วันแต่งงานกลับเป็นวันตายของพ่อ ?

โดย อ.ไพบูลย์   ฤกษ์อุดม

085 – 3818452

          สวัสดีครับท่านผู้อ่านและนักศึกษาโหราศาสตร์ทุกท่าน หลังจากที่ผมได้สาธิตการวิจารณ์ดวงชะตากำเนิดและจรในนิตยสารโหราเวสฆ์ผ่านมาสามฉบับแล้ว ก็หวังว่าความรู้ในการพยากรณ์ของผมคงจะเข้าสายตากรรมการบ้างนะครับ เพราะที่จริงแล้วสิ่งที่ผมเขียนมาทั้งหมดนั้นผมก็ได้นำมาใช้ในการพยากรณ์ดวงชะตาให้กับบรรดาลูกศิษย์ของผมที่บ้านมาโดยตลอดและส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยจะผิดพลาดจากหลักเกณฑ์ไปซักเท่าไรนัก ส่วนสาเหตุที่ว่าทำไมผมต้องมาเขียนบทความเผยแพร่ให้กับผู้อื่นให้เขารู้ด้วยนั้น ผมบอกตรงๆ ครับ มันเกิดจากความกดดันของผมเมื่อสมัยประมาณ ๒๐ ปีก่อน ผมเคยไปหาอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในวิชาโหราศาสตร์ท่านหนึ่ง ออกปากขอฝากตัวขอเรียนกับท่าน แต่ท่านก็ไล่ผมกลับถึงขนาดตอนนั้นผมขอเสนอยกโฉนดที่ดินราคาประมาณ ๔-๕ แสนบาทให้กับท่าน ท่านก็ไม่เอา ท่านบอกว่ามันยากกลับไปเถอะ นี่เป็นสาเหตุทำให้ผมตั้งใจไว้ว่า ชาตินี้วันไหนถ้าพอจะมีความรู้พยากรณ์กับเขาได้พอสมควรแล้วล่ะก็ ผมจะต้องขอขยายวิชานี้ให้กับผู้ที่สนใจในวิชาโหราศาสตร์ให้ได้อย่างน้อยถึงเราจะไม่เก่งขนาดเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เรียกว่าโหร แต่ก็ขอเอาความรู้ความสามารถที่มี (ถึงแม้จะทายไม่ได้ขนาดที่ว่า ที่บ้านคุณมีสุนัข ๓ ตัวนะ มีช้อนส้อมกี่คันหรือทายขนาดว่าวันนี้คุณจะได้กินขนมจีนกับน้ำยาป่า ฯลฯ อะไรประมาณนั้น) แต่ความรู้ที่ผมมีอยู่ก็พอจะคาดคะเนค่าของความเป็นไปได้ในดวงชะตา ว่าเหตุการณ์มันจะออกมาในรูปแบบไหนและรู้สาเหตุของเหตุการณ์ว่ามันเกิดจากอะไร ถึงได้เกิดเหตุอย่างนั้นอย่างนี้

          ส่วนสาเหตุที่ว่าผมทำไมต้องบอกท่านผู้อ่านอยู่เสมอว่า อ่านช้าๆ นะ ก็เพราะว่าผมพยายามอยากจะให้ท่านเข้าใจไปกับผมด้วย เลยอาจจะดูว่าเขียนอะไรกันนักกันหนาละเอียดเหลือเกิน ก็ต้องขอโทษด้วยครับ สมองผมมันอาจจะเป็นโรคอะไรนะ ที่เขาเรียกว่าไฮเปอร์ คิดเร็วอะไรทำนองนั้น ก็อย่าเพิ่งเบื่อหน่ายผมก่อนนะครับ

