อิทธิพลสุริยคราสเดือนสิงหาคม ๒๕๕๑
พล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์
ในเดือนสิงหาคม ๒๕๕๑ จะมีปรากฏการณ์ธรรมชาติทางดาราศาสตร์ คือ เกิดสุริยุปราคา (สุริยคราส) ในวันศุกร์ที่ ๑ เวลา ๑๗ นาฬิกา ๑๑ นาที ๔๓ วินาที ในราศีกรกฎ ๑๕องศา ๓๓ ลิปดา สามารถเห็นได้ประเทศไทยตั้งแต่เวลา ๑๘ นาฬิกา ๒ นาที จนกระทั่งดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าเมื่อเวลา ๑๘ นาฬิกา ๔๒ นาที ๑๔ นาที รวมเวลาคราสที่เห็นได้ในประเทศไทยประมาณ ๔๐ นาที
จากผลการวิเคราะห์เรื่องอิทธิพลของคราสตามหลักวิชาโหราศาสตร์ดวงดาวทั้งไทย ฮินดู และตะวันตก ที่ผมได้ศึกษามาเป็นเวลานานพอสมควร น่าเชื่อว่า คราสที่เกิดขึ้นแต่ละครั้งมีอิทธิพลต่อโลก ดวงชะตาเมืองและดวงชะตาบุคคลไม่น้อย สุริยคราสจะส่งผลเป็นคุณ เป็นทุกข์โทษแก่เจ้าชะตาตามช่วงเวลาที่เกิดคราส (ประมาณ ๑ ชั่วโมงต่อ ๑ ปี)
การวิเคราะห์เรื่องอิทธิพลของคราสนั้น ตามหลักวิชาโหราศาสตร์ตะวันตก หรือที่เรียกว่า โหราศาสตร์สากล จะเน้นหนักไปในเรื่องผลกระทบที่มีต่อดวงชะตาเมืองที่เรียกว่า
Mundane Astrology โดยเฉพาะเรื่องภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น วาตะภัย อุทกภัย แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด ฯลฯ ส่วนตามหลักวิชาโหราศาสตร์ไทย และฮินดู จะรวมไปถึงดวงชะตาบุคคลด้วย วิธีการตรวจสอบของโหราศาสตร์สากล จะคำนวณหาเส้นทางโคจรของดาวพระเคราะห์ต่างๆ ที่ผ่านประเทศนั้น โดยการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการคำนวณ ทำให้สามารถพล็อตเส้นทางโคจรของดาวพระเคราะห์ต่างๆ และสามารถผูกดวงชะตาเมืองของประเทศนั้นในวันที่เกิดคราสขึ้นแต่ละครั้งเพื่อประกอบคำพยากรณ์ เรือนหรือภพที่สำคัญของดวงชะตาเมืองที่ได้ผูกขึ้นใหม่ซึ่งใช้เป็นหลักในการพยากรณ์นี้ได้แก่ เรือนที่ ๑ หรือลัคนา เรือนที่ ๔ เรือนที่ ๗ และเรือนที่ ๑๐ ประการหลังนี้มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งเพราะดาวพระเคราะห์ที่โคจรผ่านเรือนนี้จะอยู่เหนือศีรษะของเราเช่นเดียวกับดวงอาทิตย์เมื่อเที่ยงวัน เรือนนี้มีความหมายเกี่ยวข้องกับประมุขของประเทศ การเมืองและการบริหารประเทศโดยตรง ส่วนของโหราศาสตร์ไทย และฮินดู จำเป็นต้องใช้ดวงชะตาเมือง หรือดวงชะตาของบุคคลที่ได้ผูกไว้มาตรวจสอบว่า ในวันที่เกิดคราสนั้น มีจุดที่เกิดคราสขึ้นในราศีใด เรือนหรือภพใด ทำมุมเบียนให้ทุกข์โทษ หรือให้คุณแก่ดาวพระเคราะห์ใดในดวงชะตาเดิม แล้วพยากรณ์ไปตามความหมายของดาวพระเคราะห์ และเรือนหรือภพที่ได้รับ
อิทธิพลจากคราสครั้งนั้น
ที่จะกล่าวต่อไปนี้ จะเป็นรายงานผลการวิเคราะห์อิทธิพลของสุริยคราสที่เกิดขึ้นในวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๔๑ ว่าจะมีผลต่อดวงชะตาเมืองและนักการเมืองสำคัญที่ทราบวันเดือนปี และเวลาเกิดแน่นอน มากน้อยเพียงใด
