การอ่านเรือนในระบบธาตุ

                                                                                                                                                                                                    พายัพ  พยากรณ์

 

            จากที่ผ่านมาเกือบ 20 ปีของผม ตั้งแต่เริ่มศึกษา ในเลขเจ็ดตัวตั้งแต่ พศ . 2532   จนมาเข้าสู่ระบบโหราศาสตร์ในแบบทักษา ในปี 2536-2539 และเข้ามาสู่ระบบเรือนชะตาเมื่อ พศ. 2540-2543 จน พศ. 2544-2545 ผมเริ่มมาศึกษาโหราศาสตร์ไทยในระบบธาตุ ทำให้ผมเข้าใจในระบบการอ่านดวงชะตาในแบบของไทยเรามากขึ้น ซึ่งการอ่านดวงโดยอิงระบบธาตุนี้เองทำให้วิชาโหราศาสตร์ไทยได้แตกฉานออกไปอย่างมากมาย มีมุมมองพัฒนาขึ้นจากเดิม และได้สอนให้ผู้ศึกษาไปหลายรุ่น

            ลูกศิษย์หลายท่านรบเร้าให้ผมเขียนลงในโหราเวสม์บ้างหลังจากหายหน้าหายตาไปจากโหราเวสม์เสียหลายปี      แต่ไม่ได้หายไปจากวงการนะครับเพียงเพราะผมเก็บตัวค้นคว้าวิชา เพื่อเพิ่มความรู้ให้กับตนเอง แต่ก็คุ้มมากกับเวลาที่เสียไป

            ในเรื่องธาตุนี้ได้หายไปนานพอควรกับสังคมโหรฯในบ้านเรา ผู้รู้ก็ซ่อนเก็บไว้ บ้างก็เก็บไว้ให้ตายไปกับตัวแม้แต่ลูกศิษย์ที่ตามมาหลายปีก็ยังไม่ได้ก็มี  และมีหลายท่านพยายามที่จะใช้ระบบธาตุเข้าไปในการพยากรณ์ แต่ก็เป็นเพียงนามธรรม  เพราะไม่สามารถจะลบล้าง ระบบเดิมจากสมองได้ ทำให้ไม่กล้าที่จะตัดสินใจใช้ อย่างเด็ดขาด ทำให้ไม่สามรารถใช้ระบบธาตุได้อย่างสมบูรณ์

            ในระบบธาตุในวิชาโหราศาสตร์ไทยนั้น จะมีการแบ่งแยกด้วยการอ่านได้สองระบบ ระบบแรกคือระบบมุมดาว  ระบบที่สองคือระบบเรือน ทั้งสองระบบนี้มีเชิงการอ่านแตกต่างกัน ในวันนี้จะกล่าวถึง การอ่านเรือนในระบบธาตุ และระบบมุมดาวให้เป็นสาระง่ายๆ ซึ่งเป็นเบื้องพื้นฐานของการอ่านดวงชะตาโดยทั่วไปของโหราศาสตร์ไทย

 

ดวงหญิงเกิด 26 พฤศจิกายน 2519

           

            ดวงชะตานี้ที่น่าสนใจนั้นก็คือดวงดาวสองดวงคือดาวเสาร์ ๗ และดาวจันทร์ ๒  ในความเข้าใจโดยทั่วไปนั้น เราจะมองว่า ดวงชะตาดวงนี้จะไม่ค่อยสมหวังในรักเท่าไหร่นัก เนื่องจากดาวเสาร์ ๗ นั้นไปอยู่ที่เรือนปัตนิ เข้าเกณฑ์ที่เราเรียกกันว่าภิณทุบาทว์  แต่ในชีวิตจริงชะตานี้กลับได้แต่งงานกับลูกชายเจ้าของกิจการทำเครื่องวัดอิเลคโทนิค ปัญหาในเรื่องคนรักนั้นไม่ปรากฏผล  แต่กลับอยุ่ด้วยกันดูแลอิงอาศัยกันดี โดยข้อเท็จจริงตามวิชาการแล้ว แม้แต่ความหวานชื่น ก็ไม่ควรมี เพราะฤทธิ์ของดาวเสาร์ ๗ นั้น จะเน้นในเรื่องความทุกข์ที่ระทม

            สิ่งเหล่านี้เอง ที่ทำให้เราต้องเข้าไปใช้ดวงนวางค์ซึ่งเป็นศาสตร์ต่างบ้านต่างเมืองบ้างหรือวิถีการคำนวณแบบละเอียดบ้าง เพื่อหาจุดพยากรณ์ว่าทำไมต้องเป็นเช่นนั้น  แต่ในระบบเรือนธาตุนั้นซึ่งเป็นของไทยแท้ๆ นั้นมีผลละเอียดอ่อนกว่าค่าคำนวณ ซึ่งผลละเอียดอ่อนนี้จะทำให้เกิดความเข้าใจในการพยากรณ์ได้อย่างถ่องแท้