          สำหรับต่อไปนี้ในการนำดวงชะตามาวิจารณ์ทั้งหลาย ผมตั้งใจว่า จะนำเอาดวงชะตาที่ดูแปลกๆ มาเขียนบ้างเช่นตอนเช้ารถคว่ำ ตกกลางคืนภรรยาตาย หรือว่าถูกหวยรางวัลใหญ่แต่ดันดีใจกินเหล้าเมาแล้วมีเรื่องไปยิงคนตายในวันนั้น เป็นต้น ผมคิดว่ามันคงจะสะใจของผมจริงๆ หรือว่าดวงมีสามีมาหลายคนแล้วก็ถูกทอดทิ้งชีวิตลำเค็ญ แต่พอบั้นปลายไปได้กับนายทหารประเทศนอก รวยไปเลย อะไรประมาณนั้น ครั้นว่าจะเขียนดวงชะตาแบบหวยออกแล้วธรรมดาๆ เช่น ดวงมีโชคถูกรางวัลที่๑ หรือว่าดวงอุบัติเหตุ เจ็บไข้ได้ป่วย เสียชีวิต ถูกปล้นฆ่าชิงทรัพย์ ดวงฆาตกร ไปเล่นการพนันมีโชคมา ฯลฯ อย่างงี้ผมก็เกรงว่าท่านผู้อ่านจะเบื่อ ต่อไปผมคงจะต้องทำการบ้านหนักขึ้นแหละครับ ขออย่างเดียวท่านผู้อ่านอย่าเบื่อหน่ายผมก่อนแล้วกัน ส่วนท่านที่สนใจใคร่จะถามปัญหาที่เกี่ยวกับบทความของผม ก็ขอให้มาพบผมเป็นการส่วนตัวนะครับ ไม่รับตอบทางจดหมายและโทรศัพท์เพราะไม่มีเวลาจริงๆ อายุผมก็เข้า ๕๐ ปีแล้ว ต้องวิ่งออกกำลังกายเกือบทุกวันเพื่อสลายไขมันในเลือดสูงกลัวความดันมันจะมาเยี่ยมผมเสียก่อน ท่านรู้ไหมครับว่า พวกหมอดูนี่ถ้าไม่ออกกำลังกายบั้นปลายมักจะเป็นอัมพฤกษ์ – อัมพาต อันนี้ล่ะก็ผมกลัวจริงๆ (เฉพาะในดวงผมนะครับ)

          ต่อไปนี้ผมก็จะขอวิจารณ์ดวงชะตาของผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งผมจั่วหัวเรื่องไว้ว่าวันงานแต่งงานกลับเป็นวันตายของพ่อ ดวงชะตานี้ผมได้มาจากหนังสือวิจารณ์ดวงชะตา ๑๐๐ ดวงของท่าน อ.บุญช่วย ชุ่มเชิงรักษ์ และ อ.ประยงค์ ดิสปัญญา ได้เขียนมาวิจารณ์ไว้ถึงอย่างไรผมก็ต้องขออนุญาตต่อท่านอาจารย์ทั้งสอง ที่ได้นำสถิติดวงชะตานี้มาบันทึกไว้เพื่อเป็นกรณีศึกษา

          ตามข้อมูลของดวงชะตานี้นะครับ ท่าน อ.ประยงค์ ดิสปัญญา ได้เล่ามาพอจะสรุปได้ว่าเจ้าของดวงเป็นผู้หญิงที่เกิดมาเป็นลูกคนเดียวของบิดามารดา ซึ่งมีฐานะดีปานกลางก็พอจะมีมรดกเป็นหลักทรัพย์เงินทองที่ทาง ในวันเกิดเหตุเจ้าชะตาจะทำการสมรสกับเจ้าบ่าว จึงมีการพิมพ์บัตรเชิญแขกมาร่วมงาน ล้มหมูวัวควายกันอย่างเอิกเกริกตลอดจนกระทั่งมหรสพ ก็มีแสดงแต่บิดาของเจ้าชะตาถูกคนร้ายลอบยิงตายในวันสมรสนั้นเอง ตกลงก็ไม่ได้แต่งกัน อยู่กินกันไปเฉยๆ ข้าวของเหลือก็ขนเอาไปวัดไปทำศพพ่อแทนวันมงคลสมรส ส่วนตัวบิดานั้นในอดีตเคยถูกลอบยิงมาแล้วครั้งหนึ่งแต่ไม่เป็นไร ซึ่งผู้ตายก็เคยรู้ตัวมาก่อนนานแล้วว่าจะถูกลอบสังหาร เราลองมาดูดวงชะตากำเนิดและจรกันนะครับ

