คุยกับ ไพ่ยิปซี
ตอนการเรียงไพ่แบบขั้นบันได
โดยอาจารย์ประภัตร รหัสดาว
08-17549569
สวัสดีอีกครั้งครับท่านผู้สนใจเรื่องไพ่ยิปซี อาจารย์ประภัตร รหัสดาว ขอคุยกันต่อกับเรื่องที่เราสนใจกันอยู่ในตอนนี้คือเรื่องราวของไพ่ทาโรท์ หรือไพ่ยิปซี ครั้งที่แล้วได้พูดถึงการทำนายแบบเรียงไพ่ 5 ใบบนพื้นที่ 3 Zone ไปแล้ว แต่ก่อนที่จะคุยถึงวิธีการเรียงไพ่อีกแบบหนึ่งให้ฟังในฉบับนี้ ขอพูดถึงองค์ประกอบที่จะทำให้เกิดความแม่นยำจากการทำนายด้วยไพ่ยิปซีเป็นออเดิฟก่อนก็แล้วกัน
จากประสบการณ์ที่ผ่านมายืนยันได้อย่างหนึ่งว่าความแม่นยำของไพ่ยิปซีนั้นมีองค์ประกอบอยู่ 2 อย่างด้วยกันคือ
1.เจ้าชะตา (ผู้มาดูดวง) 50 %
ต้องมี ความศรัทธา+สมาธิ
2.หมอดู 50%
ต้องเป็นหมอดูที่รักษาวินัย หรือจรรยาบรรณอย่างเคร่งครัด ไม่มีอคติหรือหวังผลประโยชน์จากการทำนายแอบแฝงอยู่ (ไม่ใช่ใครก็ได้ที่อ่านความหมายตามตำราเพียงอย่างเดียว บางครั้งต้องบวกประสบการณ์ และการเก็บสถิติการทำนาย รวมถึงศิลปะในการถ่ายทอดคำทำนายด้วย)
ทั้งสององค์ประกอบเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้การพยากรณ์มีความแม่นยำครบถ้วน 100% ครับ (หลายครั้งที่เจ้าชะตาบอกว่า ผมดูแม่น ผมจะตอบกลับไปว่า ผมเป็นแค่ครึ่งหนึ่งของความแม่นยำครับ ส่วนอีกครึ่งหนึ่งก็คือตัวคุณนั่นแหละครับที่ทำให้ผมทายได้แม่นยำ
ในส่วนของเจ้าชะตาไม่ค่อยห่วงเท่าไรครับเพราะถ้าเจ้าชะตาเดินเข้ามาหาหมอดูแล้วละก็ เขาต้องมีความเชื่อและตั้งใจที่จะอยากรับรู้เรื่องราวของตัวเองอยู่แล้ว (สิ่งที่พูดถึงนี้ก็คือศรัทธา และสมาธิที่มีอยู่ในตัวเจ้าชะตาโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว) แต่ในฝั่งของหมอดูทุกวันนี้ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไรครับ เพราะบางคนไปซื้อหนังสือมาหนึ่งเล่ม ทำความเข้าใจแบบงู ๆ ปลา ๆ ก็ตั้งตัวเป็นอาจารย์ หรือหมอดูไปซะแล้ว ซึ่งก็ไม่ได้ขัดแย้งอะไรในประเด็นที่ใครอยากเป็นหมอดูก็เป็นได้ในชั่วข้ามคืน แต่ที่เป็นห่วงแทนบรมครูโหราศาสตร์ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่หรือล่วงลับไปแล้ว หรือหมอดูที่มีวินัยและจรรยาบรรณสูง หลาย ๆ ท่านในวงการโหราศาสตร์ตอนนี้ก็คือวินัยและจรรยาบรรณของหมอดูใหม่ๆ ครับไม่รู้มีกันมากน้อยแค่ไหนแล้วรู้หรือเปล่าก็ไม่รู้ว่าคนที่เป็นหมอดูต้องมีวินัย และจรรยาบรรณอะไรบ้าง ประเด็นนี้ก็ฝากผู้ที่มาดูดวง หรือผู้อ่านไว้ก็แล้วกันครับ เพราะเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ผมเชื่อเหลือเกินว่าของแท้ หรือของเทียม เรา ๆ ท่าน ๆ ดูกันออกอยู่แล้วใช่ไหมครับ
