คัมภีร์นักษัตรยาตรา โดย...อ.เจียระไน โชคมงคลชัยชนะ ประธานชมรมอนุรักษ์ โหราศาสตร์ไทย ระบบดาวกระจาย โทร. ๐๑-๔๓๒๑๔๖๒                   คำว่า “นักษัตรยาตรา” อาจเป็นของใหม่สำหรับผู้ที่ไม่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับโหราศาสตร์ไทย “ระบบดาวกระจาย” แต่เป็นของโบราณสำหรับผู้ที่ได้เรียนรู้โหราศาสตร์ไทยระบบดาวกระจาย เพราะ “คัมภีร์นักษัตรยาตรา” นี้ ได้มีการสืบทอดติดต่อกันมาหลายชั่วอายุคนแล้วนะครับ ปรมาจารย์ด้านโหราศาสตร์ไทย ระบบดาวกระจาย ได้กล่าวเป็นสุภาษิตไว้ว่า “อันคนเรานั้นเกิดมาก็ด้วยบุญธรรมกรรมแต่งด้วยกันทุกคน ในบางคนอยากรู้ดวงชะตาของตน แต่ไม่รู้ว่าตนเกิดเวลาใดและวันอะไร การที่ไม่รู้เวลาเกิดหรือวันเกิดนั้น หาใช่ความผิดของบุคคลผู้นั้นก็หาไม่” เหตุใดจึงไม่มีวิชาดูดวงและแก้ไขดวงชะตาจากร้ายให้กลายเป็นดี ที่มีคุณภาพและมีความแม่นยำชัดเจนเหมือนกับวิชาดูดวง ที่ใช้วันเวลาที่แน่นอนชัดเจนบ้างเชียวหรือ คำปรารภนี้ จึงเป็นที่มาของคัมภีร์ตรวจดวงชะตาที่ไม่ต้องอาศัย วันเกิดหรือเวลาเกิดที่แน่นอนชัดเจน ก็สามารถพยากรณ์ดวงชะตาได้อย่างแม่นยำ คัมภีร์นี้มี ชื่อว่า “คัมภีร์นักษัตรยาตรา”               คัมภีร์นักษัตรยาตรา เป็นไม้เด็ดเคล็ดลับของวิชาโหราศาสตร์ไทย ระบบดาวกระจาย ซึ่งเป็นหนึ่งในสุดยอดคัมภีร์แห่งการพยากรณ์ดวงชะตาของโหราศาสตร์ไทย ระบบดาวกระจาย วิชาโหราศาสตร์ไทย ระบบดาวกระจาย ผู้เขียนเป็นคนสุดท้ายที่ได้รับการสืบทอดเคล็ดลับวิชาอย่างเต็มรูปแบบ เป็นคนแรกของยุคปัจจุบัน ผู้เขียนมีลูกศิษย์มากมายทั้งในและนอกประเทศ แต่ไม่เคยมีใครได้รับเคล็ดลับวิชาไปจากผู้เขียนได้มากกว่า ๑๐% เลยแม้แต่คนเดียว “ด้วยเหตุว่าคนในยุคปัจจุบันขาดทั้งเวลาและความอดทนอย่างแท้จริง หรือด้วยอีกหลายๆ สาเหตุ” หากว่าผู้ใดมีความพร้อมทั้งเวลา ความอดทน และความกตัญญูรู้คุณครูบาอาจารย์อย่างแท้จริงแล้วหละก็ ผู้เขียนยินดีรับถ่ายทอดเคล็ดลับอย่างเต็มรูปแบบให้แก่ท่าน เพื่อสืบต่อทายาทโหราศาสตร์ไทย ระบบดาวกระจาย เต็มรูปแบบเป็นคนต่อไป               หลักวิชา “นักษัตรยาตรา” นักษัตรยาตราเป็นเคล็ดลับที่ว่าด้วยการหา “ลัคนา” จากปีเกิด คือ พูดง่ายๆ ว่า โดยปกติโหราศาสตร์โดยทั่วๆ ไป จะหาลัคนากันจากเวลาเกิดนะครับ ลัคนาถ้าแปลกันแบบกำปั้นทุบดินก็หมายถึง เป็นจุดแรกของการกำหนดภพในการพยากรณ์นั้นเองครับ ส่วนคัมภีร์นักษัตรยาตรา เราจะหาลัคนากันได้จากปีนักษัตรกำเนิด ครับตอนนี้อาจจะมีคนถามกันขึ้นมาว่า “อ้าว! แล้วถ้าไม่รู้วันเกิดและเวลาเกิด การพยากรณ์จะมีความละเอียดถูกต้องแม่นยำได้เท่ากันกับการรู้วันเกิดและเวลาเกิดได้แน่หรือ” อันนี้ผู้เขียนขอตอบว่า วิชาในแต่ละวิชาย่อมที่จะมีจุดเด่นเป็นของเฉพาะ สุดแล้วแต่ว่าผู้ใดจะนำเอาไปใช้และมีความรู้ความเข้าใจ ในสิ่งที่นำเอาไปใช้ได้มากน้อยประการใด ย่อมแตกต่างกัน “วิชาโหราศาสตร” เป็นวิชาที่เกี่ยวกับการพยากรณ์ดวงชะตา เพื่อหวังผลในการพยากรณ์ที่ถูกต้องแม่นยำชัดเจน คุณจะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นวิชาในด้านพยากรณ์แขนงใดก็ตาม ล้วนแต่หวังผลในด้านเดียวกัน คือ “พยากรณ์ให้ถูกต้องแม่นยำชัดเจน และปรับดวงชะตาให้ดีขึ้นได้”               มีคนถามผู้เขียนว่า แล้วเรียนวิชาการพยากรณ์แขนงใดจึงจะพยากรณ์ได้ถูกต้องและดีที่สุด