        การพิจารณาดวงชะตากำเนิดของหญิงผู้นี้มีลัคนาสถิตอยู่ราศีกันย์ ดาว๔ ตนุลัคน์ไปสถิตอยู่ราศีภุมภ์ภพอริ เรือนของดาว๘ ดาว๘ ไปสถิตราศีเมถุนภพกัมมะสลับเรือนกันเป็นอนุเกษตร (มีในตำราของท่าน อ.สิงโต สุริยาอารักษ์) ทำให้คล้ายๆ กับเป็นเกษตรน้อย ก็คือมั่นคงภายหลังซึ่งดาว๘ กับดาว๔ นี้ ผมก็เคยเรียนกับท่านผู้อ่านไว้แล้วในฉบับที่แล้วว่า เป็นดาวคู่ศัตรู ถ้าไปอยู่ในภพที่ไม่ดีทำมุมสัมพันธ์กันแล้วล่ะก็ให้ระวังให้ดี เพราะให้โทษร้ายแรงได้ ดาว๔ ตนุลัคน์อยู่ภพอริ ดาว๘ เจ้าเรือนภพอริมาอยู่ภพกัมมะสลับเรือนกัน ก็แปลว่าเจ้าชะตามีเกณฑ์ที่จะเดือดร้อนเพราะศัตรู อาจมีความตายมาเกี่ยวข้องได้ (ภพกัมมะ) ในดวงนี้บิดาอาจจะมีเรื่องเกิดขึ้นจากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ (อนุเกษตร) จนเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาได้ ดาว๔ กุมกับดาว๖ ภพศุพพะซึ่งหมายถึงบิดา ส่วนภพกัมมะนี้ก่อนที่เราจะไปพิจารณาถึงความตาย เราก็ต้องดูดาวอื่นประกอบด้วยนะครับ เพราะความหมายของมรณะนี้มีหลายอย่าง ต่อไปดาว๔ ตนุลัคน์เกาะกุมกับดาว๑ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นประ ดาวเป็นนิจเป็นประสถิตภพ ๖,๘,๑๒ จึงฟื้นแรงขึ้น (ตำราของ อ.เชย บัวก้านทอง) จึงให้แสงดาว๔ และกุมกับดาว๖ บิดา แปลว่าเจ้าชะตา (ดาว๔ ตนุลัคน์) มีเกณฑ์ที่จะเกิดความเดือนร้อนจากเรื่องไม่คาดคิด (ดาว๑ เจ้าเรือนภพวินาสน์) เกี่ยวกับเรื่องของบิดาและการเงิน ครอบครัว (ดาว๖) เสร็จแล้วดาว ๑๔๖ ยังทำมุมตรีโกณ ร่วมธาตุกับดาว ๒,๓,๗,๘ ในภพกัมมะ ในภพนี้ดาว๘ มีกำลังแรงสุดเพราะเป็นธาตุลมสถิตราศีเมถุนธาตุลม ส่วนดาวฆาต๗ ก็เป็นดาวฆาตประจำราศี (นะระโสโร) ดาว๘ กับดาว๒ เจ้าเรือนภพลาภะคู่หนี้สิน ดาว๒ กุมกับดาว๗ เจ้าเรือนภพปุตตะ ดาว๒ กุมกับดาว๓ เจ้าเรือนภพมรณะ ซึ่งดาว ๒๓๗๘ ในภพกัมมะนี้แปลว่ามีศัตรูเก่าจากเรื่องนานมาแล้ว (ดาว๓ ภพมรณะแปลว่านานมาแล้วก็ได้) ในเรื่องเกี่ยวกับปัญหาหนี้สิน (ดาว๘๒) ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความสูญเสียได้ (ดาว๗๒ คู่พลัดพรากสูญเสีย) และก่อให้เกิดปัญหา