โหราศาสตร์ไทยพาราณสี : ภูมิปัญญาจากอดีตสู่ความหวังในอนาคต โดยทันตแพทย์ธีระพันธ์
หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้รับข่าวคราวของคุณนิตย์ จนกระทั่งเมื่อวันพฤหัสที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๕๐ นี้ ได้คุยกับคุณนิตย์อีกครั้ง คุณนิตย์บอกว่าหลังจากวันนั้นที่ได้ปรึกษาโหราศาสคร์กับผม คุณนิตย์ได้ไปทำบุญด้วยโลงศพที่มูลนิธิปอเต็กตึ๊งที่วัดหัวลำโพง และได้ทำการเก็บใบเสร็จทำบุญไว้กับตัวตลอดเวลาเพื่อทำเคล็ดให้ตัวเองเหมือนกับเป็นใบเบิกทางเพื่อป้องกันอันตรายตามเพื่อนอาวุโสท่านหนึ่งที่แนะนำ จนกระทั่งวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๔๙ เวลาประมาณตี ๒ กว่า (ขออภัยครับ ในฉบับบทความที่แล้ว เขียนเป็นวันที่ ๒๙ กันยายน ขอแก้เป็นวันที่ ๓๐ กันยายน ครับเพราะเมื่อคุยกับคุณนิตย์แล้ว ผมไปไล่วันที่พบว่าตามกฏโหราศาสตร์พาราณสีน่าจะเกิดเหตุวันที่ ๓๐ กันยายนขอให้คุณนิตย์ตรวจสอบซ้ำว่าเป็นวันที่ ๓๐ หรือเปล่า คุณนิตย์เลยไปดูใบเสร็จที่เก็บไว้ในวันที่ไปโรงพยาบาล ผลปรากฏว่าใบเสร็จเป็นวันที่ ๓๐ กันยายนจริง ๆ ด้วย ทำให้คุณนิตย์อุทานว่า โหราศาสตร์ไทยพาราณสีเล่นเอาผมขนลุกเลย แม่นยำมากจริง ๆ แม้กระทั่งวันที่ก็ยังกะถูกเลยว่าควรจะเกิดเหตุวันไหน ทั้ง ๆ ที่ผมไม่แน่ใจว่าเป็นวันที่ ๒๙ หรือวันที่ ๓๐ กันแน่) เกิดอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่ออกอย่างแรง เหมือนมีแท่งเหล็กขนาดใหญ่กดทับหายใจไม่ออก จึงได้ไปรักษาตัวด่วนที่โรงพยาบาลจุฬาในคืนนั้นตอนตีสาม คุณหมอได้ทำการวินิจฉัยว่าเป็นกล้ามเนื้อหัวใจตายอย่างเฉียบพลัน และได้ทำการรักษาคุณนิตย์ได้ทันท่วงที คุณนิตย์ได้คุยกับผมว่า ดีนะที่ได้ปรึกษากับผมในช่วงวันที่ ๒๗ กรกฏาคม ๒๕๔๙ และทำให้ตัวเองไม่เดินทางไปต่างจังหวัดและไปทำบุญต่ออายุทันทีด้วยการไปทำบุญโลงศพที่ปอเต็กตึ๊งและสวดมนต์แผ่เมตตาสม่ำเสมอ ไม่งั้นคงเสร็จไปแล้ว สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคุณนิตย์ในคืนนั้นคือคืนวันที่ ๓๐ กันยายน ๔๙ ผมถือว่า เป็นการต่ออายุที่ได้ผลดีมาก เรียกว่า เส้นยาแดงผ่าแปดทีเดียวคือ เกือบตายนั่นเอง เท่ากับได้รับการต่ออายุเหมือนเกิดใหม่และจะมีอายุยืนไปอีกนานเลย เพราะป่วยหนักเฉียลพลันน่าจะตาย แต่ไม่ตายคือผ่านวิกฤตชีวิตมาได้ นั่นคือ การต่ออายุได้ผลดีเยี่ยม
