243. ราหูเข้าภพพันธุ หรือโคจรไปเล็ง หรือทับเจ้าเรือนพันธุ ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องบ้าน เรื่องที่ดิน รถยนต์ ยานพาหนะ ซื้อขาย หรือแลกเปลี่ยนก็ได้
244. ราหูเข้าภพมรณะ ราหูเป็นแปด บางคนว่าดี เพราะราหูมรณะไปแล้ว แต่ความจริง มักเป็นคนมีจิตใจอ่อนไหว เชื่อคนง่าย หากมีใครมาร้องไห้ ขอความช่วยเหลือก็หมดกระเป๋า ราหูเป็นแปด อย่าทายดี ต้องทายว่าไม่มีมรดก หรือมีก็ต้องเป็นผู้เสียสละ ไม่อยากได้มรดกนั้น
245. ดาวเคราะห์คู่ธาตุที่อยู่ในราศีธาตุชั้นหนึ่งให้คุณเป็นอันดับหนึ่ง
ดาว ๑-๗ คู่ธาตุไฟ อยู่ในราศีธาตุไฟ ไฟ+ไฟ
ดาว ๒-๕ คู่ธาตุดิน อยู่ในราศีธาตุดิน ดิน+ดิน
ดาว ๓-๘ คู่ธาตุลม อยู่ในราศีธาตุลม ลม+ลม
ดาว ๔-๖ คู่ธาตุน้ำ อยู่ในราศีธาตุน้ำ น้ำ+น้ำ
246. ดาวเคราะห์คู่ธาตุที่อยู่ในราศีธาตุคู่มิตร ธาตุชั้นสองให้คุณเป็นอันดับสอง
ดาวเคราะห์ธาตุไฟ อยู่ลม ไฟ+ลม
ดาวเคราะห์ธาตุลม อยู่ไฟ ลม+ไฟ
ดาวเคราะห์ธาตุดิน อยู่น้ำ ดิน+น้ำ
ดาวเคราะห์ธาตุน้ำ อยู่ดิน น้ำ+ดิน
247. ดาวเคราะห์คู่ธาตุที่อยู่ในราศีธาตุเป็นกลาง ธาตุชั้นสามให้คุณเป็นอันดับสาม
ดาวเคราะห์ธาตุไฟ อยู่ดิน ไฟ+ดิน
ดาวเคราะห์ธาตุดิน อยู่ไฟ ดิน+ไฟ
ดาวเคราะห์ธาตุน้ำ อยู่ลม น้ำ+ลม
ดาวเคราะห์ธาตุลม อยู่น้ำ ลม+น้ำ
248. ดาวเคราะห์คู่ธาตุที่อยู่ในราศีธาตุศัตรู ไม่ให้คุณกลับให้โทษ ธาตุชั้นสี่ให้โทษ
249. การเปลี่ยนแปลงอันดับของธาตุ
ก. ดาวเคราะห์คู่ธาตุที่อยู่ในราศีธาตุชั้นหนึ่ง เมื่อไปสถิตอยู่ในราศีทุสะฐานะ อริ มรณะ วินาศ
ย่อมไม่มีการเปลี่ยนแปลง ราศีธาตุชั้นหนึ่งเป็นดาวคงที่ทุกสถานะ ทุกสภาวะ
ข. ดาวเคราะห์คู่ธาตุที่อยู่ในราศีธาตุชั้นสอง เมื่อไปสถิตอยู่ในราศีทุสะฐานะ ย่อมจะกลับกลาย
เป็นธาตุชั้นสี่ ซึ่งเท่ากับสถิตอยู่ในราศีธาตุที่เป็นศัตรู
ค. ดาวเคราะห์คู่ธาตุที่อยู่ในราศีธาตุชั้นสาม เมื่อไปสถิตอยู่ในราศีทุสะฐานะ ก็เทียบเท่าธาตุ
ชั้นสี่
ง. ดาวเคราะห์คู่ธาตุที่อยู่ในราศีธาตุชั้นสี่ เมื่อไปสถิตอยู่ในราศีทุสะฐานะ ย่อมมีตำแหน่งเทียบ
เท่าธาตุชั้นหนึ่ง เช่นลัคนาราศีมีน มีดาวจันทร์ พฤหัสอยู่ราศีกุมภ์ ธาตุชั้นสี่แต่อยู่ทุสะฐานะ
คือวินาศลัคนา กลับฟื้นเป็นชั้นหนึ่งไป ต้องทายดี หรือลัคนาอยู่ราศีกรกฏ ดาวจันทร์พฤหัส
อยู่ราศีเมถุนธาตุชั้นสี่ แต่อยู่วินาศลัคนา กลับฟื้นเป็นชั้นหนึ่ง ต้องทายดีอย่าทายเสียเด็ด
ขาด
250. อีกอย่างหนึ่ง เรือนเกณฑ์อันได้แก่ ราศีที่ ๑-๔-๗-๑๐ จากลัคนา ย่อมมีอำนาจ ทำให้ธาตุเปลี่ยนแปลงไปได้ โดยเฉพาะธาตุชั้นสาม หากอยู่ในเรือนเกณฑ์จะกลายเป็นธาตุชั้นหนึ่งทันที
251. ดาวเคราะห์ดวงใดที่สถิตอยู่ในธาตุของตัวเอง หรือสถิตอยู่ในธาตุที่เป็นมิตรของตัวเอง ดาวเคราะห์ดวงนั้นก็ย่อมประสบชัยชนะ เช่น ดาวศุกร์กับดาวเสาร์สถิตอยู่ในราศีธาตุไฟ ดาวเสาร์(ธาตุไฟ)ย่อมชนะและเป็นใหญ่กว่าดาวศุกร์ ถ้าหากดาวศุกร์กับดาวเสาร์ร่วมราศีเดียวกัน แต่อยู่ในราศีธาตุน้ำ ดาวศุกร์ก็ย่อมใหญ่กว่าดาวเสาร์ เพราะดาวศุกร์เป็นธาตุน้ำ
252. ธาตุดินกับธาตุน้ำย่อมเป็นมิตรกัน และธาตุไฟกับธาตุลมย่อมเป็นมิตรกันฉันใด ดาวเคราะห์ที่ครองธาตุอันเป็นมิตรกัน ก็ย่อมเป็นมิตรกันไปด้วย