อุบัติเหตุบาดเจ็บร้ายแรงได้ (ดาว๗๓ คู่ศัตรูร้ายแรง) และศัตรูนั้นในอดีตเคยเป็นเพื่อนฝูงมิตรสหายเคยรู้จักกัน (ดาว๗๘ เป็นดาวคู่มิตร) แต่เป็นเรื่องของการขัดแย้งเรื่องหนี้สินในวงการนักเลง (ดาว๓๘ คู่นักเลง) โดยเฉพาะดาว๒๓๗๘ นี้ทำมุมตรีโกณร่วมธาตุกับดาว๖ (บิดา) ภพอริจึงพอจะเห็นเค้าลางของเรื่องแล้วนะครับ มิหนำซ้ำดาว๐ ซึ่งสถิตอยู่ภพศุพพะราศีพฤษภยังสถิตยู่ในเรือนดาว๖ บิดาก็หมายถึงจะมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ไปในเรื่องร้ายแรง หลังจากที่ดาว๑๔๖ ได้ทำมุมตรีโกณร่วมธาตุกับดาว๒๓๗๘ แล้วยังทำมุมตรีโกณกับดาว๕ ซึ่งสถิตอยู่ราศีตุลย์ภพกดุมภะ ดาว๕ นี้เป็นเจ้าเรือนภพปัตนิ – พันธุ สถิตภพกดุมภะก็แปลว่า ดาว๑๔๖ – ๒๓๗๘ มีเกณฑ์ที่จะส่งเรื่องร้ายๆ มาถึงดาว๕ ได้ แปลว่าความเดือดร้อน (๑๔๖ โดยสรุป) ความสูญเสียนั้น (ดาว๒๓๗๘ โดยสรุป) มีส่วนพัวพันไปถึงในเรื่องของการมีคู่ครองและความมั่นคง (ปัตนิ – พันธุ) ได้ และตอนที่จะดูดาว๕ ให้ขาดในรอบตัดเชือกนี้ ก็หันไปมองดูดาวเกตุ๙ สถิตอยู่ราศีมีนภพปัตนิเล็งลัคนาซึ่งเป็นการเน้นถึงความหมายของดาว๕ ว่าจะต้องมีเหตุการณ์เกิดขึ้นในตอนแต่งงานหรือตอนที่เจ้าชะตาจะมีคู่เพราะดาว๙ ถึงดาว๕ และอีกประการหนึ่งดาว๕ นี้ยังทำมุมแฝงแสงกับดาว๐ ราศีพฤษภภพศุภภะ ซึ่งหมายถึงการมีคู่ครองนั้นภพศุภภะแปลว่ามีพิธีกรรมทางศาสนาด้วยแต่ท่านผู้อ่านทั้งหลายครับ ท่านอย่าลืมนะครับว่าในเมื่อดาวพื้นเดิมเขาพยายามจะบอกถึงเรื่องร้ายๆ อย่างดาว๑,๔,๖ – ๒,๓,๗,๘ – ๕ แล้วถ้าเรายังจำได้ถึงบทความที่ผมเคยเขียนไว้ว่าดาว๐๙ นี้ พบกันไม่ได้จริงๆ ก็ดาว๐๙ ในดวงนี้ทำมุมส่งโยคกันอยู่ ถ้าพื้นฐานจากเรื่องร้ายๆ ของพื้นดวงแล้ว ดาว๐๙ นี้พบกันก็บอกได้เลยนะครับ ว่าเรื่องร้ายแรงที่เกิดขึ้นน้นอาจจะเกิดขึ้นกะทันหัน และอาจส่งผลสูญเสียให้ถึงแก่ชีวิตได้และถ้าเราสังเกตดูให้ดี เราจะเห็นว่าดาว๙ นี้ ยังอยู่หน้าดาว๑ อีกต่างหาก ซึ่งดาว๑ ในพื้นดวงส่งพลังงานหรือแสงให้ดาว๙ อย่างเต็มที่และดาว๙ ยังทำมุมส่งโยคให้กับดาว๐ ราศีพฤษภ ดังนั้นดาว๐๙ ในดวงนี้ จึงแรงมาก