ต่อไปนี้ผมขอแสดงเคล็ดลับการวิเคราะห์ดวงชะตาคุณนิตย์ แกะมณี ว่าทำไมวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๔๙ เวลาประมาณตี ๒ กว่า (คือคืนวันศุกร์นับตามโหราศาสตร์เพราะยังไม่เลยหกโมงเช้า) ถึงมีอาการหายใจไม่ออกอย่างรุนแรงจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่ได้รับการรักษาจากแพทย์ได้ทันท่วงที
จากดวงที่ได้แสดงสาธิต
๑.เลขไทย หมายถึง ดาวในดวงชะตากำเนิด
๒.เลขอารบิก หมายถึง ดาวจร
๓.สัญลักษณ์ # = ตนุเกษตรเดิม,# จร = ตนุเกษตรจร
๔.สัญลักษณ์ ล. หมายถึง ลัคนา
๕. อ.= อายุจร (ลัคนาจร),ป= ปีจร (ปีนักกษัตรจร),ด= เดือนจร (มาสเกณฑ์จร),ว=วันจร(ดิถีจร) ชม=ชั่วโมงจร
๖.สำหรับการคำนวณดาวโคจรจากคัมภีร์สุริยาตร์คำนวณจากโปรแกรมโฮ่ราสาดของ อ.บั๊ค (อ.สุรพล) หาชื้อได้ที่ร้านเขษมบรรณกิจ ในเวิ้งนครเขษม ยอมรับว่าเป็นโปรแกรมโหราศาสตร์ที่ดีมากและคำนวณตนุเกษตรได้แม่นยำและดีมากเหมาะสำหรับใช้กับคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คไว้พกพาไปในที่ต่าง ๆ
ต่อไปนี้ก็จะเป็นการอธิบายถึงการอ่านดวงชะตาว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์ที่อันตรายต่อชีวิตของคุณนิตย์ แกะมณีในวันนั้น คือ เป็นกล้ามเนื้อหัวใจตายโดยเฉียบพลัน
๑.ดูจากอายุจร ๗๓ ปีย่าง อายุจรตกราศีตุลย์ เป็นภพตนุของลัคนากำเนิดและมีอิทธิพลจากภพมรณะ เพราะเจ้าเรือนเกษตรราศีพฤษภคือดาวศุกร์เป็นเจ้าเรือนเกษตรร่วมกับราศีตุลย์ ทำให้มีอิทธิพลของภพมรณะราศีพฤษภร่วมด้วย จึงเป็นอายุที่ต้องเผชิญกับความเจ็บป่วยที่ประมาทไม่ได้ ประกอบกับดาวศุกร์เดิมอยู่ในตำแหน่งมหาจักรราศีธนู ซึ่งเจ้าเรือนเกษตรราศีธนูคือดาวพฤหัส แต่ดาวพฤหัสเดิม (๕) ลอยอยู่ภพวินาศของลัคนาและเมื่อดาวพฤหัสจร(๕)มาทับลัคนาก็จะนำเชื้อของวินาศ(ดาวพฤหัสลอยอยู่ในภพวินาศลัคนา) มาทำให้เกิดการเจ็บป่วยหรือมีเกณฑ์ที่ต้องระวังตัวประมาทไม่ได้
