ดาวอังคารอาละวาดอีกแล้ว

                                                พล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์

-------------------------------------------------------------------------------------------------------

                        กลุ่มพันธมิตรฯ ได้เริ่มเปิดศึกใหม่กับรัฐบาลอีกครั้งเมื่อวันจันทร์ที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ โดยการเดินขบวนเข้าปิดลัอมรัฐสภา และสถานที่ใกล้เคียง โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะไม่ให้มีการประชุมเกิดขึ้น นอกจากนี้ ยังประกาศว่า จะต่อต้านขับไล่ให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนั้นกำลังประชุมอยู่ที่ประเทศเปรู โดยประกาศว่า เป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายแบบม้วนเดียวจบ (คงจะไม่ใช่ม้วนเดียวจบแบบภาพยนต์ทั่วไปซึ่งใช้เวลาประมาณ ๒ ชั่วโมง แต่เป็นม้วนเดียวจบแบบม้วนกระดาษชำระซึ่งจะใช้เวลานานเพียงใด ขอให้ท่านผู้อ่านคิดเอาเองก็แล้วกัน) และทำศึกแบบสงครามเก้าทัพ

                        เมื่อภารกิจที่ ๑ คือ การปิดล้อมรัฐสภาจนไม่สามารถเปิดประชุมได้แล้ว กลุ่มพันธมิตรฯ จึงเริ่มภารกิจที่ ๒ คือ การขัดขวางมิให้นายสมชายฯ เข้าประเทศ โดยการเคลื่อนพลไปยึดสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง เมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ เป็นเหตุท่าอากาศยานทั้งสองต้องปิดตัวเอง ระงับการเดินทางเข้าออกของสายการบินต่างๆ ส่งผลให้ประเทศไทยต้องสูญเสียรายได้ไปมากกว่าหนึ่งแสนล้านบาท การกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯ ครั้งนี้นับได้ว่าเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินเหตุ เพราะเป้าหมายที่แท้จริงของกลุ่มพันธมิตรฯ คือ การขับไล่นายสมชายฯ ให้พ้นจากตำแหน่งหน้าที่นายกรัฐมนตรีเท่านั้น

                        การเข้ายึดสนามบินทั้งสองนี้ ผู้ว่าการท่านอากาศยานได้ยื่นคำฟ้องต่อศาลแพ่งขอให้สั่งแกนนำของพันธมิตรฯ จำนวน ๑๓ คน นำสมาชิกกลุ่มพันธมิตรฯ ออกจากสนามบินแล้ว ต่อมาในวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ นายสมชายฯ นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศการออกพระราชกำหนดการบริหาราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉิน ตามพระราชกำหนดนี้ ได้มีรายละเอียดต่างๆ ได้แก่การแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่โดยตรง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรเขต ๑ เป็นเจ้าหน้าที่รับผิดชอบในการสลายการชุมชุมของพันธมิตรฯ ในแต่ละพื้นที่รวมทั้งมาตรการที่เกี่ยวข้องที่แน่ชัด

สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ การนำกำลังเข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรที่สนามบินทั้งสองคงจะหลีกเลี่ยงการปะทะต่อสู้กัน ทำให้เกิดบาดเจ็บล้มตายไม่ได้ นอกจากนี้ กลุ่มนปช. หรือ กลุ่มเสื้อแดงก็ได้แสดงท่าทีที่ชัดแจ้งว่า จะเข้ามาร่วมในการสลายการชุมนุมครั้งนี้

                        ก่อนหน้าที่จะเขียนบทความนี้ (วันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๑) หนึ่งวัน เวลาประมาณ ๐๑.๔๕ น.ได้มีบุคคลจำนวนหนึ่งใช้เรือยนต์เป็นพาหนะเคลื่อนที่เข้ามาใกล้สถานที่ตั้งของสถานีวิทยุชุมชมของ เอเอสทีวี แล้วทำการยิงระเบิดจำนวน ๓ ลูก พร้อมกับรัวปืนกล ๓ ชุด เป็นเหตุให้สถานีวิทยุแห่งนี้ได้รับการเสียหาย ต้องทำการส่งชั่วคราว มีเจ้าหน้าที่ของสถานีฯ ได้รับบาดเจ็บ และในวันนี้ เวลาประมาณ ๐๐.๓๐ น.ได้มีการยิงระเบิด ณ สถานที่เดียวกันอีกจำนวน ๒ ลูก ยังไม่ทราบรายละเอียดการเสียหาย

                        เมื่อได้ตรวจสอบดวงเมือง และการโคจรของดาวพระเคราะห์ต่างๆ ที่โคจรเข้ามาสัมพันธ์กับดาวพระเคราะห์เดิม ได้พบว่า