          ท่านผู้อ่านครับ หลังจากที่ท่านได้พิจารณาดาวในพื้นดวงชะตากำเนิดแล้วท่านคงพอจะจับใจความได้แล้วนะครับว่า ดาวในพื้นดวงเดิมส่งเรื่องร้ายๆ ทั้งนั้นส่วนใครจะเป็นตัวหนักเบาผมก็อธิบายให้ฟังหมดแล้ว ทีนี้เราหันมาดูดาวจรกันดีกว่า ซึ่งตามหลักของการพยากรณ์จรที่ผมใช้อยู่นั้น ก็เคยบอกแล้วว่าให้ดูดาวใหญ่ไปหาดาวเล็ก เช่นดูดาว๐,๗,๘,๕,๙,๓,๑,๔,๖,๒ ไปเป็นลำดับ ในดวงนี้ดาวจรวันเกิดเหตุ ก็คือดาว๐ โคจรเข้าราศีสิงห์ร่วมกับดาว๓ รวมเป็นดาว๐๓ โคจรเข้าภพวินาสน์ลัคนา แต่ราศีสิงห์เป็นเรือนของดาว๑ ดังนั้นดาว๐๓ จึงได้กำลังแรงจากการที่ได้เข้าไปอยู่ในเรือนเกษตรของดาว๑ อย่างเต็มที่ แล้วดาว๐๓ ยังจรเข้าเล็งดาว๑๔๖ (ภพอริ) ในพื้นดวงเดิมและยังเล็งกับดาวฆาต๗ ในราศีภุมภ์ทำให้ดาวฆาต๗ มีกำลังอย่างแรงกล้าโคจรเข้าทับดาว๑๔๖ ภพอริเรือนของดาว๘ หรือว่าดาวฆาต๗ จรเข้าเรือนดาว๘ ดาว๘จร ก็โคจรไปมีตำแหน่งเป็นนิจร่วมกับดาว๕จร ซึ่งโคจรร่วมกับดาว๑๔๖ ที่โดนดาวฆาต๗จร เข้าทับในดวงเดิมดังนั้น ดาว๑,๔,๖,๕,๘ จึงกลายเป็นดาวฆาตจรไปโดยอัตโนมัติ ซ้ำร้ายยังมีดาว๑จรร่วมอยู่ด้วย ดาว๑,๔,๖,๕,๘ จึงมีพลังแรงเต็มที่ จรเข้าทับดาว๐ เดิม ภพศุภภะราศีพฤษภและดาว๑,๔,๖,๕,๘ ยังจรแฝงแสงเข้าทับดาว๕ ในราศีตุลย์อีกมันจึงเกิดเรื่องวุ่นวายกับดาว๕ ในพื้นดวงเดิม (ต้นเหตุมาจากดาว๑,๔,๕,๖,๘) ท่านผู้อ่านลองนึกภาพดูสิครับว่ามันจะเกิดพิธีกรรมการแต่งงานโดยราบรื่นได้อย่างไร นี่แหละหนาที่ตำราต่างๆ เขาเขียนไว้ว่าเวลาโหรผู้ใดจะให้ฤกษ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฤกษ์อะไรก็ตามต้องมีความรู้ในการพยากรณ์ดวงกำเนิดให้เก่งเสียก่อนทุกวันนี้ เวลาผมเห็นโหรเขาให้ฤกษ์ต่างๆ ในบทความทั้งหลายหรือจากหนังสือทั้งหลาย ส่วนใหญ่แล้วโหรเขาจะพยายามไปเน้นวันธงไชยอธิบดีหรือไม่ก็ดิถีดีร้ายต่างๆ โดยไม่ได้ให้ความสำคัญกับการอ่านความหมายในดวงชะตาเลย ในทัศนะของผมแล้วละก็การวางฤกษ์เป็นเรื่องยากมาก ตรงนี้นี่เองก็คือคนมีความรู้ทางอ่านดวงชะตาเขาอ่านดาวสิบดวงพร้อมกับลัคนาหนึ่งตัวแล้วเขาก็พอจะรู้ด้วยว่าฤกษ์นี้ดีหรือร้ายถูกต้องหรือไม่ มาต่อกันเรื่องของเราดีกว่าครับเมื่อดาว๐ ในราศีพฤษภโดนดาว๑,๔,๖,๕,๘ จรเข้าทับดาว๐จร ก็เลยจรร่วมกับดาว๓ เข้าไปในราศีสิงห์ภพวินาสน์ลัคนาและยังทำมุมเล็งกับดาวฆาต๗ ในราศีภุมภ์อีก พูดแล้วขนหัวลุกน่ากลัว ก็รู้กันอยู่แล้วว่ารากฐานของพื้นดวงชะตา ดาวทุกดวงผมก็อธิบายรายละเอียดของหน้าที่ดาวแต่ละดวงไปแล้ว พอเห็นดาว๐๓ จรเล็งดาวฆาต๗จรเท่านั้น มันจะไปเหลืออะไร ยังไม่หมดครับ ยังเหลืออีกคือดาว๙ เจ้าแห่งความตาย (ในพื้นดวงได้รับแสงจากดาว๑ แรงมาก) ก็ยังโคจรเข้าราศีพิจิกภพสหัชชะโยคหน้าลัคนา จรเข้าตรีโกณร่วมธาตุกับดาว๙ เดิมเล็งกับดาว๐ เดิมในราศีพฤษภและยังเล็งกับดาว๑,๔,๖,๕,๘จร ที่ราศีพฤษภอีก ซ้ำร้ายดาว๙ ยังโคจรเข้าไปในราศีพิจิกเรือนของดาว๓ ซึ่งดาว๓ ก็มีพลังอยู่แล้วเพราะอยู่ในเรือนเกษตรของดาว๑ รวมความแล้วดาว๙ ถึง๐๓ มีพลัง ดาว๐๓ เล็งดาวฆาต๗จร ดาว๙,๐,๓,๗ นี่แหละน่ากลัวมากครับ มันเป็นดาวอุบัติเหตุร้ายแรงกะทันหันไม่คาดคิด

