ในโหราเวสม์ฉบับ 2 เดือนที่ผ่านมาได้ลงบทความไว้ถึงตอนที่ 4 ซึ่งได้กล่างถึงกฎเกณฑ์การกำหนดวาสนาจากลัคนาเกาะนวางค์และตรียางค์
สำหรับในฉบับนี้เป็นตอนที่ 5 จะได้กล่าวถึงกฎเกณฑ์ข้อที่ 4 คือการกำหนดวาสนาจากดาวตนุลัคนาซึ่งคงจะต้องพิจารณาในหลายแง่หลายมุมด้วยกัน จะมีรายละเอียดอย่างไรบ้างนั้นจะได้แจกแจงให้ทราบดังต่อไปนี้
ตนุลัคนา หรือเรียกย่อ ๆ ว่า ตนุลัคน์ โดยความเป็นจริงแล้วลัคนาจะต้องมาก่อน (รู้ก่อน) ตนุ ลัคนาคือจุดชีวิตหรือจุดกำเนิดของเจ้าชะตาที่อุบัติขึ้นในจักรราศีตามเวลา (ตกฟาก) ที่เจ้าชะตาถือกำเนิดออกมาจากครรภ์มารดา ส่วนตนุหมายถึงตัวตนหรือตัวเอง ดาวตนุลัคนาโดยทั่วไปมักนิยมเรียกสั้น ๆ ว่า ดาวตนุลัคน์ซึ่งถ้าจะเรียกชื่อเต็ม ๆ เลยก็คือ ดาวเกษตรเจ้าเรือนลัคนา เช่นถ้าลัคนาสถิตอยู่ที่ราศีสิงห์ ดาวตนุลัคนาของตัวเจ้าชะตาก็คือดาว 1 ดาวตนุลัคนาสามารถบ่งบอกให้ทราบถึงรูปร่างหน้าตา อุปนิสัยใจคอและพื้นเพ (พื้นฐาน) ของตัวเจ้าชะตาว่าจะเป็นอย่างไรตั้งแต่เกิดจนถึงตาย
การกำหนดวาสนาของดาวตนุลัคน์มีกฎเกณฑ์ในการพิจารณาดังนี้
1. ดูจากฤกษ์ที่ดาวตนุลัคน์เสวย
2. ดูจากดาวประจำลูกนวางค์ที่ดาวตนุลัคน์เกาะว่าเกาะตรียางค์นวางค์และฤกษ์อะไร
3. ดูจากคุณภาพของดาวตนุลัคน์ทั้งในราศีจักรและในนวางค์จักร
4. ดูจากตำแหน่ง (ภพ/เรือนชะตา) ของดาวตนุลคน์ว่าสถิตอยู่ที่ใดคือเรือนหรือภพใดของลัคนา (ลั) ดีหรือเสีย เป็นโยคเกณฑ์อะไรบ้างหรือไม่หรือเป็นพินทุบาทว์
5. ดูจากโคจรของดาวตนุลัคน์ณเวลาที่ถือกำเนิดว่าโคจรปกติหรือโคจรวิปปริต
6. ดูจากทักษากำเนิดของดาวตนุลัคน์ว่าดีหรือเสีย
7. ดูจากความสัมพันธ์กับดาวอื่น ๆ ในดวงชะตาว่าดีหรือเสีย
ในการพิจารณ์กำหนดวาสนาจากดาวตนุลัคน์ในข้อแรกและข้อที่ 2 เพื่อดูว่าดาวตนุลัคน์เสวยฤกษ์อะไร เกาะนวางค์ตรียางค์อะไรดีหรือเสียคงใช้เกณฑ์เช่นเดียวกับการพิจารณาจากลัคนาตามที่ได้อธิบายไว้แล้วในบทความตอนที่ 2 และตอนที่ 3 ในโหราเวสม์ฉบับเดือน มิถุนายน และ กรกฎาคม 2550 ดังนั้นการพิจารณากำหนด วาสนาจากดาวตนุลัคน์จะได้กล่าวถึงกฎเกณฑ์ในข้อที่ 3 ถึงข้อ 7
