|
บทบาทของดาวเสาร์ในปัจจุบัน พล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์
ผมได้เคยกล่าวถึงอิทธิพลของดาวพระเคราะห์ในวันที่เกิดแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิที่ได้สร้างภัยพิบัติขึ้นใน ๖ จังหวัดภาคใต้เมื่อวันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๔๗ และได้แสดงแผนที่วงโคจรของดาวเสาร์ในวันที่เกิดเหตุว่า ได้โคจรผ่านจุดที่เกิดเหตุพอดี จึงน่าจะถือได้ว่า ดาวเสาร์เป็นดาวพระเคราะห์หนึ่งที่มีอิทธิพลในวันที่เกิดเหตุซึ่งขณะนั้นโคจรวิกลคติถอยหลัง หรือ พักร อยู่ในราศีกรกฎและทำมุมเบียนเป็นทุกข์โทษ ๙๐ องศากับราหู หรือ โลก ตามความเชื่อของโหราจารย์บางท่าน นอกเหนือไปจากดาวพลูโตที่กำลังโคจรอยู่ในภพที่ ๘ ซึ่งเป็นภพมรณะของดวงเมืองซึ่งทำมุมเล็ง (๑๘๐ องศา) กับดาวจันทร์ และดาวจันทร์ทำมุมเล็งกับดวงอาทิตย์ ดาวจันทร์จึงถ่ายทอดพลังงานจากดวงอาทิตย์ไปให้แก่ดาวพลูโตซึ่งเป็นดาวพระเคราะห์ที่อยู่ไกลที่สุดในสุริยจักรวาลนี้ ตามหลักวิชาโหราศาสตร์ดวงดาว ดาวพระเคราะห์ที่จะมีอิทธิพลต่อดวงชะตาเมืองหรือดวงชะตาบุคคลมากเป็นพิเศษเมื่อดาวนั้นโคจรวิกลคติถอยหลัง หรือ พักร ซึ่งตามหลักวิชาดาราศาสตร์ถือว่า ดาวพระเคราะห์นั้นได้โคจรเข้ามาใกล้โลก และได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์โดยตรงจากดาวจันทร์และหรือดาวพระเคราะห์อื่นๆ ซึ่งทำหน้าที่ถ่ายทอดพลังงานจากดวงอาทิตย์ (คล้ายกับสถานีถ่ายทอดสัญญาณ หรือ รีพีทเตอร์ ในระบบวิทยุกระจายเสียงโทรทัศน์ และระบบโทรคมนาคมทั่วไป) เมื่อปลายปี พ.ศ.๒๕๔๖ ดาวเสาร์ได้เคยโคจรเข้ามาใกล้โลกที่สุด อีกไม่กี่วันต่อมาคือ ในวันที่ ๔ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๗ ก็ได้เกิดเหตุปล้นอาวุธปืนจำนวนมากกว่า ๒๐๐ กระบอกจากค่ายทหารที่จังหวัดนราธิวาส และนับตั้งแต่บัดนั้นมา การก่อการร้ายด้วยการเผา การวางระเบิด การลอบสังหารทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ของรัฐ ประชาชนพลเรือนผู้บริสุทธิ์ รวมทั้งพระสงฆ์ ได้เกิดขึ้นเป็นรายวันยืดเยื้อมาจนถึงปัจจุบันนี้ เมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๗ ดาวเสาร์ได้โคจรเข้ามาใกล้โลกอีกครั้งหนึ่ง จึงได้แสดงผลให้ปรากฏที่สำคัญคือ เกิดแผ่นดินไหว และคลื่นยักษ์สึนามิที่ได้สร้างภัยพิบัติขึ้นใน ๖ จังหวัดภาคใต้เมื่อวันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๔๗ ติดตามด้วยเหตุการณ์ปฏิบัติการก่อการไม่สงบรายวันในสามจังหวัดภาคใต้ และเกิดอัคคีภัยขึ้นที่ตัวอาคารเก็บอุปกรณ์อะไหล่รถยนต์ที่ถนนพระราม ๖ เมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๘ ทำให้เกิดการสูญเสียทั้งทรัพย์สินและชีวิตของเจ้าหน้าที่ผจญเพลิงหลายนาย ต่อมาอีกไม่กี่วันได้เกิดอัคคีภัยที่ร้านจำหน่ายของเล่นในต่างจังหวัด นอกจากการสูญเสียทรัพย์สินที่ถูกพระเพลิงเผาพลาญแล้ว ยังคลอกคร่าชีวิตผู้ที่อยู่ในอาคารนั้นอีกหลายคน