คราสปี พ.ศ.๒๕๕๒
พล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
ในปี พ.ศ.๒๕๕๒ จะมีคราส หรือ อุปราคาเกิดขึ้นรวม ๕ ครั้ง จำแนกเป็น
๑. สุริยุปราคา (สุริยคราส) วงแหวน ในวันที่ ๒๖ มกราคม
๒. จันทรุปราคา (จันทรคราส) เงามัว ในวันที่ ๙ กุมภาพันธ์
๓. จันทรุปราคาเงามัว ในวันที่ ๗ กรกฎาคม
๔. สุริยุปราคาเต็มดวง ในวันที่ ๒๒ กรกฎาคม
๕. จันทรุปราคาเงามัว ในวันที่ ๖ สิงหาคม
เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๕๒ ซึ่งตรงกับวันตรุษจีน ดวงจันทร์ได้เคลื่อนมาอยู่ตรงกลางระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า สุริยุปราคาวงแหวน ประเทศไทยสามารถสังเกตสุริยุปราคาครั้งนี้ได้ในช่วงเวลาบ่ายถึงเย็น โดยดวงจันทร์บดบังเพียงบางส่วนของดวงอาทิตย์ โดยเฉลี่ยเริ่มเวลาประมาณ ๑๖.๐๐น. และสิ้นสุดในเวลาประมาณ ๑๘.๐๐ น. ขณะบังเต็มที่ในเวลาประมาณ ๑๗.๐๐ น. โดยจะเห็นดวงอาทิตย์แหว่งทางซ้ายมือค่อนไปทางด้านบน หลายจังหวัดทางด้านตะวันออกของภาคอีสาน จะยังคงเห็นดวงอาทิตย์แหว่งอยู่เล็กน้อยในจังหวะที่ดวงอาทิตย์ตกดิน
ในวันที่เกิดสุริยคราสครั้งนี้ เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับดวงเมือง ได้พบว่า จุดที่เกิดคราสเกิดขึ้นในราศีมังกร มีดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ สถิตอยู่ที่ ๑๒ องศา ๓๕ ลิปดา และ ๑๓ องศา ๓๓ ลิปดา ตามลำดับ กับราหูเจ้าการที่ทำให้เกิดคราส สถิตอยู่ที่ ๑๕ องศา ๑๗ ลิปดา มีเชิงมุมกับเรือนที่ ๑๐ ภพเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลระหว่าง ๒-๓ องศา และทำมุมเกือบทับดาวพลูโตในดวงเดิม มีเชิงมุมประมาณ ๕ องศา ทั้งยังทำมุมเล็งประมาณ ๑๘๐ องศากับดวงจันทร์ และเรือนที่ ๔ ภพเกี่ยวกับเหตุการณ์ภายในประเทศในดวงเดิม มีเชิงมุมประมาณ ๑-๓ องศา แตกต่างกับวันที่เกิดสุริยคราสเมื่อวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๕๑ ไม่มากนัก
ดังนั้น การพยากรณ์เกี่ยวกับอิทธิพลของสุริยคราสเมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๕๒ จึงสามารถนำมาคำพยากรณ์ที่ผมได้เขียนไว้ในบทความเรื่อง อิทธิพลของสุริยคราสเดือนสิงหาคม ๒๕๕๑ มาใช้ได้
๑.โดยการตรวจสอบดวงเมืองในวันที่เกิดคราส ในวันที่เกิดสุริยคราสเมื่อวันที่ ๑ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๑ เมื่อนำเอาดวงเมืองมาเปรียบเทียบกับดวงประจำวันที่เกิดสุริยคราส ปรากฏว่า จุดที่เกิดคราสสถิตอยู่ในเรือน หรือภพที่ ๔ และทับดาวจันทร์ของดวงเมือง นอกจากนี้ ยังทำมุมเล็งเรือน หรือ ภพที่ ๑๐ และเล็งดาวพลูโตของดวงเมือง เรือนที่ ๔ นี้มีความหมายเกี่ยวกับเหตุการณ์ภายในประเทศ ดาวจันทร์หมายถึงประชาชน การแสดงความเห็นสาธารณะ การแสดงประชามติ ความเครียด กิจการประมง การขนส่งทางน้ำ เรือนที่ ๑๐ มีความหมายถึงการบริหารราชการบ้านเมือง ดาวพลูโตหมายถึงการลอบสังหาร แผ่นดินไหว น้ำท่วม การฝ่าฝืนกฏหมาย การก่อม็อบ เรื่องลามกทางเพศ ขบวนการก่อการร้าย ความตาย การปฏิรูป
..