การดูวาสนาจากคุณภาพของดาวตนุลัคน์ทั้งในดวงราศีจักรและนวางค์จักร ในที่นี้จะขอเรียกการดูเช่นนี้ว่าการดูดวง 2 ชั้น ซึ่งในสมัยก่อน ๆ มักจะพยากรณ์เพียงดวงราศีจักรคือการดูดวงชั้นเดียวเท่านั้น ไม่ได้ใช้ดวงนวางค์จักรเข้าร่วมพิจารณา ในความเป็นจริงแล้วดวงนวางค์จักรนั้นมีความสำคัญมากเนื่องจากดาวในนวางค์จักรนั้นโบราณท่านเรียกว่าเป็นไส้ชะตา คุณภาพของดาวเคราะห์ในราศีจักรและนวางค์จักรอาจจะเหมือนกันหรือแตกต่างกัน ตำราระบุเอาไว้ว่านวางค์จักรจะเป็นตัวตัดสินชี้ขาดว่าดาวเคราะห์นั้น ๆ เป็นดาวที่มีคุณภาพดีหรือเสียหรือเป็นกลาง ๆ เช่น ในดาวราศีจักรดาว 1 มีคุณภาพเป็นเกษตรอยู่ราศีสิงห์ แต่ในดวงนวางค์จักรดาว 1 กลับเป็นนิจอยู่ราศีตุลย์ก็ให้ถือว่าดาว 1 ในดวงชะตาผู้นั้นเสียหรืออ่อนกำลังมีคุณภาพเป็นนิจ ลักษณะเช่นนี้เปรียบเหมือนกับสุภาษิตโบราณที่ว่า ข้างนอกสดใสข้างในเป็นโพรงหรืออีกสุภาษิตหนึ่งว่าท่าดีทีเหลว ในทางกลับกันดาวในดวงราศีจักรเป็นประอ่อนกำลังแต่ในดวงนวางค์จักรดาวนั้นกลับเป็นราชาโชคเข้มแข็งดีมาก ก็ให้ถือว่าดาวนั้นมีคุณภาพเป็นราชาโชค และอีกกรณืหนึ่งคือหากดาวตนุลัคนาได้วรโคตม์นวางค์ก็จะทำให้ดาวตนุลัคน์นั้นยิ่งมีคุณภาพมากขึ้นไปอีก ซึ่งจะหมายถึงเจ้าชะตาจะมีวาสนาดีมากหรือจะเรียกได้ว่ามีวาสนาสูงก็ย่อมได้ ตำรากล่างเอาไว้ว่าดาวตนุลัคน์ก็คือตัววาสนาที่แท้จริงของเจ้าชะตา คนที่มีดาวตนุลัคน์อยู่ในภพ/เรือนดีคือไม่อยู่ในเรือนอริ, มรณะหรือวินาสน์และดาวนั้นมีคุณภาพดีเข้มแข็ง เป็นเกษตร, อุจจ์ ราชาโชคหรือมหาจักรด้วยแล้ว ก็ถือได้ว่าผู้นั้นเป็นคนดวงดีมีวาสนาสูงถ้าคิดเป็นร้อยละก็ดีไปแล้ว 50 เปอร์เว็นต์
ดวงที่ 1 อดีตเจ้าอาวาสวัดดังแห่งประทุมธานีที่มีวัดสวย กำหนดวาสนาจากดาวตนุลัคน์ได้ดังนี้
1. ดาว 6 ตนุลัคน์เสวยสมโณฤกษ์ดี
2. ดาว 6 เกาะนวงค์ดาว 5 และดาว 5 ในดวงราศีจักรเกาะนวางค์ 7 ตรียางค์ 5 พิษสุนัขให้โทษเสวยสมโณฤกษ์ ดาว 6 จึงไม่ให้คุณมากนัก
3. ดาว 61 เป็นอุจจ์ในราศีจักรและเป็นมหาจักรในนวางค์จักรเข้มแข็งดีมากให้คุณสูง
4. ดาว 6 อยู่เรือนอริลัคน์ไม่ดี
5. ดาว 6 ตนุลัคน์โคจรปกติดี
6. ทักษากำเนิดของดาว 6 เป็นศรีให้คุณดีมาก
7. ดาว 6 อยู่ราศีมีนเรือนของดาว 5 คู่สัมพันธ์, คู่ทรัพย์และตรีโกณร่วมธาตุกับดาว 5 ที่อยู่ราศีกรกฎซึ่งมี 8 อยู่ด้วย ดาว 68 เป็นดาวคู่โชค, เศรษฐกิจ, คู่ลุ่มหลงมัวเมาดาว 6 มี 9 ร่วมราศีอยู่ด้วย 9 (เกตุ) หมายถึงนักท่องเที่ยวแสวงบุญ ของเก่าของโบราณ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ความลี้ลับ ไสยศาสตร์ของสูง ตำราว่าถ้าอยู่ที่ดีกุมดาวดีก็เป็นยอดคนดี