กริ๊ง....สาวมิสทีนมาแล้วค่ะ
ปัญหาของคนงาม
โดย
คนกันเอง
สุภาพสตรีท่านนี้มากับเพื่อนคนหนึ่ง หน้าตาผิวพรรณดูคมคายดีทั้งคู่ แถมยังมีเสน่ห์น่ารักอยู่ไม่น้อย ขออภัยครับ คำว่าเป็นคนน่ารักนั่น ผมหมายถึงเป็นที่น่ารักของคนทั่วๆ ไป ที่ได้พบเห็นเท่านั้น ผมเองน่ะคงหมดสิทธิ์ที่จะมีความรู้สึกเช่นนั้นเกิดขึ้นกับใครอีกอย่างเด็ดขาด เพราะมันได้อำลาผมไปอย่างถาวรแล้วตั้งแต่หลายสิบปีก่อน ขืนปล่อยให้มันหวนกับมาอีก อาจจะโดยประมาทเลินเล่อหรือรู้เท่าไม่ถึงการด้วยประการใดๆ รับรองว่าจะต้องเสียผู้เสียคน หรือไม่ก็อาจถูกประณามว่า ไอ้เฒ่าเฮด สเนค แน่ๆ
พอเธอนั่งลงเบื้องหน้าผมเรียบร้อย ผมถามว่ามาหาผมได้อย่างไร ใครเป็นคนแนะนำ เธอตอบว่ามาจากเน็ต ซึ่งคำถามแบบนี้ผมมักจะถามคนที่มาหาผมเป็นประจำจนติดปาก ทั้งนี้เพื่อต้องการเก็บข้อมูลไว้จัดเรตติ้งส่วนตัว ว่าอะไรมีผลมากน้อยกว่ากัน จะได้วางแผนการตลาดให้ถูกต้อง
เมื่อรู้ที่มาที่ไปแล้ว ผมก็ขอรายละเอียดวัน เดือน ปีเกิด และเวลาเกิด ซึ่งมีดังนี้ วันเกิดเป็นวันเสาร์ที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๐๙ เวลาเกิดประมาณ ๑๓.๓๕ น. ของกรุงเทพมหานคร
ในระหว่างที่ผมกำลังวางดวงให้ได้เวลาที่ถูกต้อง ตรงกับรูปหน้าตามหลักของวิชา เธอได้พูดแทรกขึ้นมาว่า อยากให้ผมทายว่าเธอมาด้วยเรื่องอะไร ซึ่งตรงนี้ถ้ามองอีกมุมหนึ่งเหมือนการท้าทาย หรือต้องการลองเชิงหมอดู แต่ดูเธอก็พูดยิ้มไม่ได้เครียดหรือเอาจริงเอาจังอะไรมากนัก ซึ่งผมก็เคยโดนแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง ก็เลยบอกไปทีเล่นทีจริงว่า จะไปรู้เหรอมันมีเรื่องตั้งหลายร้อยหลายพันเรื่อง
แต่พอเห็นดวงออกมาดังที่ปรากฏอยู่ข้างบนนี้ก็เบาใจขึ้น เพราะคนราศีเมษขณะนี้ราหู (๘) มันกำลังทับลัคน์ ลงแบบนี้มันจะมีเรื่องเกี่ยวกับโชคลาภกระไรได้ นอกจากต้องเป็นเรื่องไม่ดีแน่ เช่นการจะต้องย้ายที่ทำงาน ย้ายบ้านที่อยู่อาศัย นอกจากราหู (๘) ทับลัคน์แล้ว มองไปที่เสาร์ (๗) ก็กำลังทับจันทร์ (๒) และโยคหน้าลัคน์ ต้องเครียดเรื่องใดเรื่องหนึ่งแน่นอน พอนับอายุจรดูย่าง ๓๘ ปีก็ตกที่ภูมิพฤหัส (๕) พอดี และดาวเสาร์ (๗) เป็นดาวบริวารเดิม ต้องแปรสภาพมาเป็นกาลกิณีจร นั่นหมายถึงต้องเครียดที่เกี่ยวเนื่องกับบริวาร หรือลูกน้องที่ทำงานเป็นต้นเหตุ ยังมีอยู่จุดหนึ่งที่น่าสนใจและจะเป็นตัวตัดสินได้คือ พฤหัส (๕) นั่นคือพอหลังวันเกิดไปแล้ว อายุจรจะไปที่ราหู (๘) หมายถึงพฤหัส (๕) จรเป็นกาลกิณีบ้าง และก็เป็นดาวอายุเดิมด้วย ทว่าดาวดวงนี้มันจะเข้าเรือนอริในวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๔๗ ซึ่งตอนนั้นยังไม่เป็น กาลกิณีจร แต่มันก็เข้าเรือนอริ ถือว่าให้โทษคือต้องออกจากงานแน่ๆ ถ้าไม่หาทางแก้ไขเสียก่อน ก่อนที่จะถึงเวลานั้น
