อภิสิทธิ์ฯ-สมัครฯ ใครได้เปรียบกว่ากัน ?
พล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์
ตามที่ผมได้เคยนำเสนอบทความเรื่อง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ? ไปแล้วว่า
เมื่อนำเอาดวงชะตาประจำปี พ.ศ.๒๕๕๐ ของคุณอภิสิทธิ์ฯ ซึ่งโดดเด่นเนื่องจากได้รับพลังของดวงอาทิตย์ที่สถิตอยู่ในเรือนที่ ๑๐ ภพที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่การงาน ซึ่งเกื้อหนุนให้เกิดเกียรติยศชื่อเสียงแก่ตัวคุณอภิสิทธิ์ฯ เองมาพิจารณาร่วมกับดวงชะตาประจำปีของพรรคประชาธิปัตย์ ช่วยให้เห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่า ถึงแม้ว่าจะมีดวงอาทิตย์ที่มีกำลังสูงสถิตอยู่ในเรือนที่ ๑๐ เช่นกัน แต่โดยความหมายของดวงชะตาพรรคแล้ว เรือนที่ ๑๐ นี้เป็นภพที่เกี่ยวกับหัวหน้าพรรค และคณะผู้บริหารพรรค จึงเป็นการยืนยันอีกชั้นหนึ่งว่า พรรคประชาธิปัตย์กำลังได้ผู้นำพรรคที่ดีซึ่งสามารถขับเคลื่อนให้พรรคให้ก้าวหน้าไปได้ด้วยดีอย่างแน่นอน เมื่อได้ดูจากดวงชะตาแล้วแต่เป็นที่น่าเสียดายว่า ดวงชะตาของพรรคประจำปีนี้มีลักษณะพิกลพิการไม่สมประกอบเนื่องจากถูกดาวเสาร์ และดาวอังคารบั่นทอนไปไม่น้อยดังกล่าวแล้วข้างต้น น่าจะไม่สามารถเป็นพาหะนำคุณอภิสิทธิ์ฯ ให้เดินทางไปถึงเป้าหมายคือการเป็นนายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ ๒๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๐
ต่อจากนั้น ก็ได้มีคำถามจากผู้ที่อยู่ในวงการการเมือง และโหราศาสตร์ ติดตามมาบ่อยครั้งว่า ถ้าคุณอภิสิทธิ์ ฯ ไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ ใครเล่าจะได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ? คุณสมัคร สุนทรเวช จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ? คำถามประเด็นหลังดูจะเป็นคำถามยอดนิยม เนื่องจากผมยังไม่มีข้อมูลชีวประวัติโดยเฉพาะวันเดือนปี และเวลาเกิดของคุณสมัครฯ และผู้ที่เกี่ยวข้องที่ชัดเจน ผมจึงได้รั้งรอการให้คำตอบมาจนถึงบัดนี้ซึ่งผมได้รับสิ่งที่ต้องการมามากพอสมควร
หากข้อมูลชีวประวัติของคุณสมัคร สุนทรเวชที่ผมได้รับมาถูกต้อง คุณสมัครฯ เกิดวันพฤหัสบดีที่ ๑๓ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๗๕ เวลา ๒๐ นาฬิกา กรุงเทพมหานคร ลัคนาสถิตราศีมังกร ๑๖ องศา ๓๕ ลิปดา เมื่อวันที่ ๑๓ มิถุนายนที่ผ่านมา คุณสมัครฯ มีอายุครบ ๗๒ ปี เมื่อผูกดวงชะตาประจำปีตามหลักวิชาโหราศาสตร์ก้าวหน้าแล้ว ลัคนาสถิตอยู่ในราศีกรกฎ ๒๒ องศา ๓๖ ลิปดา มีดาวเสาร์กุมลัคนาเกือบสนิท (ห่างกัน ๔ องศา ๙ ลิปดา) และมีดาวศุกร์สถิตอยู่ในราศี เรือนภพเดียวกัน และเมื่อคำนวณหาดาวประจำตัวคุณสมัครฯ ในช่วงเวลาระหว่างวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๐๑๓ มิถุนายน ๒๕๕๑ แล้ว ปรากฏว่า ดาวเสาร์เป็นดาวประจำตัวประจำปี ดังนั้น ดาวเสาร์จึงเป็นเจ้าการสำคัญที่จะชี้โชคชะตาอนาคตของคุณสมัครฯ โดยเฉพาะเรื่องการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๐ นี้ได้ค่อนข้างแน่ชัด