ถ้าอยู่ที่เสียกุมดาวเสียก็เป็นยอดคนที่ร้ายหรือเลว ในดวงนี้ดาว 6, 9, 5 และ 8 ที่สัมพันธ์ถึงกันล้วนเสวยฤกษ์ดีเป็นบูรณะฤกษ์คือสมโณ (ดาว 6) สมโณ (ดาว 5) ราชา (ดาว 8) ราชา (ดาว 9) เกี่ยวกับรายละเอียดในเรื่องของความสัมพันธ์ของดวงดาวและโยคเกณฑ์ต่าง ๆ นั้นจะได้อธิบายอย่างละเอียดเมื่อถึงเรื่องนี้ต่อไป (เป็นข้อใหญ่ข้อ 6, 7, 8 ของการกำหนดวาสนา)
ดวงที่ 2 เป็นดวงนักการธนาคารที่ถูกข้อหาฉ้อโกง ธ.บีบีซี (เกิดที่อินเดีย) กำหนดวาสนาจากดาวตนุลัคน์ได้ดังนี้
1. ดาว 1 ตนุลัคน์และยังเป็นดาววันเกิดด้วยเสวยเพชฌฆาตฤกษ์ซึ่งเป็นฉินทฤกษ์ (เกี่ยว 2 ราศี) ให้โทษ
2. ดาว 1 ตนุลัคน์เกาะนวางค์ดาว 4 ตรียางค์ 7 พิษสุนัข ตามไปดูดาว 4 ในดวงราศีจักรดาว 4 อยู่เรือนวินาสน์ลัคน์ (เสีย) เกาะนวงค์ 7 ตรียางค์ 5 พิษสุนัขให้โทษ ดาว 1 จึงถูกลูกพิษ 2 ชั้นแต่เสวยสมโณฤกษ์ดี
3. ดาว 1 ตนุลัคน์มีคุณภาพดีมากเป็นราชาโชคทั้งราศีจักรและนวางค์จักรคือได้วรโคตม์นวางค์จึงให้คุณสูงมาก
4. ดาว 1 อยู่ในเรือน/ภพลาภะของลัคนาซึ่งเป็นเรือนที่ดีกับเป็นเกณฑ์กับดาว 2 (เป็น 4 กับ 2)
5. ดาว 1 โคจรปกติ ซึ่งดาว 1 เป็นดาวเคราะห์ดวงหนึ่งที่มีวิถิโคจรปกติอยู่แล้วคือจะไม่มีการโคจรวิปริต
6. ทักษากำเนิดดาว 1 ตนุลัคน์ทักษาเป็นบริวารเนื่องจากดาว 1 เป็นดาววันเกิดด้วย
7. ดาว 1 ในดวงราศีจักรอยู่ร่วมราศีกับดาว 0 (มฤตยู) ซึ่งถือเป็นดาวภัยอาเภทดาว 0 เสวยเพชฌฆาตฤกษ์ และยังเกี่ยวตรียางค์ 7 พิษสุนัขด้วยจึงเป็นดาวที่ให้โทษร้ายแรง (ดาว 0 ในด้านดีให้คุณก็มี) ตำราว่าดวงผู้ใดมีดาว 1 กุมดาว 0 (10) มักต้องตกจากตำแหน่ง นอกจากนั้นดาว 1 ยังตรีโกณร่วมธาตุกับดาว 3 ซึ่งเป็นดาวคู่ศัตรูแต่ก็ไม่ให้โทษแก่กันเนื่องจากสัมพันธ์ดีต่อกัน (ตรีโกณ) ที่เสียสละให้โทษก็เพราะดาว 3 เกาะตรียางค์ดาว 7 พิษครุฑให้โทษแต่ไม่มากนักเพราะเสวยบูรณะฤกษ์เทวี ส่วน 9 (เกตุ) ที่ตรีโกณถึง 1 ด้วยนั้นมีส่วนดีให้คุณด้วยเสวยเทวีฤกษ์เป็นบูรณะฤกษ์และไม่เกี่ยวตรียางค์ลูกพิษ
ในโหราเวสม์ฉบับต่อไปจะเป็นการกล่างถึง การกำหนดวาสนาจากคุณภาพของดาวเคราะห์อื่น ๆ (ที่ไม่ใช่ดาวตนุลัคน์) ซึ่งเป็นกฎเกณฑ์ข้อที่ 5
ผู้มีวาสนาดีมากก็เป็นได้
โปรดติดตามตอนที่ 2 ในโหราเวสม์ฉบับประจำเดือน มิถุนายน 2550 ซึ่งจะกล่าวถึงกฎเกณฑ์ในการกำหนดวาสนาของบุคคลในข้อที่ 2 คือ กำหนดจากฤกษ์ที่ลัคนาเสวย