ชัยภูมิไทย สอบตก..
ถ้าเอ่ยถึง ฮวงจุ้ย ผู้อ่านน้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก แต่ถ้าเอ่ยถึง ชัยภูมิไทย หลายคนอาจจะคิดไปถึงตำราการปลูกเรือน ที่ว่าด้วยเรื่องเกี่ยวกับการเลือกพื้นที่ที่อยู่อาศัย การชิมดิน การหาวันปลูกเรือนแบบง่ายๆ การคัดเลือกเสาสร้างเรือนเป็นต้น ซึ่งตำราการปลูกเรือนนี้พบเห็นอยู่ในตำราพรหมชาติ ซึ่งไม่ได้บอกเลยว่าสิ่งที่กล่าวไว้ในตำรานั้นดีอย่างไร ใช้ได้สำหรับทุกคนหรือไม่ กลายเป็นว่าวิชาชัยภูมิของไทยเป็นเหมือนตำราสำหรับช่างสร้างบ้านสมัยก่อนเอาไว้คุยและเรียกค่าก่อสร้างบ้านหรือค่าวิชากับผู้ที่จะสร้างบ้านได้มากขึ้นนั่นเอง
แท้จริงแล้ววิชาที่เกี่ยวกับชัยภูมิของไทย มีมานานแล้วและวิจิตพิสดารไม่แพ้วิชาของชนชาติอื่นเลย เพียงแต่ไม่ค่อยเผยแพร่เป็นที่รู้จักแก่สายตาคนทั่วไป ทั้งนี้มีสาเหตุอยู่ก็คือ วิชาเหล่านี้จะถ่ายทอดให้เฉพาะผู้ที่ศึกษาโหราศาสตร์จนถึงขั้นการพยากรณ์เดิมและจรได้เป็นอย่างดีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นโหราศาสตร์แขนงไหนของไทย เช่น ดวงจักรราศี เลข ๗ ตัว หรือแม้แต่วิชาทักษา ทำให้ผู้ที่เรียนมีจำนวนน้อย อีกทั้งวิชาว่าด้วยชัยภูมินี้ก็มีผสมผสานกับการปรับแก้หรือเสริมชะตาชีวิตด้วยวิธีอื่น ไม่ได้แยกออกมาเป็นเอกเทศเหมือนฮวงจุ้ยของจีนหรือ Vastu ของอินเดีย อีกทั้งคนไทยไม่ใช่ผู้ชำนาญทางด้านการส่งเสริมการตลาดแบบคนจีน มักจะเก็บวิชาเอาไว้คนเดียวหรือสอนให้เฉพาะลูกหลานหรือคนที่เหมาะสมเท่านั้น จึงทำให้วิชาว่าด้วยชัยภูมิเป็นเสมือนวิชาที่ปกปิดหรือไม่เคยมีอยู่ในเมืองไทยในสายตาคนทั่วไป
เรื่องชัยภูมิไทยนี้ มีการใช้เพื่อส่งเสริมชะตาชีวิตของเจ้าของบ้านไม่แตกต่างจากวิชาฮวงจุ้ย มีหลายระดับขึ้นอยู่กับความถนัดและวิชาที่ใช้ของหมอดูอย่างง่ายๆ ก็เป็นเรื่องดูพื้นที่ว่างเปล่าที่ยังไม่สร้างบ้านเรือน หรือดูตำแหน่งเสาเอก เสาโท ทิศทางของเรือน และการหาวันที่ดีในการสร้างบ้านหรือหาฤกษ์ลงเสาเอกเป็นต้น
ระดับที่ลึกไปกว่านั้น ก็คือ การจัดตำแหน่งเครื่องเรือน ห้องน้ำ ห้องนอน ทิศหัวนอน ให้เหมาะสมกับผู้ที่อยู่อาศัยแต่ละคน หรือการอ่านชะตาชีวิตของผู้ที่อยู่อาศัยในบ้านหลังหนึ่งๆ ผ่านทางตำแหน่งทิศทางของบ้าน เป็นต้น
การปรับตำแหน่งเครื่องเรือนภายในบ้านหรือสถาปัตยกรรมภายใน ก็เป็นส่วนหนึ่งของวิชาชัยภูมิไทยด้วยเช่นกัน บางครั้งการปรับแก้ไม่จำเป็นต้องทุบ รื้อ ถอน โครงสร้างของบ้าน เพียงแต่จัดแต่ง ต่อเติมสิ่งเล็กๆ น้อย ๆ หรือการใช้สีเป็นตัวเสริม ก็อยู่ในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน ที่ผู้อ่านเห็นว่าวิชาของต่างประเทศมีข้อดีหรือใช้อย่างไรได้บ้างนั้น วิชาชัยภูมิของไทยก็มีใช้แบบเดียวกันหรืออาจจะมีบางอย่างมากกว่าเสียด้วยซ้ำ อย่างเช่น สามารถแนะนำให้ปรับแต่งสภาพบ้านให้เหมาะสมกับเจ้าชะตาโดยดูผ่านดวงชะตาของเจ้าของบ้าน การอ่านผ่านเลขที่บ้าน หรือแม้แต่การจับยามกาลชะตา โดยไม่ต้องไปดูสถานที่ก็ทำได้ เป็นต้น