ผู้เขียนตอบไปว่า “ขึ้นอยู่กับผู้เรียนในแต่ละคนมากกว่า เปรียบเสมือนมีคนขับมอเตอร์ไซค์กับคนขับรถเก่ง ทั้ง ๒ ต่างก็ต้องการจะไปยังจุดหมายเดียวกัน ใครจะไปถึงที่หมายก่อนนั้นต้องขึ้นอยู่กับคนขับ และสถานการณ์บนท้องถนนในขณะนั้นนั่นเองครับ รถเก๋งมี ๔ ล้อ เปรียบเหมือนคนมาตรวจดวงมีเวลาเกิด รถเก๋งมีที่กำบังแดดบังฝน เปรียบเหมือนคนที่มีวันเกิดที่ชัดเจน รถเก๋งมีคนขับ เปรียบเหมือนมีอาจารย์ผู้ตรวจดวงชะตาให้ แต่รถเก๋งจะดีอย่างไรหากผู้ขับไม่ชำนาญหรือประมาท ไม่ละเอียดรอบคอบ ก็อาจจะนำรถเก๋งไปไม่ถึงจุดหมายปลายทางได้นะครับ ส่วนรถมอเตอร์ไซค์มีแค่ ๒ ล้อ ล้มได้เสมอ เปรียบเหมือนคนไม่มีเวลาเกิด ไม่มีที่บังแดดบังฝน เปรียบเหมือนคนไม่มีวันเกิดที่ชัดเจน แต่หากมีคนขับที่ชำนาญไม่ประมาทและอาจรู้ทางลัดที่จะไปให้ถึงจุดหมายเร็วขึ้น ก็อาจจะดีกว่ารถเก๋งก็ได้นะครับ” การไปถึงที่หมายหรือเป้าหมายนั้นอาจจะมีรูปแบบของความเท่ห์ที่ต่างกันนะครับ เช่น วิชาบางวิชาเปรียบเสมือนนั่งรถเบนซ์ (รูปแบบสวยหรู) บางวิชาเปรียบเหมือนรถเก๋งญี่ปุ่น แต่วิชาบางวิชาที่ไม่ได้สร้างภาพภายนอกให้ดูดีไว้ก่อน แต่ก็ขับได้ไปถึงจุดหมายปลายทางเช่นเดียวกัน เปรียบเสมือนรถมอเตอร์ไซค์ ผู้เขียนเห็นว่า วิชาใดก็มีค่าเท่ากันหากไปสู่จุดหมายได้นะครับ               ปัจจุบันมีนักโหราศาสตร์บางคนหรือบางกลุ่ม ใช้วิชาในด้านการพยากรณ์ไปโจมตีผู้อื่นว่า วิชาของตนนั้นดี แต่วิชาของผู้อื่นแย่สู้ตนไม่ได้ (ด้วยการสร้างภาพ) ผู้เขียนขอปลุกสักนิดว่า “ตื่นได้แล้วนะครับ” ผู้เขียนเรียนวิชาโหราศาสตร์มาร่วม ๓๐ ปี ผู้เขียนก็ไม่ต่างจากผู้ที่ชอบขับรถเบนซ์เพื่อภาพเท่ห์และหรู แต่เป้าหมายก็คือเป็นที่สุดของการพยากรณ์ แต่ผู้เขียนขอยกย่องผู้ที่เรียนศาสตร์ของการพยากรณ์ ที่ไม่ต้องใช้เวลาเกิดแล้วสามารถพยากรณ์ดวงชะตาได้ถูกต้องแม่นยำ ไปถึงจุดหมายปลายทางที่สุดของการพยากรณ์ได้เช่นเดียวกันกับวิชาโหราศาสตร์ เช่น ผู้ที่เรียนวิชาเลข ๗ ตัว วิชาทักษา ฯลฯ จนเชี่ยวชาญ บุคคลเหล่านี้มีความพยายามในด้านการศึกษาการพยากรณ์ได้อย่างน่าทึ่งเอาเลยทีเดียว ต่างกับในบางคนที่เรียนโหราศาสตร์แต่ไปไม่ถึงไหน เรียนเอาไว้เพื่อสร้างภาพและคอยโจมตีผู้อื่น ซึ่งไม่ต่างกับคนที่ขับรถเบนซ์บางคนที่คอยดูถูกรถมอเตอร์ไซค์ แต่ตนเองกลับขับรถเบนซ์ตกข้างถนน ไม่สามารถนำรถของตนไปถึงจุดหมายได้เช่นเดียวกับมอเตอร์ไซค์ (เป็นเช่นนี้น่าอายและเสียสถาบันนะครับ) ศาสตร์การพยากรณ์จะก้าวหน้าหากรวมพลังการพยากรณ์ทุกสาขา ร่วมกันค้นคว้าและร่วมช่วยกันพัฒนาการพยากรณ์               เอาหละครับ เกริ่นนำกันมามากแล้ว เรามาเข้าเรื่องของการค้นหาลัคนาจากปีนักษัตรกันเลยดีกว่านะครับ ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันสักนิดนะครับว่า ปีนักษัตร คือ ชวด ฉลู ขาล เถาะ มะโรง มะเส็ง มะเมีย มะแม วอก ระกา จอ กุน เราจะเริ่มต้นนับเมื่อใดและสิ้นสุดเมื่อใด ปีนักษัตรจะเริ่มต้นใหม่เมื่อขึ้น ๑ ค่ำ      เดือน ๕ ของไทยในทุกๆ ปี และจะเปลี่ยนปีนักษัตรอีกครั้งก็ต่อเมื่อขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๕ ของไทยในปีถัดไปนะครับ การคิดหาลัคนาก็ง่ายนิดเดียว เมื่อเราวางดาวกำเนิดลงในดวงชะตาครบทั้ง ๑๐ ดวงแล้ว ให้ดูว่าดาวอาทิตย์ในดวงชะตาตามพื้นดวงลอยอยู่ในราศีใด