            ในการอ่านระบบธาตุเข้ามาร่วมนั้น ดาวเสาร์ ๗ ดวงนี้ ทำหน้าที่เป็นดาวตนุลัคณ์ ซึ่งดาวเสาร์นี้ ในเวลาที่เราพยากรณ์โดยส่วนใหญ่เราจะเน้นถึง ความทุกข์ความไม่สำเร็จความผิดหวัง เมื่อดาวเสาร์ ๗ อยู่ในราศีกรกฎเป็นประนั้น อันความทุกข์ที่แสนสาหัสตามความหมายของดาวเสาร์ ๗ ก็ลดทอนลง คงเหลือแต่ ความฟุ้งซ่าน ความกังวล ดาวเสาร์ ๗ ที่มาอยู่ในราศีธาตุน้ำเรือนจันทร์ ๒ จะกลายเป็นความอ่อนแอในใจ จิตใจอันแกร่งของดาวเสาร์ ๗ ก็กลายเป็นคิดมากอ่อนไหวง่ายในเรื่องทุกข์ที่เข้ามาแม้เล็กน้อยก็ตาม

            ดาวเสาร์ดวงนี้ที่เป็นประนั้น ไม่ได้หมายว่าเสาร์ ๗ จะเสียหาย หรือเสาร์ ๗  จะไปแย่งของคนอื่นมา หรือเสาร์๗  จะไปได้พ่อหม้ายมา แต่เสาร์ ๗ ที่เป็นประนี้ จะหมายถึง ดาวเสาร์ ที่พลังงานของตัวมันเอง ที่แสดงผลตามปรกตินั้นลดลง ถ้าเสาร์แปลว่าทุกข์ก็ทุกข์ลดลง ถ้าเสาร์ แปลว่า ความอดทนก็อดทนลดลง ซึ่งหมายถึง ความหมายในด้านต่างๆของดาวเสาร์ลดความรุนแรงลงนั่นเอง ในเรื่องตำแหน่งดาวมาตรฐานสำหรับในสายวิชาโหราศาสตร์ไทยที่ผมใช้นั้น จะนำมาเสนอในโอกาสอันควร

            เสาร์ ๗ ตัวนี้เมื่อมาอยู่ในเรือนปัตนิ ก็กลายเป็นเสาร์ ๗ หวงคู่ จะจู้จี้กลับคู่ชีวิตมากเป็นพิเศษ ถ้าคู่ครองเอาใจใส่ก็จะ กลายเป็นเสาร์ ๗ ขี้อ้อนที่ต้องการที่พักพิง  เสาร์ ๗ ดวงนี้ไม่ต้องการการผิดหวังการโดดเดี่ยว จึงกลายเป็นเสาร์ที่ทั้งหวงทั้งห่วงคู่นั้นแหล่ะ

            ถ้าจะเอ่ยในเชิงมุมดาวเสาร์ ๗ ดวงนี้ได้ดาวช่วยเหลือมาก ทำให้ชีวิตคู่นั้น ถ้าโดยตัวเจ้าชะตาเอง ที่เป็นความหมายของเสาร์ตนุ ที่มาอยู่ปัตนินั้น จะไม่ทำให้ชีวิตคู่เสียหายแน่นอน แต่ในเชิงมุมดาวนั้น ไว้ค่อยจะนำมาอธิบายให้ทุกท่านค่อยๆฟังไปทีละชั้นขั้นตอน

            จุดที่เป็นจุดยืนยันอีกในเรื่องชีวิตคู่ที่มั่นคงนั้นก็ได้แก่ จุดาวเจ้าเรือนปัตนิ ๒ ดาวจันทร์ ดาวปัตนิที่เป็นดาวจันทร์ ๒ นั้นมีความหมายถึงความอ่อนโยน การเอาใจใส่  การหวั่นไหวง่าย เมื่อเป็นประ พลังงานของจันทร์ ๒ บางส่วนลดทอนลง เมื่อดาวจันทร์ ๒ ไปอยู่ราศีธาตุดิน จันทร์นี้จึงมีความอดทนสูง ไม่หวั่นไหวง่าย จากการที่ ต้องทำตามใจผู้อื่นรอบข้าง เมื่อมาใช้ชีวิตอยู่กับเจ้าชะตา ก็จะมีตามใจเจ้าชะตาเลิกละการตามใจคนรอบข้าง  คู่ครองของเจ้าชะตา เมื่อมาอยู่กับเจ้าชะตา ก็มาเอาใจเจ้าชะตามาก ทำให้พี่น้องและคนรอบข้างนั้นไม่ค่อยพอใจ และพอมาอยู่ในเรือนดาวเสาร์ ๗ จันทร์ตัวนี้จึงกลายเป็นจันทร์ ขี้หึงหวงไปโดยปริยาย เพราะกลายเป็นจันทร์ ที่มีความหวงของของตนมากเป็นพิเศษ

            คู่ครองที่อยู่ในนามปัตนิของเจ้าชะตานี้ เป็นลูกครึ่งไทยจีน เป็นลูกคนเล็ก จบการศึกษา ป.โท ที่ต่างประเทศ  อยู่ในระบบกงสี เมื่อมาอยู่กับเจ้าชะตา ก็ยังอยู่ที่บ้านตนเอง ในความรักภรรยามากทำให้คนที่บ้านรู้สึกไม่พอใจ