๒.ดูจากตนุเกษตรจรในราศีกันย์ (ชึ่งคำนวณจากอายยุจรราศีตุลย์)จะเห็นได้ว่าเดือนจร (เดือน ๑๑ ไทย)นับตกที่ราศีสิงห์ เป็นวินาศตนุเกษตรจร(#จร) และจะส่งผลไปยังภพอริของตนุเกษตรจร(#จร)ราศีกุมภ์ด้วยเพราะเป็นเจ้าเรือนเกษตรราหูจรร่วมกันตามหลักเกณฑ์ของโหราศาสตร์ไทยพาราณสี (ดูตามรูปที่เขียนมา) ชึ่งสังเกตเห็นได้ว่า วันจรและปีจรก็ตกราศีกุมภ์ด้วย ทำให้เน้นจุดพลังอิทธิพลของภพวินาศและอริ อย่างรุนแรงเรียกว่า เดือนจรปีจรเป็นดาวราหูจรและเดินไปเป็นดาวราหูเกษตรด้วยในราศีกุมภ์ ทำให้เหมือนถูกรุมกินโต๊ะเลยทีเดียวประกอบกับการถูกซ้ำด้วยหลักที่ว่าดาวบาปเคราะห์จรทับดาวบาปเคราะห์เดิมเป็นดาวเกษตรนั่นคือ ดาวราหูจร(๘)ทับดาวราหูเดิม(๘)ได้ตำแหน่งดาวเกษตรด้วยและได้ตำแหน่งอริกับตนุเกษตรจร(#จร)ทำให้เป็นวันที่เกิดเกตุการณ์ที่รุนแรงไม่คาดฝัน ถ้าเรามานั่งคิดดู วันจร เดือนจร ปีจร เน้นตกที่ดาวราหูเป็นจุดอิทธิพลและทางโหราศาสตร์ไทยพาราณสีเน้นว่าราศีสิงห์และราศีกุมภ์เป็นเจ้าเรือนดาวเกษตรราหูร่วมกัน จึงนำความหมายของราศีสิงห์เกี่ยวกับอวัยวะที่จะเกิดโรคแบบเฉียบพลันด้วย นั่นคือ หัวใจเพราะราศีสิงห์เป็นราศีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของหัวใจและหลอดเลือดโดยตรง ดังนั้นวันจร เดือนจร ปีจร จึงลงน้ำหนักที่ดาวราหูที่ครองที่ราศีสิงห์ชึ่งหมายถึง กล้ามเนื้อหัวใจตายอย่างเฉียบพลัน
๓.เหตุที่ทำให้สงสัยเรื่องวันเกิดเหตุการณ์ร้ายกับคุณนิตย์ แกะมณี เพราะช่วงแรกคุณนิตย์แจ้งว่าเกิดเหตุการณ์ช่วงคืนวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๔๙ เวลาตีสอง ทำให้ผมไปลองไล่ดูตามกฏวันจรของโหราศาสตร์ไทยพาราณสีแล้วพบวันจรตกราศีมังกร ชึ่งไม่น่าจะใช่ ตามหลักเกณฑ์ของโหราศาสตร์ไทยพาราณสีนั้นน่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายในคืนวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๔๙ มากกว่าที่จะเกิดเหตุในคืนวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๔๙ มากกว่าที่จะเกิดเหตุในคืนวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๔๙ ผมก็เลยทักท้วงไป ทำให้คุณนิตย์ต้องการพิสูจน์ความจริงที่ผมทักท้วง โดยพยายามหาใบเสร็จที่ไปรักษาตัวในคืนนั้นก็พบความจริงว่าในใบเสร็จเขียนไว้ว่าคืนวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๐ ตรงกับที่ผมคาดการณ์ไว้ทุกประการ เล่นเอาคุณนิตย์ขณะคุยกันเรื่องนี้และพบความจริงตามหลักของโหราศาสตร์ไทยพาราณสีเรื่องวันจรที่คาดการณ์ได้ถูกต้อง คุณนิตย์บอกว่าขนลุกเลยครับ โหราศาสตร์ไทยพาราณสี่นี่แม่นยำจริง ๆ ชึ่งจริง ๆ แล้วคุณนิตย์ก็ศึกษาโหราศาสตร์มาเป็นระยะเวลานานก็ยังทึ่งในความมหัศจรรย์ของโหราศาสตร์ไทยพาราณสี่ ทำไมถึงคอดว่าน่าจะเกิดเหตุในคืนวันที่ ๓๐ เพราะนับวันจร ตกคืนวันศุกร์ ขึ้น ๗ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีจอ (ยังไม่เปลี่ยนวันเพราะยังไม่เลยหกโมงเช้าจึงยังไม่นับว่าเป็นวันใหม่) เพราะเมื่อนับโดยหลักของโหราศาสตร์ไทยพาราณสี่แล้ว วันจร ขึ้น ๗ ค่ำจะตกที่ราศีกุมภ์เป็นอริแก่ตนุเกษตรจร(#จร) ทำให้ราศีสิงห์ภพวินาศตนุเกษตรจร(#จร)ทำงานด้วย เพราะเป็นดาวเกษตรราหูจรของโหราศาสตร์ไทยพาราณสีร่วมด้วย ราศีสิงห์หมายถึง หัวใจดังนั้นจึงเกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายอย่างเฉียบพลันในที่สุดนนั่นเอง แต่ทำไมถึงไม่เป็นไร ก็เพราะคุณนิตย์ไม่ประมาทและรู้ว่าชะตากำลังอยู่ในช่วงไม่ดี หลังจากที่ได้มาปรึกษาดวงชะตาช่วงวันที่ ๒๗ กรกฏาคม ๒๕๔๙ (ดูย้อนจากบทความฉบับเดือนเมษายน ๒๕๕๐ ในโหราเวสม์หน้าที่ ๓๓ พยายามหาดูครับ เพราะหัวข้อเรื่องตกสารบัญคือไม่มีในสารบัญนั่นเองครับ) คุณนิตย์ก็ไปทำบุญโลงศพทันทีและเร่งการทำบุญกุศลต่าง ๆ แผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จึงทำให้แคล้วคลาดไม่งั้นคงแย่อย่างแน่นอน
๔.วันจรตกราศีกุมภ์ ทำให้ดาวราหูจรมีอิทธิพล ดาวราหูจรในวันนั้นมีองศาเท่ากับ ๒๙ องศา ๕๘ ลิปดา (จากการคำนวณโปรแกรมโหราศาสตร์ของอาจารย์บั๊ค มีขาที่ร้านเขษมบรรณกิจ) ดาวราหูจร (๘) จึงอยู่ในนวางค์ลูกที่ ๙ ครองอยู่ราศีเมถุน ดาวราหูจรและดาวราหูเดิมอยู่ภพอริของตนุเกษตรจร (#จร)ทำให้ดาวราหูจรในนวางค์ลูกที่ ๙ ที่อยู่ราศีเมถุนเป็นอริไปด้วยและส่งผลถึงภพตนุของตนุเกษตรจรในราศีกันย์ด้วย(เพราะเป็นเจ้าเรือนเกษตรดาวพุธร่วมกันทั้งราศีเมถุนและราศีกันย์) = นวางค์ที่ ๙ ของดาวราหูอริถึงภพตนุของตนุเกษตรจร = อริต้องตนุนั่นเอง และตามโหราศาสตร์ไทยพาราณสีราศีกุมภ์และราศีสิงห์เป็นดาวราหูเกษตรจรร่วม ราศีสิงห์เป็นเจ้าเรือนวินาศของตนุเกษตรจรด้วย จึงมีเรียกว่า อริและวินาศต้องตนุทางนวางค์จึงทำให้เกิดเกตุการณ์ร้ายแรงแก่เจ้าชะตาในวันจรนั้นโดยเจ็บป่วยด้วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายแบบเฉียบพลัน(เรื่องนวางค์สามารถค้นคว้าได้จากเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ด้วยตนเองถ้าหัดสังเกต)