ให้นับที่ดาวอาทิตย์ในราศีนั้นเป็นปีชวด และราศีถัดไป (วนทวนเข็มนาฬิกา) เป็นปีฉลู ขาล เถาะ ไปเรื่อยๆ ให้นับไปปีละ ๑ ราศี จนกว่าจะถึงราศีที่ตรงกับปีเกิดของตน จึงลงลัคนาเอาไว้ที่ราศีนั้นนะครับ เช่น เกิดปีชวด ก็ลงลัคนาในราศีที่ดาวอาทิตย์ลอยอยู่นั้นได้เลย หรือสมมุติว่าเกิดปีมะเมีย ก็นับจากราศีที่ดาวอาทิตย์ลอยอยู่ไป ๗ ราศี แล้วลงลัคนาในราศีนั้นได้เลย ยังไงหละครับ เอา ! ดูตัวอย่างกันดีกว่าครับ                                          ตัวอย่าง คนเกิดวันที่ ๕ ก.พ. ๒๕๑๐ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือนยี่ (๒) ปีมะเมีย (สาเหตุที่เกิดปีมะเมียเพราะเกิดยังไม่ถึง ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๕ ของปี พ.ศ.ปัจจุบัน) (ไม่ทราบเวลาเกิด)               ตามรูปดวง ดาวอาทิตย์ (๑) ลอยอยู่ในราศีมังกร ราศีมังกร = ปีชวด บุคคลผู้นี้เกิดปีมะเมีย นับไป ๗ ราศี ไปตกที่ราศีกรกฎ วางลัคนา (ล) ลงในราศีกรกฎ เป็นอันว่าได้จุดลัคนาในการพยากรณ์แล้วนั้นเองครับ               ลัคนาอยู่ราศีใด ราศีนั้นเรียกว่า “ภพตนุ” ราศีถัดๆ ไป ก็มีชื่อเรียงลำดับกันต่อๆ ไปว่า ภพกฎุมภะ ภพสหัชชะ ภพพันธุ ภพปุตตะ ภพอริ ภพปัตนิ ภพมรณะ ภพศุภะ ภพกัมมะ ภพลาภะ ภพวินาศ ความหมายของภพในเบื้องต้น (เฉพาะระบบดาวกระจาย)                 ภพตนุ         หมายถึง     ความติดยึด ยึดมั่นถือมั่น ความผูกพัน การถือกำเนิดขึ้นในเบื้องต้น ฯลฯ               ภพกฎุมภะ        “         การแลกเปลี่ยน การเสาะแสวงหาซึ่งรายได้               ภพสหัชชะ        “         ความผูกพัน การประนีประนอม การสื่อสาร การสังคม               ภพพันธุ            “         การสืบต่อ การสืบต่อเผ่าพันธุ์ การสร้างหลักประกันชีวิต เช่น สร้างหลักทรัพย์ บ้าน รถ ที่ดิน ฯลฯ               ภพปุตตะ           “         สิ่งเล็กน้อย ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน การละเล่น ของทันสมัย บุตร-บริวาร ไร้เหตุผล ฯลฯ               ภพอริ               “         ปัญหา การตัดรอน ความไม่สมดุล การหย่าร้าง ฯลฯ               ภพปัตนิ            “         การร่วมมือ การประสานให้ลงตัว คู่สัญญา การใช้ชีวิตคู่               ภพมรณะ          “         การสูญเปล่า ไร้ประโยชน์ ไม่สามารถจับต้องได้ ความตาย ฯลฯ               ภพศุภะ             “         โอกาส ความสำเร็จ ความดีงาม ช่องทาง ผู้อุปการะหรือผู้อุปถัมภ์ ฯลฯ               ภพกัมมะ           “         ความหนักเหนื่อย ภาระหน้าที่การงาน การดิ้นรนเพื่อการอยู่รอด ฯลฯ               ภพลาภะ           “         ความสะดวก ความสบาย ผลกำไร สิ่งที่ได้มาง่ายๆ เช่น โชคดีในด้านการงาน การเงิน หรือในด้านอื่นๆ ฯลฯ               ภพวินาศ           “         ความเสื่อมสลาย การทำลาย การให้ร้าย การจองล้างจองผลาญ คุกตะราง ฯลฯ               ดวงตัวอย่างที่ผ่านมาเป็นดวงของชายคนหนึ่ง ที่เดินทางมาจากจังหวัดแพร่ มาตรวจดวงกับผู้เขียน และผู้เขียนได้บันทึกดวงเอาไว้เพื่อที่จะได้นำมาเผยแพร่เป็นวิทยาทานต่อไป เอาหละ! เรามาพยากรณ์ดวงของชายผู้นี้กันดีกว่า               รูปดวงตัวอย่างของชายจังหวัดแพร่                                           