          ในวันเกิดเหตุเราจะเห็นว่า ดาว๒ ซึ่งในตำราของท่าน อ.โหรแชล่ม เลี่ยมเพชรัตน์ ท่านถือว่าเป็นดาวจุดชนวน ดาว๒ โคจรเข้าราศีเมษภพมรณะ เข้าเล็งดาว๕ ในพื้นดวงเดิม ดาว๒ ยังโดนดาวฆาต๗จร ส่งโยคเข้าหาจากภพอริจึงกลายเป็นว่าดาว๒ โคจรเข้าภพมรณะ โดนดาวภพอริส่งโยคมา ดาว๒ จึงแรงขึ้น (ถ้าเราจะสังเกตให้ดี ดาว๒ โคจรเข้าเรือนดาว๓ ดาวฆาต๗ จรโคจรเข้าเรือนดาว๘ ดาว๓๘ คู่นี้เป็นคู่นักเลงพอดี) ดาว๒ โคจรเข้าภพมรณะเรือนดาว๓ และยังตรีโกณร่วมธาตุกับดาว๐๓ จร ที่ราศีสิงห์ ดาวตัดเชือกก็คือดาว๒ โคจรแฝงแสงกับดาว๙ จรในราศีพิจิก ดาว๙จร แรงมาก จรเล็งดาว๐เดิมราศีพฤษภ เล็งดาว๑,๔,๖,๕,๘ จร ในราศีพฤษภ