๕.จากข้อที่ ๔.ดาวราหูจรคำรวณตกตรียางค์คือตรียางค์ที่ ๓ มีอิทธิพลอยู่ในราศีตุลย์ ดาวราหูจรและเดิมอยู่ภพอริและวินาศของตนุเกษตรจร (ตามหลักโหราศาสตร์ไทยพาราณสี) ทำให้เป็นตรียางค์อริและวินาศทับลัคนาด้วย จึงเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้น สรุปคือเจ้าชะตาถูกนวางค์ดาวราหูที่เป็นอริวินาศถึงภพตนุเกษตรทางเรือนเกษตรพุธร่วมราศีเมถุนและราศีกันย์และถูกตรียางค์อริวินาศทับลัคนาเรียกว่า วันจรในวันนั้นอิทธิพลของดาวจรทั้งทางตรียางค์และนวางค์มีผลร้ายต่อดวงเจ้าชะตาอย่างรุนแรง
๖.ถ้านับตามทักษาคู่ธาตุ ดาวอาทิตย์เป็นกาลกิณีจรทางทักษาคู่ธาตุ (ดาวอาทิตย์แทนค่าได้ด้วยเรื่องของอวัยวะคือหลอดเลือดและหัวใจ) ดังนั้นจึงมีผลต่อโรคทางหัวใจ และดาวอาทิตย์จร(๑)จรทับตนุเกษตรจร(#จร)ในราศีกันย์
๗.ถ้านับตามทักษาคู่สมพล (แบบนับดาวเสวยอายุ) ดาวพุธเป็นกาลกิณีจร ช่วงนั้นดาวพุธจร(๔)ทับดาวพุธเดิม (๔) ชึ่งกุมลัคนาอยู่และเป็นกาลกิณีจรตามทักษาคู่สมพลทั้งคู่ ดาวพุธเป็นเจ้าเรือนวินาศลัคนาในราศีกันย์ย่อมนำความเสียหายหรือเดือดร้อนมาให้เรียกว่า วินาศกาลกิณีทับลัคนาและทับดาววินาศที่กุมเดิม
๘.เกิดเหตุการณ์ร้ายกล้ามเนื้อหัวใจตายอย่างเฉียบพลันโดยหายใจไม่ออกประมาณตีสองกว่า เมื่อดิถีวันจรตกราศีกุมภ์ ทางโหราศาสตร์ไทยพาราณสีจะนับที่ราศีกุมภ์เป็นชั่วโมงจรคือ ๖.๐๐-๗.๐๐ น.(เพราะวันจรนับตกราศีกุมภ์) นับทวนเข็มนาฬิกาไปอย่างละ ๑ ชั่วโมงตาม ๑ ช่องราศีไปเรื่อย ๆ จะพบว่าชั่วโมงจรเวลา ๐๒.๐๐-๐๓.๐๐ น.จะตกราศีตุลย์ มีเจ้าเรือนเกษตรศุกร์เป็นเจ้าของเรือน ทำให้เจ้าเรือนเกษตรศุกร์ราศีพฤษภภพมรณะของลัคนาทำงานด้วย (เนื่องจากเป็นเจ้าเรือนเกษตรดาวศูกร์ร่วมกัน) ดังนั้นชั่งโมงจรเวลา ๐๒.๐๐-๐๓.๐๐ น.ก็จะมีดาวศุกร์เจ้าเรือนเกษตรราศีตุลย์และราศีพฤษภ(ภพมรณะลัคนา)เป็นจุดอิทธิพลนำความมรณะ(ความเจ็บป่วย)ของภพมรณะ(ราศีพฤษภ)ของลัคนาราศีตุลย์มาด้วย ประกอบกับกาวศุกร์จรช่วงนี้ทับตนุเกษตรจรด้วย (ดาวศุกร์จรในราศีกันย์)เท่ากับดาวศุกร์จรเจ้าเรือนมรณะลัคนาทับตนุ (ตนุเกษตรจรราศีกันย์)จึงเกิดเหตุร้ายดังกล่าวในชั่วโมงจรนี้ในเวลา ๐๒.๐๐-๐๓.๐๐น.