เช้าวันหนึ่งของเดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๔๖ มีชายคนหนึ่งโทรติดต่อมาหาผู้เขียน เพื่อขอรับคำพยากรณ์ บอกว่าเดินทางมาจากจังหวัดแพร่ มาเยี่ยมญาติที่ กทม. เมื่อมาถึงแล้วก็ต้องการจะมาตรวจดวงกับผู้เขียนด้วย ผู้เขียนจึงนัดวันเวลาที่จะมาตรวจดวง เมื่อถึงวันนัด ตัวผู้มาตรวจดวงก็มาตรงกับเวลาเอาเลยทีเดียว เมื่อพบกัน ผู้มาขอตรวจดวงก็ยกมือไหว้ผู้เขียนและกล่าวกับผู้เขียนว่า “สวัสดีครับท่านอาจารย์ ผมชื่อหนึ่งครับ อยากจะมาเยี่ยมชมและขอพึ่งบารมีของอาจารย์มานานแล้วครับ” ผู้เขียน “แหม! มาถึงก็ปากหวานเชียวนะครับ” ผู้มาขอตรวจ “จริงๆ ครับท่านอาจารย์ ชื่อเสียงของท่านอาจารย์ดังไปทั่ว มีคนกล่าวถึงมากมาย วันนี้ผมโชคดีมากที่ได้พบกับท่านอาจารย์เป็นการส่วนตัวครับ” ผู้เขียน “เอาหละ! เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า ไหน คุณลองบอกวันเดือนปีเกิดคุณมาแล้วจะได้ตรวจดูว่าดวงคุณเป็นอย่างไร”               เมื่อเจ้าชะตาบอกวันเดือนปีเกิดกับผู้เขียนแล้ว ผู้เขียนทำการผูกดวงก็ได้ดวงดังรูปในข้างต้นนั้นหละครับ เมื่อผู้เขียนมองเห็นดวงก็ได้เริ่มทำการพยากรณ์ดวงชะตา ดังนี้ ผู้เขียน     : ดวงของคุณลัคนากุมดาวพฤหัสบดี (๕) ชีวิตหรือแนวทางในการดำเนินชีวิตของคุณ เป็นไปเยี่ยงครูบาอาจารย์ และเป็นคนมีชื่อเสียงในด้านวิชาชีพด้วยนะครับ เจ้าชะตา   :   ถูกต้องเลยครับอาจารย์ ผมเป็นอาจารย์สอนในด้านต่างๆ หลายด้านเลยครับ และมีชื่อเสียงจริงไม่ผิดคำพยากรณ์ของท่านอาจารย์เลย ท่านอาจารย์นี้ทายได้แม่นยำสมกับคำร่ำลือน่าศรัทธา ไม่เสียเที่ยวที่ผมได้มาหาอาจารย์ในวันนี้ ผู้เขียน     :   ผู้เขียนมองเห็นดาวพฤหัสบดีเล็งดวงอาทิตย์ จึงพยากรณ์ออกไปว่า “คุณจะมีคนมาขอความช่วยเหลือคุณอยู่ตลอด และคนที่คุณช่วยไปในแต่ละคนส่วนใหญ่จะเป็นคนที่มีชื่อเสียงนะครับ” เจ้าชะตา   :   ถูกต้องครับ ! แหม ! ทายแม่นยังกับตาเห็นเลยนะครับ ผู้เขียน     :   มองเห็นดาวจันทร์ (๒) เจ้าเรือนตนุ ลอยไปได้ตำแหน่งนิจในภพปุตตะ ตนุแปลว่าความยึดติด ปุตตะ แปลว่า บุตร-บริวาร ตำแหน่งนิจแปลว่า ตำแหน่งเสื่อม จึงออกคำพยากรณ์ออกไปว่า “ชีวิตของคุณถึงจะเด่นดีอย่างไร ชีวิตมักจะต้องตกต่ำเพราะบริวารจนแทบหมดตัว และเหตุการณ์เหล่านี้มักจะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกกับชีวิตของคุณ เหตุเพราะภพตนุเป็นภพที่หมายถึงความยึดมั่นถือมั่น ชีวิตคุณจึงมักจะติดยึดในบริวาร และบริวารที่คุณช่วยไปก็มักจะเห็นแก่ตัวนะครับ เจ้าชะตา   :   ข้อนี้จริงและชัดเจนมากเลยครับ บริวารมักจะสร้างหนี้สินให้ผมต้องชดใช้แทนเสมอ แถมให้คืบจะเอาศอก ให้ศอกจะเอาวา ตอนลำบากก็มาขอพึ่ง ตอนสบายหายหัวไปกันหมด                 ฉบับนี้ขอจบสั้นๆ แต่เพียงเท่านี้ก่อน เอาไว้ฉบับหน้าติดตามอ่าน “คัมภีร์นักษัตรยาตรา” กันต่อในฉบับต่อไป เนื้อหาและเคล็ดลับการพยากรณ์จะเข้มข้นมากขึ้นกว่านี้อีกหลายเท่า ฉบับหน้ามีทั้งการพยากรณ์พื้นดวงและพยากรณ์จรอย่างละเอียด เผยเคล็ดลับที่น่าทึ่ง มีความแม่นยำอย่างไม่น่าเป็นไปได้ ฉบับนี้ขอลาไปก่อน ขอให้ผู้อ่านและผู้ที่สนใจในศาสตร์ด้านนี้ จงมีความสุขสวัสดีด้วยกันทุกๆ คนเทอญ

 