เมื่อได้คำนวณกำลังดาวพระเคราะห์ประจำปี พ.ศ.๒๕๕๐ ของคุณสมัครฯ แล้ว ปรากฏว่า ดาวเสาร์ซึ่งเป็นดาวประจำปีมีกำลังเพียง ๐.๗๕ ทั้งยังมีสภาพเป็นดาวที่ให้ทุกข์โทษแก่เจ้าชะตาเช่นเดียวกับดาวพุธซึ่งสถิตอยู่ในเรือนที่ ๑๒ ภพวินาสน์ เมื่อพิจารณาถึงประเด็นนี้ จึงเห็นภาพที่ชัดเจนว่า กลไกที่จะช่วยเป็นแรงขับเคลื่อนให้คุณสมัครฯ ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรียังมีไม่เพียงพอ การที่ดาวพุธซึ่งเป็นดาวพระเคราะห์เกี่ยวกับการสื่อสารกับมวลชนมีสถานะเป็นทุกข์โทษแก่เจ้าชะตาด้วย จึงช่วยตอกย้ำความเป็นไปได้ของคำพยากรณ์นี้ คุณสมัครฯ จึงควรมีความระมัดระวังในการกล่าวปราศรัย และการให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนให้มาก
เป็นที่น่าเสียดายว่า ผมไม่มีข้อมูลแน่ชัดเกี่ยวกับการจัดตั้งพรรคพลังประชาชนดังเช่นพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งผมใช้ประกอบการพิจารณาพยากรณ์ดวงชะตาประจำปี ๒๕๕๐ ของคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ผมได้กล่าวไว้ข้างต้น
คุณอภิสิทธิ์ฯ มีจุดอ่อนเกี่ยวกับดวงชะตาประจำปีของพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนคุณสมัครฯ มีจุดอ่อนเกี่ยวกับดวงชะตาประจำปีของตนเอง ดังนั้น เมื่อนำเอาดวงชะตาของทั้งสองคนมาเปรียบเทียบกันจึงเห็นภาพชัดเจนว่า คุณอภิสิทธิ์ฯ เหนือกว่าคุณสมัครฯ มากทีเดียว
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้แสดงหลักธรรมไว้ประการหนึ่งที่เรียกว่า บุพพนิมิตแห่งมรรค ๗ ซึ่งเมื่อนำเอาองค์ธรรมนี้มาประยุกต์ให้หลักธรรมง่ายๆ สำหรับปุถุชนทั่วไป แล้ว หมายถึง แสงเงินแสงทองของชีวิตที่ดี จะปรากฏแก่บุคคลที่ถึงพร้อมด้วยกัลยาณมิตร (มีเพื่อนร่วมงานที่ดี) ๑ ศีลสัมปทา (เป็นคนมีศีลธรรม) ๑ ฉันทสัมปทา (เป็นผู้มีความยินดีพอใจในงานที่ทำ ๑) อัตตสัมปทา (ตนเองมีความพร้อมในการที่จะปฏิบัติงานนั้นมากน้อยเพียงใด มีสุขภาพพลานามัยและอยู่ในวัยที่เหมาะสมกับการงาน) ๑ ทิฏฐิสัมปทา (มีความเห็นที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม) ๑ อัปปมาทสัมปทา (เป็นผู้ที่ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท) ๑ และโยนิโสมนสิการ (มีความฉลาดคิดแยบคายสามารถนำเอาใช้ประโยชน์ได้ตามความเหมาะสม) ๑