สรุปก็คือ ถ้าพวกเราค่อย ๆ หมั่นเรียนรู้และสังเกตหลักวิชาโหราศาสตร์จากดวงชะตาจริง ๆ ก็จะทำให้เรามีหลักวิชาที่แม่นยำ ชึ่งค่อย ๆ ค้นคว้าหาความรู้จากประสบการณ์ไปเรื่อย ๆ ก็จะทำให้พวกเราพัฒนาตนเองเพื่อนำความรู้เหล่านี้ไปช่วยเหลือผู้อื่นต่อไปสำหรับประวัติความเป็นมาของโหราศาสตร์ไทยพาราณสีให้ติดตามนิตยสารโหราเวสม์ ฉบับเดือนเมษายน ๒๕๕๐ แต่จะไม่มีในสารบัญนะครับ ให้เปิดหาเอานะครับที่หน้า ๓๓ การเข้าใจถึงความเป็นมาของโหราศาสตร์ไทยพาราณสีจะทำให้ท่านผู้อ่านได้เพลิดเพลินถึงศิลปะของบรรพบุรุษที่ได้มอบให้พวกเราไว้สืบทอดและนำประโยชน์เหล่านี้มาเอื้อแก่มหาชนต่อไปในอนาคต ชึ่งผมขอกราบเท้าท่านอาจารย์ทั้งหลายทั้งหลายทั้งในอดีตกาลและปัจจุบันกาลไว้ ณ ที่นี้
ท้ายที่สุดนี้ผมต้องขอพระขอบคุณอย่างสูงแด่คุณนิตย์ แกะมณี ที่อนุญาตให้ผมได้ลงเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อเป็นวิชาการความรู้และประโยชน์แก่เพื่อน ๆ เหล่านักโหราศาสตร์ทั้งหลาย
เร็ว ๆ นี้ผมจะมีหนังสือโหราศาสตร์เบื้องต้นออกเป็นเล่ม ๆ ที่ละเล่มชื่อ หมอฟันสอนดูดวง เล่ม ๑ซึ่งอาจจะวางขายที่ร้านเขษมบรรณกิจด้วย ผลิตโดยบริษัทสยามอินเตอร์มัลติมีเดีย(มหาชน) ก็ขอฝากท่านสมาชิกโหราเวสม์ทั้งหลายไว้ด้วยนะครับ
ทันตแพทย์ธีระพันธ์ แสงไพบูลย์ รับสอนและให้คำปรึกษาปัญหาชีวิตตามแนวของโหราศาสตร์ไทยพาราณสี กำลังจะจัดหลักสูตรพื้นฐานโหราศาสตร์ไทยพาราณสีครั้งที่ ๒ เดือนกรกฏาคม ๒๕๕๐ โทรติดต่อมือถือ ๐๘-๖๙๙-๑๖๔๕๖ โทร.คลินิก ๐๒-๒๘๖๖๔๗๘,๐๒-๖๗๙-๗๙๑๐ คลินิกธีระพันธ์ทันตแพทย์ ๑๐๓๔/๑๖ ถ.พระรามสี่ สาทร กทม.๑๐๑๒๐ ตรงข้ามบ่อนไก่เยื้องลุมพินีไนท์บาร์ซ่าประตูสุดท้าย สำหรับท่านสมาชิกที่ต้องการเรียนโหราศาสตร์ไทยพาราณสีก็ติดต่อมาได้ครับ เพราะจะเปิดหลักสูตรโหราศาสตร์ไทยพาราณสีเบื้องต้นรอบที่ ๒ ในเดือน กรกฏาคม ๕๐ นี้ วิชาโหราศาสตร์คือวิชาที่เรียนรู้และเข้าใจชีวิตตนเองและผู้อื่นเพื่อประโยชน์แก่ทุกคน