คัมภีร์นักษัตรยาตรา  (ตอน ๒) โดย อ.เจียระไน โชคมงคลชัยชนะ ประธานชมรมอนุรักษ์ โหราศาสตร์ไทย ระบบดาวกระจาย โทร. ๐๑-๔๓๒๑๔๖๒                 ในฉบับที่แล้ว ผู้เขียนได้กล่าวว่าในตอนต่อไปเนื้อหาเคล็ดลับของ คัมภีร์นักษัตรยาตรา จะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จะเข้มข้นอย่างไรมาดูกันครับ               คุณเคยได้ยินการท่องจำคำว่า “ทายยศศักดิ์ ให้ดู ดาวอาทิตย์” ไหมครับ ? มีลูกศิษย์ของผู้เขียนซึ่งเรียนวิชาโหราศาสตร์มาร่วมเป็นสิบปี เมื่อมาฝากตัวเป็นศิษย์ของผู้เขียน เขาผู้นั้นได้ตั้งกระทู้ถามผู้เขียนว่า “ตำราบอกว่า ถ้าจะดูยศศักดิ์ให้ดูที่ดาวอาทิตย์” ปรากฏว่าเมื่อตนใช้ดาวอาทิตย์ในดวงชะตา ใช้พิจารณายศศักดิ์ของผู้ที่มาขอตรวจดวงกับตน ปรากฏว่า “ทายถูกบ้างผิดบ้าง” ทั้งๆ ที่ดาวอาทิตย์ได้ตำแหน่งดีเป็นมหาอุจจ์ กลับไม่มียศศักดิ์ แต่ในบางคนดาวอาทิตย์ได้ตำแหน่งประ ตำแหน่งนิจจ์ กลับมียศเป็นถึงนายพัน นายพล นั้นเป็นเพราะสาเหตุใด ?               ผู้เขียนขอเฉลยเลยนะครับว่า “ดูยศศักดิ์ดูที่ดาวอาทิตย์” ดูได้เฉพาะคนเกิดในราศีเมษเท่านั้นครับ เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น? เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะ “คนที่เกิดในราศีเมษ ดาวอาทิตย์ได้ตำแหน่งเป็นดาวเจ้าเรือนภพปุตตะ (บริวาร) และหากว่าดาวอาทิตย์ได้ตำแหน่งดีในดวงชะตา และไม่ลอยอยู่ในภพอริ มรณะ วินาศ แล้วหละก็ หมายถึง “เจ้าชะตาได้บริวารดี” บริวารย่อมให้การช่วยเหลือและยกย่องสรรเสริญ จะทำอะไรก็ได้หน้าได้ตา” คนมีบริวารดีย่อมมีอำนาจเป็นธรรมดานะครับ! เอาหละครับ คราวนี้มาถึงเคล็ดลับที่โบราณจารย์ได้ปกปิดกันมาเป็นเวลายาวนาน ได้นำมาเปิดเผยกันในวันนี้ หากท่านนักโหราศาสตร์ผู้มีความศรัทธาในเหตุและผล ต้องการที่จะพิจารณายศศักดิ์ของเจ้าของดวงชะตาใด หากดวงชะตานั้นไม่ใช่คนเกิดราศีเมษแล้วหละก็ ขอให้ท่านดูไปที่ดาวเจ้าเรือนปุตตะของดวงชะตาดังกล่าว (สมมุติให้เป็นดาวอาทิตย์) แล้วพิจารณาว่าดาวปุตตะของเจ้าของดวงชะตานั้นดีร้ายอย่างไร? ปกครองคนได้ไหม? นั้นเองครับ หากท่านไม่เข้าใจตรงจุดใด ติดต่อขอความรู้มาได้ที่ผู้เขียน ผู้เขียนยินดีแนะนำให้เป็นวิทยาทานครับ               มีหญิงท่านหนึ่งเดินทางมาขอรับคำพยากรณ์จากผู้เขียน เธอบอกผู้เขียนว่า เธอมาจากจังหวัดอุบลฯ เธอบอกผู้เขียนว่าเธอเกิดวันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๐๖ (ไม่ทราบเวลาเกิด) จันทรคติตรงกับวันเสาร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ ไทย ปีเถาะ               รูปดวงชะตากำเนิด   คัมภีร์นักษัตรยาตรา กล่าวว่า “จะหาลัคนาตามแบบคัมภีร์ได้โดยให้นับที่ดาวอาทิตย์ในพื้นดวงชะตากำเนิดเป็น ปีชวด และนับไปช่องราศีละ ๑ ปี ไปจนถึงปีเกิดของเจ้าของปีเกิด ตรงกับช่องราศีใด ให้ลงลัคนาไว้ที่ราศีนั้น ในดวงนี้ดาวอาทิตย์อยู่ในราศีเมถุน เจ้าชะตาเกิดปีเถาะ นับที่ดาวอาทิตย์ไป ๔ ช่องราศี ตกที่ราศีกันย์ จึงลงลัคนา (ล) เอาไว้ที่ราศีกันย์                                                               พยากรณ์พื้นดวงชะตากำเนิด ผู้เขียน         :   ดวงชะตาของคุณ ลัคนากุมดาวอังคาร (๓) และดาวมฤตยู (๐) ชีวิตคุณหนีไม่พ้นเรื่องของการผ่าตัด และอุบัติเหตุแน่นอนครับ เจ้าชะตา       :   ค่ะ! ดิฉันถูกรถชนมาแล้ว ๒ ครั้ง และมีการผ่าตัดมาแล้วถึง ๓ ครั้ง ท่านอาจารย์ดูแม่นมากเลยค่ะ ผู้เขียน         :   ดาวตนุ (ความยึดมั่น) ของคุณลอยไปอยู่ในภพกัมมะ (การงาน ความลำบาก) ทำให้คุณต้องทุ่มเททั้งร่างกายและจิตใจ อุทิศให้แก่งานเรื่อยมา โดยไม่เห็นเหตุแก่ความเหนื่อยยากเลยนะครับ เจ้าชะตา       :   ใช่ค่ะ! ที่ท่านอาจารย์พูดมานั้นถูกต้องมากเลยนะคะ ผู้เขียน         :   ดาวพุธ (๔) กับดาวราหู (๘) คู่วิวาท เอกสารของคุณ ร่วมกับดาวเสาร์และดาวศุกร์คู่กำลัง ด้านการค้าต่างถิ่นต่างแดน ดาวทั้งสี่ดวงลอยอยู่ร่วมกันในภพกัมมะ ทำให้คุณต้องมีคดีขึ้นโรงขึ้นศาลเกี่ยวกับธุรกิจการค้าในต่างจังหวัด จนคุณต้องหนีหัวซุกหัวซุนมาแล้วนะครับ เจ้าชะตา       :   โห! อะไรจะแม่นปานนั้น เรื่องที่ท่านอาจารย์ทายดิฉันมานี้นะคะ เป็นเรื่องที่ยังคาราคาซังกันอยู่ไม่รู้จักจบสิ้น จะแก้ไขอย่างไรดีคะ ผู้เขียน         :   เอาหละครับ ใจเย็นๆ เดี๋ยวจะแนะนำวิธีการแก้ไขให้ เรามาดูในปีปัจจุบันกันก่อนเลยดีกว่าว่า ดวงคุณเป็นอย่างไรในช่วงนี้ และหาวิธีแก้ไขกัน ส่วนพื้นดวงชะตาของคุณ อยากรู้อะไรเดี๋ยวค่อยถามทีหลัง ดีไหมครับ? เจ้าชะตา       :   ดีค่ะ! ได้เลยค่ะท่านอาจารย์ ดิฉันภูมิใจที่มาหาท่านอาจารย์แล้วไม่ผิดหวัง ท่านอาจารย์ดูแม่น เก่งสมกับคำร่ำลือจริงๆ                 พยากรณ์จรปีอายุปัจจุบัน         เจ้าชะตาเดินทางมาหาผู้เขียนเดือน สิงหาคม ๒๕๔๖ เจ้าชะตาเกิดวันที่ ๖ ก.ค. ๒๕๐๖ เจ้าชะตาตามมาหาผู้เขียนตอนอายุ ๔๐ ปีเต็ม ย่างเข้า ๔๑ ปี ในที่นี้เราจะถืออายุย่างคือ ๔๑ ปี เป็นหลักนะครับ ตามคัมภีร์นักษัตรยาตราได้กล่าวเอาไว้ว่า จะดูจรดี-ร้าย เป็นรายปีให้นับอายุย่าง ๑ ปีที่ดาวอาทิตย์ตามพื้นดวงกำเนิดไปทีละช่องๆ ละ ๑ ปี วนไปเรื่อยๆ จนถึงเท่าอายุย่างที่ต้องการพยากรณ์ ตามดวงชะตาอายุย่าง ๔๑ ปี พื้นดวงดาวอาทิตย์ลอยอยู่ในราศีเมถุน นับราศีเมถุนเป็น ๑ ปีแรก นับเวียนไปเรื่อยๆ จนครบ ๔๑ ช่องราศี ก็จะตกที่ราศีตุลย์ “ให้พยากรณ์เหตุการณ์ดี-ร้าย ในช่วงอายุย่าง ๔๑ ปีในราศีตุลย์”     พยากรณ์อายุย่าง ๔๑ ปี ผู้เขียน         :   ปีปัจจุบันอายุย่าง ๔๑ ปี ตกในภพกฎุมภะ แปลว่า การเงิน ด้วยเหตุนี้คุณมาตรวจดวงก็เพื่อต้องการรู้เกี่ยวกับเรื่องของการเงินของคุณโดยเฉพาะนะครับ เจ้าชะตา       :   ถูกต้อง แม่นยำอย่างกะรู้มาก่อนล่วงหน้าเลยนะคะท่านอาจารย์ แหม! ท่านอาจารย์มีพรายกระซิบหรือเปล่านะ (เจ้าชะตาพูดไปยิ้มไป อย่างชอบอกชอบใจ) ผู้เขียน         :   ดาวกฎุมภะ (ดาวศุกร์) ลอยไปอยู่ในภพกัมมะ เป็นคู่สมพล (ทำงานใหญ่) กับดาวอาทิตย์และอยู่ท่ามกลางดาวพุธ (๔) และดาวราหู (๘) คู่วิวาท เอกสารและการปะทะด้านวาจา ตอนนี้คุณมีปัญหาขัดแย้งกันกับพวกพ้อง เกี่ยวกับเรื่องของเอกสารการเงิน รวมไปถึงการคิดทำงานใหญ่ของคุณด้วย เห็นท่านจะแย่และไม่เป็นผลสำเร็จ แถมคุณต้องเป็นหนี้อีกบานเลยหละครับ เจ้าชะตา       :   แล้วจะแก้ไขอย่างไรดีหละค่ะท่านอาจารย์ เพราะที่ท่านอาจารย์กล่าวมาทั้งหมดนั้นนะคะ เป็นเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นอยู่กับดิฉันในขณะนี้เลยนะคะ ผู้เขียน         :   เอาหละ! อย่างไรก็ต้องลองดู ลองช่วยดูว่าจะได้ผลสักกี่เปอร์เซ็นต์ เอาเป็นว่า วันเสาร์ซึ่งเป็นวันเกิดของคุณ ให้คุณจัดของบวงสรวงบูชาเทพประจำดวงชะตา นำเอามาให้อาจารย์ แล้วอาจารย์จะทำการบวงสรวงดวงชะตาให้ แล้วคอยดูผลกันนะครับ                 หลังจากวันนั้น