            ดาวจันทร์ ดวงนี้ เมื่อเป็นดาวธาตุดินมาอยู่ในราศีธาตุดิน จึงมีความมั่นคงสูงชีวิตคู่จึงเลิกร้างได้ยาก ซึ่งแม้จะมีความกระทบกระเทือน ในช่วงที่ดาวเสาร์ ๗ จร จะเข้าสู่ราศีกันย์ และราศีพิจิก ซึ่งทำมุมถึงจันทร์ดวงนี้อยู่ ก็ยังไม่สมารถที่จะทำให้ ชีวิตคู่ ของหญิงคนนี้เลิกร้างได้ง่ายๆ ความมั่นคงของคนรัก ที่เป็นดาวจันทร์ ที่มาอยู่ราศีต้นธาตุดิน ถือว่าเป็นจุดยืนยันความมั่นคงของชีวิตคู่ของคนคู่นี้

            ในจุดที่สำคัญ นอกเหนือจากระบบเรือนที่อ่านนั้น  จะมาอยู่ที่ระบบมุมดาวที่จะเข้ามาเสริมขยายข้อมูล จุดที่สำคัญ คือดาวพฤหัส ๕ ที่ตรีโกณ ดาว ๒ อยู่ โดยเราจะยึดถือว่าดาว จันทร์  ๒ เป็นจุดรับกะแสดาวพฤหัส ๕

            ดาวพฤหัสนี้ ๕  ตรีโกณ ถึงดาวจันทร์ ๒ ซึ่งเป็นดาวคู่ในดวงชะตา ซึ่งดาวพฤหัส ๕ เมื่อใช้มุมดาว จะเป็นดาวตัวแทน ความหมายใน 2 ความหมาย  โดยแสดงในมุมดาวสองความหมาย คือความหมาย ของดาว ๕ ในคำว่าผู้ใหญ่ ความหมายของ เรือนที่ดาวพฤหัสไปลอยอยู่ คือแสดงผลเป็นลูก

            ชะตานี้ ดาวพฤหัส ๕ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่แสดงผลในเรื่องคู่ ก็จะได้แก่ ความรักของเจ้าชะตานั้น มักจะมีผู้ใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยเป็นผู้ใหญ่ในฝ่ายคนรัก ของเจ้าชะตา (เนื่องจาก ดาวพฤหัส๕ตรีโกณ ดาวปัตนิ๒ ไม่ได้ตรีโกณถึงดาวตนุ๗) แต่การที่มีผู้ใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตคู่นั้นมักจะทำให้เจ้าชะตาอึดอัด (ด้วยเหตุเพราะ ดาวปัตนินั้นที่เป็นดาวจันทร์ ๒ เป็นดาวลอยอยู่ในเรือน เสาร์ ๗ ที่เป็นตนุ ดาวจันทร์ จึงจูงความหมายของพฤหัส ๕ ที่ตรีโกณตนเอง ส่งกระแสถึงดาวเสาร์ ๗ เจ้าเรือนตนุ)  

            ดาวพฤหัส อยู่ในเรือนปุตตะ ซึ่งหมายถึงลูกบริวาร ตรีโกณดาว จันทร์ปัตนิ ได้คู่ธาตุดิน จึงหมายถึงเมื่อสมรสแล้วจะมีบุตร ซึ่งถ้าเราดูแค่ในระบบการอ่านเรือนไปอ่านเรือนปุตะที่มีดาวศุกร์เป็นดาวเจ้าเรือนไปอยู่วินาศ์นั้น ก็จะหมายความถึงมีบุตรยาก แต่ดวงนี้มีบุตร ถึงสามคนแล้ว การที่มีบุตรถึงสามคนนี้ก็เป็นเพราะอิทธิพลของดาว พฤหัสที่ตรีโกณจันทร์ จากเรือนปุตตะ และเมื่อมีบุตรแล้ว ก็จะกระตุ้นความหมายของ ดาวพฤหัส ๕ ธาตุดินแข็งในราศีพฤษกธาตุดินกลาง กับดาวจันทร์ ๒  ธาตุดินอ่อนในราศีมังกรต้นธาตุดิน เป็นมุมดาวที่ส่งเสริมความมั่นคงให้กับชีวิตคู่ทำให้มั่นคงและมีการครองเรือนอยู่ด้วยกันตลอด แม้ว่า ในชะตาจะมีดาวรุนแรงเพียงใดก็ตาม ก็ไม่สามารถที่จะทำร้ายการครองเรือนของชะตาให้ถึงขั้นวิบัติได้

รับพยากรณ์ดวงชะตา,วางฤกษ์ ,เปลี่ยนชื่อ และเปิดรับอบรมส่วนตัว หรือที่สถาบันโหรฯวัดธาตุทอง  ติดต่อ 086-710-8586

********************************************************************