้ว่ามิตรหรือศัตรู เพศตรงข้าม รูปร่างเพรียว บางผิวคล้ำ แกร่ง กร้าว พูดจาไม่เพราะ กิริยาไม่น่ารัก อาจพบคู่รักในปีนี้

            เดือนที่ดี เดือน ๖,๙,๑๑,๑๒ และเดือน ๔

            เดือนไม่ดี เดือน ๗,๑๐ เดือนอ้าย และเดือน ๓

            เดือนปานกลาง = เดือนที่เหลือ

            *เดือนที่ไม่ดี ก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรร้ายแรง เพียงแต่เดินทางไกล สุขภาพไม่ดี หรืออาจจะ อุบัติเหตุบ้างเล็กน้อย

            เดือน ๗ ระวังการขับขี่ยานพาหนะ ระวังสุขภาพ อาจเดินทางไกล

            เดือน ๑๐ ระวังการเกิดเหตุฉับพลันคาดไม่ถึง ระวังการขับขี่ยานพาหนะ

            เดือนอ้าย ระวังสุขภาพ อาจเจ็บป่วยเล็กน้อย หรือทำงาน/ทำการบ้านหนัก

            เดือน ๓ อาจเดินทางไกล อาจสุขภาพไม่ดี ระวังการขับขี่ยวดยาน

            เดือน ๑๒ จะพบคนรักหรือได้ลาภ)เดือนยี่ ได้ร่วมหุ้น-ร่วมค้า หรือร่วมงานกับเพื่อนต่างเพศ

            วันคืนหมุนเวียนไปเรื่อย ๆ

            ไม่มีใครทราบเลยว่า ในขณะเรียนอยู่นั้น เขาไปเที่วที่ไหน คบเพื่อนอย่างไร ไปทำอะไรกัน รู้แค่ว่า ตอนนั้นมารดาเขาให้เงินเขาใช้ ๒-๓๐๐ บาท/วัน เขาขับขี่มอไซค์ที่มารดาชื้อให้ เพราะเขา อ้างว่า ถ้าขึ้นรถเมล์จะพบนักเรียนโรงเรียนคู่อริคอยดักทำร้าย ถ้าได้ขี่มอไซค์จะไปได้เร็วและไม่ถูกทำร้าย ไม่เป็นอันตราย เขาดัดแปลงรถตามต้องการอีกราว ๆ ๔-๕ หมื่นบาท ให้เร็ว – แรง-ซิ่ง-ดัง ฯลฯ จนถูกตำรวจจับหลายครั้ง ถูกปรับหลายครั้ง

            เมื่อพักการเรียน เขายิ่งสบายใจใหญ่ แทนที่จะดู TV เล่น CD และ VDO หรือ comp อยู่บ้าน เขากลับตะลอนออกนอกบ้าน อ้างว่าไปเที่ยวบ้าง ไปฝึกงานซ่อมรถในอู่ของญาติเพื่อนบ้าง แล้วกลับบ้านราว ๆ ตี ๑ ตี ๒ ตื่นนอนราว ๆ ๓-๔ โมงเช้า เป็นอย่างนี้แทบทุกคืน แล้วขอเงินใช้เปลืองขึ้นเป็น ๓-๔ ร้อยบาท/วัน

            ชีวิตเหลวไหล และไร้สาระขึ้นทุกวัน

            ครั้นถึงเทอมใหม่ มารดายังส่งเขาเรียนช่างกลต่อไปอีกตามเดิม โดยไม่สนใจคำเตือนของผม ปีนี้เขายังคงไปเรียนด้วยแล้วเที่ยวดึกด้วยเหมือนเดิม อ้างว่าไปฝึกงานซ่อมรถยนต์อู่รถญาติเพื่อน

            มีคนหวังดี แนะนำมารดาเขาว่า ถ้าเปลี่ยนชื่อเขาชะ อะไร ๆ จะดีขึ้นเอง มารดาเขาเชื่อความคิดนี้เขา จึงถูกเปลี่ยนชื่อครั้งแล้วครั้งเล่า ถึง ๓ ครั้งแล้ว ทั้ง ๆ ที่ชื่อเดิมก็มีความหมายดี ตั้งชื่อโดยผุ้ชำนาญและเข้าใจหลักโหราศาสตร์ มีมูละ อื่น ๆ ดีทั้งนั้น ไม่มีอักษรกาลกิณีด้วย

            ชื่อดี จะได้ดีพบความสำเร็จ แล้วก้าวข้ามบ่วงกรรม ตามดวงชะตาได้จริงหรือ?