253. ดาวเคราะห์แม่ธาตุ หรือดาวอธิกธาตุ ได้แก่ ดาวเสาร์ พฤหัส ราหู ศุกร์ หมายความว่า ดาวเสาร์เป็นแม่ธาตุไฟ พฤหัสแม่ธาตุดิน ราหูแม่ธาตุลม และดาวศุกร์แม่ธาตุน้ำ ดาวเคราะห์ที่เรียกว่า แม่ธาตุ หมายความว่า ดาวเคราะห์นั้นเป็นเจ้าการ หรือเป็นตัวทำเรื่องเกี่ยวกับธาตุนั้น
254. โยค แปลว่า การประกอบ หรือการรวบรวม เพื่อให้เกิดคุณประโยชน์ โยค ทางโหราศาสตร์ไทย หมายถึง ดาวเคราะห์ที่เป็น ๓,๕,๙,๑๑ แก่ลัคนา แก่จันทร์ และแก่ดาวเคราะห์ด้วยกันเอง
255. ธนโยค แปลว่า โยคมีทรัพย์ หมายถึง ดวงที่มีดาวเคราะห์เจ้าเรือนตนุลัคน์ไปอยู่กดุมภะ เจ้าเรือนกดุมภะไปอยู่ลาภะ เจ้าเรือนลาภะกุมลัคนา
256. คนที่เล่นการเมือง สมัคร สส. สว. แล้วได้รับเลือกตั้งนั้นดูเจ้าเรือนที่1 ตนุ เจ้าเรือนที่ 9 ศุภะ และเจ้าเรือนที่ 10 กัมมะ มาผสมผสานกัน หากเจ้าเรือนนั้นๆ มาร่วมกัน หรือตรีโกณกัน และอยู่ในเรือนเกณฑ์ (1-4-7-10 แก่ลัคน์แก่จันทร์) เป็นดวงชะตาที่ได้รับความนับถือจากประชาชน ส่วนรวมเป็นอันมาก หรือ ภพที่ 1 ตนุ เป็นอุจ และอยู่ในเรือนเกณฑ์ ภพที่ 9 และภพที่ 10 ร่วมกันอยู่ในเกณฑ์ มักได้รับความนับถือจากส่วนรวม
257. เรือนกดุมภะ หมายถึง การเงิน และเรือนวินาศ หมายถึง การสนับสนุนในทางการเงิน หากดวงชะตาใดไม่มีดาวอยู่ในเรือนที่ 2 และที่ 12 จากจันทร์ ท่านว่า ดวงชะตานั้นยากจน ขัดสนเงินทอง
258. อีกประการหนึ่ง
หากไม่มีดาวเคราะห์อยู่ในเรือนที่ 2 และที่ 12 จากจันทร์ แต่มีดาวอยู่เป็น 6,7,8 ราศีจาก
จันทร์ ก็ยังใช้ได้ หมายความว่า พอมีความสุขสมบูรณ์ในเรื่องทรัพย์สิน เงินทองบ้าง
หากไม่มีดาวเลยก็ทายว่า ขัดสนอับจนแน่นอน
259. ดาวจันทร์ การถือดาวจันทร์เป็นแก่นสารในการดำรงชีวิต ถือดาวจันทร์เป็นตนุให้ดู
ราศีที่สองจากจันทร์ กดุมภะจันทร์ หมายถึง การเงิน และทรัพย์สิน
ราศีที่หก อริจันทร์ หมายถึง การใช้ และการบริการ
ราศีที่เจ็ด ปัตนิจันทร์ หมายถึง หุ้นส่วน คู่สัญญา
ราศีที่แปด มรณะจันทร์ หมายถึง การพื้นคืนชีพ หรือการแก้ไข ความเบื่อหน่าย ให้มีความสุข
และความกระตือรือร้น
ราศีที่สิบสอง หมายถึง การสนับสนุน การผลักดัน และการป้องกันความวิบัติ ดังนั้นหากชะตา
ไม่มีดาวในราศีที่ 12 จากจันทร์ ก็หมายความว่า จะปราศจากทรัพย์สินเงินทอง หรือมีน้อย
หากไม่มีดาวในเรือนที่ 6 จากจันทร์ ก็ไม่มีคนใช้และบริวาร
หากไม่มีดาวในเรือนที่ 7 จากจันทร์ ก็ไม่มีหุ้นส่วน คู่คิด คู่ปรึกษา
หากไม่มีดาวในเรือนที่ 8 จากจันทร์ ก็ไม่มีมรดกพินัยกรรม
หากไม่มีดาวในเรือนที่ 12 จากจันทร์ ก็ขาดคนให้ความสนับสนุนทั้งในด้านการงานและการ
เงิน
260. ดาวเคราะห์ที่อยู่ในทุสะฐานะภพแก่กันมาต้องกัน ราศีทุสะฐานะภพ หมายถึง ราศีที่ 6 อริ ที่ 8 มรณะ ที่ 12 วินาศ ราศีเหล่านี้ย่อมให้โทษแก่เจ้าชะตา แม้แต่ดวงดาวเคราะห์ต่างๆ ในดวงชะตาก็เช่นกัน ดังนั้น เมื่อโคจรไปพบกัน หรือโคจรไปเล็งกันเข้า ย่อมให้โทษแก่เจ้าชะตา ยกตัวอย่างเช่น ดาวเสาร์อยู่ในราศีเมษ และดาวอาทิตย์อยู่ในราศีพิจิก นับตามธาตุ ราศีเมษธาตุไฟ ราศีพิจิกธาตุน้ำย่อมเป็นศัตรูกัน นับตามภพ คือนับจากเมษไปถึงพิจิกเป็นมรณะ และนับจากพิจิกถึงเมษก็เป็นอริแก่กัน สรุป ทั้งธาตุของราศี และภพเป็นศัตรูกันตลอดเรื่อง ในลักษณะเช่นนี้ หากอาทิตย์โคจรไปทับหรือเล็งเสาร์ หรือเสาร์โคจรไปทับ หรือเล็งอาทิตย์ ผลร้ายก็จะเกิดแก่เจ้าชะตาแน่นอน ดังนั้น เวลาดูดาวจรก็ไม่ต้องไปดูอะไรมาก เมื่อยามดาวเคราะห์ดวงหนึ่งโคจรมาทับ เล็งกับดาวเคราะห์อีกดวงหนึ่งก็ให้ย้อนกลับไปดูดวงเดิมว่า ดาวเคราะห์ทั้งสองนั้นดวงเดิมอยู่ในภพทุสะฐานะแก่กันหรือไม่ หาอยู่ในภพทุสะฐานะแก่กันย่อมให้โทษ หาอยู่ในภพโยค และตรีโกณแก่กันย่อมให้คุณ เกี่ยวกับธาตุและเกี่ยวกับการดูดวงจรเราอาจสรุปได้ในลักษณะนี้
261. ในรอบเดือนใดที่มีบาปพระเคราะห์โคจรเข้าสัมพันธ์ร้ายกับดวงชะตาเกิดในภพปัตนิ ไม่ว่าจะเป็นดวงชายหรือหญิงมา ขอฤกษ์วิวาห์ พิจารณาเห็นว่าเป็นฆาตอย่างนี้ ห้ามโหราจารย์ให้ฤกษ์โดยเด็ดขาด เพราะเจ้าชะตากำลังเกิดความวิบัติ อุบัติเหตุร้ายแรง เพราะดาวเสาร์ ดาวมฤตยู ดาวศุกร์เล็งลัคนา เป็นพินทุบาทจร พฤหัสจรก็เสีย
262. ในกรณีที่พิจารณาดวงชะตาเจ้าบ่าว เจ้าสาว ซึ่งไม่สัมพันธ์ทั้งลัคนา และดาวจันทร์กำเนิด ประกอบกับเรือนปัตนิลัคนา เช่น ดาว ๐ ๗ ๖ เล็งลัคน์ในชะตาชาย และดาว ๐ ๘ ๖ ๒ ๑ เล็งลัคน์ในชะตาหญิง ซึ่งบอกเหตุถึงความเดือดร้อน เกิดโทษทุกข์ในเรื่องคู่ครอง อย่างนี้โหราจารย์อย่าให้ฤกษ์ประกอบการวิวาห์เลย เพราะเดี๋ยวเกิดเหตุร้ายขึ้นมา เจ้าชะตาจะโทษผู้ให้ฤกษ์ได้ ควรบอกให้หาฤกษ์สะดวกเอาเองเถิด เป็นการตัดกรรม เสี่ยงทายได้ตามใจชอบ เรียกว่าตาดีก็ได้ ตาร้ายก็เสีย โทษใครไม่ได้ ต้องโทษตัวเอง
263. ก. การดูดวงเดิมเราใช้หลักดาวเคราะห์ที่ครองธาตุประจำ เช่นดาวเสาร์ธาตุไฟ ดาวพฤหัสธาตุดิน เป็นต้น เป็นเครื่องพยากรณ์
ข. การพยากรณ์ดวงจรให้ตัดดาวพระเคราะห์ครองธาตุเดิมทิ้งไป แล้วให้กำหนดที่ดาวพระ
เคราะห์ครองราศีเป็นสำคัญ ในดวงชะตาเดิม พระเคราะห์ดวงใดสถิตอยู่ในราศีธาตุอะไร ก็
แปลว่า ดาวพระเคราะห์นั้นครองธาตุนั้น
ค. เมื่อดาวเคราะห์ที่ครองธาตุนั้น โคจรไปสู่ราศีซึ่งมีอีกธาตุหนึ่ง ความดีความร้าย ย่อม
ปรากฏขึ้นแก่เจ้าชะตาตามลำดับของธาตุชั้นต่างๆ ทั้ง 4 ชั้นที่กล่าวมาแล้วแต่ต้น
264. ก. ดาวเคราะห์ที่สถิตอยู่ในราศีธาตุไฟ หากโคจรไปอยู่ในราศีธาตุไฟก็กลายเป็นดาวเคราะห์ชั้นหนึ่ง หากโคจรเข้าไปสถิตอยู่ในราศีธาตุลมก็กลายเป็นดาวเคราะห์ชั้นสอง หากโคจรเข้าไปสถิตอยู่ในราศีธาตุดินก็กลายเป็นดาวเคราะห์ชั้นสาม และหากโคจรเข้าไปสถิตอยู่ในราศีธาตุน้ำก็กลายเป็นดาวเคราะห์ชั้นสี่
ข. ดาวเคราะห์ที่สถิตอยู่ในราศีธาตุน้ำ หากโคจรไปอยู่ในราศีธาตุน้ำก็กลายเป็นดาวเคราะห์ชั้น
หนึ่ง หากโคจรเข้าไปสถิตอยู่ในราศีธาตุดินก็กลายเป็นดาวเคราะห์ชั้นสอง หากโคจรเข้าไป
สถิตอยู่ในราศีธาตุลมก็กลายเป็นดาวเคราะห์ชั้นสาม และหากโคจรเข้าไปสถิตอยู่ในราศีธาตุ
ไฟกลายเป็นดาวเคราะห์ชั้นสี่
ค. ดาวเคราะห์ที่สถิตอยู่ในราศีธาตุดิน หากโคจรไปอยู่ในราศีธาตุดินก็กลายเป็นดาวเคราะห์
ชั้นหนึ่ง หากโคจรเข้าไปสถิตอยู่ในราศีธาตุน้ำก็กลายเป็นดาวเคราะห์ชั้นสอง หากโคจรเข้าไป
สถิตอยู่ในราศีธาตุไฟก็กลายเป็นดาวเคราะห์ชั้นสาม และหากโคจรเข้าไปสถิตอยู่ในราศีธาตุ
