ทายวาสนา โดยจิรัฏฐ์โหราศาสตร์

            ผู้ที่จะดูดวงกับข้าพเจ้า ในกรณีที่มีพี่น้องคลานตามกันมาโดยยังไม่มีผู้ใดแต่งงานมีลูก ถ้าเป็นลูกคนเดียว (ลูกโทน) ทำนายดวงได้เลยโดยไม่ต้องใช้ดวงผู้ใดมาประกอบ

เมื่อมีพี่น้องรวมกัน ๒ คน จะต้องใช้ดวงพี่น้องเซื่อมถึงกัน

เมื่อมีพี่น้องรวมกัน ๓ คน

            ถ้าคนที่ ๑ มาดูดวง จะต้องใช้ดวงคนที่ ๓ นำมาประกอบการทำนาย

            ถ้าคนที่ ๒ มาดูดวง จะต้องใช้ดวงคนที่ ๑ นำมาประกอบการทำนาย

            ถ้าคนที่ ๓ มาดูดวง จะต้องใช้ดวงคนที่ ๒ นำมาประกอบการทำนาย

เหตุผล

            ดาวสหัชชะในดวงคนที่ ๑ ใช้ทำนายวาสนาน้องคนถัดมา คือคนที่ ๒

            ดาวสหัชชะในดวงคนที่ ๒ ใช้ทำนายวาสนาน้องคนถัดมา คือคนที่ ๓

            ดาวสหัชชะในดวงคนที่ ๓ ใช้ทำนายวาสนาน้องคนถัดมา คือคนที่ ๔ แต่ว่า ไม่มีน้องคนถัดมาจึงย้อนกลับไปให้คุณให้โทษคนที่ ๑ ได้ จึงเป็นสูตรที่ว่าดวงสหัชชะในลูกคนสุดท้ายใช้ทำนายวาสนาคนที่ ๑ เสมอ ดวงคนที่ ๑ จึงไม่มีนิ่งจนกว่าพ่อแม่ยุติการมีน้องหรือทำหมัน

หากไม่ทราบดวงพี่น้อง จะทำนายวาสนาของตนเองไม่ได้ ต้องรอจนกว่าพี่น้องที่คลานตามกันมา มีลูกไปหมดทุกคน เหลือตนเองอยู่คนเดียว

ตัวอย่าง

มีพี่น้องรวมกัน ๒ คน

คนที่ ๑ มีลูกเมื่อวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๔๙

เพราะฉะนั้นคนที่ ๒ ใช้ดวงตัวเองทำนายเหมือนลูกโทนได้ตั้งแต่ ๑ มกราคม ๒๕๔๙ ดวงจะไม่เชื่อมกันก็ต่อเมื่อพี่น้องคนหนึ่งคนใดมีลูก

มีพี่น้องรวมกัน ๓ คน

คนที่ ๑ มีลูกไปเมื่อวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๔๙

เพราะฉะนั้นคนที่ ๒ วาสนาเปลี่ยนเมื่อวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๔๙ เช่นกัน เพราะจะใช้ดาวสหัชชะของคนที่ ๓ มาทำนายวาสนาคนที่ ๒ แต่คนที่ ๓ ยังคงเดิม เพราะคนที่ ๒ ยังไม่มีลูก ต่อมาคนที่ ๒ มีลูกวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ วาสนาของคนที่ ๓ ก็ไม่ถูกเชื่อมจากคนที่ ๒ แล้ว ดาววาสนาหรือดาวตนุ ก็จะขับเคลื่อนทันที ตั้งแต่วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ ผู้ที่มีพี่น้องมากกว่า ๒ คนขึ้นไป จะวาสนาของตัวเองจากดาวตนุไม่ได้ นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่วงการโหรไม่เข้าใจเรื่องดาวสหัชชะ จึงทำนายออกนอกลู่นอกทางไปมาก

            การจะใช้ดวงชะตาของแต่ละคนทำนายจึงไม่ถูกต้อง เพราะเราลืมหลักพันธุกรรม สิ่งที่เห็นได้ชัดในกรณีดวงพ่อแม่บอกว่าตนเองดวงดี แต่พอเปิดดวงลูกแต่ละคนบอกว่าพ่อแม่ดวงตก นั่นแหละเป็นข้อพิสูจน์ว่าจะยึดหลักของใครดี จะยึดพ่อแม่ หรือว่าจะยึดบรรดาลูก ๆ ทำให้การทำนายขาดความเชื่อมโยง