                        ดาวอังคาร บาปเคราะห์อันดับรองจากดาวเสาร์ได้โคจรเข้ามาในราศีพิจิก ตรียางศ์ที่ ๒ นวางศ์ที่ ๔ เมื่อวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๑ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ เข้าปิดล้อมรัฐสภา แล้วได้ขยายขอบเขตปฏิบัติการออกไปถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และดอนเมือง เพียงเพื่อขับไล่ขัดขวางนายสมชายฯ นายกรัฐมนตรี เข้าประเทศดังกล่าวแล้วข้างต้น การโคจรของดาวอังคารครั้งนี้จึงช่วยให้ความชัดเจนว่า ดาวดวงนี้เองที่เป็นเจ้าการของเหตุการณ์ครั้งนี้

                        ดาวอังคารมีความหมายถึง สงคราม การต่อสู้ปะทะกัน และการนองเลือด ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้สูงที่การสลายม็อบที่ท่าอากาศยานทั้งสองจะต้องมีการต่อสู้กระทบกระทั่งกัน ทำให้เกิดเลือดตกยางออก

                        จนถึงวันนี้ ดาวอังคารได้โคจรเข้าไปในราศีพิจิก ๑๔ องศา ๕๙ ลิปดา ทำมุมเล็งดาวอังคารเดิมประมาณ ๑๘๐ องศา มีเชิงมุมเพียง ๔ องศา ๕๓ ลิปดา ซึ่งครูอาจารย์ท่านให้พยากรณ์ว่า “ภุมโมภุมมะ ทับกันนั้นจะ เกิดกลีกลำภัย อันตรายราวี ห่อนมีสุขใจ เรือนโรงร้านไฟ และไฟจะฟอนอาตมา” แต่ก็ยังโชคดีอยู่บ้าง ที่ลัคนาของดวงเมือง (สถิตอยู่ในราศีเมษ) มิได้สถิตอยู่ในราศีพฤศภ เมถุน กันย์ ตุลย์ มังกร กุมภ์ ดาวอังคารจึงไม่เป็นฆาฏบ่อนทำลายเจ้าชะตาได้เต็มที่

                        นอกจากนี้ ดาวอังคารยังโคจรเข้าไปสถิตในราศี ๘ ภพมรณะของดวงเมือง ประเด็นนี้ ครูอาจารย์ท่านให้พยากรณ์ว่า “เป็นแปดไพร่ข้าคน จะหนีตนไปตายเปล่า”

                        เรื่องการขัดขวางการทำงานของนายสมชายฯ นายกรัฐมนตรี นี้ ความจริงแล้วกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่จำเป็นต้องออกแรงให้มากถึงขนาดนี้ เพราะเป็นที่ทราบกันทั่วไปแล้วว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะพิพากษาให้ยุบพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตยภายในเดือนธันวาคมนี้อยู่แล้ว การแสดงพลังเข้ายึดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และดอนเมืองนั้น ได้ทำลายภาพพจน์ของตนเองโดยเฉพาะผลงานที่ได้ค้นคว้าหยิบยกเอาเรื่องคอรัปชั่นของนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และนักการเมืองมาเปิดโปงให้สังคมรับทราบ และมีการปราบปรามดำเนินคดีแก่บุคคลเหล่านี้เป็นรูปธรรมไปอย่างน่าเสียดายขณะนี้ มิใช่เฉพาะประชาชนทั่วไปเท่านั้น ผู้ที่เคยเลื่อมใสศรัทธากลุ่มพันธมิตรฯ ก็เริ่มเบื่อหน่ายอิดหนาระอาใจปรากฏเด่นชัดผ่านสื่อมวลชนทั่วไป ผมรู้สึกสมเพชสมาชิกของกลุ่มพันธมิตรที่ไปร่วมชุมนุมไม่ว่าจะเป็นที่ทำเนียบก็ดี ท่าอากาศยานทั้งสองก็ดีได้ถูกปิดหูปิดตาจากแกนนำของกลุ่มพันธมิตร จนไม่สามารถรับรู้ข้อเท็จจริงเสียงสะท้อนจากสังคมในขณะนี้ได้ จึงยังคงหลงงมงายจมอยู่ในปลักของความเป็นอัปมงคล

                        ท่านผู้อ่านหลายท่านคงจะกระวนกระวายใจว่า เรื่องนี้จะยืดเยื้อไปอีกนานเพียงใด มีหลายท่านได้มีแผนการเดินทางทางอากาศทั้งในต่างประเทศ และต่างประเทศอยู่แล้วแต่ไม่สามารถเดินทางได้ตามกำหนดเวลา และมีอีกหลายท่านที่ยังตกค้างอยู่ในต่างประเทศไม่สามารถเดินทางกลับได้ ประเด็นนี้ ผมได้คำนวณแล้ว ดาวอังคารนี้จะโคจรพ้นจากราศีพิจิก ตรียางศ์ที่ ๒ นวางศ์ที่ ๖ ไม่เกินวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๑ ซึ่งเป็นวันเฉลิมพรรษาพอดี พระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมครับ

-------------------------------------------

เอกสารอ้างอิง หนังสือ”โหราศาสตร์ปริทรรศน์ภาค ๒ ครหวินิจฉัย” โดย อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร

                The Rulership Book,Rex E.Bills

                    Vedic System of Astrology (Goravani Jyotish 2.5 Program