ลมกลายเป็นดาวเคราะห์ชั้นสี่
ง. ดาวเคราะห์ที่สถิตอยู่ในราศีธาตุลม หากโคจรไปอยู่ในราศีธาตุลมก็กลายเป็นดาวเคราะห์
ชั้นหนึ่ง หากโคจรเข้าไปสถิตอยู่ในราศีธาตุไฟก็กลายเป็นดาวเคราะห์ชั้นสอง หากโคจรเข้าไป
สถิตอยู่ในราศีธาตุดินก็กลายเป็นดาวเคราะห์ชั้นสาม และหากโคจรเข้าไปสถิตอยู่ในราศีธาตุ
น้ำก็กลายเป็นดาวเคราะห์ชั้นสี่
265. สำหรับการให้คุณและโทษนั้น หากดาวเคราะห์โคจรไปสู่ตำแหน่งชั้นหนึ่ง และชั้นสองย่อมให้
คุณ และหากดาวเคราะห์โคจรไปอยู่ในตำแหน่งชั้นสามและชั้นสี่ ย่อมให้โทษ และลักษณการ
ให้คุณและโทษอย่างไรนั้นก็เป็นไปตามความหมายของดวงดาวและเรือนชะตาเพียงสองอย่าง
นี้เท่านั้น
265. เจ้าเรือนตนุอยู่ในภพสหัชชะ เจ้าชะตาจะมีการสังคมมากขึ้น มีการพบปะกับมิตรสหายอยู่บ่อยๆ
266. มีการเดินทางบ่อยๆ อยู่ไม่ติดที่ และจะมีการศึกษางานและหาความรู้ใส่ตัวอยู่ตลอด
267. หากเจ้าเรือนตนุโคจรอยู่ในภพพันธุ เจ้าเรือนพันธุโคจรอยู่ในภพดีๆ ในปีนั้นเจ้าชะตาจะมีการสร้างบ้านเรือน หรือมีโอกาสได้ครอบครองสิ่งของชิ้นใหญ่ๆ เช่น รถยนต์ พาหนะต่างๆ จัดตั้งบริษัท ห้างร้าน มีการวางแผนการ และโครงการของชีวิตอย่างใดอย่างหนึ่ง
268. เจ้าเรือนกัมมะไปสถิตอยู่ในภพตนุ จะทำงานอาชีพส่วนตัว หรือต้องทำงานชนิดที่ต้องใช้ความรู้ ความคิด และความสามารถของตนเอง
269. เวลาจะดูดวงจรให้ดูแต่เพียงดาวพระเคราะห์ 4 ดวง ได้แก่ เสาร์ พฤหัส ราหู และศุกร์ ซึ่งเป็นอธิกธาตุ ธาตุที่ยิ่งใหญ่ คือให้ดูว่า ดาวพระเคราะห์ทั้ง 4 ดวงนั้น โคจรเข้าไปในราศีธาตุชั้นที่เท่าไร อยู่ในเกณฑ์ให้คุณหรือให้โทษแก่เจ้าชะตา แล้วคุณและโทษที่จะเกิดขึ้นนั้นจะเกิดขึ้นเมื่อใด คุณและโทษนั้นจะเกิดขึ้นต่อเมื่อดาวที่เป็นอนุกธาตุโคจรเข้าไปร่วมหรือไปเล็งกับดาวเคราะห์ที่เป็นอธิกธาตุ (ดาวอนุกธาตุ คือ อาทิตย์ จันทร์(ใช้เกตุแทนได้) อังคาร และพุธ)
270. ให้ตรวจดูในดวงชะตาเดิม ถ้ามีดาวเคราะห์ที่ทำมุมโยค (60 องศา) หรือมุมตรีโกณ (120 องศา) แก่กันเวลาโคจรไปพบกันเข้า หรือไปทับกับดาวเคราะห์ที่โยค หรือตรีโกณนั้น เข้าย่อมให้คุณ
271. ดาวราชาโชคที่ให้คุณอย่างสมบูรณ์ คือ
ก. ลัคนาวัน (วันเกิด) ได้ตำแหน่งราชาโชค
ข. ตนุลัคน์ ลัคนาอยู่ราศีใด ดาวเคราะห์เจ้าเรือนเกษตรได้ตำแหน่งราชาโชค
272. ดวงชะตาที่ได้ราชาโชค ชีวิตจะไม่ตกต่ำ เป็นที่รักใคร่พอใจของบุคคลที่อยู่ใกล้ชิด และบุคคลภายนอก ไม่ว่าจะไปพบปะหรือสนทนากับใครๆ ทุกคน ก็อยากจะให้โดยไม่หวังค่าตอบแทน
273. คนที่มีดาววันเกิดเป็นราชาโชค หรือตนุลัคนาเป็นราชาโชค ชะตาชีวิตจะต้องโชติช่วงชัชวาลอย่างน้อยก็ครึ่งหนึ่งในชีวิต
274. ดาวราชาโชค ถึงแม้มีตำแหน่งเป็นเจ้าเรือนอื่นๆ ในดวงชะตาก็ย่อมจะให้คุณ ในระดับราชาโชคเหมือนกัน
275. ดาวเคราะห์ที่ได้ตำแหน่งอุจจาวิลาส ท่านว่า มีฐานะเทียบเท่ากับราชาโชค คือ มีดีคล้ายๆ กัน แต่ไม่ฟู่ฟ่า หรูหราเหมือนราชาโชคเท่านั้น
276. การทายดวงประ ก็ทายว่าไม่ใช่ของตน เป็นของคนอื่น เป็นของอื่นๆ เป็นอย่างอื่นๆ
277. ชะตาที่มีราหูอยู่ภพมรณะ จะตายเพราะความหลงไหลงมงาย มักเป็นคนใจอ่อน เชื่อคนง่าย เห็นใครตกทุกข์ได้ยากหรือเห็นใครหลั่งน้ำตาแสดงหน้าเป็นทุกข์ ต้องช่วยเหลือ และเป็นการช่วยเหลือในทางที่ผิด เพราะเอาความทุกข์ของคนอื่นมาเป็นของตน