๑.โดยการตรวจสอบดวงเมืองในวันที่เกิดคราส ในวันที่เกิดสุริยคราสเมื่อวันที่ ๑ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๑ เมื่อนำเอาดวงเมืองมาเปรียบเทียบกับดวงประจำวันที่เกิดสุริยคราส ปรากฏว่า จุดที่เกิดคราสสถิตอยู่ในเรือน หรือภพที่ ๔ และทับดาวจันทร์ของดวงเมือง นอกจากนี้ ยังทำมุมเล็งเรือน หรือ ภพที่ ๑๐ และเล็งดาวพลูโตของดวงเมือง เรือนที่ ๔ นี้มีความหมายเกี่ยวกับเหตุการณ์ภายในประเทศ ดาวจันทร์หมายถึงประชาชน การแสดงความเห็นสาธารณะ การแสดงประชามติ ความเครียด กิจการประมง การขนส่งทางน้ำ เรือนที่ ๑๐ มีความหมายถึงการบริหารราชการบ้านเมือง ดาวพลูโตหมายถึงการลอบสังหาร แผ่นดินไหว น้ำท่วม การฝ่าฝืนกฏหมาย การก่อม็อบ เรื่องลามกทางเพศ ขบวนการก่อการร้าย ความตาย การปฏิรูป
เมื่อได้นำเอาความหมายเรือน หรือ ภพ ดาวพระเคราะห์ต่างๆ ที่ได้รับอิทธิพลของสุริยคราสครั้งนี้มาประมวลวิเคราะห์ทำให้เห็นภาพได้ค่อนข้างชัดเจนว่า การปลุกระดมมวลชนเรียกร้องความถูกต้องของฝ่ายพันธมิตร และฝ่ายต่อต้านยังคงดำเนินต่อไป และจะเพิ่มความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ อาจมีการกระทบกระทั่งถึงขั้นเลือดตกยางออก เหตุการณ์ในสี่จังหวัดภาคใต้ก็เช่นเดียวกันจะรุกลามรุนแรง มีการสูญเสียชีวิตเลือดเนื้อของทั้งสองฝ่ายเพิ่มขึ้นทุกที นอกจากนี้ยังอาจได้รับภัยธรรมชาติ คือ แผ่นดินไหว น้ำท่วม เป็นเหตุให้มีผู้คนบาดเจ็บล้มตายสูญหายไม่น้อย
๒.โดยการตรวจสอบดวงชะตาของนักการเมืองสำคัญในวันที่เกิดคราส
๒.๑ ดวงชะตาของนายสมัคร สุนทรเวช
คุณสมัคร สุนทรเวช เกิดเมื่อวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๔๗๘ เวลา ๒๒.๐๐ น. กรุงเทพมหานคร เมื่อนำเอาดวงชะตาของคุณสมัครฯ มาเปรียบเทียบกับดวงประจำวันในวันที่เกิดสุริยคราส ปรากฏว่า จุดที่เกิดคราสสถิตอยู่ในเรือน หรือ ภพที่ ๗ และทับดาวศุกร์ของดวงชะตา เรือนที่ ๗ นอกจากนี้ จุดคราสยังทำมุมเล็งลัคนา (เรือน หรือ ภพที่ ๑) ซึ่งสถิตอยู่ในราศีมังกร โดยมีดาวเสาร์เป็นเจ้าของราศี
เรือนที่ ๗ มีความหมายถึงคู่ครอง หุ้นส่วน ผู้ร่วมงาน (สมาชิกพรรคพลังประชาชน) เรือนที่ ๑ หรือ ลัคนา หมายถึงเจ้าชะตา และดาวเสาร์หมายถึง การเมือง นักการเมือง ความดื้อรั้นไม่รับฟังความเห็นผู้อื่น ความเป็นความตาย การล้มละลาย การสูญเสียทรัพย์สินเงินทอง ความทุกข์โศกเศร้าเสียใจ การจองเวรผูกพยาบาท การเจ็บป่วยขั้นรุนแรงโดยเฉพาะโรคทางประสาท
เมื่อได้นำเอาความหมายเรือน หรือ ภพ ดาวพระเคราะห์ต่างๆ ที่ได้รับอิทธิพลของสุริยคราสครั้งนี้มาประมวลวิเคราะห์ทำให้เห็นภาพได้ค่อนข้างชัดเจนว่า สถานภาพของพรรคพลังประชาชนซึ่งมีคุณสมัครฯ เป็นหัวหน้าพรรค กำลังเคลื่อนเข้าสู่จุดดับ เป็นการปิดฉากชีวิตการเมืองของคุณสมัครฯ ในลักษณะโศกนาฏกรรมก่อนกำหนด วิบาก หรือผลกรรมที่คุณสมัครฯ กับลูกพรรค ได้กระทำไปในขณะที่กำลังมีอำนาจโดยการจองเวรพยาบาทคณะบุคคลที่ปฏิบัติหน้าที่ในองค์กรอิสระ เช่น คตส. กกต. และผู้ที่มีความคิดเห็นตรงข้าม ขัดผลประโยชน์ จะติดตามมาถึงในอนาคตอันใกล้
ผมขอทำความเข้าใจกับคุณสมัครฯ และท่านผู้อ่านว่า การเขียนบทความนี้ ผมมิได้มีเจตนาที่จะบิดเบือนความจริงให้เกิดความระส่ำระสายในหมู่คณะของคุณสมัครฯแต่อย่างใด ผมได้เขียนขึ้นตามตำราโหราศาสตร์ที่ผมได้ศึกษาเล่าเรียนมา มีเอกสารอ้างอิงทุกประเด็น
ขณะที่ผมกำลังเขียนบทความนี้ เป็นครบรอบวันเกิดปีที่ ๗๓ ของคุณสมัครฯ พอดี ในโอกาสนี้ ผมจึงขออวยพรให้คุณสมัครฯ หมดเคราะห์หมดโศกโรคภัย พ้นจากราชภัย ทัณฑ์ภัย อุปัทวะภัย รวมทั้งคราสภัย
อย่างไรก็ตาม พรของผมจะบังเกิดผลเป็นความจริงได้ ก็ต่อเมื่อคุณสมัครฯ ยึดถือปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์ได้แก่ มงคลสูตร หรือ มงคล ๓๘ ประการ โดยเฉพาะในหัวข้อเรื่อง อเสวนา จะ พาลานัง (ไม่คบคนพาล) และ ปฏิรูปเทสวาโส (การอยู่ในสถานที่และสังคมที่เหมาะสม) มีความละอายและเกรงกลัวต่อบาป มีความประพฤติดีทั้งกาย วาจา ใจ มีสัมมาทิฏฐิ ฯลฯ
๒.๒ ดวงชะตาของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เกิดเมื่อวันที่ ๓ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๐๗ ที่เมืองนิวคาสเซิล สหราชอาณาจักร เมื่อนำเอาดวงชะตาของคุณอภิสิทธิ์ฯ มาเปรียบเทียบกับดวงประจำวันในวันที่เกิดสุริยคราส ปรากฏว่า จุดที่เกิดคราสสถิตอยู่ในเรือน หรือ ภพที่ ๑ (ลัคนา) แต่เป็นโชคดีของคุณอภิสิทธิ์ฯ ที่จุดเกิดคราสนั้นมีองศาห่างจากลัคนา ๗ องศา ๔๕ ลิปดา ดวงชะตาของคุณอภิสิทธิ์ฯ จึงไม่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของคราสครั้งนี้อย่างไรก็ตาม ตามหลักวิชาโหราศาสตร์ก้าวหน้า เมื่อคำนวณแล้วปรากฏว่า ดวงประจำปี พ.ศ.๒๕๕๐ ของคุณอภิสิทธิ์ฯ (เริ่มตั้งแต่วันที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๕๐ - ๓ สิงหาคม ๒๕๕๑) ไม่ดีนัก เนื่องจากดาวเสาร์ บาปเคราะห์ใหญ่ทำมุมเบียนเป็นทุกข์โทษแก่เรือน หรือ ภพที่ ๑๐ เกี่ยวกับหน้าที่การงาน เช่นเดียวกับดาวอังคาร บาปเคราะห์ที่ทำมุมเบียนเป็นทุกข์โทษแก่เรือน หรือ ภพที่ ๗ เกี่ยวกับหุ้นส่วน ผู้ร่วมงาน (สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์) ดังนั้น ถึงแม้ว่าคุณอภิสิทธิ์ฯ จะได้รับส้มหล่นให้ก้าวขึ้นนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีได้ก็ตาม แต่คงจะต้องเคร่งเครัยดทำงานหนักเพราะต้องเผชิญวิกฤตปัญหาของบ้านเมืองในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องปัญหาปากท้องของประชาชน