เจ้าชะตาได้จัดของในการทำพิธีบวงสรวงขอพรเทพประจำดวงชะตา ให้ปัดเป่าปัญหาและอวยพรให้เกิดความโชคดีไปแล้ว ต่อมาอีก ๓ เดือน เจ้าชะตาได้โทรมาขอบอกขอบใจผู้เขียนเป็นการใหญ่ เธอเล่าว่า หลังจากที่ทำพิธีบวงสรวงขอพรเทพประจำดวงไปในวันนั้น ก็เกิดความโชคดีมาโดยตลอด สิ่งที่ไม่น่าจะได้ก็ได้ เดี๋ยวเดือนหน้าจะถอยรถเบนซ์ขับมาหาผู้เขียน แต่วันนี้ขอหมายเลขบัญชีธนาคารก่อน เพื่อจะโอนเงินมาให้ใช้สัก ๓๐,๐๐๐ บาท เพื่อตอบแทนความดีของผู้เขียน               นี่แหละครับ คัมภีร์นักษัตรยาตรา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิชาโหราศาสตร์ไทยระบบดาวกระจาย แม้ไม่รู้วันหรือเวลาเกิดที่แน่นอนชัดเจน ก็สามารถพยากรณ์ดวงชะตาได้แบบถูกต้องแม่นยำชัดเจน สามารถช่วยให้คนมีทุกข์หาทางออกให้พ้นจากความทุกข์ได้ แต่ผู้เขียนขอย้ำนะครับว่า ”ไม่ว่าจะเป็นศาสตร์พยากรณ์ด้านใด ถ้าสามารถนำเอาส่วนดีของวิชานั้นมาช่วยเหลือตนเอง และผู้อื่นให้เกิดความสุขได้บ้าง อาจจะมากน้อยต่างกันก็ถือว่าดี มีคุณค่าควรแก่การยกย่องทุกวิชานะครับ” โปรดอย่านำความรู้ของตนเอามาอวดแข่งและข่มกัน ให้เสียความดีของวิชาที่เรียนมา แต่ให้เอาส่วนดีของแต่ละวิชามาช่วยกันให้เกิดความสุขและศรัทธา จะน่ายกย่องสรรเสริญกว่า! คุณผู้อ่านว่าจริงไหมครับ ?

 

คัมภีร์นักษัตรยาตรา  (ตอน ๓) โดย อ.เจียระไน โชคมงคลชัยชนะ ประธานชมรมอนุรักษ์ โหราศาสตร์ไทย ระบบดาวกระจาย โทร. ๐๑-๔๓๒๑๔๖๒                   ในตอนที่แล้ว ได้กล่าวถึงวิธีการพยากรณ์จรเป็นรายปี ในฉบับนี้เรามาเรียนรู้กันเกี่ยวกับการพยากรณ์เป็นรายเดือน ว่าเดือนนี้ เดือนหน้า หรือเดือนที่เราต้องการจะรู้ในเดือนนั้นๆ ว่า เดือนดังกล่าวจะดีร้ายอย่างไร               วิธีการหาจุดพยากรณ์ในแต่ละเดือน คัมภีร์นักษัตรยาตราได้ระบุว่า ”หากต้องการจะรู้ ดี-ร้าย ในแต่ละเดือน ให้นับเดือนเกิดเป็นเดือนแรก ที่ช่องปีอายุจรในปัจจุบัน หรือปีอายุจรที่ต้องการเป็นหลัก เกิดเดือนใด ให้นับไปจนถึงเดือนที่ต้องการรู้” อ๊ะ! อย่าเพิ่งงงนะครับ มีตัวอย่างให้ดู เอ้า! มาดูกันเลยดีกว่า   ดวงตัวอย่าง    คนเกิดวันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๑๗ (ไม่ทราบเวลาเกิด) ตรงกับจันทรคติ คือ วันพุธ ขึ้น ๑ ค่ำ เดือนสิบสอง ปีขาล   หมายเหตุ : เวลาเรานับเดือนจร ให้นับเป็นเดือนทางจันทรคตินะครับ เช่น เดือนอ้าย (๑) เดือนยี่ (๒) เดือนสาม เดือนสี่ เป็นต้น                ต้องการจะรู้ว่า “ในช่วงเดือนเก้า ตอนอายุย่าง ๓๐ ปี ชีวิตจะเป็นอย่างไร” ในขั้นต้น คุณต้องหาอายุย่างที่ต้องการรู้ของเจ้าของดวงชะตาให้ได้ก่อนโดยนับอายุย่าง ๑ ปีที่ดาวอาทิตย์ในพื้นดวงชะตากำเนิด นับไล่ไปทีละช่องๆ ละ ๑ ปี ตามดวงตัวอย่าง ดาวอาทิตย์ลอยอยู่ในราศีกันย์ นับที่ราศีกันย์เป็น ๑ ปี อายุย่าง ๓๐ ปี ก็จะนับไปตกที่ราศีกุมภ์ (ภพพันธุ) อายุจรตกที่ราศีกุมภ์ ให้นับราศีกุมภ์ เป็นเดือนเกิด นับไล่ไปทีละราศีๆ ละ ๑ เดือน นับไปจนกว่าจะถึงเดือนที่ต้องการจะรู้ เมื่อถึงเดือนที่ต้องการรู้แล้ว ให้ทำเครื่องหมาย x เอาไว้เพื่อกันลืมนะครับ ดูตัวอย่างข้างล่าง ดังนี้ครับ                 รูปดวงตัวอย่าง                          อายุย่าง ๓๐ ปีตกที่ราศีกุมภ์ เป็นคนเกิดเดือน ๑๒ ในทางจันทรคติให้นับเดือน ๑๒ ที่ราศีกุมภ์ (เป็นราศีที่อายุย่างจรไปถึง) ต้องการรู้ ดี-ร้าย ในเดือนเก้า ให้นับราศีกุมภ์เป็นเดือน ๑๒ (เดือนเกิดของเจ้าชะตา) นับไล่ไปทีละช่องดังนี้               ราศีกุมภ์       =    เดือน ๑๒      ราศีมีน =                เดือนอ้าย (๑)               ราศีเมษ        =    เดือนยี่ (๒)   ราศีพฤษภ               =    เดือน ๓               ราศีเมถุน      =    เดือน ๔        ราศีกรกฎ                =    เดือน ๕               ราศีสิงห์        =    เดือน ๖        ราศีกันย์                 =    เดือน ๗               ราศีตุลย์       =    เดือน ๘        ราศีพิจิก                 =    เดือน ๙               เราต้องการรู้เหตุการณ์ ดี-ร้าย ในเดือน ๙ เดือนเก้าของดวงชะตาดวงนี้ในปีอายุย่าง ๓๐ ตกอยู่ที่ราศีพิจิก               วิธีการพยากรณ์จรดวงตัวอย่าง               ๑.   อายุย่าง ๓๐ ตกที่ราศีกุมภ์ ภพพันธุ หมายถึง เรื่องภายในครอบครัว               ๒.   อายุจรต้องดาวพฤหัสบดี (๕) หมายถึงการเรียนรู้               ๓.   ดาวพฤหัสเป็นเจ้าเรือนภพ กฎุมภะ (การเงิน) และเป็นดาวดวงเดียวกันกับเจ้าเรือน ภพปุตตะ (บุตร-บริวาร) หมายถึง การเงินที่ต้องเกี่ยวพันกับบริวาร               สรุป : เหตุการณ์รายปีออกมาว่า ในช่วงอายุย่าง ๓๐ ปี ดวงของเจ้าชะตาจะต้องยุ่งอยู่กับเรื่องของการจับจ่ายเงิน เกี่ยวกับเรื่องของการเรียนการศึกษาของบุตร-บริวารและคนในครอบครัว เสียเป็นส่วนใหญ่               พยากรณ์เดือนจร               ๑.   เดือนจรต้องดาวราหู (๘) เจ้าเรือนพันธุ ดาวราหูคือการเดินทาง พันธุคือ ครอบครัว หมายถึง การเดินทางไปจากที่อยู่อาศัย               ๒.   เดือนจรตกภพตนุ (ความยึดมั่นถือมั่น) ดาวเจ้าเรือนตนุ (๓) ลอยไปอยู่ในลาภะ (ลาภผลกำไร) หมายถึง การติดยึดอยู่กับผลประโยชน์ รายได้หรือผลกำไร               ๓.   ดาวตนุ (๓) ปะทะคู่ศัตรู คือ ดาวเจ้าเรือนภพกัมมะ (๑) ในภพลาภะ หมายถึง การขัดแย้งกันด้านการงาน เกี่ยวพันกันกับเรื่องของผลประโยชน์               ๔.   ดาวตนุ (๓) พบดาว (๖) ปัตนิและวินาศ ซึ่งเป็นดาวคู่มิตรต่อกัน ลอยอยู่ในภพลาภะ และปะทะกับดาว (๔) ลาภะและมรณะ ซึ่งเป็นดาวคู่แข่งในด้านเชาวน์ปัญญา กับความมานะพยายาม หมายถึง เพื่อนซึ่งเป็นเพศตรงข้ามที่ไม่ซื่อสัตย์ คอยจ้องที่จะแข่งกันเอาชนะกันในเรื่องของผลประโยชน์               *** พอสรุปได้ว่า ดวงชะตาของผู้นี้ในช่วงเดือนเก้า จะเกิดเหตุการณ์ดังนี้               เจ้าชะตาจะต้องมีการเดินทางออกจากที่อยู่อาศัย ไปเกี่ยวกับเรื่องของการงานและการแข่งขันกันในด้านผลประโยชน์ เพราะไม่มีใครพอที่จะไว้ใจทำงานแทนตนได้ ด้วยความยึดมั่นถือมั่น กลัวจะสูญเสียผลประโยชน์ อีกทั้งเพื่อนฝูงที่ร่วมงานหรือร่วมหุ้นก็ไว้ใจไม่ได้ ถ้าตนไม่ไปกำกับงาน เห็นถ้าจะต้องเสียผลประโยชน์ ที่ควรจะได้ ดังนี้เป็นต้นครับ               วิชาโหราศาสตร์ไทย ระบบดาวกระจาย เป็นศูนย์รวมของคัมภีร์ด้านการพยากรณ์แบบพิสดารและหลากหลาย ถ้าคุณคือคนหนึ่งที่ชอบไขว่คว้าหาความรู้ในด้านวิชาการพยากรณ์ มาศึกษาวิชาโหราศาสตร์ ระบบดาวกระจาย รับรองไม่ผิดหวังครับ               ตอนต่อไปเราจะได้มาเรียนรู้กันกับเทคนิคพยากรณ์เป็นรายวันกันต่อว่า “วันนี้หรือพรุ่งนี้ ดวงชะตาจะ ดี-ร้าย อย่างไร” รับรองสนุกแน่ครับ