278. ชะตาที่มีดาวอังคารอยู่ภพมรณะ มักจะขี้ขลาดตาขาว กลัวผี เกียจคร้าน หรืออาจจะขยัน แต่ก็เป็นสิ่งที่ทำไปโดยไม่ถูกเรื่องถูกราว ทำผิดๆ แบบผิดเวลา ผิดกาละเทศะ สิ่งที่ดีไม่ทำ มักทำแต่สิ่งที่เสีย
279. ชะตาที่มีดาวเสาร์เล็งลัคนาจะเกิดโทษทุกข์ในเรื่องคู่ครอง คนรัก และเพศตรงข้าม หุ้นส่วน สัญญา
280. ดาวคู่ธาตุ ถ้าอยู่ร่วมราศีกันจะให้คุณ แต่เมื่อเกิดเล็งกันก็ให้โทษ
281. ดาวเคราะห์เจ้าเรือนปัตนิเล็งกันกับดาวคู่ธาตุของตนเอง ย่อมไม่แต่งงานหนเดียว หรือเคยเลิกร้างห่างเหในขณะที่รักกันอย่างดูดดื่ม
282. ดาวเจ้าเรือนกัมมะเล็งกับดาวคู่ธาตุขอตนเอง มีการตกงาน และตกอาชีพ ล้มเหลวจากการงานในขณะที่กำลังรุ่งๆ อย่างคาดไม่ถึงทีเดียว
283. ดาวเจ้าเรือนกดุมภะเล็งกับดาวคู่ธาตุขอตนเอง ร่ำรวยเกินขีดเมื่อไรเป็นจนลงเมื่อนั้น รวยๆ จนๆ สลับกันไป
284. ดาวเสาร์เป็นอุจจ์ในราศีตุลย์ และอาทิตย์เป็นอุจจ์ในราศีเมษเล็งกัน ก็เป็นเรื่องเสีย เรื่อไม่ดีทั้งนั้น
285. ดาวเคราะห์คู่ธาตุที่เล็งกันนั้น หากดวงใดดวงหนึ่งเป็นเกษตร โทษนั้นจะเบาบางลง เพราะดาวเกษตรเป็นดาวที่เข้มแข็งไม่มีการให้โทษแก่เจ้าชะตา
286. จรราศี (ราศีทวาร เมษ กรกฎ ตุลย์ มังกร) หมายถึง ความเด็ดขาด มุ่งตะบึงไปข้างหน้า ถ้าตนุลัคน์ สถิตราศีทวาร ผู้นั้นจะเป็นคนเข้มแข็งเด็ดเดี่ยว ตัดสินใจเด็ดขาด ใครจะดึงจะฉุดไปทางอื่นทำได้ยาก
287. เจ้าเรือนอื่นๆ สถิตราศีทวารก็เช่นเดียวกัน การกระทำต่างๆ ที่ตรงกับความหมายของเรือนนั้น มักเป็นการปฏิบัติโดยเฉียบขาด หรือมีประสบการณ์เกี่ยวกับกรณียากิจตามความหมายของเรือนนั้นๆ ในขณะเดินทาง
288. อริลัคน์สถิตราศีทวาร การเดินทางมีอุปสรรค มีศัตรู หรือเจ็บป่วยในระหว่างการเดินทาง
289. กดุมภะลัคน์สถิตราศีทวาร มักทำมาหากินด้วยการวิ่งเต้น
290. พันธุลัคน์สถิตราศีทวาร มักมีบ้านอยู่ริมทาง ริมถนน ริมน้ำ
291. ปัตนิลัคน์สถิตราศีทวาร ก่อนจะรู้จักรักใคร่กับใคร มักจะพบกันครั้งแรกในการเดินทาง การติดต่อบางสิ่งบางอย่างร่วมกัน
292. ศุภลัคน์สถิตราศีทวาร มักได้เป็นเอกอัครราชทูต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
293. กัมมะลัคน์สถิตราศีทวาร มักทำมาหากินทางการวิ่งเต้น การติดต่อ การสื่อสาร เป็นนายหน้า ทำการค้าระหว่างประเทศ
294. ลาภะลัคน์สถิตราศีทวาร ทำงานไปรษณีย์ ผู้ส่งเอกสาร ผู้สื่อข่าว หาลาภผลด้วยการเดินทาง การวิ่งเต้น มีโชคระหว่างเดินทาง หรือ ไปมีโชคในต่างประเทศ
295. วินาศลัคน์สถิตราศีทวาร หมายถึงการประสบอุบัทวเหตุ ถูกทำร้าย หรือถูกฉ้อฉลในระหว่าการเดินทาง
296. ราศีทวาร หมายถึง ประตู หน้าต่าง ถ้าราหู ๘ เกตุ ๙ หรือมฤตยู ๐ สถิตราศีทวาร บ้านเจ้าชะตามักมีประตูหน้าต่างชำรุด ยิ่งเป็นราหูกุมพุธคู่กัดด้วยแล้ว ยิ่งชี้ชัดว่า ชำรุดแน่นอน
297. ราศีเมษ หมายถึง หลังคาบ้าน ถ้าจันทร์ หรือมฤตยูสถิต หลังคารั่ว
298. ราหู ๘ จรทับพระเคราะห์ในราศีเมษ ปลวกกินหลังคาบ้าน หรือราหูสถิตราศีเมษปลวกขึ้นหลังคาบ้าน
299. ราศีทวาร หมายถึง หัวมุมถนน ถ้าราศีทวารเป็นเรือนพันธุ บ้านมักอยู่ข้างถนน หรือซอย