เข้าเรื่องของเราเลยดีกว่าครับ ฉบับนี้ขอแนะนำวิธีกาเรียงไพ่อีกแบบหนึ่งที่สามารถนำไปใช้ทำนายได้ ในกรณีที่เป็นคำถามเฉพาะเรื่อง นั่นคือวิธีการเรียงไพ่แบบ
ขั้นบันได
เรียงไพ่แบบขั้นบันไดเป็นการเรียงไพ่อีกวิธีหนึ่งในหลาย ๆ วิธีที่ผมพัฒนาขึ้นจากการเก็บสถิติ และรูปแบบที่สอดคล้องกับชุดคำถามเฉพาะเรื่องที่ผมถนัด แล้วเรียงไพ่แบบ ขั้นบันไดคืออะไร
คือการบอกเล่าของไพ่ยิปซีในลักษณะที่ผู้ใหญ่ให้คำปรึกษาหรือทางสว่างแก่เด็ก
วิธีการคือ ให้เจ้าชะตาเลือกไพ่ด้วยมือซ้ายออกมา 5 ใบ (หยิบทีละใบ) วางในตำแหน่งที่ 1-5 ดังนี้คือ
Case Study
เคยมีพนักงานฝ่ายขายของบริษัทชั้นนำแห่งหนึ่งมาดูดวงกับผม ซึ่งเจ้าตัวเป็นคนที่มีความสามารถมาก จนเป็นที่รู้จักในวงการธุรกิจนั้น วันหนึ่งก็มีบริษัทคู่แข่งมาทาบทามเชิญให้ไปทำงานด้วย โดยเสนอค่าตอบแทนมากกว่าบริษัทที่ตัวเองทำงานอยู่ถึง
40% ซึ่งถ้าเป็นคนทั่วไปอาจจะแทบอดใจไม่ไหว แหมก็เงินเดือนที่รับอยู่ตอนนี้ก็ปาเข้าไป 20,000 แล้ว (ระดับพนักงานฝ่ายขายธรรมดาๆ คนหนึ่งถือว่าไม่น้อยครับสำหรับเงินเดือนเท่านี้) ถ้าไปที่ใหม่ก็ได้ชัวร์ ๆ 28,000 นี้ยังไม่รวมค่าคอมมิสชั่นและผลตอบแทนอื่น ๆ อีกนะ น่าสนใจมั้ยละ พนักงานฝ่ายขายคนนี้ถามผมว่า จะไปที่ใหม่ดีมั้ยคะ แล้วเธอก็หยิบไพ่ให้ผม 5 ใบ ผลการเปิดหน้าไพ่เป็นดังนี้ครับ
ไพ่ตำแหน่งที่ 1 คือ The Death
ไพ่ตำแหน่งที่ 2 คือ The Star
ไพ่ตำแหน่งที่ 3 คือ 10 ไม้เท้า
ไพ่ตำแหน่งที่ 4 คือ อัศวินดาบ
ไพ่ตำแหน่งที่ 5 คือ 4 ดาบ
ไพ่ตำแหน่งที่ 1 The Death
อย่าเพิ่งตกใจครับ บางคนอาจจะคิดไปก่อนแล้วว่า ถ้าเลือกที่ใหม่จะมีอันตรายถึงชีวิตหรือเปล่าเนี่ย แหม!!! อันนั้นก็แปลความหมายแบบขวานผ่าซากเกินไปครับ ความหมายที่แท้จริงต้องอิงกับชุดคำถามด้วยว่า โจทย์ที่ตั้งไว้ก่อนเปิดหน้าไพ่นั้นคืออะไร โจทย์ในที่นี้ก็คือคำถามนั่นแหละครับ ย้อนกลับไปที่โจทย์อีกครั้งละกัน จะไปที่ใหม่ดีมั้ยคะ
ผู้ใหญ่ให้คำปรึกษาแก่เด็กว่า ใจเย็น ๆ หยุด ความคิดนั้นไว้ก่อนนะผมกำลังจะบอกว่า The Death ในชุดคำถามนี้แปลว่า หยุด ไม่ใช่ความตายนะครับ เอ้า ... มาดูตำแหน่งต่อไป
ไพ่ตำแหน่งที่ 2 The Star
ผู้ใหญ่บอกต่ออีกว่า ทุกอย่างที่เค้าเสนอมาให้ไม่ว่าจะเป็นค่าตอบแทนหรือ สิทธิประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมายนั้น มันไม่ได้หมายความว่าจะเป็นอย่างที่เค้าพูดนะมันต้องแลกมาด้วยความเหน็ดเหนื่อย หรือต้องแลกด้วยเงื่อนไขอะไรบางอย่างที่อาจจะทำได้ยาก คำสำคัญของไพ่ใบนี้ก็คือ สิ่งที่คิดว่าจะไขว่คว้าได้ สุดท้ายแล้วมันจะเอื้อมไม่ถึง