วิชาสายใดบ้างที่ใช้กับชัยภูมิแบบไทย ๆ
เท่าที่ผู้เขียนสัมผัสหรือพบเจอการใช้วิชาโหราศาสตร์กับเรื่องชัยภูมิในระดับที่กล่าวในข้างต้นนั้น ก็มีดังนี้
๑. วิชาเลข ๗ ตัว ใช้ประกอบกับทักษา
๒. วิชาโหราศาสตร์แบบลัคนาเดียว
๓. วิชาโหราศาสตร์แบบลัคนาเดียวใช้ร่วมกับทักษา
๔. วิชาทักษายุค
ชัยภูมิไทยนั้นจะใช้เพียงทิศแปดทิศเท่านั้น ไม่นิยมซอยทิศให้ละเอียดมากไปกว่านั้น และปรับแต่งชัยภูมิของไทยมักจะใช้การปรับผ่านดวงชะตาบุคคลโดยเฉพาะเจ้าบ้านที่เป็นใหญ่หรือเป็นผู้ทำรายได้ให้กับคนในครอบครัวเป็นหลัก มีทั้งการปรับแต่งจากพื้นดวงเดิม และปรับจรปีต่อปี ส่วนการดูทิศหน้าบ้านประกอบจะมีเพียงบางสายวิชาเท่านั้น (ของไทยนิยมวัดทิศหน้าบ้านซึ่งต่างจากฮวงจุ้ยของจีนที่วัดจากทิศหลังบ้าน)
สิ่งที่ผู้อ่านหลายท่านเคยพบเห็นกันมาก่อนคือ เมื่อไปดูดวงกับหมอ มักจะโดนทักหรือทายสิ่งของที่อยู่หน้าบ้านบ้าง หลังบ้านบ้าง ทั้งๆ ที่ตัวหมอเองไม่เคยไปเห็นมาก่อน อาศัยอ่านผ่านดวงชะตาของลูกค้าเท่านั้น เพียงแค่นี้ผู้ที่ศึกษามาทางด้านชัยภูมิไทยก็สามารถแก้ไขปรับดวงชะตาของลูกค้าให้ดีขึ้นได้ด้วยการปรับชัยภูมิภายในบ้านของลูกค้าที่นั่งอยู่ตรงหน้าได้ (ทั้งๆ ที่สามารถแก้ไขได้เช่นเดียวกับฮวงจุ้ย แต่ไม่สามารถเรียกค่าบริการได้เท่ากับการเชิญซินแสไปดูสถานที่ นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่บางคนหันเหไปเริ่มต้นเรียนฮวงจุ้ย เพียงเพื่อปรับราคาค่าบริการได้ง่ายขึ้นนั่นเอง) การปรับชัยภูมิแบบไทยมีข้อดีอยู่อย่างหนึ่งคือ สามารถตรวจเช็คเหตุการณ์ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด ไม่มั่วแบบว่า ปรับแล้วดีน่อ แต่จะดีเมื่อไหร่ อั้วบอกให้ม่ายล่าย ของอย่างนี้ขึ้นอยู่กับฟ้า เป็นความลับของสวรรค์ ถ้าลื้อทำความดีมากๆ ฟ้าย่อมมีตาประทานโชคแก่ลื้อเอง
บางครั้งผู้ที่ใช้วิชานี้ ไม่จำเป็นต้องดูจากดวงกำเนิดของลูกค้าก็ได้ อาจจะใช้ยามกาลชะตาเป็นตัวตั้งต้นในการคำนวณหาวิธีแก้ชัยภูมิเพื่อปรับดวงชะตาให้ลูกค้าได้เลย
ครั้งหนึ่งผู้เขียนไปตัดผมที่ร้านทำผมใกล้บ้านพร้อมกับ ผบ.ทบ. ขณะที่ตัดผมอยู่นั้นเจ้าของร้านก็เอ่ยเรื่องสามีที่มีเมียน้อยกำลังจะเก็บเสื้อผ้าไปอยู่กับเมียน้อย ครั้น ผบ.ทบ. ผู้เขียนได้ยินดังนั้น ก็ถ่ายทอดคำสั่งด่วนให้ผู้เขียนหาทางช่วยทันที ผู้เขียนใช้การจับยามแบบทักษายุคแล้วแนะนำให้เจ้าของร้านหารถยนต์เด็กเล่น ไปวางไว้ที่ตำแหน่งหัวเตียงในห้องนอนของเจ้าของร้าน ซึ่งเจ้าของร้านก็รีบจัดการในวันนั้นเลย
หลังจากนั้นเมื่อผู้เขียนกลับไปตัดผมที่ร้านนี้อีกครั้ง เจ้าของร้านก็มาเล่าถึงผลของการวางสิ่งของที่หัวเตียงว่า สามีของเจ้าของร้านได้กลับมาเก็บเสื้อผ้าในวันรุ่งขึ้นเพื่อจะไปอยู่กับเมียน้อย ได้เห็นรถเด็กเล่นที่อยู่บนหัวเตียง (รถคันนี้เป็นของเล่นของลูก) ก็เอ่ยว่า นี่เล่นของหรือเปล่า จากนั้นก็ออกจากบ้านหายไปหนึ่งวัน วันต่อมาสามีเจ้าของร้านก็หอบเสื้อผ้ากลับมา และบอกว่าได้เลิกกับเมียน้อยแล้ว...