300. ถ้าราศีเมษเป็นเรือนพันธุ อังคารเจ้าเรือนสถิตราศีพิจิก นับจากราศีเมษถึงราศีพิจิกจะผ่านราศีทวารอีก 2 ราศี คือ กรกฏ
และตุลย์ เราอาจพยากรณ์ได้ว่า ทางจากถนนใหญ่ก่อนจะถึงหน้าบ้านจะต้องผ่านทางแยกอีก 2 แห่งเป็นอย่างน้อย 301. สถิรราศี คือราศีที่อยู่หน้าราศีทวาร พฤษภ สิงห์ พิจิก กุมภ์ เป็นราศีที่มั่นคง เจ้าเรือนใดสถิตสถิรราศีจะมีความหมายที่มั่น
คงอยู่กับที่
302. ตนุลัคน์สถิตสถิรราศี เป็นผู้มีจิตใจมั่นคง ไม่เปลี่ยนแปลง หรือโอนอ่อนตามใจใครง่ายๆ เป็นผู้ตั้งอยู่ในเหตุผล
303. กดุมภะลัคน์สถิตสถิรราศี หลักฐานทางทรัพย์สมบัติมั่นคง ไม่เปลี่ยนแปลง 304. สหัชชะลัคน์สถิตสถิรราศี สติปัญญาดี มีเหตุมีผล เพื่อนฝูงพี่น้องล้วนเป็นคนดีมีหลักฐาน 305. พันธุลัคน์สถิตสถิรราศี มีที่ดิน และเคหะสถานมั่นคง มารดามีหลักฐาน และมีจิตใจมั่นคง มักมีบ้านและที่ดินเป็นของตนเอง 306. ปุตตะลัคน์สถิตสถิรราศี บุตร คนรัก และบริวารมีหลักฐาน ไม่ก่อความเดือดร้อนรำคาญ 307. อริลัคน์สถิตสถิรราศี มีโรคประจำตัว ศัตรูเป็นผู้มีหลักฐาน 308. ปัตนิลัคน์สถิตสถิรราศี คู่ครองมักเป็นผู้มีหลักฐานดี 309. มรณะลัคน์สถิตสถิรราศี มักจะตายที่บ้าน ที่อยู่อาศัย (เว้นแต่ดาวมรณะลัคน์ เป็นประจึงจะตายนอกบ้าน) 310. ศุภลัคน์สถิตสถิรราศี บิดา มีหลักฐานมั่นคง ตนเองก็สามารถสร้างหลักฐานได้มั่นคง มีความเจริญมั่นคง 311. กัมมะลัคน์สถิตสถิรราศี มักทำงานอยู่กับที่ หรือสถานภาพทางการงานมั่นคง 312. ลาภะลัคน์สถิตสถิรราศี มีทรัพย์สินเป็นลาภผลเข้าเสมอไม่ขาด 313. วินาศลัคน์สถิตสถิรราศี โอกาสประสบความหายนะ หรือถูกฟ้องคดีอาญา หรือล้มละลายปรากฏอยู่ อย่าประมาท (อนึ่ง ให้สังเกตุด้วยว่า ไม่ว่าจะเป็นพระเคราะห์เจ้าเรือนใด หากเสวยมาตราฐานเป็นประแล้ว เหตุการณ์ตามความหมายของเรือนนั้น มักจะประสบแก่ผู้อื่น) 314. เจ้าเรือนใดที่สถิตราศีสิงห์ มักจะมีความสัมพันธ์กับกษัตริย์ หรือเจ้านายระดับสูงๆ หรือเกี่ยวกับพระราชฐาน ปราสาท ราชวัง ให้พิจารณาดาวอาทิตย์ประกอบด้วย ถ้าดาวอาทิตย์เป็นมรณะ หรือวินาศแก่จุดนั้น มักจะเป็นสถานที่ซึ่งเลิกร้างแล้ว เช่น วังโบราณ เป็นต้น 315. ถ้าดาวศุกร์เป็นประในราศีพิจิก ผู้นั้นมักมีนิสัยตรงข้ามกับเพศ บางรายชอบคนเพศเดียวกัน ยิ่งเป็นประสลับเรือนด้วย ยิ่งชัดเจน 316. ดวงชะตาที่ดาวเจ้าเรือนปัตนิเป็นพระเคราะห์ สับเรือนกับดาวอื่น ชะตานั้นมักมีตัณหาแรง คบชู้ เปลี่ยนคู่บ่อย 317. ศุภะลัคน์สถิตลาภะภพ ได้เป็นรัฐมนตรีจากผลการเลือกตั้ง มีโชคได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นจนเกินความคาดหมาย 318. ทวิภาวะราศี หรืออุภัยราศี คือราศีที่อยู่หลังราศีทวาร คือ เมถุน กันย์ ธนู มีน แปลว่ามีสภาพเป็นสอง หรือเป็นคู่ มักมีสภาพไม่คงที่ ไม่แน่นอน เปลี่ยนแปลงง่าย หรือมีตั้งแต่สองสิ่ง หรือสองสภาวะขึ้นไป 319. ตนุลัคน์ หมายถึง จิตใจของเจ้าชะตา ถ้าตนุลัคน์สถิตทวิภาวะราศี การตัดสินใจไม่แน่นอน จิตใจโลเล รักง่ายหน่ายเร็ว เปลี่ยนใจง่าย ชักจูงง่าย ชอบยอ หลงคนง่าย ไม่หนักแน่น รับปากแล้วคืนคำ สองจิตสองใจ 