พรรคประชาธิปัตย์ยุบ หรือไม่ยุบ ?
พล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์
เมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๓ เป็นวันสุดท้ายที่อัยการสูงสุดต้องยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์คดีเงินบริจาค ๒๕๘ ล้านบาทที่ได้รับบริจาคจากบริษัท ทีพีไอ โพลินฯ ที่อาจขัดต่อ พ.ร.บ.พรรคการเมือง พ.ศ.๒๕๕๐ ต่อศาลรัฐธรรมนูญ นับเป็นคดีที่สองที่พรรคประชาธิปัตย์โดย กกต.ได้ยื่นฟ้องในข้อหาใช้จ่ายเงิน ๒๙ ล้านบาทผิดวัตถุประสงค์ในลักษณะนิติกรรมอำพราง คาดว่า เมื่อคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ทั้งสองกรณีจะเข้าสู่ขบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญพร้อมกัน ซึ่งจะต้องใช้เวลาตรวจสอบหลักฐาน ไต่สวนพยาน และแก้ต่างคดีอีกไม่ต่ำกว่า ๖ เดือน
นับเป็นมรสุมชีวิตหนักที่สุดในรอบ ๖๕ ปีที่พรรคประชาธิปัตย์ พรรคการเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของไทยต้องเผชิญ
ผมได้มีโอกาสเห็นดวงชะตากำเนิดพรรคประชาธิบัตย์จากหนังสือ กาลชะตา และโหราศาสตร์บ้านเมือง โดย พลูหลวง ซึ่งจัดพิมพ์จำหน่ายเมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๓ ท่านอาจารย์พลูหลวงได้กล่าวถึงดวงชะตากำเนิดพรรคประชาธิปัตย์ไว้ ๒ นัย คือ
๑. ถือเอาวันที่มีการประชุมก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ครั้งแรก เมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๔๘๘ เวลาตอนเย็น ณ อาคารใกล้น้ำ บริเวณท่าน้ำราชวงศ์ มีสมาชิกร่วมก่อตั้งครั้งแรก ๕๐ คน หรือ
๒. ถือเอาวันจดทะเบียนพรรคเป็นทางการ เมื่อวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๔๙๘ เวลา ๐๙.๐๐ น.
จึงเกิดปัญหาขัดแย้งว่า จะสมควรเลือกวันเดือนปี เวลาใดมาคิดคำนวณผูกเป็นดวงชะตากำเนิดพรรค ท่านอาจารย์พลูหลวงได้ให้ความเห็นพร้อมเหตุผลประกอบว่า น่าจะถือเอาวันที่ ๕ เมษายน ๒๔๘๘ เวลาตอนเย็น ซึ่งเป็นวันประชุมก่อตั้งพรรคครั้งแรก
ถ้าตั้งสมมุติฐานว่า ศาลรัฐธรรมนูญต้องใช้เวลาพิจารณาและตัดสินคดีนี้ ๖ เดือน วันตัดสินจึงอยู่ในช่วงเดือนมกราคม ๒๕๕๔ ซึ่งตามหลักวิชาโหราศาสตร์ก้าวหน้า (Progressed Astology) แล้ว ดาวประจำปีของพรรคประจำปี ๒๕๕๓ (เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ ๖ เมษายน ๒๕๕๓-๕ เมษายน ๒๕๕๔) ได้แก่ดาวพฤหัสบดี ซึ่งมีกำลังเพียง ๐.๘๗ ต่ำกว่าระดับมาตรฐาน (๑.๐๐)
ภาพประกอบของบทความนี้เป็นภาพดวงของพรรคประชาธิปัตย์ประจำปี ๒๕๕๓ จากภาพนี้จะเห็นความสัมพันธ์ระหว่างดวงดาวต่างๆ เฉพาะที่มีจุดที่ตั้งใกล้เคียงกับลัคนากับเรือนที่ ๑๐ และดาวพระเคราะห์อื่นดังต่อไปนี้
๑. ดาวอังคารสถิตอยู่ในราศีกรกฎ เรือนที่ ๔ ภพพันธุ ทำมุมเบียนดาวพฤหัสบดีซึ่งเป็น
ดาวประจำปีของพรรค และสถิตในภพวินาศ หมายถึง ปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้นภายในของพรรค ทั้งยังทำมุมเบียนประมาณ ๑๘๐ องศากับดาวพลูโตซึ่งเป็นผู้หยิบยื่นความตายทำให้เกิดการตายหมู่ (กรรมการบริหารพรรค) และความวิบัติต่างๆ มาให้
๒. ดาวพุธ และดาวศุกร์ซึ่งเป็นดาวศุภเคราะห์ที่มีกำลังทั้งคู่ สถิตอยู่ในราศีเมษ ทับลัคน์
จึงอาจจะเป็นคุณแก่เจ้าชะตาอยู่บ้าง
๓. ดาวพฤหัสบดีซึ่งเป็นดาวประจำปีของพรรคนอกจากจะมีกำลังต่ำกว่าระดับมาตรฐาน
แล้วในราศีกุมภ์ เรือนที่ ๑๒ ภพวินาศด้วย
๔. ดาวเสาร์โคจรถอยหลังอยู่ในราศีกันย์ ทำมุมเล็งประมาณ ๑๘๐ องศากับดาวมฤตยู
ซึ่งมีความหมายถึงการเปลี่ยนแปลงโดยไม่คาดคิด และสถิตอยู่ในราศีมีน ดาวเสาร์นี้สถิตอยู่ในเรือนที่ ๖ ภพเกี่ยวกับข้าทาสบริวาร สุขภาพโรคภัยไข้เจ็บ หากเป็นดวงชะตาของบุคคลทั่วไปน่าจะพยากรณ์ว่า มีอาการหนัก
๕. ราหูสถิตอยู่ในราศีธนู เรือนที่ ๑๐ ภพเกี่ยวกับหน้าที่การงาน เปรียบได้กับเงาดำที่เกิดขึ้น
ในขณะที่ฉากของหน้าที่การงานของพรรคฯ กำลังรูดปิดลง
ความสัมพันธ์ระหว่างดาวพระเคราะห์ต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น น่าจะเป็นคำตอบได้เป็นอย่างดีว่า พรรคประชาธิปัตย์จะถูกยุบหรือไม่ ?
การพยากรณ์ดังกล่าวข้างต้น ผมได้ตั้งสมมุติฐานว่า ศาลรัฐธรรมจะใช้เวลาพิจารณาตัดสิน
ประมาณ ๖ เดือน หากระยะเวลาพิจารณานานกว่า ๖ เดือน หลังเดือนเมษายน ๒๕๕๔ ดาวประจำปีของพรรคประชาธิบัติย์ย่อมเปลี่ยนไป ผลการวิเคราะห์จึงน่าจะแตกต่างไป จะเป็นอย่างไร ขอให้ติดตามตอนที่ ๒ ก็แล้วกันนะครับ
*********************************************************
เอกสารอ้างอิง The Rulership Book,Rex E.Bills
Vedic System of Astrology (Goravani Jyotish 2.5 Program)