            ดวงตัวอย่างที่ ๑ ดวงชาย เกิดวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๓๓ เวลา ๒๒.๕๑ น. กรุงเทพฯ

            ดาววาสนา คือดาวอังคาร (๓) ได้ตำแหน่งมหาอุจจ์ ลอยไปในภพสหัชชะ

            ทำนาย : เป็นคนวาสนาดี

            เมื่อเวลาผ่านไปดวงตัวอย่างที่ ๑ มีน้องเพิ่มขึ้น ๑ คน หลักการดูดวงของข้าพเจ้า ถ้าจะดูว่าน้องคนที่ ๒ จะเป็นคนวาสนาดีหรือไม่ ให้ดูในดวงลูกคนที่ ๑ ว่าดาวสหัชชะเป็นอย่างไร จากดวงตัวอย่างที่ ๑ ดาวสหัชชะคือดาวเสาร์(๗) ลอยไปในภพกดุมภะ ให้สรุปเลยว่าน้องคนที่ ๒ วาสนาดี

            ดวงตัวอย่างที่ ๒ ดวงชาย เกิดวันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๓๖ เวลา ๐๙.๐๕ น.กรุงเทพ ฯ

จากดวงตัวอย่างที่ ๒ ถ้าดูจากดวงของเจ้าชะตาเอง ดาววาสนาคือดาวจันทร์(๒) ได้ตำแหน่งนิจ ลอยไปในภพปุตตะ จะต้องเป็นคนวาสนาไม่ดี ถ้าดูดวงแต่ละคนจะผิดทันที เพราะว่าในดวงคนที่ ๑ จะบังคับดวงให้วาสนาคนที่ ๒ สูง ถ้าทุกคนยังไม่มีลูก

            ดวงสหัชชะในดวงตัวอย่างที่ ๒ คือดาวพุธ (๔) ได้ตำแหน่งเกษตร ในภพวินาศน์

ทำนาย:ไม่ให้มีน้องคนที่ ๓ แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น กลับย้อนขึ้นไปทำนายวาสนาคนที่ ๑ ว่าวาสนาตกจากวาสนาเป็นมหาอุจจ์ก็กลายเป็นวินาศน์ทันทีการที่ดาววาสนาคนที่ ๑ ดวงดี แต่ถูกเบียนจากคนที่ ๒ การดำเนินของวาสนาค่อย ๆ ลดระดับลงจนในปี พ.ศ. ๒๕๔๘ เด็กหนีเรียน ไม่เรียนหนังสือ ไอคิวและสติปัญญาแย่ลง พ่อแม่ลงโทษทั้งดีและทั้งต่อว่า พอดีข้าพเจ้าทราบเรื่องการเบียนดวงแบบนี้มาก่อน จึงให้เด็กทำงานไม่ต้องให้เรียน ให้ช่วยพ่อแม่ทำกิจการ ให้กำลังใจเขา เมื่อมีอายุอันสมควรก็ให้เขามีแฟนและสนับสนุนเขา และเมื่อเขามีลูกถ้าลูกเสริมเขาก็จะวาสนาดีเอง แต่ถ้าไม่แต่งงานมีลูก รอให้คนที่ ๒ แต่งงานมีลูก วาสนาของคนที่ ๑ ก็กลับมาดีเหมือนเดิม

            ในกรณีถ้าคนที่ ๑ มีลูกแล้ว น้องคนที่ ๒ ก็จะวาสนาไม่ดีตามดวงของเขา คือราศีกรกฏ ดาววาสนาคือดาวจันทร์ (๒) ได้ตำแหน่งนิจ ลอยไปในภพปุตตะ

            ขณะนี้ลูกคนที่ ๒ เรียนได้ดี ต้องระวังในวันข้างหน้าอีกเหมือนกัน ทุกอย่างจะต้องค่อย ๆ แก้ ค่อย ๆ ทำ ตอนนี้ทำความดีกันก่อน เพื่อจะได้เปลี่ยนไปในทางที่ดี ดวงคนเราจะเปลี่ยนกันอีกครั้งตอนมีลูก

                        โชคดีมีความสุข