320. กดุมภะลัคน์สถิตทวิภาวะราศี การเงินขึ้นๆ ลงๆ ไม่แน่นอน หลักทรัพย์ไม่มั่นคง 321. สหัชชะลัคน์สถิตทวิภาวะราศี เพื่อนฝูงบางครั้งก็มีมากมายบางครั้งก็ไม่มี พี่น้องพึ่งได้บ้าไม่ได้บ้าง 322. พันธุลัคน์สถิตทวิภาวะราศี มีบ้านหรือที่ดินก็ได้ ไม่มีก็ได้ ไม่แน่นอน หรือมีหลายแห่งก็ได้ 323. ปุตตะลัคน์สถิตทวิภาวะราศี (เป็นราศีแฝด) จะมีคนรักสองคนขึ้นไป อาจมีลูกแฝดก็ได้ หรือไม่มีเลยก็ได้ 324. อริลัคน์สถิตทวิภาวะราศี มีโรคร้ายหลายโรคในขณะเดียวกัน เวลาเจ็บไข้มักมีโรคแทรก มีศัตรูพร้อมกันหลายคน 325. ปัตนิลัคน์สถิตทวิภาวะราศี แต่งงานมากกว่าหนึ่งครั้ง มีคู่มากกว่าหนึ่งคน 326. มรณะลัคน์สถิตทวิภาวะราศี เดินทางไปต่างจังหวัด ต่างประเทศหลายครั้ง ประสบอุบัทวเหตุหลายครั้ง เจ็บป่วยหลายครั้ง 327. ศุภะลัคน์สถิตทวิภาวะราศี ประสบความสำเร็จหลายสิ่งซ้อนๆ กัน ประสบความเจริญซ้อนๆ กัน ได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นบ่อยๆ 328. กัมมะลัคน์สถิตทวิภาวะราศี ทำงานหลายอย่างในขณะเดียวกัน รับราชการ และทำอาชีพอื่นควบคู่ไปด้วย เป็นบุคคลหลายอาชีพ 329. ลาภะลัคน์สถิตทวิภาวะราศี ได้ลาภผลซ้อนกันหลายอย่างในขณะเดียวกัน มีเพื่อนไปมาหาสู่หลายคน 330. วินาศลัคน์สถิตทวิภาวะราศี ประสบความหายนะมากกว่าหนึ่งครั้ง หรือประสบหลายกรณีในขณะเดียวกัน เดินทางไปต่างประเทศหลายครั้ง หรือเดินเดินทางครั้งเดียวแต่ไปหลายประเทศ 331. ต้องการทราบเรื่องคู่ครอง ก. ดูที่ดาวเจ้าเรือนปัตนิในเรือนต่างๆ ข. ดูในเรือนปัตนิมีดาวดีหรือดาวร้าย ถ้าดีก็ดี ถ้าร้ายก็ไม่ดี ค. ดูที่ดาวเจ้าเรือนปัตนิร่วมกับดาวคู่อะไร ดีหรือเสีย ง. ดูดาวเจ้าเรือนปัตนิไปอยู่ที่ดี อยู่ในเรือนที่ดี มีตำแหน่งดี คู่ครองดีมาก จ. ดูที่รูปร่างของดาว ดูที่นิสัยของดาว ดูที่อาชีพของดาว ก็จะรู้ได้ 332. ต้องการทราบวาสนาของตัวเอง ก. ดูที่ดาวเจ้าเรือนลัคนา (ตนุลัคน์) ไปอยู่ในที่ดีหรืออยู่ในที่เสีย ข. ดูที่ดาวเจ้าเรือนลัคนาผสมกับดาวดี หรือผสมกับดาวร้าย ค. ดูที่ดาวอะไรส่งกระแสถึงลัคนาบ้าง ดาวที่ส่งกระแสนั้นเป็นดาวดีหรือร้ายคล็ดลับ และ เกร็ดการพยากรณ์ 333. กฎพิจารณาพยากรณ์จรง่ายๆ มีดังนี้ (ก.) ให้พิจารณาพระเคราะห์ทุกดวงในชะตาเดิมว่า พระเคราะห์องศ์ใดสถิตราศีธาตุใด และขณะพิจารณาได้ไปสถิตราศีธาตุใด (ข.) พระเคราะห์องศ์ที่จรอยู่ในราศีธาตุเดียวกันกับที่สถิตในดวงชะตาเดิม คือ สถิตเป็น ๑-๕-๙ กับจุดสถิตใน ดวงชะตาเดิม พระเคราะห์องศ์นั้นให้คุณเป็นอันดับหนึ่ง (ค.) พระเคราะห์องศ์ที่จรสถิตราศีธาตุมิตรกับธาตุที่สถิตในดวงเดิมคือเป็น ๓-๗-๑๑ กับจุดสถิตในดวงเดิม องศ์นั้นให้คุณเป็นอันดับสอง (ง.) ถ้าพระเคราะห์ส่วนใหญ่หรือทุกดวงเป็นไปตามกฎข้อ ข. และ ค. ชะตาของผู้นั้นกำลังขึ้น (จ.) พระเคราะห์องศ์ใดโคจรอยู่ในราศีธาตุศัตรูใหญ่ กับราศีที่สถิตในดวงชะตาเดิม เช่น พระเคราะห์ธาตุไฟจรสถิตราศีธาตุน้ำ หรือน้ำจรไปไฟ และพระเคราะห์ธาตุดินจรสถิตราศีธาตุลม หรือลมจรไปดิน พระเคราะห์นั้นให้โทษเป็นอันดับหนึ่ง (ฉ.) พระเคราะห์องศ์ใดจรเข้าสถิตราศีธาตุศัตรูน้อย กับราศีที่สถิตในดวงชะตาเดิม คือพระเคราะห์ธาตุไฟจรเข้าราศีธาตุดิน