ไพ่ตำแหน่งที่ 3 10 ไม้เท้า
ความสำเร็จหรือความคาดหวังในงานที่ทำมาเนิ่นนาน (หมายถึงที่ทำงานปัจจุบัน) กำลังจะสำเร็จเป็นรูปเป็นร่างมีโอกาสได้ค่าตอบแทนเพิ่มมีโอกาสได้ปรับขึ้นสูงกว่า หรือกำลังจะมีสิ่งดี ๆ เกิดขึ้นในงานที่คุณทำอยู่นี่แหละไม่ต้องไปไหนหรอก อดทนรออีกสักระยะหนึ่งก่อน
ไพ่ตำแหน่งที่ 4 อัศวินดาบ
ตามความหมายของอัศวินดาบนั้นคือ มุ่งไปข้างหน้าอย่างเต็มกำลัง ความสามารถทำอย่างเต็มที่ แต่ไม่รู้ว่าผลจะออก หัว หรือก้อย ประมาณว่าถ้ามุ่งไปข้างหน้าก็ไม่รู้ว่าจะดีกับตัวเองหรือไม่อย่างไร
ไพ่ตำแหน่งที่ 5 4 ดาบ
ไพ่ใบนี้สนับสนุนไพ่ตำแหน่งที่ 4 คือ อยู่เฉย ๆ เดี๋ยวดีเอง ถ้าดิ้นรนจะเสียเวลา เสียเงินทอง เสียสุขภาพ ไพ่นี้บอกว่าไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้นกับเหตุการณ์นี้ไม่ว่าเค้าจะพูดหว่านล้อม หรือโน้มน้าวด้วยผลตอบแทน หรือสิทธิประโยชน์อื่น ๆมากมายก็ตาม
สรุปคำทำนาย
ใจเย็น ๆ ไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้นกับเหตุการณ์นี้ โอกาสดี ๆ ในเรื่องงานที่ทำอยู่ทุกวันนี้กำลังจะปรากฏเป็นรูปเป็นร่าง ถ้าไปที่ใหม่อาจจะเสียใจทีหลัง (ถึงแม้ค่าตอบแทนหรือสิทธิประโยชน์มันจะเย้ายวนเกินห้ามใจก็ตาม) ช่วงนี้อดทนรอสักหน่อยเรื่องดี ๆ เกี่ยวกับงานที่ทำอยู่จะเกิดขึ้นในเร็ววัน
ปิดท้ายคอลัมน์นี้ด้วยการขออนุญาตเอ่ยนามนักพยากรณ์ที่เคารพ 3 ท่านที่ทำให้คอลัมน์นี้เกิดขึ้นได้นั่นคือ
หลวงปู่ฤษีตาไฟ วัดหนองทาระภู จังหวัดชัยนาท อาจารย์ของผมเองที่ย้ำทุกครั้งเมื่อได้คุยว่า ประภัตรเอ๋ย .. จงเป็นหมอดูที่ไม่ใช่แค่หมอดู ตอนแรก ๆ ไม่ค่อยเข้าใจว่าท่านกำลังบอกอะไร แต่ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าท่านต้องการให้เราเป็นคนชี้ทางสว่าง ให้กับผู้ที่กำลังมีทุกข์ไม่ให้เดินทางผิดในยามที่จิตใจตัวเองสับสน ซึ่งมันเป็นเส้นบาง ๆ ระหว่าง ความดี และความชั่ว (เพราะบางคนถ้าขาดสติจะแก้ปัญหาในทางผิดๆ อันจะนำมาซึ่งความเดือดร้อนทั้งต่อตนเอง และสังคมในภาพรวม) โดยใช้หลักการของพระบรมศาสดา หรือศาสนาพุทธนั่นเอง หมอดูท่านใดจะนำวิธีการนี้ไปใช้ประกอบการแก้ปัญหาให้กับผู้ที่กำลังมีทุกข์ (โดยไม่เรียกรับทรัพย์สินเงินทองเพิ่งเติม) ก็ขออนุโมทนาด้วยนะครับ