ดังนั้น ขอแนะนำให้คุณอภิสิทธิ์ฯ และคุณสมัครฯ น้อมนำเอาองค์ธรรมดังกล่าวมาใช้ประโยชน์สำรวจตนเองว่า เป็นผู้ที่ถึงพร้อมครบถ้วนหรือยัง ยังมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ยังขาดตกบกพร่องบ้าง จำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงตนเอง และผู้ร่วมงานอย่างไร ถ้าปฏิบัติได้ตามนี้ ผมขอยืนยันว่า ถึงแม้ว่าดวงชะตาของท่านทั้งสองจะมีข้อได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างกันอยู่ก็ตาม หากผู้ใดได้ทำการสำรวจตรวจสอบแก้ไขปรับปรุงอย่างจริงจังโดยไม่ชักช้า ท่านผู้นั้นย่อมมีโอกาสเห็นแสงเงินแสงทองของชีวิตที่ดี คือ ประสบชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างแน่นอน
ในบทความเรื่อง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ? ผมได้ปิดท้ายบทความด้วยเรื่อง รามเกียรติ์ โดยให้ท่านผู้พิจารณารูปลักษณะของทศกัณฐ์ จอมทัพมาร กับ พระราม และพระลักษณ์ ไปแล้วนั้น ต่อมาได้มีท่านผู้อ่านหลายท่านแสดงข้อคิดเห็นมานานาประการ มีอยู่ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือ ตามเรื่องแล้ว ทศกัณฐ์ต้องจบชีวิตลงเพราะหัวใจที่ฝากไว้กับพระฤาษีโคบุตรนั้นถูกบีบขยี้โดยหนุมานซึ่งยอมเสียสละให้พระรามลงโทษเฆี่ยนตีขับไล่ ต้องกระเซอะกระเซิงไปอาศัยสมัครเป็นข้าทาสบริวารของทศกัณฐ์ ใช้เล่ห์กลเพทุบายต่างๆ จนกระทั่งทศกัณฐ์รักใคร่ไว้เนื้อเชื่อใจเสมือนลูก และหนุมานได้ฉวยโอกาสนี้ไปหลอกลวงพระฤาษีโคบุตรขอดูกล่องดวงใจของทศกัณฐ์ เมื่อพระฤาษีหลงเชื่อนำออกมาให้ดู ก็เนรมิตกล่องดวงใจปลอมขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แล้วสลับสับเปลี่ยนเอากล่องดวงใจของจริงส่งไปให้องคตซึ่งติดตามมาและรอคอยอยู่บนเวหาอากาศเก็บรักษาไว้ก่อน ส่วนกล่องดวงใจของปลอมนั้นได้ส่งคืนให้พระฤาษีโคบุตร ต่อมาเมื่อพระราม พระลักษณ์กรีฑาทัพมารบกับทศกัณฐ์อีกครั้ง หนุมานจึงได้แสดงตนให้ทศกัณฐ์รู้ตามความเป็นจริง และรับเอากล่องดวงใจของจริงจากองคตมาไว้ในมือ เมื่อพระรามแผลงศรไปประหารทศกัณฐ์ หนุมานจึงนำเอาดวงใจของทศกัณฐ์ออกจากกล่องมาบีบขยี้ ชีวิตของทศกัณฐ์ จอมทัพมารก็ถึงจุดอวสาน
จากประเด็นของท่านผู้อ่านข้างต้น ทำให้ผมได้ข้อคิดว่า ตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ใน บุพพนิมิตแห่งมรรค ๗ ในหัวข้อ กัลยาณมิตร ซึ่งหมายถึง พรรคการเมืองที่มีเจตนาจะเข้ามาเสียบร่วมรัฐบาลเพื่อหวังผลประโยชน์ของตนเองเป็นที่ตั้ง รวมทั้งสมาชิกของพรรคพลังประชาชนจำนวนหนึ่งที่มิได้มีความจงรักภักดีต่อคุณสมัครฯ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นไส้ศึกคอยบ่อนทำลายพรรค เช่น นำเอาเอกสารเท็จมานำเสนอเพื่อให้หัวหน้าพรรคผลีผลามนำออกมาแฉในที่สาธารณะโดยมิได้มีการตรวจสอบอย่างรอบคอบก่อน ฯลฯ แทนที่จะเป็นผลดีต่อคุณสมัครฯ ในทางตรงข้ามกลับทำลายภาพลักษณ์ของคุณสมัครฯ สร้างความเสื่อมศรัทธาแก่ประชาชนทั่วไปเพิ่มขึ้นทุกวัน ซึ่งคุณสมัครฯ ควรจะได้ให้ความสนใจในเรื่องทำนองนี้ให้มากเป็นพิเศษครับ
นายสมัคร สุนทรเวช