เมื่อตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่า ในวันเกิดเหตุอัคคีภัย ดาวเสาร์ทำมุมเล็ง (๑๘๐ องศา) กับดวงอาทิตย์ และดาวจันทร์ซึ่งอยู่ร่วมกับดวงอาทิตย์ในราศีธนูมีองศาใกล้เคียงกันมาก เนื่องจากใกล้กับวันจันทร์ดับอมาวสี (แรม ๑๔ ค่ำ) ดาวเสาร์จึงได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์อย่างเต็มที่ ในขณะเดียวกัน ดาวเสาร์ยังทำมุมเบียน ๙๐ องศากับราหู หรือ โลกด้วย จึงถ่ายทอดพลังงานมาสู่โลกในลักษณะที่เป็นทุกข์โทษเกิดภัยพิบัติขึ้น ตามคติของโหราจารย์ไทยดั้งเดิมได้กล่าวถึงคุณสมบัติของดาวเสาร์ว่า เป็นธาตุไฟ และดวงอาทิตย์เป็นธาตุไฟ เมื่อทั้งสองทำมุมถ่ายทอดพลังานให้กันอย่างเต็มที่จึงทำให้เกิดเพลิงไหม้ขึ้น เมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๘ ดาวเสาร์ได้โคจรวิกลคติถอยหลังจากราศีกรกฎเข้าไปสู่ราศีมิถุนซึ่งเป็นราศีธาตุลม การที่ดาวพระเคราะห์ใหญ่ได้แก่ ดาวเสาร์และหรือดาวพฤหัสบดีโคจรอยู่ในราศีธาตุลมซึ่งได้แก่ ราศีมิถุน ราศีตุล และราศีกุมภ์ จะมีอิทธิพลเกี่ยวกับสภาพดินฟ้าอากาศ ลมพายุมีการเปลี่ยนแปลงทิศทาง เกิดพายุใหญ่ เรื่องนี้ ผมได้เคยกล่าวไว้แล้วในบทความเรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับวิชาการโหราศาสตร์ ซึ่งอ้างอิงบทพระราชนิพนธ์ พระมหาชนก ซึ่งพระองค์ท่านได้แสดงจุดที่ตั้งของดาวเสาร์ และดาวพฤหัสบดีในดวงวันที่เกิดเหตุเรือพระที่นั่งของพระมหาชนกประสบวาตะภัยอัปปางลงในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งดาวทั้งสองสถิตอยู่ในราศีธาตุลมทั้งคู่ โดยมีดวงอาทิตย์ทำมุมเบียนเป็นทุกข์โทษร่วมด้วย กับบทความเรื่อง ขงเบ้งเชิญเทพยดาให้เรียกลมมาเผาทัพเรือโจโฉได้จริงหรือ? ซึ่งเป็นบทความที่กล่าวถึงความเชี่ยวชาญในวิชาโหราศาสตร์ของขงเบ้ง ทำให้ทราบว่า ในวันที่เผากองทัพเรือของโจโฉนั้น จะมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางของลมโดยฉับพลัน เนื่องจากในวันที่เกิดเหตุนั้น ทั้งดาวเสาร์และดาวพฤหัสบดีสถิตอยู่ในราศีมิถุนและราศีกุมภ์ ซึ่งเป็นธาตุลมทั้งคู่ตามลำดับ การโคจรวิกลคติถอยหลังเข้าไปสถิตในราศีมิถุนของดาวเสาร์เมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๘ นี้ จึงแสดงอิทธิพลปรากฏให้เห็นคือ มีลมแรงเป็นพิเศษ ต่อจากนั้น อากาศของประเทศไทยในวันต่อมาอีกหลายวันมีอุณหภูมิลดต่ำลงมากกว่าปกติถึง ๒-๓ องศา เมื่อวันที่ ๑๗ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๘ เวลาประมาณ ๐๙:๑๖ น. ได้เกิดอุบัติภัยรถไฟใต้ดินชนกันอย่างไม่คาดคิด เมื่อได้ผูกดวงในวันเวลาที่เกิดเหตุแล้วปรากฏว่า นอกจากจะทำมุมเล็ง ๑๘๐ องศากับดวงอาทิตย์แล้ว ยังทำมุมเบียนเป็นทุกข์โทษ ๙๐ องศากับดาวจันทร์ และดาวพฤหัสบดีตามลำดับ และเมื่อนำดวงวันเกิดเหตุมาเปรียบเทียบกับดวงเมืองประเทศไทยแล้ว ปรากฏว่า ดาวอังคารได้โคจรเข้ามาในภพที่ ๘ ซึ่งเป็นราศีพิจิก เป็นภพมรณะของดวงเมืองเป็นการเสริมกำลังดาวพลูโตซึ่งสถิตอยู่แต่เดิมแล้วอีกส่วนหนึ่ง