อะไรจะขนาดนั้น... โอ้โห..วิชาเราใช้ได้จริงๆ คงเป็นบุญของเจ้าของร้านตัดผมรายนี้ด้วย (ผู้เขียนนึกในใจนะครับ) ผู้เขียนมาทราบภายหลังว่า บุตรของเจ้าของร้านรายนี้เป็นเด็กออร์ทิสติกและรถของเล่นคันนั้นเป็นของที่สุดโปรดของเด็ก เมื่อฝ่ายสามีเห็นรถเด็กเล่นในห้องนอน คงจะมีสำนึกของความเป็นพ่อและตัดสินใจกลับมาในที่สุด
ทางสายวิชาทักษายุค มีการหาดวงชะตาบ้านจากทิศทางหน้าบ้านและประตูบ้าน สร้างรูปแบบดวงมาตรฐานขึ้นมาได้ 768 รูปดวง คล้ายๆกับทางสายฮวงจุ้ยที่มีรหัสบ้าน เมื่อนำมาอ่านประกอบกับดาวจรปัจจุบัน สามารถทำนายหรือปรับแก้ไขจุดบกพร่องต่างๆ ในแต่ละช่วงเวลาได้ ตัวอย่าง บ้านของผู้เขียนเอง เมื่อผูกเป็นรูปดวงบ้านได้ตามนี้

มีอยู่ช่วงหนึ่ง ดาวเจ้าเรือนลาภะกำลังทำงาน ผู้เขียนจึงย้ายตุ่มน้ำที่อยู่หลังบ้าน (ตำแหน่งลาภะ) ออกในตอนเช้า จากนั้นก็ออกไปเดินเที่ยวห้าง เมื่อกลับมาถึงบ้านตอนเย็นก็พบไปรษณียบัตรสองใบจากห้างสรรพสินค้าใกล้บ้านส่งมา ให้ลูกของผู้เขียนสองคน (ได้ไปรษณียบัตรคนละใบ) ไปรับสร้อยคอทองคำคนละหนึ่งสลึงจากทางห้างจากการที่ส่งคูปองชิงโชค นี่ก็เป็นตัวอย่างที่ผู้เขียนใช้ปรับแก้ภายในบ้านอยู่เป็นครั้งคราว เพื่อทดสอบวิชานั่นเอง
การจัดแต่งเครื่องเรือนหรือปรับทัศนวิสัยภายในบ้านเพื่อส่งเสริมดวงชะตาของผู้อาศัยนั้น อาจจะอ่านผ่านสิ่งต่างๆ ได้หลากหลาย อย่างเช่น อ่านผ่านเลขที่บ้าน หรือว่ามีสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เกี่ยวพันกับบ้านหลังที่ต้องการดูก็สามารถนำมาใช้ได้เช่นกัน ขอยกตัวอย่างการอ่านเลขที่บ้านจากเว็ปที่เกี่ยวกับการพยากรณ์ที่ผู้เขียนเข้าไปตอบสักตัวอย่างหนึ่ง ที่ยกตัวอย่างนี้มาก็เพราะเป็นตัวอย่างที่หลายๆ ท่านได้เห็นเป็นพยานมาแล้ว ไม่ได้ยกเมฆขึ้นมาเพื่อสนับสนุนบทความนี้ให้ดูน่าเชื่อถือนะครับ
เรื่องก็มีอยู่ว่า มีผู้สนใจให้ดูว่าบ้านเลขที่ 315/152 เป็นอย่างไรบ้าง และวิธีแก้ไขอย่างไร โดยเข้ามาถามเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2548
ก่อนที่จะตอบคำถามนั้น จำเป็นต้องเช็คข้อมูลดูก่อนว่าสิ่งที่ทำนายออกไปนั้นถูกต้องใกล้เคียงกับสภาพจริงของผู้ที่ถามหรือไม่ โดยทำนายออกไป 3 ข้อ คือ
จากเลขที่บ้าน ผู้เขียนทำนายโดยใช้วิชาทักษายุคว่า