          แบบนี้แล้วจะมีอะไรเหลือล่ะครับมันก็เกิดเหตุการณ์ทั้งมงคลและอวมงคลพร้อมกันในวันเดียวกัน ด้วยประการฉะนี้

          วันนี้ผมอาจจะดูแปลกไปสักหน่อยน่ะครับ เพราะตอนพยากรณ์จรนั้นผมค่อนข้างที่จะอธิบายเรื่องดาวจรไม่ค่อยละเอียดเท่าใดเนื่องมาจากผมคิดว่า ท่านผู้อ่านทั้งหลายคงจะอ่านดวงชะตากำเนิดได้ชัดเจนแล้ว และการทำหน้าที่ต่างๆ ของดาวแต่ละดวง ผมก็อธิบายไว้ชัดเจนแล้ว พอมาถึงการพยากรณ์จรผมก็เลยออกจะรวดเร็วไปสักหน่อย แต่หวังว่าถ้าท่านอ่านดวงกำเนิดคล่องแล้ว ดาวจรก็จะทำหน้าที่ของเขาไปตามความหมายของเขาอย่างเที่ยงตรง ดังที่เคยมีคำพูดไว้ว่าดวงดาวไม่เคยโกหกเราเพียงแต่เราจะอ่านเขาได้ถึงแก่นแท้หรือไม่

          สุดท้ายนี้ผมก็สาธยายมาเหนื่อยพอสมควรก็ต้องขอกราบขอบพระคุณท่าน อ.บุญช่วย ชุ่มเชิงรักษ์และท่าน อ.ประยงค์ ดิสปัญญา ที่ท่านได้มีจิตเมตตาต่อนักโหราศาสตร์รุ่นหลังๆ โดยการบันทึกสถิติดวงชะตาไว้ให้เราศึกษาและผมก็ต้องขอขอบพระคุณท่าน บก. นิตยสารโหราเวสฆ์ที่ท่านได้เปิดโอกาสให้ผมเป็นเวทีให้ผมได้ระบายวิชาความรู้ที่มีอยู่ในโลกของโหราศาสตร์ไทย หากแม้นว่าผมเอามะพร้าวห้าวมาขายสวน ท่านผู้อ่านและท่านผู้ที่เชี่ยวชาญในวิชาโหราศาสตร์ทั้งหลาย ก็ขอได้โปรดให้อภัยกับผมด้วย เพราะในชีวิตจริงของผม ผมก็ใช้หลักการแบบนี้แหละครับ พยากรณ์ให้กับลูกศิษย์ลูกหา สำหรับผมแล้วลูกศิษย์ลูกหาเขาก็ปากต่อปากกันไปเองทำให้ผมพอจะมีรายได้ซื้ออาหารเลี้ยงชีวิตหรือปัจจัยทั้งหลายที่จำเป็น ก็บอกแล้วว่าผมมันเกิดมาเป็นคนจน ดาว๖ ในดวงของผมมีตำแหน่งเป็นประอย่าให้พูดเลยว่าฐานะยากจนจนกระทั่งภรรยาหนี เขาบอกว่าอยู่กันไปก็ไม่เห็นมีอะไรดีขึ้นมาผมก็เลยต้องอยู่คนเดียวแต่ก็ดีไปอย่าง จะได้มีโอกาสเขียนๆๆๆ เรื่องโหราศาสตร์ไปเรื่อยๆ จนกว่าท่าน บก. จะบอกว่าพอทีเถอะท่านอ. ไพบูลย์ มันไม่ได้เรื่องเมื่อไรผมก็จะได้พิจารณาตัวเอง อีกอย่างหนึ่งท่านอย่าได้ดูหมิ่นดวงอีแปะนะครับโหรรุ่นโบราณสมัยก่อน เขาทายกันได้มันส์สะบัดช่อไปเลยละกัน หวังว่าท่านคงไม่ต้องให้ผมหาสมผุสดาวพระเคราะห์และลัคนาทุกดวงนะครับ เพราะผมว่ามันจะเหนื่อยกว่านี้

          อาหารที่รับประทานไปแล้วไม่ย่อยหนึ่ง            มีตำราแล้วเก็บไว้ในตู้หนึ่ง

          เมื่อมีความรู้แล้วไม่นำไปถ่ายทอดให้แก่ผู้อื่น     เหล่านี้หาประโยชน์ไม่ได้

(จากหนังสือที่ผมประทับใจ คือการให้ฤกษ์และวิจารณ์ดวงสิบลัคนาของท่าน อ.อารมณ์ ชิ่นเชาว์วัย)

ด้วยคารวะ..........  ไพบูลย์ ฤกษ์อุดม

                                              20/31 หมู่บ้าน แฟคตอรี่เฮาส์

                                 ช.ร.บ. หมู่ ๖ ตำบลคอกกระบือ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร 74000