และพระเคราะห์ธาตุลมจรเข้าสถิตราศีธาตุน้ำ หรือกลับกัน พระเคราะห์นั้นให้โทษเป็นอันดับสอง (ช.) ถ้าพระเคราะห์ส่วนใหญ่ หรือทั้งหมดจรเข้าสถิตราศีธาตุศัตรูใหญ่ หรือธาตุศัตรูน้อย ชะตานั้นกำลังตกอับ ย่ำแย่ 334. ถ้าดาวจรได้จรไปเข้ากฎสถิตเป็นองศ์เกณฑ์ ก็อย่าพยากรณ์ไปในทางเสีย เพราะเป็นข้อยกเว้น 335. พระเคราะห์ วินาศลัคน์ จรกระทบพันธุลัคน์ ให้ระมัดระวังจะเกิดภัยพิบัติแก่ที่อยู่อาศัย หรือตำแหน่งงาน หรือมารดา อาจต้องย้ายที่อยู่ ย้ายที่ทำงาน ย้ายงาน หรือเกิดผลเสียหายแก่งาน หรือมารดาเกิดเจ็บป่วย 336. พระเคราะห์พันธุลัคน์จร กระทบศุภลัคน์ หรือศุภะจรกระทบพันธุอยู่ในเรือนอริ บิดามารดาจะขัดใจกัน ถ้าจะดูว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุก็ให้ดูดาวจรเป็นผู้ก่อเหตุ ดาวในดวงเป็นตัวตั้งรับ 337. ดาวบาปเคราะห์จรกระทบดาวศุภเคราะห์ หรือกระทบบาปเคราะห์ให้โทษ เว้นแต่จะเป็นคู่มิตร 338. ดาวศุภเคราะห์จรกระทบดาวบาปเคราะห์ให้โทษ เว้นแต่จะเป็นคู่มิตร 339. ดาวศุภเคราะห์จรกระทบดาวศุภเคราะห์ให้คุณ เว้นแต่จะเป็นคู่ศัตรู 340. ดาวคู่มิตรจรกระทบกันย่อมให้คุณ หรืออำนวยผลดีแก่เจ้าชะตา 341. ดาวคู่ศัตรูจรกระทบกันย่อมให้โทษ จรกระทบกันเรือนไหนก็ให้โทษในทางนั้นตามความหมายของเรือนนั้น 342. ดาวฆาต จะทำงานก็ต่อเมื่อจรมาเป็นฆาต คือ นะระโสโร อัมพุภุมโม ปัศวะชีโว กีฎะ อสุรินโท 343. ดาวองศ์เกณฑ์ ตามสูตร นะระเอกเกณฑ์ อัมพุจตุรเกณฑ์ กีฎะสัปตเกณฑ์ ปัศวะทศเกณฑ์ ดาวใดจรมาเป็นองค์เกณฑ์ดาวนั้นทำงาน 344. ดาวอุดมเกณฑ์ ดาวใดโคจรมาเป็นอุดมเกณฑ์แก่ลัคนา ดาวนั้นทำงาน 345. ดวงชะตาใดที่ราหูสถิตวินาศภพ ชะตานั้นมักจะลุ่มหลงในการเล่นการพนัน กฏข้อนี้มีข้อยกเว้นที่ดาวอื่นข่มราหูอยู่ได้ 346. ถ้าราหูสถิตกุมลัคน์ หรือสถิตภพที่เป็นคุณ เช่นพันธุ ศุภะ ราหูมักจะบันดาลโชคจากการเสี่ยงต่างๆ เช่น เสี่ยงในการลงทุน เสี่ยงในการเล่นพนัน หรือมีโชคที่คาดไม่ถึง 347. ถ้าราหูเล็งลัคน์ หรือโยค หรือเป็นสิบเอ็ดแก่ลัคน์ จะเป็นพินทุบาทให้โทษ 348. ชะตาคนทรง ร่างทรง ก. ชะตาใดที่ดาวเจ้าเรือนลัคน์สถิตมรณะภพ หรือวินาศก็ดี ข. ดาวเจ้าเรือนลัคน์สถิตเรือนใด ดาวเจ้าเรือนนั้นสถิตเป็น ๘ หรือ ๑๒ แก่ลัคน์ก็ดี ค. ประการใดประการหนึ่ง เจ้าชะตานั้นเป็นผู้มีญาณ สามารถติดต่อกับวิญญาณได้ เป็นคนทรง ร่างทรงได้ 349. พระเกตุกุมลัคน์ เป็นมรณะแก่ลัคน์ หรือวินาศแก่ลัคน์ มักจะประสบอุบัทวเหตุจนถึงแก่ชีวิต พระเกตุอยู่ภพไหนมักทำนายภพนั้น 350. ดวงชะตาที่ราหู เกตุ หรือมฤตยู สถิตกดุมภะภพ หรือลาภะภพ ชะตานั้นได้ทรัพย์สินสิ่งหนึ่งสิ่งใดมามักมีตำหนิ ลาภผลเงินทองถูกแบ่ง 351. ชะตาคนที่ไม่ตายโหงเป็นอย่างไร ก. เจ้าเรือนอริอยู่ในเรือนมรณะ หรือวินาศแก่ลัคนา (แปลตรงตัวก็คือ ศัตรู (อริ) ตายหรือมีความวิบัติไปเอง) ข. พระเกตุ และดาวพฤหัสสัมพันธ์ต่อลัคนาในทางดีไม่มีดาวเบียดเบียน แสดงถึง มีเทพรักษา ค. ดาวบาปเคราะห์ไม่อยู่ในสภาพรบกวนเจ้าชะตา ง. ดาวที่หมายถึง ปาก หู ตา กาย ใจ เหล่านี้ ต้องไม่เสียมากนัก เช่น ดาวพุธ หมายถึงปาก ต้องไม่เสีย ถ้าปากเสียก็ตายโหงเพราะปากได้
|