แตjในจุดที่ผมคาดคะเนมาทั้งหมด ก็ยังทำให้ผมไม่มั่นใจเต็มร้อย ต่อเมื่อย้อนกลับไปเดือนมกราคม ๒๕๔๗ ยาวไปจนถึงวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ปีเดียวกัน ช่วงนั้นการเดินหรือการโคจรของดาวพฤหัส (๕) ลดองศาลิปดามาอย่างต่อเนื่อง ย่อมต้องส่อเค้าว่ามีการกินเส้นกันแล้วในวงงานของเธอ โดยเฉพาะกับคนที่เหนือกว่าโดยตำแหน่งงาน
จึงสรุปคำพยากรณ์กับเธอว่า มีปัญหาเกี่ยวกับงาน อันสืบเนื่องมาจากบริวาร คือผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาเป็นต้นเหตุ และมีโอกาสเปลี่ยนตำแหน่งการงานสูงมาก จนถึงขั้นต้องออกจากงาน.....ผมขมวดคำพยากรณ์สั้นๆ ไว้เพียงเท่านั้น เพราะมองไม่เห็นว่าจะเป็นเรื่องอื่นไปได้ เว้นแต่เธอจะอายุสัก ๙๐ หรือ ๑๐๐ ปี ก็จะทายว่าให้จองวัดได้เลย เพราะตายแน่ ก็จะไม่ตายได้อย่างไรล่ะในเมื่อราหู (๘) ก็กำลังเข้าทับลัคนา และเล็งดาวอายุเดิม เสาร์ (๗) กาลีก็เข้าทับจันทร์ แถมยังเล็งลัคนาในคืออังคาร (๓) อีก และดาวอายุคือพฤหัส (๕) เดิมก็จ่อจะเข้าเรือนอริ จากนั้นพอถึงวันเกิดก็จะแปรสภาวะเป็นกาลีจร
แต่นี่เธออายุแค่นำด้วยเลข ๓ แก่ๆ ใกล้จะถึงเลข ๔ นำ ยังสวยพริ้งแถมยังแพรวพรายเจ้าเสน่ห์อีกต่างหาก ผมก็เลยเน้นมาที่งาน และเธอก็ยอมรับว่าใช่ คือ มีปัญหามาจากลูกน้องรายงานหัวหน้าที่สูงขึ้นไปอีกชั้น ขอให้ลาออกหรือเรียกว่า จ้างให้ออกนั่นแหละ แต่ผมก็คัดค้านว่าไม่ควรออก ขอให้หาทางใดทางหนึ่งพบกับหัวหน้า พูดกับหัวหน้า ซึ่งน่าจะมีทางต่อรองกันได้ เช่นการเปลี่ยนแผนกงาน เพราะขณะที่มาดูดาวพฤหัส (๕) ยังเดินหน้าให้คุณอยู่ในราศีสิงห์ อันเป็นเรือนตรีโกณหรือที่เรียกกันว่าร่วมธาตุ กว่าจะถึง ๒๓ สิงหาคม ๔๗ ก็อีกตั้งเกือบ ๒ เดือน ดูเธอจะคล้อยตามผมไปด้วย จึงได้ต่อโทรศัพท์ถึงหัวหน้า นัดเคลียร์ปัญหากันในวันพฤหัสบดีที่ ๑ กรกฎาคม ๔๗ เพราะเห็นว่าวันนั้นจันทร์ (๒) จรดีมาก ผลจะออกมาเป็นอย่างไร ในขณะที่เขียนเรื่องนี้ผมยังไม่ได้รับรายงาน แต่คิดว่าน่าจะมีทางออก ที่ดีกว่าต้องออกจากงาน !!!
แต่....เธอจะออกจากงานหรือเพียงย้ายแผนกงาน หรือจะเปลี่ยนเป็นเดินทางไกลไปให้พ้นรัศมีของดวงดาว หรือจะย้ายที่อยู่ชั่วคราวสักปี คือ จากบ้านย้ายไปอยู่อพาร์ทเม้นท์ อย่างไรก็ตาม แต่วันนั้นผมก็พอเอาตัวรอดได้ ไม่ถึงกับต้องไปหาหมอเย็บแผลหน้าแตก...