อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ?
พลตำรวจตรี สุชาติ เผือกสกนธ์
ตัวแปรสำคัญที่จำเป็นต้องนำเอามาประกอบการพิจารณาวินิจฉัยพยากรณ์ว่า คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะมีโอกาสได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่หรือไม่ ? นั้น มีอยู่ ๓ ประการ ได้แก่
๑. ดวงชะตากำเนิดของคุณอภิสิทธิ์ฯ
๒. ดวงชะตากำเนิดของพรรคประชาธิปัตย์
๓. เป็นไปตามกฏแห่งกรรม ซึ่งพระท่านเรียกว่า อุปถัมภกกรรม ที่เกี่ยวข้องกับคุณอภิสิทธิ์ฯ โดยตรง ตัวแปรนี้ยังมีเหตุปัจจัยต่างๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยมากมายหลายรูปแบบ การพยากรณ์ดวงชะตาของบุคคลส่วนใหญ่จึงมักผิดพลาดคลาดเคลื่อนด้วยเหตุนี้ ส่วนพรรคประชาธิปัตย์นั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีชีวิตจึงไม่อยู่ในกฏเกณฑ์นี้
คุณอภิสิทธิ์ฯ เกิดเมื่อวันที่ ๓ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๐๗ ที่เมืองนิวคาสเซิล ประเทศอังกฤษ เป็นบุตรชายคนเดียวในจำนวนบุตร ๓ คนของ ศาสตราจารย์นายแพทย์ อรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับ ศาสตราจารย์แพทย์หญิง สดใส เวชชาชีวะ คุณอภิสิทธิ์ ฯ จบการศึกษาระดับปริญญาโท สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด
คุณอภิสิทธิ์ฯ เริ่มต้นชีวิตการเมืองด้วยการได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานครในนามพรรคประชาธิปัตย์เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๕ ในปีเดียวกันนั้นเอง ก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (๒๕๓๕๒๕๓๗) ในรัฐบาลชวน หลีกภัย
- ต้น พ.ศ. ๒๕๓๗ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (รองนายกรัฐมนตรี นายศุภชัย พานิชภักดิ์)
- พ.ศ. ๒๕๓๘๒๕๓๙ ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร
- พ.ศ. ๒๕๓๘๒๕๔๐ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์
- พ.ศ. ๒๕๔๐๒๕๔๔ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ในปี ๒๕๔๒ ได้รับเลือกเป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และในปี ๒๕๔๘ ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จนถึงปัจจุบัน
ในชีวประวัติส่วนตัวของคุณอภิสิทธิ์ฯ ไม่ปรากฏหลักฐานว่า เกิดเวลาใด แต่ได้ทราบจากญาติผู้ใหญ่ของคุณอภิสิทธิ์ฯ ท่านหนึ่งว่า เกิดเวลาประมาณ ๖ นาฬิกา ผมจึงได้ตั้งสมมุติฐานเพื่อประกอบการคำนวณผูกดวงชะตากำเนิดของคุณอภิสิทธิ์ฯ ขึ้นไว้ก่อนว่า เป็นเวลา ๖ นาฬิกา ๑๕ นาที