อาจารย์พายัพ วชิโร ผู้จุดประกายและที่ปรึกษาการทำนายที่ไม่ใช่แค่การทำนาย ซึ่งท่านหมายถึงการผสมผสานเรื่องราวให้สอดคล้องและใกล้เคียงกับวิถีชีวิตของคนในยุคนี้มากที่สุด เพราะภาษาโหรบางคำ ค่อนข้างเข้าใจยาก การแปลภาษาที่เข้าใจยากนี้ให้เป็นภาษาที่เข้าใจง่ายจะช่วยลดความเข้าใจผิดในการรับรู้ของเจ้าชะตาเพื่อประโยชน์ของเจ้าชะตาเอง (เพราะถ้าเจ้าชะตาไม่เข้าใจในสิ่งที่หมอดูสื่อสารออกไป อาจจะทำให้เจ้าชะตาดำเนินชีวิตหรือแก้ไขปัญหาแบบผิด ๆ ไปด้วย)
อาจารย์ขุนทอง อสุนี ณ อยุธยา ซึ่งจริง ๆ แล้วท่านไม่รู้จักผมหรอกครับ แต่ที่ขอเอ่ยตรงนี้ เพราะผมถือว่าท่านคือปรมาจารย์ด้านไพ่ทาโรท์ หรือไพ่ยิปซี ซึ่งผมจะเรียกท่านในหมู่เพื่อนฝูงและเอ่ยถึงท่านกับลูกค้าที่มาดูดวงกับผมเสมอ ๆ ว่าท่าน คือ สุภาพบุรุษนักพยากรณ์ไพ่ยิปซี ในใจผมตลอดกาล
ศาสตร์แห่งไพ่ยิปซีจากการศึกษาค้นคว้าทั้งตำราไทย และตำราจากต่างประเทศประกอบกับสถิติการทำนาย หรือ Feedback ที่ผมรวบรวมในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาบอกได้เลยครับว่าศาสตร์นี้มีมนต์ขลัง เป็นศาสตร์ที่ไม่มีวันตาย และมีพัฒนาการอย่างไม่หยุดยั้ง ไม่เช่นนั้นไพ่ทาโรท์คงไม่ตกทอดมาถึงรุ่นของพวกเราโดยผ่านกาลเวลาเป็นพันปีได้ ที่สำคัญหมอดูต้องศึกษาค้นคว้าอย่างต่อเนื่อง ไม่ทะนงตนหรือดูถูกทั้งเจ้าชะตา (ผู้ที่มาดูดวง) และหมอดูร่วมสายวิชาชีพเดียวกัน ให้พึงตระหนักไวเสมอว่าตัวเองนอกจากจะทำหน้าที่บอกเล่าเรื่องราวเพื่อวางแผนรับมือกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นทั้งดี และไม่ดี ของผู้ที่กำลังมีทุกข์แล้ว ยังมีอีกหน้าที่หนึ่งที่ถือเป็นพันธะกิจ (กิจที่เป็นพันธะติดตัวของผู้เป็นหมอดู) นั่นคือ การชี้ทางสว่างแก้ไขปัญหา โดยใช้พื้นฐานที่อยู่บนทำนองคลองธรรมโดยยึดแนวทางอันประเสริฐของพระบรมศาสดา หรือพระพุทธศาสนาด้วย จึงจะถือว่าตน (หมอดู) ได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์แล้ว
ทั้งการพยากรณ์แบบ 5 ใบบนพื้นที่ 3 Zone และการเรียงไพ่แบบขั้นบันไดเป็นวิธีการหนึ่งในหลาย ๆ วิธี ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับชุดคำถามเฉพาะเรื่อง แต่เชื่อหรือไม่ว่าบางครั้งหมอดูต้องเป็นผู้พิจารณาและวิเคราะห์ด้วยว่า จะต้องใช้วิธีการเรียงไพ่แบบใดเพื่อให้สอดคล้องกับชุดคำถามในแต่ละเรื่อง เพราะคำถามแต่ละเรื่องก็มีวิธีการที่เหมาะสมกับการตีความที่แตกต่างกันไป แล้วอะไรละ ที่จะเป็นตัวชี้ชัดว่าคำถามแบบไหนต้องใช้วิธีการเรียงไพ่แบบใด จึงจะได้คำตอบที่แม่นยำมากที่สุด ฉบับหน้าจะเล่าให้ฟังครับ
ขอความสุข ความเจริญจงมีแก่ท่านผู้อ่านและผู้สนใจไพ่ยิปซีทุกท่าน
ประภัตร รหัสดาว