จุดจบของพรรคชาติไทย
พล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พรรคชาติไทยก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๑๗ โดยกลุ่มนักการเมืองซอยราชครู นำโดย พล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร พล.ต.ศิริ สิริโยธิน และพล.ต.(ยศในขณะนั้น)ชาติชาย ชุณหะวัน
พรรคชาติไทยมีหัวหน้าพรรคได้เป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้ว ๒ คน ได้แก่ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัน และนายบรรหาร ศิลปอาชา
บทบาทของพรรคชาติไทย มักถูกวิจารณ์ว่าเป็นพรรคชอบเสียบ โดยมักจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอยู่เสมอ ๆ เพื่อประโยชน์ของตน จึงได้รับฉายาว่า พรรคปลาไหล ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๐ พรรคชาติไทยเป็นพรรคหนึ่งที่ได้ตัดสินใจเข้าร่วมกับพรรคประชาชนจัดตั้งรัฐบาลโดยมีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี
ในวันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๕๑ ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อพิจารณากรณี พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย ได้ลงมติ ๔ ต่อ๑ เห็นชอบตามที่นายอภิชาติ สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองเสนอให้ส่งเรื่องถึงอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยยุบพรรคพรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย โดยมติเสียงข้างน้อย ๑เสียง คือ นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ฝ่ายกิจการสอบสวนสอบสวน และได้ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดเพื่อพิจารณานำเสนอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไป
เมื่อวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ ซึ่งเป็นครบรอบปีที่ ๓๔ ของการจัดตั้งพรรคชาติไทย นายบรรหารฯ ได้แสดงออกถึงความวิตกกังวลในเรื่องพรรคชาติไทยจะถูกยุบหรือไม่เป็นอย่างมาก ถึงกับออกปากเล่าให้แก่มิตรสหาย สมาชิกพรรคฟังว่า ตนเองได้เที่ยวบนบานศาลกล่าวหลายแห่งขอให้คุ้มครองป้องกันปกปักรักษามิให้พรรคชาติไทยต้องถูกยุบเลย
วิธีการวิเคราะห์ตามหลักวิชาโหราศาสตร์ดวงดาวนั้น ผมได้นำดวงชะตาของนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย และดวงชะตาของพรรคชาติไทย มาพิจารณาร่วมกันแล้วสรุปได้ว่า
๑. ดวงชะตาของนายบรรหาร ศิลปอาชา ดวงชะตาของนายบรรหารฯ นี้ ผมได้เคยกล่าวไว้ในบทความเรื่อง สุริยคราสเดือนสิงหาคม ๒๕๕๑ ว่า ในวันที่เกิดคราส ๑ สิงหาคม ๒๕๕๑ นั้น จุดที่เกิดคราสทับลัคนาของนายบรรหารฯ เกือบสนิทมีเชิงมุมห่างจากลัคนาเพียง ๙ ลิปดาเท่านั้น
ในวันที่เขียนบทความนี้ (๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๑) ดาวอังคารได้โคจรมาทำมุมเบียนประมาณ ๙๐ องศากับดาวพฤหัสบดีเดิม มีเชิงมุมเพียง ๓๗ ลิปดา ครูอาจารย์ท่านให้พยากรณ์ว่า คนที่อยู่ใต้บังคับบัญชาจะก่อความยุ่งยากมาให้
ที่น่าสังเกตก็คือ ดาวพฤหัสบดีในดวงชะตาเดิมที่ถูกดาวอังคารทำมุมเบียนนั้นสถิตอยู่ตรงมรณะองศา (ดาวพฤหัสบดีในราศีกุมภ์ที่ ๑๕ องศา) ดังนั้น พลังงานที่นำทุกข์โทษแก่เจ้าชะตาจึงเพิ่มพูนมากยิ่งขึ้นเป็นทวีคูณ
๒. ดวงชะตาของพรรคชาติไทย ในวันที่เกิดคราส จุดที่เกิดคราสทำมุมเบียนประมาณ ๙๐ องศากับดาวพุธ และดาวอังคาร ดังนั้น ดาวพระเคราะห์ทั้งสองโดยเฉพาะดาวอังคารที่ถูกคราสเมื่อโคจรไปทับทัน เล็ง ทำมุมเบียน ๙๐ องศา หรือ อยู่ในเรือนที่ ๖ ๘ และ ๑๒ กับดาวพระเคราะห์ดวงใดในดวงเดิมก็จะส่งผลเป็นทุกข์โทษแก่เจ้าชะตา จนถึงวันที่เขียนบทความนี้ ปรากฏว่า ทั้งดาวพุธ และดาวอังคารได้ทับทันกับดาวศุกร์เกือบสนิท มีเชิงมุมเพียง ๓ องศา ๔๙ ลิปดา และ ๓ องศา ๑๐ ลิปดาตามลำดับ นอกจากนี้ ดาวอังคารยังทำมุมเบียนประมาณ ๙๐ องศากับดาวพฤหัสบดีเดิม และในกรณีนี้ ผมจะพิจารณาเพียงดาวอังคารอย่างเดียวเท่านั้น
ดาวอังคารทำมุมเบียนกับดาวพฤหัสบดีเดิม ครูอาจารย์ท่านให้พยากรณ์ว่า คนที่อยู่ใต้บังคับบัญชาจะก่อความยุ่งยากมาให้ ซึ่งสอดคล้องกับดวงชะตาของนายบรรหารฯ ส่วนดาวอังคารทับทันดาวศุกร์เดิม ท่านให้พยากรณ์ว่า จะต้องพลัดพรากจากคนรัก สุขภาพเสื่อมโทรม มีการสูญเสียต่างๆ
เมื่อได้คำนวณระยะเวลาการโคจรของดาวอังคารแล้ว ดาวดวงนี้จะโคจรเข้าทับราหูเดิมตั้งแต่วันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๑ ซึ่งครูอาจารย์ท่านให้พยากรณ์ว่า ภุมมาราหู เร่งระวังดู จะเกิดวิวาทบาดใจหลาย เสียทรัพย์โศกสูญ เพิ่มพูนอันตราย ดุจไกรสรผาย ผจญแพ้แก่หมู่หมู (เสือแพ้หมู)
ที่น่าสังเกตก็คือ ทั้งดาวศุกร์ และดาวพฤหัสบดีในดวงชะตาเดิมที่ถูกดาวอังคารทำมุมเบียนนั้นสถิตอยู่ตรงมรณะองศา (ดาวศุกร์ในราศีพิจิกที่ ๖ องศา ดาวพฤหัสบดีในราศีกุมภ์ที่ ๑๕ องศา) ดังนั้น ดังนั้น พลังงานที่นำทุกข์โทษแก่เจ้าชะตาจึงเพิ่มพูนมากยิ่งขึ้นเป็นทวีคูณ
ดังกล่าวแล้วข้างต้น ท่านผู้อ่านน่าจะสรุปผลพยากรณ์ด้วยตัวเองได้ว่า จุดจบของพรรคชาติไทยจะเป็นอย่างไร ?
-----------------------------------------
เอกสารอ้างอิง หนังสือโหราศาสตร์ปริทรรศน์ภาค ๒ ครหวินิจฉัย โดย อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร
The Rulership Book,Rex E.Bills
Vedic System of Astrology (Goravani Jyotish 2.5 Program