            ผมนึกถึง เพลงค่อนข้างเก่าบทหนึ่ง “คนชื่อน้อย โตใหญ่ก็มี คนชื่อดีอัปรีย์ก็หลาย” ผมนึกถึงเพื่อน ๆ ทั้งประถม และมัธยม คน “ประเสริฐ” เลวระยำก็หลายคน แล้วเรียนอ่อนก็หลายคน อะไรล่ะที่ประเสริฐเลิศหรู ประเสริฐคนหนึ่ง เป็นบ๋อยไนท์คลับจนบัดนี้

            เมื่อใช้เงินเปลืองมากขึ้น มารดาก็พยามหาวิธีต่างๆ ลดทอนการใช้จ่ายของเขา ทั้งตักเตือนด้วย แต่เหมือนภาษาชาวบ้านเขาเรียน “ทะลุหูซ้าย-ออกหูขวา” ไม่เกิดผลอะไรดีขึ้นจนในที่สุกมารดาจ่ายน้อยลง หลายครั้งเข้า เขาเริ่มเพอ่มรายได้โดยวิธีขโมยเงินแม่ ไม่ว่าจะแอบซ่อนอยู่ที่ไหนรู้หมด พบหมด แม้ล็อคประตูห้องก็ทำกุญแจผี ในที่สุดไม่พบเงินก็ขโมยทองรูปพรรณของแม่ เอาไปขายได้เงินมาหลายหมื่นบาท มีเงินก้อนนี้ก็ไม่เข้าบ้านทั้งเดือน ไปนอนค้างบ้านเพื่อน แม่ไม่กล้าแจ้งตำรวจ เกรงลูกจะเดือดร้อน ติดคุก

            ถึงตอนนี้จึงรู้ว่า เขาติดยาเสียแล้ว”ยาบ้า”ไม่ใช่เพิ่งเริ่มติด แต่เขาติดมาตั้งแต่เรียนปวช. ปีแรกแล้ว แต่ปิดบังดีไม่มีใครทราบ หัวสมองที่แย่อยู่แล้วก็ถูกยาบ้าทำลายหนักเข้าไปอีก เขาจึงเบลอ ๆ มึน ๆ แล้วก็เกิดอุบัติเหตุมอไซค์หลายครั้ง ต้องนอนแบ็บอยู่บนเตียงบ่อย ๆ ดีแต่ว่าแต่ละครั้ง แขน-ขา-หน้าแข้ง กระดูกไม่หัก ไม่งั้นคงพิการไปแล้ว

            ไม่ถึงปลายปี ทางโรงเรียนก็มีหนังสือมาเชิญมารดาเขาไปปรึกษา เพื่อตัดเตือนเขาเหมือนปีแรก ๆ อีก เพราะเขาขาดเรียนติดต่อกันเป็นอาทิตย์ ๆ มารดาเขาต้องไปโรงเรียนอยู่หลายครั้ง ตอนนี้เขาใส่เสื้อผ้าชุดเดิมซ้ำซาก ไว้ผมยาวรุงรัง แต่งการยมอมแมม ไม่ชอบอาบน้ำเนื้อตัวสกปรก และเหม็นสาบ

            เขาเองก็โกรธแม่ ทำไมแม่ไม่เอาเงินอุด ให้เขามีเกรดดี ๆ แล้วผ่านได้ทุกชั้น เขาคิดเสมอว่า เงิน-ชื้อได้ทุกอย่าง เงินซื้อเข้าโรงเรียนได้-ชื้อเกรดได้ ซื้อไม่ให้ออกจากโรงเรียนได้ ฯลฯ ในที่สุด ประมาณกลาง ๆ ปีเท่านั้น ไม่ถึงปลายปีเลย เขาก็ออกจากโรงเรียนออกมาเตะฝุ่นขณะนี้เขาเป็นนักเตะฝุ่นเต็มรูปแบบถึง ๑๐๐% เต็มแล้ว

            ลุง-ป้า เขาสอนเขาเสมอว่า “ขี้เกียจแล้วได้ดีนะ ไม่มีในชีวิตจริงหรอกลูก มีแต่ในนิทานหลอกเด็กเท่านั้น”

            อนิจจัง คู่กับ ทุกขัง ขณะนี้ มารดาเขาทุกข์ใจอย่างยิ่ง และทะเลาะกับพ่อเขาเสมอ ๆ พ่อก็ว่าแม่ว่า อบรมลูกไม่เป็น อบรมไม่ได้ แม่ก็ว่าไม่คอยช่วยกันอบรมลูกบ้าง เธอไม่มีเวลาในที่สุด พ่อเขาปรึกษากับลูกภรรยาเก่า แล้วเขาก็บอกว่า เขาตกลงจะไม่ให้มรดกแก่เด็กคนนี้

            ที่เป็นเช่นนี้ เพราะฝืนคำทำนาย ไม่เชื่อคำตักเตือนของผมหรือไม่?

            ผมบอกแล้ว เด็กคนนี้เรียนช่างกลไม่ได้ อย่าให้เขาเรียนนะ ก็รั้น/ฝืนให้เขาเรียน จนเรื่องบานปลายเป็นอย่างนี้

            ขณะนี้ เขายังเตะฝุ่นอยู่ มารดาอับอายคนข้างบ้านที่ดูถูกเขาว่า “ไอ้(หลายชื่อ)...คนขี้ยาเอาดีไม่ได้” เธอเศร้าใจทุกครั้งที่เห็นเด็กคนอื่นแต่งตัวนักเรียนเดินผ่านไป ใครไม่รู้เขียนไว้ว่า

            *อดีตไม่ขยัน ปัจจุบนไม่ขวนขวาย ไม่ต้องทายอนาคต*ท่านเห็นด้วยไหมครับ