ตามหลักวิชาโหราศาสตร์ดวงดาว ราศีพิจิกเป็นราศีธาตุน้ำ โดยมีดาวอังคารและดาวพลูโตเป็นเจ้าของเรือนหรือภพ ดังนั้น การที่ดาวเจ้าของเรือนเข้ามาสถิตในเรือนของตนจึงแสดงอำนาจได้อย่างเต็มที่ไม่เกรงใจผู้ใด นอกจากนี้ ดาวอังคารจรยังทำมุมเล็ง ๑๘๐ องศากับดาวอังคารเดิมซึ่งสถิตอยู่ในภพที่ ๒ ของดวงเมือง ภพที่๒ นี้เป็นภพที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สมบัติของประเทศ ดาวอังคาร มีความหมายถึง กิจการอุตสาหกรรม การต่อสู้ การสงคราม การทหาร อาวุธ เลือด อุบัติเหตุ โลหะที่เป็นตัวนำไฟฟ้าโดยเฉพาะทองแดง เมื่อวิเคราะห์ตามความหมายแล้วดูจะเกี่ยวข้องกับประเด็นหลังๆ คือ อุบัติเหตุที่ทำให้มีการเสียเลือดด้วยโลหะ (ตัวรถไฟ) ที่มีส่วนประกอบด้วยตัวนำไฟฟ้า (รางรถไฟที่ใช้เป็นสื่อตัวนำไฟฟ้าให้รถไฟเคลื่อนที่ไปได้) ดังกล่าวแล้วว่า ดาวอังคารซึ่งเป็นเจ้าการที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุรถไฟใต้ดินชนกันนั้น ดูจะไม่เกี่ยวข้องกับดาวเสาร์ แต่เมื่อวิเคราะห์แล้ว ดาวเสาร์ในขณะนี้ทำมุมเบียนแก่ภพที่ ๖ หรือภพอริของดวงเมือง ซึ่งเกี่ยวข้องกับสุขภาพ ข้าทาสบริวาร และการให้บริการต่างๆ ของเจ้าชะตา ในกรณีรถไฟฟ้าใต้ดินนี้ก็นับได้ว่า เป็นบริการสาธารณะประเภทหนึ่งของเมืองไทย อาจกล่าวได้ว่า ดวงชะตาเมืองไทยในปัจจุบันนี้ชอกช้ำมาก เพราะได้รับอิทธิพลจากดาวพระเคราะห์ต่างๆ มะรุมมะตุ้มประดังประเดเข้าเป็นระลอกๆ ในลักษณะผีซ้ำด้ำพลอย แผลเก่ายังไม่ทันหายก็เกิดเหตุขึ้นในที่เดียวกันซ้ำขึ้นมาอีก ดาวอังคารจะโคจรอยู่ในภพที่ ๘ ซึ่งเป็นภพมรณะของดวงเมืองประเทศไทยจนถึงประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ส่วนดาวพลูโตจะอยู่ในภพนี้ไปจนถึงประมาณปลายเดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๕๐ สำหรับดาวเสาร์จะยังทำมุมเบียนกับภพที่ ๖ ซึ่งเป็นภพอริของดวงเมืองฯ ไปจนถึงประมาณปลายเดือนสิงหาคม ๒๕๕๐ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาอันยาวนานนี้ ถ้าไม่มีดวงอาทิตย์ หรือ ดาวบาปเคราะห์อื่นๆ จรเข้ามาทำมุมทับ เล็ง ทำมุมเบียนเป็นทุกข์โทษ หรือ เกิดสุริยคราส จันทรคราส ขึ้นในภพที่ ๖ ภพที่ ๘ และภพที่ ๑๒ ของดวงเมืองฯ อุบัติภัยรุนแรงต่างๆ ไม่น่าจะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ตามหลักพระพุทธศาสนาแล้ว เราสามารถผ่อนบรรเทาทุกข์โทษต่างๆ ได้ หากผู้บริหารประเทศทุกระดับชั้นรวมทั้งประชาชนคนไทยได้ร่วมกันน้อมนำหลักธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาศึกษาให้เกิดความรู้และประพฤติตาม พระธรรมนั้นย่อมคุ้มครองต่อผู้นั้นเสมอ และยังมีอานิสงส์ต่อเนื่องแผ่กระจายยังความสงบสุขร่มเย็นเป็นสุขแก่สังคมชุมชนและบ้านเมืองได้ การยึดติดในวัตถุนิยมซึ่งเป็นกามคุณโดยไม่คำนึงถึงการพัฒนาจิตใจให้อยู่ในศีลธรรม คุณธรรม ความวิบัติต่างๆ ย่อมจะปรากฏให้เห็นเป็นระยะๆ ดังเช่นในขณะนี้
|