เมื่อได้ผูกดวงชะตากำเนิดแล้ว ปรากฏว่า ลัคนาสถิตอยู่ในราศีกรกฎ ๒๐ องศา ๔๒ ลิปดา มีอาทิตย์กุมที่ ๑๗ องศา ๓๑ ลิปดา และมีดาวพระเคราะห์อื่นๆ สถิตอยู่ในราศี เรือน ภพต่างๆ ดังแสดงไว้ในภาพประกอบที่ ๑ ส่วนใหญ่ล้วนแต่ให้คุณ อาทิ ดาวพฤหัสบดีสถิตอยู่ในราศีเมษ เรือนที่ ๑๑ ซึ่งส่งผลให้เจ้าชะตาเป็นผู้ที่มีมนุษยธรรมสูง (มีศีลธรรม คุณธรรม และจริยธรรม) มีความเลื่อมใสศรัทธา และยินดีเต็มใจที่จะทำนุบำรุงพระศาสนาอย่างจริงจัง (ตามตำราบอกว่า ถ้าบวชเรียนจะได้สมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ) ประกอบกับดาวพฤหัสบดี และดาวพุธในดวงชะตามีกำลังแรง จึงส่งผลให้เจ้าชะตามีสติปัญญาเฉลียวฉลาด มีปฏิภาณเชาวน์ไหวพริบสูง มีมนุษยสัมพันธ์ดี ทั้งเป็นผู้มีความขยันหมั่นเพียร อนึ่ง ในเรือนที่ ๑๑ นี้ยังมีดาวจันทร์สถิตร่วม จึงช่วยส่งเสริมให้ได้คู่ครองที่ดี มีฐานะการเงินมั่งคั่งร่ำรวย และเป็นผู้ที่มีอายุยืน
ดาวเด่นในดวงชะตาอีกดวงหนึ่งได้แก่ดาวศุกร์ซึ่งสถิตอยู่ในราศีมิถุน เรือนที่ ๑๒ ร่วมกับดาวอังคารซึ่งส่งผลให้เจ้าชะตามีรูปร่างหน้าตาดี เป็นที่ต้องตาต้องใจของเพศตรงข้าม เป็นสุภาพบุรุษที่สังคมยอมรับ ฯลฯ
เมื่อวันที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๕๐ คุณอภิสิทธิ์ฯ มีอายุครบ ๔๓ ปี เมื่อได้ทำการผูกดวงชะตาตามหลักวิชาโหราศาสตร์ก้าวหน้าที่เรียกว่า Progressed Astrology และคำนวณหาดาวประจำตัวประจำปีเกิดใหม่แล้ว พบว่า ดาวประจำตัวของคุณอภิสิทธิ์ฯ ได้แก่ ดวงอาทิตย์ ซึ่งมีกำลังแรงสูงถึง ๑.๓๙ และสถิตอยู่ในเรือนที่ ๑๐ ดวงชะตาประจำปี ซึ่งหมายถึงการประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มีเกียรติยศชื่อเสียง
ส่วนดวงชะตากำเนิดของพรรคประชาธิปัตย์นั้น ผมได้อ่านพบจากหนังสือ กาลชะตา และโหราศาสตร์บ้านเมือง โดย พลูหลวง ซึ่งจัดพิมพ์จำหน่ายเมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๓ ท่านอาจารย์พลูหลวงได้กล่าวถึงดวงชะตากำเนิดพรรคประชาธิปัตย์ไว้ ๒ นัย คือ
๑. ถือเอาวันที่มีการประชุมก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ครั้งแรก เมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๔๘๘ เวลาตอนเย็น ณ อาคารใกล้น้ำ บริเวณท่าน้ำราชวงศ์ มีสมาชิกร่วมก่อตั้งครั้งแรก ๕๐ คน หรือ
๒. ถือเอาวันจดทะเบียนพรรคเป็นทางการ เมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ.๒๔๙๘ เวลา ๐๙.๐๐ น.
จึงเกิดปัญหาขัดแย้งว่า จะสมควรเลือกวันเดือนปี เวลาใดมาคิดคำนวณผูกเป็นดวงชะตากำเนิดพรรค ท่านอาจารย์พลูหลวงได้ให้ความเห็นพร้อมเหตุผลประกอบว่า น่าจะถือเอาวันที่ ๕ เมษายน พ.ศ.๒๔๘๘ เวลาตอนเย็น ซึ่งเป็นวันประชุมก่อตั้งพรรคครั้งแรก ซึ่งผมเห็นด้วยกับท่าน แต่ก็ยังมีปัญหาตามมาอีกว่า คำว่า เวลาเย็น นั้นควรจะเป็นเวลาในช่วงใหน ช่วงแดดร่มลมตก หรือ ตะวันตกดิน ?