๑. ลูกสาวของเจ้าของคำถาม เป็นคนฉลาด กล้าแสดงออกเหมือนเด็กผู้ชาย หน้าตาค่อยข้างไปทางพ่อมากกว่าแม่
๒. น่าจะอยู่บ้านนี้มาประมาณ ๑๐-๑๑ ปี ไม่ใช่บ้านใหม่
๓. เมื่อ ๓ ปีก่อน แฟนเจ้าของคำถามไปมีกิ๊ก คาดว่าเป็นเพื่อนร่วมงานหรือคนที่อยู่ในที่ทำงานเดียวกัน ส่งผลให้แยกทางกันเมื่อปีที่ผ่านมา
ซึ่งเจ้าของบ้านหลังนี้ตอบว่า คำทายข้อ 1 และข้อ 3 ถูกต้อง ส่วนข้อ 2 คลาดเคลื่อนไป เพราะบ้านหลังนี้เป็นบ้านใหม่ เข้าอยู่แบบซิงๆเลย และอยู่มาก็ 9 ปีกว่าแล้ว (หน้าแตกอีกแล้ว..ที่ทายคลาดเคลื่อนไปเกือบปี) จริงสิ..ผู้เขียนลืมไปว่า การคำนวณย้อนกลับไปในอดีตนั้น จะนับตั้งแต่ช่วงที่ถือกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของซึ่งก็น่าจะไม่ผิดเพราะปกติเมื่อซื้อบ้านใหม่ย่อมมีการตกแต่งก่อนเข้าอยู่กันทุกราย และบางรายใช้เวลากว่าหนึ่งปี
เนื่องจากผู้เขียนใช้วิชาทักษายุค อาจทำให้ผู้อ่านส่วนใหญ่ไม่เข้าใจหรืออยากรู้ว่าทำไมถึงทำนายได้ ผู้เขียนจึงขอเปลี่ยนเป็นรูปดวงจักรราศีเพื่อให้ผู้อ่านพอมองเห็น ดังนี้
ถ้ามองผ่านดวงจักรราศี ให้นับย้อนจากตนุลัคน์เดินกลับไปจนถึงราศีกุมภ์ ตามแนวทางชัณษาจรของอาจารย์อรุณ จะได้ ๑๐ ปี ย่างปีที่ ๑๑ เช่นกัน ส่วนว่าทำไมถึงนับไปถึงราศีกุมภ์นั้น มีเหตุและผลอยู่ซึ่งต้องอธิบายยืดยาวเกินกว่าจะเป็นบทความสั้นๆ ได้ จึงขอละเอาไว้ ท่านผู้อ่านหลายท่านคงอ่านได้ว่าบ้านหลังนี้เปรียบเสมือนลาภะของเจ้าของคำถามนี้ ใช่ครับ..เป็นบ้านของทางฝ่ายสามีซึ่งให้เจ้าของคำถามอยู่อาศัยอยู่กับลูกสาว
หลังจากเช็คข้อมูลเบื้องต้นว่ารูปดวงนี้ถูกต้องแล้ว ผู้เขียนได้แนะนำการจัดเครื่องเรือนเพื่อส่งเสริมด้านการงานของเจ้าของคำถาม และแจ้งให้ทราบว่าเจ้าของคำถามนี้สามารถอยู่บ้านหลังนี้ได้อีกประมาณห้าปีก่อนที่จะย้ายออกจากบ้านหลังนี้
อย่างที่เกริ่นเอาไว้แล้วว่า วิชาว่าด้วยชัยภูมิของไทยนั้น มีอะไรหลายอย่างที่ดูพิสดารในสายตาของคนทั่วไปที่ได้สัมผัส ส่วนท่านที่สนใจวิชาเหล่านี้ก็ขอแนะให้ศึกษาวิชาโหราศาสตร์ไทยแขนงใดแขนงหนึ่งให้แตกฉานอ่านออกบอกได้ทั้งเดิมและจรเสียก่อน เมื่อได้ศึกษาวิชาชัยภูมินี้แล้วผู้เขียนรับรองว่า ไม่มีคำว่าผิดหวังและน่าเสียดายมากถ้าไม่ได้ศึกษาวิชาของไทยแบบนี้ครับ ....สวัสดี