เมื่ออ่านมาถึงตอนนี้ ท่านผู้อ่านอย่าเพิ่งเกิดความเครียดนะครับ ถึงแม้ว่า จะมีเหตุการณ์บางอย่างที่คล้ายคลึงกันจะเกิดขึ้นมาอีก ก็จะไม่รุนแรงเท่ากับครั้งที่แล้ว เนื่องจากกำลังของคราสนี้มีน้อยกว่าเมื่อเดือนสิงหาคม ๒๕๕๑ มาก และหากท่านได้อ่านทบทวนบทความเรื่อง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีคนที่ ๒๗ ซึ่งผมได้เคยพยากรณ์ไว้ว่า
โดยที่แผนปฏิบัติการต่างๆ ของกลุ่ม นปช.เกิดจากจิตที่เป็นอกุศลประกอบด้วยความโลภ ความอิจฉาริษยา ความโกรธ ความหลงโง่เขลาเบาปัญญาไม่สามารถแยกแยะได้ว่าสิ่งใดถูกสิ่งใดผิด มีเจตนาที่จะก่อกรรมทำเข็ญขัดขวางหน่วงเหนี่ยวการปฏิบัติการของรัฐบาลเพื่อแก้ไขวิกฤติปัญหาเศรษฐกิจสังคม และปัญหาสำคัญต่างๆ ของประเทศซึ่งเป็นผลประโยชน์ส่วนรวมของประชาชนคนไทยไม่มีเหตุผลอันสมควร อกุศลวิบากย่อมจะส่งผลให้ความเลื่อมใสศรัทธาของคนไทยต่อกลุ่ม นปช.เสื่อมสลายลงไปโดยลำดับอย่างแน่นอน ผมได้คำนวณแล้ว ราหูจรจะหมดอำนาจลงในวันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๕๒ นอกจากนี้ ดาวพฤหัสบดี ดาวศุภเคราะห์ใหญ่จะโคจรเข้าเรือนที่ ๑๐ ของดวงเมืองในวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๑ ถึงแม้ว่าจะมีกำลังไม่มากนักเนื่องจากสถิตอยู่ในราศีมังกรซึ่งเป็นราศีนิจ แต่จะช่วยคลี่คลายวิกฤติปัญหาของบ้านเมืองได้ระดับหนึ่ง ราหูเปรียบเสมือนความมืดทำให้เกิดอกุศลจิต เป็นอธรรม ดาวพฤหัสบดีเปรียบเสมือนกับความสว่างคือปัญญา ดาวดวงนี้จะมีกำลังเพิ่มขึ้นเป็นปกติตั้งแต่วันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๒ ก่อนวันที่ราหูจะหมดอำนาจเพียง ๓ วัน จึงเป็นที่แน่นอนว่า กลุ่มอันธพาลที่ได้มีการปฏิบัติมิชอบต่อบ้านเมืองมาโดยตลอด จะต้องได้รับอกุศลวิบากที่แต่ละคนได้ก่อไว้โดยทั่วถ้วนหน้า ดาวพฤหัสบดีจะยังโคจร และส่งผลเป็นคุณแก่ดวงเมืองต่อไปเรื่อยๆ จนถึงวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๕๓ จึงย้ายเข้าไปในราศีมีนซึ่งเป็นราศีเกษตร ดาวดวงนี้จะมีกำลังส่งผลเป็นคุณให้แก่ดวงเมืองเป็นอย่างมาก
.. อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะได้มีการพิสูจน์ทราบตามหลักวิชาโหราศาสตร์ วิชาดาราศาสตร์ว่า ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวต่างๆ มีอิทธิพลต่อธรรมชาติ ดวงชะตาบ้านเมือง และดวงชะตามนุษย์ แต่ก็เป็นเพียงสัญญาณบอกเหตุล่วงหน้าเพื่อให้เจ้าของชะตาตั้งอยู่ในความประมาท และตราบใดที่เราหมั่นบำเพ็ญบุญบารมีอยู่เป็นประจำต่อเนื่อง กุศลวิบากที่ท่านได้สะสมไว้ย่อมปกป้องคุ้มครองรักษาอย่างแน่นอน จึงขอให้ท่านเบาใจได้
ในวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๒ จะเกิดสุริยคราสขึ้นอีกครั้งหนึ่ง คราสครั้งนี้จะมีอิทธิพลต่อดวงเมือง และดวงชะตาบุคคลอย่างไรนั้น ขอให้คอยติดตามต่อไปครับ
----------------------------------------------------
เอกสารอ้างอิง หนังสือโหราศาสตร์ปริทรรศน์ภาค ๒ ครหวินิจฉัย โดย อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร
The Rulership Book,Rex E.Bills
Vedic System of Astrology (Goravani Jyotish 2.5 Program)