ตามดวงชะตากำเนิดพรรคฯ ที่ท่านอาจารย์พลูหลวงได้ผูกไว้ ท่านได้วางลัคนาไว้ในราศีกันย์ และมีอาทิตย์ กับดาวพระเคราะห์อื่นๆ สถิตอยู่ในราศีต่างๆ เมื่อได้ตรวจสอบเวลาแล้ว น่าเชื่อว่า ท่านอาจารย์พลูหลวงได้ใช้เวลา ๑๕ นาฬิกา เข้าตำราแดดร่มลมตก ดังนั้น ในการพยากรณ์ ผมจึงถือเอาวันที่ ๕ เมษายน พ.ศ.๒๔๘๘ เวลา ๑๕ นาฬิกา กรุงเทพมหานคร
เมื่อวันที่ ๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๐ พรรคประชาธิปัตย์มีอายุครบ ๖๒ ปี เมื่อได้ทำการผูกดวงชะตาตามหลักวิชาโหราศาสตร์ก้าวหน้าที่เรียกว่า Progressed Astrology และคำนวณหาดาวประจำตัวประจำปีเกิดใหม่แล้ว พบว่า ดาวประจำปีปัจจุบันของพรรคประชาธิปัตย์ มีลัคนาสถิตอยู่ในราศีมิถุน และมีดวงอาทิตย์ซึ่งมีกำลังสูงถึง ๑.๕๐ สถิตในเรือนที่ ๑๐ ซึ่งเป็นภพเกี่ยวกับหัวหน้า และคณะกรรมการบริหารพรรค มีดาวศุกร์ซึ่งเป็นดาวศุภเคราะห์ที่มีความหมายประจำตัวคือ ทรํพย์สินเงินทอง สถิตอยู่ในราศีเมษ เป็นเรือนที่ ๑๑ ภพที่เกี่ยวผลประโยชน์ของพรรค มีกำลังแรง ๑.๓๗ ทำมุมเล็งกับดาวจันทร์ซึ่งเป็นดาวประจำตัวประจำปีปัจจุบันซึ่งมีกำลังแรงถึง ๑.๒๕ จึงช่วยให้พรรคมีผลประโยชน์มาจับจ่ายใช้สอยได้โดยไม่ขัดสนขาดแคลน
สำหรับดาวเสาร์ซึ่งเป็นดาวบาปเคราะห์สถิตอยู่ในราศีกรกฎ เรือนที่ ๒ ภพที่เกี่ยวกับทรัพยากรของพรรคทั้งที่เป็นทรัพย์สินเงินทอง และบุคคล มีสภาพเป็นประเกษตร จึงมีกำลังน้อยเพียง ๐.๘๐ และดาวอังคารซึ่งเป็นดาวบาปเคราะห์เช่นกันสถิตอยู่ในราศีกุมภ์ เรือนที่ ๘ ภพมรณะของดวงประจำปีของพรรคเข้าเกณฑ์ภินทุบาทว์ หรือ ดวงแตก จึงร่วมกันบั่นทอนกำลังของพรรคลงไปอย่างมาก หากเป็นดวงชะตาของบุคคลที่เข้าเกณฑ์พินทุบาทว์ ก็พยากรณ์ได้ว่า จะต้องสูญเสียญาติผู้ใหญ่ ตนเองต้องเข้ารับการผ่าตัด มีปัญหาอุปสรรคในหน้าที่การงาน ต้องสูญเสียทรัพย์สินเงินทอง มีความขัดแย้งแตกความสามัคคีในครอบครัว มิตรจะกลายเป็นศัตรู วิบากของอกุศลกรรมที่ได้กระทำไว้ในอดีตกำลังจะส่งผลให้ปรากฏ
เมื่อนำเอาดวงชะตาประจำปี พ.ศ.๒๕๕๐ ของคุณอภิสิทธิ์ฯ ซึ่งโดดเด่นเนื่องจากได้รับพลังของดวงอาทิตย์ที่สถิตอยู่ในเรือนที่ ๑๐ ภพที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่การงาน ซึ่งเกื้อหนุนให้เกิดเกียรติยศชื่อเสียงแก่ตัวคุณอภิสิทธิ์ฯ เองมาพิจารณาร่วมกับดวงชะตาประจำปีของพรรคประชาธิปัตย์ ช่วยให้เห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่า ถึงแม้ว่าจะมีดวงอาทิตย์ที่มีกำลังสูงสถิตอยู่ในเรือนที่ ๑๐ เช่นกัน แต่โดยความหมายของดวงชะตาพรรคแล้ว เรือนที่ ๑๐ นี้เป็นภพที่เกี่ยวกับหัวหน้าพรรค และคณะผู้บริหารพรรค จึงเป็นการยืนยันอีกชั้นหนึ่งว่า พรรคประชาธิปัตย์กำลังได้ผู้นำพรรคที่ดีซึ่งสามารถขับเคลื่อนให้พรรคให้ก้าวหน้าไปได้ด้วยดีอย่างแน่นอน เมื่อได้ดูจากดวงชะตาแล้วแต่เป็นที่น่าเสียดายว่า ดวงชะตาของพรรคประจำปีนี้มีลักษณะพิกลพิการไม่สมประกอบเนื่องจากถูกดาวเสาร์ และดาวอังคารบั่นทอนไปไม่น้อยดังกล่าวแล้วข้างต้น น่าจะไม่สามารถเป็นพาหะนำคุณอภิสิทธิ์ฯ ให้เดินทางไปถึงเป้าหมายคือการเป็นนายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ ๒๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๐ ได้ ซึ่งสอดคล้องกับคำพยากรณ์ของผมที่ได้เคยเขียนไว้ในบทความเรื่อง โฉมหน้ารัฐบาลใหม่
เมื่อคุณอภิสิทธิ์ฯ ได้อ่านบทความนี้แล้ว อย่าเพิ่งหมดกำลังใจท้อถอยที่จะต่อสู้ต่อไป ผมขอพยากรณ์ไว้ล่วงหน้าว่า ถึงแม้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ประสบความสำเร็จตามที่ได้ตั้งความปรารถนาไว้ และท่านจะยังไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ แต่ตามดวงชะตากำเนิดของท่านนั้น จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีของเมืองไทยอย่างแน่นอน ไม่นานเกินรอ และผมคงได้มีโอกาสได้ชมบุญบารมีของท่านด้วย และขอเรียนซ้อมความเข้าใจกับท่านผู้อ่านว่า ผมไม่เคยพบปะรู้จักกับคุณอภิสิทธิ์ฯ เป็นการส่วนตัวมาก่อน บทความนี้ได้เขียนขึ้นโดยปราศจากอคติใดๆ ทั้งสิ้น และอยู่บนรากฐานของวิชาการโหราศาสตร์ที่ผมได้ศึกษาเล่าเรียนมาเป็นเวลานาน มิได้นำเอาบิดเบือนเพื่อเอาใจคุณอภิสิทธิ์ฯ พรรคประชาธิปัตย์และท่านผู้อ่านที่ให้การสนับสนุนคุณอภิสิทธิ์ฯ แต่อย่างใด
ขอปิดท้ายก่อนจบสักเล็กน้อยว่า เมื่อได้นำเอารูปหน้าของหัวหน้าพรรคมาร ซึ่งเป็นตัวเก็งว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของเมืองไทย มาเปรียบเทียบกับรูปหน้าของคุณอภิสิทธิ์ฯ ที่หล่อเหลาเอาการจนได้รับฉายาว่า หล่อใหญ่ ควบคู่กับรูปหน้าของคุณอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่หล่อเหลาไม่แพ้คุณอภิสิทธิ์ฯ จนได้รับฉายาว่า หล่อเล็ก แล้ว ทำให้นึกถึงทศกัณฐ์ พระราม พระลักษณ์ในเรื่อง รามเกียรติ์ หากท่านผู้อ่านเห็นด้วย ผมใคร่ขอแรงให้ช่วยหาผู้ที่จะมาสวมบทบาทหนุมาณ และองคต ซึ่งกล้าหาญชาญชัยหลอกล่อพระฤาษีจนกระทั่งได้กล่องดวงใจของทศกัณฐ์มาบีบขยี้ และสามารถทำลายล้างกองทัพมารได้ในที่สุด ถ้าค้นพบ ช่วยบอกผมด้วย จะได้นำมาเขียนบทความใหม่เรื่อง รามเกียรติ์ พ.ศ.๒๕๕๐ ให้ท่านอ่านแก้เครียดในโอกาสต่อไป ปีนี้ไม่ทัน ปีหน้าก็ได้ครับ